เสน่ห์คมดาบ - ตอนที่ 43
แคลร์มองไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มผู้หล่อเหลาตรงหน้า เฟิงอี้เซวียนเดินเข้ามาหาแคลร์ช้าๆ จู่ๆ แคลร์ก็รู้สึกจุกๆ ในใจ ทำไมนางถึงรู้สึกแปลกๆ กับสายตาของผู้ชายคนนี้กันนะ?? หรือว่านางแค่รู้สึกไปเอง?
วัลโดยังคงคร่ำครวญอยู่
ไป๋ตี้คลานออกมาจากหลังของแคลร์ ตั้งแต่ที่พวกเขาลงมในบ่อน้ำแห้งเจ้าตัวนี้ก็เกาะอยู่ที่หลังของแคลร์แน่นไม่ขยับไปไหน ตอนนี้มันปีนขึ้นไปบนหัวของแคลร์ จับผมของนาง และมองเฟิงอี้เซวียนด้วยดวงตากลมโตของมัน
“ข้ากลับมาแล้ว ผู้หญิงของข้า” เฟิงอี้เซวียนเข้าไปหาแคลร์ จับปลายผมยาวๆ ของแคลร์ขึ้นมาจูบเบาๆ
แคลร์นิ่งไปราวกับเป็นหิน วัลโดเองก็เช่นกัน
ข้ากลับมาแล้ว ผู้หญิงของข้า
ข้ากลับมาแล้ว ผู้หญิงของข้า ข้ากลับมาแล้ว ผู้หญิงของข้า…
เสียงสะท้อนที่ไม่สิ้นสุดดังก้องอยู่ในจิตใจของแคลร์และวัลโด
วัลโดรู้สึกได้ถึงความยุ่งเหยิง
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนเป็นเรื่องหลอกลวงและทุกอย่างไม่ใช่เรื่องจริง
ทุกอย่างเป็นเรื่องหลอกลวง!
ใช่ ทุกอย่างเป็นเรื่องหลอกลวง
เฟิงอี้เซวียนมองแคลร์อย่างจริงจัง จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วแล้วพูดด้วยเสียงรำคาญใจ “บ้าเอ๊ย ข้าแก้ไขการคุมขังนี้ไม่ได้! ใครกันที่ทำกับเจ้าเช่นนี้? “
แคลร์ไม่สามารถพูดหรือขยับได้ ดังนั้นนางจึงจ้องเฟิงอี้เซวียนที่อยู่ตรงหน้าอย่างมึนงง ทำไมเฟิงอี้เซวียนถึงปรากฏตัวที่นี่และช่วยนางล่ะ? เขากลับประเทศไปแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมเขามาถึงที่นี่ได้ทันเวลา? แถมยังพูดคำที่ไร้สาระเช่นนั้นอีก
“ช่างเถอะ เรากลับไปในเมืองกันก่อนดีกว่า” เฟิงอี้เซวียนยื่นมือไปอุ้มแคลร์หลังจากที่เขาพูดจบ
รูม่านตาของแคลร์ขยายทันที
ด้านหลังของเฟิงอี้เซวียนมีคนปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ชายผู้นั้นสวมเสื้อยาวคลุมหมดทั้งตัว แต่แคลร์เห็นได้ชัดเจนว่ามือที่โผล่ออกมานั้นไม่มีเนื้อ! หนังหุ้มกระดูกข้อต่อเห็นได้เด่นชัด เล็บเรียวแหลม ดวงตาที่ลึกล้ำของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขามองศพที่นอนอยู่ด้านหลังเฟิงอี้เซวียน ตอนศพกำลังสูญเสียอุณหภูมิไปอย่างช้าๆ และเลือดที่พื้นก็ค่อยๆ แข็งตัว
เฟิงอี้เซวียนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของแคลร์ เขาจึงหันกลับไปและพบกับบุคคลที่ลอยอยู่ในอากาศ
“เจ้าสมควรตาย!” แบนิมที่ลอยอยู่ในอากาศกำลังโกรธจัด เขาเห็นศิษย์ผู้คอยติดตามไปด้วยกันถูกฆ่าในวันนี้! ถูกเด็กผู้นี้ฆ่า! แบนิมเพียงประมาทและเดินออกไปอย่างไม่ใส่ใจและไม่เห็นว่ามีใครตามมา ศิษย์คนเดียวของเขาจึงถูกนักฆ่าสังหารตายอย่างเงียบๆ!
เฟิงอี้เซวียนเลิกคิ้วเล็กน้อย มองร่างที่ลอยอยู่ในอากาศ ใบหน้าของเขาค่อยๆ จริงจังขึ้นเพราะเขารู้สึกถึงระดับพลังของคนผู้นี้ เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนผู้นี้เลย! คนผู้นี้หรือที่ทำการคุมขังแคลร์? ไม่แปลกใจเลยที่ตนเองไม่สามารถแก้ไขได้
“ข้าจะหั่นเนื้อของเจ้าทีละชิ้น แช่กระดูกของเจ้าในกรด ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าตาย ข้าจะให้เจ้าเห็นเนื้อของเจ้าถูกทำลายอย่างช้าๆ แล้วสุดท้ายข้าจะกักขังวิญญาณของเจ้าไว้ ให้เจ้าต้องทนทุกข์ทรมานตลอดไป” แบนิมพูดด้วยน้ำเสียงที่เลวร้ายแล้วยกมือขึ้นเบาๆ จากนั้นเฟิงอี้เซวียนก็ไม่สามารถขยับได้อีก
เช่นเดียวกับแคลร์ ตอนนี้เฟิงอี้เซวียนรู้สึกว่าอากาศรอบข้างหนักผิดปกติ ลำคอของเขาเหมือนมีแรงบีบรัด และไม่สามารถส่งเสียงใดๆ ได้
“ก่อนอื่น ข้าจะจัดการเจ้าก่อน จากนั้นค่อยสนุกกับเขา” แบนิมหันหน้าไปมองแคลร์แล้วพูด จากนั้นก็ปล่อยลมหายใจแห่งความตายในมือของเขาออกไป
รูม่านตาของเฟิงอี้เซวียนขยายออก กลุ่มพลังแห่งความตายนั้นสามารถกัดกร่อนคนให้กลายเป็นกระดูกได้ในทันที!
เฟิงอี้เซวียนอยากจะด่าชายชราผู้เลวร้ายตรงหน้า แต่เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากจ้องมองอย่างโกรธและกังวล ในเวลานี้เฟิงอี้เซวียนเกลียดตัวเองว่าทำไมเขาถึงอ่อนแอขนาดนี้! ไม่เพียงแต่เขาไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ แต่เขาไม่สามารถช่วยเหลือแคลร์ได้อีกด้วย
“อ๊าก…. ไอ้บ้า ข้ายังไม่ได้มีร่างอีกครั้งเลย! นี่ข้าจะต้องบอกลาโลกนี้ไปตลอดกาลแล้วหรือ ให้เขาใช้เวทมนตร์อื่นยังดีเสียกว่า เขาจะใช้มนตร์ที่มีฤทธิ์กัดกร่อน! จบแล้ว! ข้าฟื้นคืนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” วัลโดสบถอย่างโกรธเกรี้ยวแล้วน้ำเสียงก็เปลี่ยนไป “แคลร์ ที่จริง… ที่จริงแล้ว…”
เฟิงอี้เซวียนพยายามใช้พลังเวทย์มนตร์อย่างบ้าคลั่งเพื่อให้ตัวเขาหลุดจากการคุมขังแต่ก็ยังไม่ได้ผล เขาได้แต่มอง ในขณะที่แสงสีดำเคลื่อนเข้าใกล้แคลร์อย่างช้าๆ
แคลร์ขมวดคิ้วไม่พูดอะไร นางรู้สึกได้ถึงตำแหน่งของนกหุ่นเวทย์ ที่ใกล้เข้ามาแล้วในตอนนี้ อาจารย์กำลังมา
ถ้าเป็นอาจารย์ เขาต้องสามารถจัดการกับคนที่น่ากลัวและอันตรายผู้นี้ได้อย่างง่ายดายแน่นอน
เมื่อเห็นวิญญาณที่ไร้ชีวิตสีดำเข้ามาใกล้ใบหน้าของนาง หัวใจของแคลร์ก็รู้สึกจมดิ่งลง
สายเกินไปหรือเปล่า
ดูเหมือนว่าจะสายไปแล้ว…
แคลร์หลับตาลงช้าๆ และถอนหายใจ
มันถูกกำหนดไว้แล้วสินะ…
“จิ๊บๆ! ” ทันใดนั้นไป๋ตี้ซึ่งนอนอยู่บนหัวของแคลร์ก็ลุกขึ้นยืน มันร้องออกมาขณะมองแบนิมที่ลอยอยู่ในอากาศ
วินาทีต่อมาสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
“ชิ่ว…” กองกำลังที่มองไม่เห็นโจมตีแบนิมอย่างรุนแรง มันพุ่งเข้าใส่ร่างกายของแบนิมโดยตรง
สิ่งมีชีวิตสีดำที่รวมตัวกันอยู่รอบใบหน้าของแคลร์สลายไปในทันที จากนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ร่างของแบนิมกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้างหลัง เสียงแหลมก็ดังขึ้นไม่หยุด การโจมตีครั้งนี้ทำให้กระดูกทั้งหมดในร่างกายของแบนิมแตกเป็นเศษ และอวัยวะภายในทั้งหมดของเขารวมกันจนเละเทะ แบนิมกระอักเลือดพุ่งออกมา…
สิ่งที่เห็นราวกับเลือดออกมาจากร่างกายทั้งหมดของเขา
เลือดยังพุ่งออกไปเรื่อยๆ …
ยังไม่หยุด…
จากนั้นเขาก็ล้มลง
ล้มลงไปแล้วจริงๆ
ไป๋ตี้ฆ่าแบนิมในเวลาไม่กี่วินาที
ใช่แล้ว ชายอันตรายอันดับสองในรายชื่อสถาเวทมนตร์ถูกสังหารในไม่กี่วินาทีโดยไม่ได้ต่อสู้ ไม่ได้ขัดขืน และไม่มีเวลาบอกลาโลก เขาเพียงแค่ล้มลงไปเท่านั้น
แคลร์ลืมตาขึ้นช้าๆ จ้องเหตุการณ์ที่เกิดต่อหน้าด้วยความงุนงง
ตอนนี้มีคนลอยอยู่ตรงหน้านาง
ผมของเขาดูราวกับหิมะ ดวงตาราวกับดวงจันทร์
เขาอยู่ในชุดสีขาวราวกับหิมะที่ไม่มีสีและลวดลายใดๆ ผมขาวที่ราวกับหิมะปลิวไสวเบาๆ มีแสงจางๆ บนใบหน้าที่ไร้ที่ตินั้น เขาหันมามองแคลร์
ดวงตาคู่สวยเหมือนมีวังวนที่ดึงคนเข้ามาได้อย่างลึกซึ้ง
แคลร์มองชายผู้งดงามและมีมนตร์สะกดจนทำให้คนหยุดหายใจที่อยู่ตรงหน้า นี่คือร่างจริงของไป๋ตี้งั้นหรือ?
“คู่พันธะของข้า เจ้ารีบโตขึ้นเร็วๆ นะ” เสียงเคร่งขรึมดังขึ้นในใจของแคลร์อีกครั้ง
แสงสีขาวสว่างวาบและชายที่สวมชุดสีขาวหิมะสวยงามนั้นก็หายตัวไปและกลายเป็นเจ้าลูกชิ้นขนปุยนุ่มๆ ลอยอยู่ในอากาศ “จิ๊บๆ …..” ไป๋ตี้ร้องอย่างอ่อนแรง จากนั้นก็หลับตาลงช้าๆ
แคลร์รีบยื่นมือออกไปจับมันแล้วก็ตระหนักได้ว่าตอนนี้นางสามารถเคลื่อนไหวได้แล้วด้วยความประหลาดใจ ความรู้สึกบีบรัดที่หายใจไม่ออกเมื่อกี้หายไปแล้วเช่นกัน
“งืมๆ …” ไป๋ตี้งึมงัมและหลับไปบนมือของแคลร์
“นี่คืออะไรกัน?” เฟิงอี้เซวียนก็สามารถขยับได้แล้ว เขาโน้มตัวไปข้างหน้าขมวดคิ้วมองเจ้าลูกชิ้นตัวน้อยในมือของแคลร์ด้วยความประหลาดใจ คนหน้าขาวๆ เมื่อกี้นี้เจ้าลูกชิ้นนี่ใช่หรือไม่? สิ่งนี้คืออะไร? สัตว์เวทย์หรือ? สัตว์ประหลาดหรือภูติผี? มันสามารถเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้หรือ?! อีกทั้งยังสามารถฆ่าคนที่เก่งกาจผู้นั้นได้หรือ?! ตอนนี้เขารู้สึกเสียหน้ามาก!
แคลร์ลูบร่างที่มีขนปุยของไป๋ตี้เบาๆ และใส่มันลงในกระเป๋า จากนั้นก็หันไปมองเฟิงอี้เซวียนแล้วพูด “ขอบคุณที่ช่วยข้า ว่าแต่ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ? “
“การปกป้องผู้หญิงของตัวเองเป็นสิ่งที่ข้าควรทำอยู่แล้ว…” เฟิงอี้เซวียนแสยะยิ้มร้าย แต่เขาก็สะอึกเล็กน้อย ให้ตายสิ! สุดท้ายแล้วกลับกลายเป็นเจ้าขนปุยต่างหากที่ออกมาช่วยชีวิตพวกเขาไว้! ตอนนี้เขาไม่มีความสุขเลย! เขาถูกเจ้าลูกชิ้นขนปุยนั่นแย่งซีนไป!
แคลร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เฟิงอี้เซวียนกำลังพึมพำอะไร? เขาหมายถึงอะไรกัน?
“ไม่จริงมั้ง เด็กคนนี้ชอบความทรมานจริงๆ หรือ? ” วัลโดกล่าวอย่างไม่เชื่อในหัวของแคลร์พร้อมตบหน้าอกของตัวเอง “เขาถูกเจ้าแย่งชัยชนะมาแล้วเขายังมาก็หลงใหลเจ้าอีกด้วย แม้ว่าข้าจะได้ยินมาว่ามีคนในโลกนี้ที่มีนิสัยใจคอเช่นนี้ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอในวันนี้ แต่ว่า แคลร์ เจ้าตัวนี้คืออะไรกัน? มันสามารถเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้ทรงพลังขนาดนี้เลยหรือ? แล้วตอนนี้มันก็หลับเป็นตาย หรือว่าเมื่อกี้มันจะใช้พลังไปจนหมดแรงแล้ว?” วัลโดพูดไปเรื่อยอย่างน้ำไหลไฟดับ
“เจ้าไม่ได้กลับประเทศของเจ้าหรือ? ” แคลร์ไม่สนใจวัลโด นางขมวดคิ้วไปที่เฟิงอี้เซวียนแล้วถามอย่างสงสัย
“ฮ่าๆ ข้ากลับมาอีกครั้งต่างหาก” เฟิงอี้เซวียนมองไปรอบๆ และพูด “จริงสิ แคลร์ นั่นสัตว์เวทย์ชนิดใดกัน? ทำไมมันสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ ตอนนี้กำลังนอนหลับก็กลายเป็นเจ้าลูกชิ้นขนปุยอีกครั้งแล้ว มันอยู่ในร่างมนุษย์ตลอดไปไม่ได้หรือ?” เฟิงอี้เซวียนกลอกตา เขาไม่สามารถบอกแคลร์ได้ว่าเขาต้องปีนกำแพงยากแค่ไหน พอข้ามกำแพงได้ก็พบกับสุ่ยเหวินโม่ที่นั่งทำตามคำสั่งของแม่อีก จากนั้น… เขาก็ได้เอาคืนเจ้านั่น แล้วแอบออกนอกประเทศอย่างลับๆ ส่วนสุ่ยเหวินโม่ก็ถูกแช่แข็งเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ สิ่งที่เจ๋งที่สุดคือเขาทำแท่งน้ำแข็งแหลมคมเพื่อกั้นสุ่ยเหวินโม่ไว้ด้วย ปลายแท่งน้ำแข็งเล็งไปที่สุ่ยเหวินโม่ ทันทีที่ก้อนน้ำแข็งสุ่ยเหวินโม่ละลายล่ะก็ ฮึ่ม! ความแข็งแกร่งของทั้งสองคนสูสีกันมาโดยตลอด การต่อสู้ทุกครั้งขึ้นอยู่กับสถาการณ์และใครก็ตามที่อยู่ในสภาพดีกว่าจะเป็นผู้ชนะ วันนั้นเป็นการแข่งขันครั้งที่ 701 ของพวกเขา และเป็นครั้งที่ 351 ที่เฟิงอี้เซวียนชนะ
………………………………………………………………………………