เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค - ตอนที่ 401 ดูซิว่าผู้ใดเหี้ยมโหดกว่ากัน (1)
ตอนที่ 401 ดูซิว่าผู้ใดเหี้ยมโหดกว่ากัน (1)
แต่พวกนางกลับคิดไม่ถึงว่า นี่เป็นเพียงตบเบาๆ ฉาดหนึ่งเท่านั้น! ตบฉาดใหญ่ยิ่งกว่าเวลานี้กำลังจะฟาดลงมา!
ท่ามกลางผู้คน ตอนคนที่รู้จักของสิ่งนี้เห็นกล่อง อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้า! ส่วนคนที่ไม่รู้จัก เพียงเข้าใจว่านี่คือเครื่องหัวที่งดงามก็เท่านั้น!
“นึกว่าของดีอะไร! แค่เครื่องหัวเท่านั้น!”
“ใช่ แค่เครื่องหัวเท่านั้น…”
สำหรับคำพูดเหล่านี้ หนิงเซ่าชิงไม่ได้โต้ตอบ เขาวางตัวเป็นสุภาพบุรุษ!
แต่การที่เขาไม่พูด ไม่ได้หมายความว่าผู้ติดตามคนสนิทของเขาจะทนฟังผู้อื่นตำหนินายของตนเงียบๆ ได้!
“เบิกตาให้กว้าง! นี่คือหยกเลือดที่ผ่านการบ่มเพาะมานานจากทางทิศเหนือ ราชวงศ์เทียนฉีนี้ คนที่ครอบครองหยกเลือดนี้มีไม่มากกว่าสามวง! หยกเลือดของนายท่านของข้ามีขนาดใหญ่ที่สุด! หลังจากทำเครื่องหัวแล้ว ยังให้สร้อย กำไล แหวนและต่างหูเป็นต้น! แต่ว่าของเหล่านั้นยังคงอยู่ในขั้นตอนการผลิต ดังนั้นจึงไม่อาจเอาออกมาได้!”
คุณหนูตระกูลชั้นสูงที่พูดตำหนิอยากจะโต้เถียงผู้ติดตาม แต่ว่าหลังจากที่เขาพูดจบ ก็รีบปิดปากอย่างมีสติ!
ทั้งหมดนี้ ไม่ใช่สิ่งที่สตรีตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะครอบครองได้ และไม่ใช่คำพูดของนางที่จะพูดถึงได้ แม้จะไม่สบอารมณ์ สตรีคนหนึ่งก็ทำได้เพียงอดทน!
ตอนเครื่องหัวปรากฏแก่สายตา ไม่เพียงทำให้มั่วเชียนเสวี่ยเอาชนะและได้หน้ากลับมาในทันที ทั้งยังทำให้นางได้รับอันตรายอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน!
ที่ใดมีสตรีที่นั่นก็จะมีการแย่งชิง ที่ใดมีการแย่งชิงย่อมมีการบาดเจ็บ
หนิงเซ่าชิงเป็นบุรุษ แม้จะเป็นว่าที่เจ้าบ่าวของมั่วเชียนเสวี่ย ทว่าไม่อาจอยู่เป็นแขกของฝ่ายหญิงเป็นเวลานาน เขาอยู่ได้เพียงครู่หนึ่ง ก็กลับไปอย่างรู้มารยาท
พบเจอกัน มีโอกาสมากมาย…ยกตัวอย่างเช่น ตอนกลางคืน…
หลังจากหนิงเซ่าชิงกลับไป ท่ามกลางเหล่าสตรี กลับมีคนหายไปหลายคนอย่างไร้เหตุผล…
เห็นมีคนออกจากงานเงียบๆ มั่วเชียนเสวี่ยยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ
นางไม่ใช่คนโง่เขลาที่เฝ้าสามีของตนตลอดเวลา หนิงเซ่าชิงเป็นคนอย่างไร นางย่อมรู้ดีที่สุด หากไม่อาจทนกับการยั่วยวนเพียงแค่นี้ได้ เช่นนั้นจะมีสิทธิ์ใดมาคบกับนาง มีสิทธิ์ใดบอกว่าจะรักกันจนแก่เฒ่า
สำหรับคำพูดที่บอกว่าเป็นสามีในระยะหนึ่งจ้างนั้น แม้นางจะครุ่นคิดถึงโดยไม่รู้ตัว ทว่ากลับดูแคลนมาโดยตลอด ถ้อยคำนี้ เป็นเพียงเรื่องล้อเล่นของสามีภรรยาได้ แต่หากเป็นความจริง รังแต่จะสร้างความปวดหัวให้กับภรรยา
หากเป็นเช่นนี้จริงๆ ไม่มีสตรีคนใดมีจุดจบที่ดี ความรักไม่ใช่การจับจ้อง ไม่ใช่การคอยยุ่งเกี่ยวตลอดเวลา แต่เป็นความเชื่อใจ เป็นการดึงดูดระหว่างหัวใจกับหัวใจ เป็นการประสานของจิตวิญญาณ นางไม่อาจจับตัวเองไปอยู่ในกรงได้
งานพิธีเฉกเช่นวันนี้ ชูอี สืออู่และมั่วเหนียงทั้งสามต่างมีงานของตนเองต้องคอยดูแล แม้พวกนางจะเป็นสาวใช้คนเก่งของคุณหนูใหญ่ แต่ถึงอย่างไรก็เป็นบ่าวรับใช้ เมื่อคนมากย่อมมีงานมาก พวกนางมีงานต้องทำ!
ผู้คนเดินขวักไขว่ คนที่มาร่วมพิธีหากไม่ใช่คุณหนูตระกูลชั้นสูงก็เป็นฮูหยินตระกูลชั้นสูง ปรนนิบัติได้ดีส่งผลให้ใช้ประโยชน์ได้ดี วันข้างหน้าล้วนเป็นแรงสนับสนุนให้คุณหนูยืนหยัดในตระกูลหนิงได้ หากปรนนิบัติรับใช้ได้ไม่ดีก็จะกลายเป็นปรปักษ์ พวกนางย่อมต้องปรนนิบัติรับใช้อย่างดี
คนที่ไร้บิดาและมารดาช่างอาภัพ เรื่องทุกอย่างต้องพยายามด้วยตนเอง แม้จะมีจย่าฮูหยินคอยช่วยดูแล แต่หลายเรื่องมั่วเชียนเสวี่ยต้องทำด้วยตนเอง ยกตัวอย่างเช่น รับของขวัญและเงินขวัญถุง การต้อนรับและส่งแขก นางล้วนต้องทำด้วยตนเอง
ระหว่างตระกูลชั้นสูงจะคิดมากกว่าคนทั่วไป ทั้งยังชอบเปรียบเทียบกันมากกว่าตระกูลชนชั้นทั่วไป
ดังนั้น ต้องวางตัวให้ดีทุกด้าน รักษาสมดุลให้เรียบร้อย
อย่าว่าแต่ชูอี สืออู่และมั่วเหนียงงานยุ่ง แม้แต่อวิ๋นอิ๋นก็งานยุ่งมากเช่นเดียวกัน
เมื่อหลายวันก่อน ตอนที่มั่วเชียนเสวี่ยกลับมาจากบ้านไร่ ตอนกลางคืนก็พูดเปิดใจกับอวิ๋นอิ๋น ถามเรื่องของนาง
พูดสิ่งที่ตนคาดเดาออกมาอย่างชัดเจน ทั้งยังพูดความคิดของตนออกมา
ทว่า อวิ๋นอิ๋นเพียงแค่ตกตะลึงเท่านั้น แล้วพูดปฏิเสธ บอกเพียงว่าที่ตนผิดปกติเป็นเพราะเมื่อหลายวันก่อนตนพบเจอกับนายท่านคนสนิทในอดีต คิดถึงเรื่องในวันวาน ดังนั้นจึงเสียใจเล็กน้อย
มั่วเชียนเสวี่ยครุ่นคิด จากคำพูดและกิริยาของอวิ๋นอิ๋น เกรงว่าเจ้านายคนเดิมของอวิ๋นอิ๋นต้องมีฐานันดรศักดิ์ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าในเมืองหลวงจะมีคนรู้จักก็ได้ นางจึงหยุดคิด
ครุ่นคิดอีกทางหนึ่ง แม้บ่าวรับใช้ในจวนจะพอใช้ แต่สำหรับการจนบันทึกและคิดบัญชีนั้น นอกจากอวิ๋นอิ๋นแล้ว ชั่วขณะหนึ่งนางไม่อาจหาคนที่เหมาะสมได้ ย่อมเห็นด้วยเป็นธรรมดา
เวลาเพียงครู่หนึ่ง อวิ๋นอิ๋นก็มาหลายครั้งแล้ว
จนปัญญา คนบางคนให้ของขวัญล้ำค่าเกินไป หากไม่มารายงานให้นายรับรู้ ก็ย่อมไม่ดีเท่าใดนัก
ยิ่งไปกว่านั้น ยังจะถูกพูดว่ารับประโยชน์จากผู้อื่น คนที่ให้ของขวัญชิ้นใหญ่ ย่อมเป็นคนที่อยากจะผูกมิตรกับคุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่ต้องวางตัวกับพวกเขาแตกต่างออกไป จึงจะทำให้คนอื่นยินดีที่จะอยู่ข้างคุณหนู
อย่างไม่ต้องสงสัย อวิ๋นอิ๋นเชี่ยวชาญทางด้านนี้มาก ทั้งยังดูแลจัดการได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
อวิ๋นอิ๋นเพิ่งเดินไป องค์หญิงอวี้เหอก็มาแสดงความเป็นห่วง แต่คำพูดแฝงความเย้ยหยันก็ตามมาด้วย
“พิธีปักปิ่นของคุณหนูมั่วกลับไม่มีญาติมิตรในจวนกั๋วกง ช่างเงียบเหงาจนทำให้คนเศร้าสลด…อีกไม่นาน คาดว่าคุณหนูมั่วก็น่าจะถึงขั้นพูดคุยหารือเรื่องงานแต่งงานกับตระกูลหนิงแล้ว แต่กลับไม่มีคนช่วยดูแล ช่างน่าสงสารยิ่งนัก…”
พูดได้ชวนฟัง คล้ายเสียใจกับนางอย่างไรอย่างนั้น แต่ความเย้ยหยันที่แฝงเอาไว้มั่วเชียนเสวี่ยจะฟังไม่ออกได้อย่างไร
หลังจากมั่วเชียนเสวี่ยจิบน้ำชาช้าๆ นางก็ค่อยพูดขึ้น “บิดามารดาล่วงลับไปเร็ว หม่อมฉันเสียใจยิ่งนัก แต่ว่าคนเราไม่อาจจมอยู่ในความทุกข์ ต้องมองไปข้างหน้า หม่อมฉันเชื่อว่า ท่านพ่อท่านแม่อยู่บนสวรรค์ ต้องปรารถรนาให้หม่อมฉันมีชีวิตที่ดี มีความสุขในทุกวันแน่นอนเพคะ”
พูดจบ มั่วเชียนเสวี่ยหัวเราะเสียงเบา “ในจวนไม่มีผู้ใดคอยช่วยหม่อมฉันดูแล แม้หม่อมฉันจะเหนื่อย แต่ก็ไม่กล้าโอดครวญ…โบราณกล่าวเอาไว้ ‘สวรรค์มอบหมายหน้าที่อันใหญ่หลวงให้กับมนุษย์ ทำให้มนุษย์ลำบากก่อน ทำให้มนุษย์เหน็ดเหนื่อย ทำให้มนุษย์หิวโหย ทำให้ร่างกายหมดเรี่ยวแรง…เรื่องของตน ตัดสินใจด้วยตนเอง คืออีกหนึ่งบททดสอบที่สวรรค์มีให้หม่อมฉัน ยิ่งไปกว่านั้นในจวนกั๋วกง หม่อมฉันมีอำนาจมากที่สุด อยากจะหัวเราะก็หัวเราะ อยากจะร้องไห้ก็ร้องไห้ อยากจะกระโดดหรือส่งเสียงร้อง ล้วนขึ้นอยู่กับความพอใจของหม่อมฉัน ไม่เหมือนคนบางคน อยู่ในเรือนของตนเองก็ต้องคอยรักษามารยาททุกย่างก้าว คิดหนักทุกการกระทำ ยิ้มไม่กล้าให้เห็นฟัน ไม่กล้าเดินก้าวใหญ่จนเกินไป แม้กระทั่งโมโหก็ไม่กล้าระบายอารมณ์ ไม่เพียงไม่กล้าระบายอารมณ์ ยังต้องฝืนยิ้ม…สุดท้ายยังตายในต่างแดน…”
ถ้อยคำสุดท้ายคำว่าตายในต่างแดนมั่วเชียนเสวี่ยจ้องมองไปทางองค์หญิงอวี้เหอ พูดเสียงหนักแน่น มีเจตนาอย่างชัดเจน!
ดวงหน้าขององค์หญิงอวี้เหอขุ่นเคืองขึ้นมาทันที…มั่วเชียนเสวี่ยกล้าสาปแช่งนางให้ถูกส่งตัวไปแต่งงานเพื่อรักษาสัมพันธ์ระหว่างแคว้นเนี่ยนะ!
นางเป็นองค์หญิง พูดให้ไพเราะฐานันดรศักดิ์ของนางสูงส่ง แต่ผู้ใดบ้างที่จะไม่รู้ว่าฐานันดรศักดิ์ขององค์หญิงอ่อนไหวยิ่งนัก
องค์หญิงโดยมากที่ไม่เป็นที่โปรดปรานสุดท้ายชะตาชีวิตของพวกนางล้วนต้องแต่งงานเพื่อรักษาสัมพันธ์ระหว่างแคว้น ตายต่างแดน องค์หญิงที่แต่งงานเพื่อรักษาสัมพันธ์ระหว่างแคว้น มีคนใดบ้างเป็นที่โปรดปราน หลังจากสองแคว้นสู้รบกัน เจ้าแคว้นมีเสี้ยนหนามตำใจแล้วจะโปรดปรานองค์หญิงจากแคว้นของศัตรูได้อย่างไร…
—————————–