เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค - ตอนที่ 485 ความคิดแย่ๆ ซูซูเสี่ยงอันตราย (3)
ตอนที่ 485 ความคิดแย่ๆ ซูซูเสี่ยงอันตราย (3)
“เป็นเช่นนี้จริงๆ ซีซีเป็นผู้ใหญ่ในร่างเด็กคนหนึ่ง! ไม่ว่าเรื่องใดๆ ล้วนไม่จำเป็นต้องให้คนเป็นห่วง อีกทั้งในบางช่วงเวลา นางยังสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ด้วย! คนในบ้านไร่ไม่มีใครไม่ชอบนาง!”
ได้ยินเช่นนั้น อวิ๋นอิ๋นก็เผยรอยยิ้มจากใจออกมาจริงๆ
แม้ว่า นางจะกล่าวว่านางคิดถึงซีซีมากเกินไป จึงกลับมา นี่เป็นเพียงคำโกหกเท่านั้น
อย่างไรเสียก็เป็นบุตรีที่นางให้กำเนิด บุตรีของตนเองถูกคนอื่นชมเชยเสียขนาดนี้ ในใจอวิ๋นอิ๋นย่อมดีใจ
“ดีถึงขนาดที่เจ้าบอกเสียที่ไหนกัน นางเพียงแค่อยู่เงียบๆ นิ่งๆ ที่นี่ ข้าก็วางใจแล้ว…”
อวิ๋นอิ๋นเอ่ยถ่อมตัวสองสามประโยคแล้ว ก็สนทนาเรื่องอื่นเข้าไปในบ้านไร่กับชุนเยี่ยน
แต่เมื่ออวิ๋นอิ๋นเข้าไปในบ้านไร่ แล้วเห็นเศษซากปรักหักพัง มากน้อยอย่างไรก็รู้สึกตะลึงอยู่บ้าง!
“นี่…เมื่อวานมีพายุหรือ”
เป็นไปไม่ได้ นางจำได้ว่าเมื่อคืนตอนนางออกไป ข้างนอกคลื่นสงัดลมสงบ กระทั่งลมเบาๆ ก็ไม่มี!
วาจานี้ทำให้ชุนเยี่ยนขายหน้าเล็กน้อย…”
“แหะ…แหะๆ…ลมพายุแรงเลยล่ะ…”
สุดท้าย ชุนเยี่ยนก็เลือกเอ่ยปากไม่ตรงกับใจยิ้มๆ แล้วรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไป
“ข้าจะไปรายงานให้ท่าน คุณหนูใหญ่น่าจะตื่นจากการนอนกลางวันแล้ว”
เอ่ยจบ ก็คล้ายกับกลัวว่าอวิ๋นอิ๋นจะสืบข่าวเกี่ยวกับความยุ่งเหยิงในบ้านไร่ว่าเรื่องมันเป็นมาอย่างไรกันแน่กับนาง จึงรีบจากไป
แต่ทว่าชุนเยี่ยนไม่รู้ว่า หลังนางไปแล้ว อวิ๋นอิ๋นก็โล่งใจเช่นกัน
เดิมกลับมาก็คิดจะอาศัยข้ออ้างคิดถึงซีซีมาอยู่ที่นี่ ในใจนางตึงเครียดอยู่
ตอนนี้ ชุนเยี่ยนไปแล้ว ในขณะที่นางโล่งใจ ก็กำลังคิดว่า อีกครู่ตอนที่พบกับมั่วเชียนเสวี่ย จะบอกกับนางอย่างไร ถึงจะไม่ทำให้นางเกิดความสงสัย
และนอกจากไม่เกิดความสงสัยแล้ว ก็ยังสามารถในนางอยู่ที่นี่ต่อได้ด้วย นี่ถึงจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด!
อย่างไรเสีย คุณหนูใหญ่เรียกนางมาหลายครั้ง นางล้วนหาข้ออ้างไม่ยอมมา
ตอนที่ชุนเยี่ยนไปเรือนเสวี่ยหว่าน มั่วเชียนเสวี่ยก็เพิ่งจะตื่นจริงๆ ตอนนี้กำลังกินมื้อกลางวันที่ไม่ใช่กลางวัน มื้อเย็นที่ไม่ใช่มื้อเย็นอยู่
ช่วยไม่ได้ นอนมากเกินไป ตื่นมาก็หิวจะแย่ ไม่กินข้าวก็ไม่ได้
ถึงอย่างไร นางก็ใหญ่สุดในบ้านไร่ นางอยากจะกินข้าวตอนไหน ก็กินตอนนั้น คนอื่นยุ่งไม่ได้
หนิงเซ่าชิงยังไม่กลับ แต่นั่งเงียบๆ อยู่อีกด้านเป็นเพื่อนนาง
สืออู่เห็นชุนเยี่ยนมา ก็แจ้งกับมั่วเชียนเสวี่ยและหนิงเซ่าชิงทันที
มั่วเชียนเสวี่ยกินข้าวเสร็จแล้ว จึงหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดปาก
ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็พยักหน้าให้สืออู่ปล่อยคนเข้ามา
“คุณหนูใหญ่ ผู้ดูแลอวิ๋นอิ๋นมาแล้วเจ้าค่ะ”
แต่ก่อนตอนอยู่ที่ร้านอาหารเล็กๆ ในหมู่บ้านหวังจยา อวิ๋นอิ๋นทำหน้าที่เป็นคนดูแลบัญชีกับหลงจู๊มาตลอด ทุกคนจึงล้วนเรียกเช่นนี้
ตอนนี้มาถึงเมืองหลวงแล้ว ก็ยังคงช่วยมั่วเชียนเสวี่ยดูแลบัญชี ทุกคนจึงเรียกขานตามคำเรียกเก่า
ได้ยินชุนเยี่ยนเอ่ยว่าอวิ๋นอิ๋นมาแล้ว มั่วเชียนเสวี่ยก็ตะลึง
สบตากับหนิงเซ่าชิงเงียบๆ แวบหนึ่ง
ทั้งคู่ล้วนเห็นความนัยลึกซึ้งในนัยน์ตาของอีกฝ่าย
เกรงว่า การที่อวิ๋นอิ๋นกลับมาในตอนนี้ มีบางอย่างไม่ปกติอยู่บ้าง!
แต่ เป็นเพราะตอนนี้มั่วเชียนเสวี่ยไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าอวิ๋นอิ๋นหักหลังนาง และนางก็ไม่ใช่คนที่สังหารผู้บริสุทธิ์ไปทั่ว ทั้งยังอยากจะเก็บนางไว้ล่อปลาตัวใหญ่อย่าง หลูเจิ้งหยาง ดังนั้นถึงได้ตามใจอวิ๋นอิ๋นมาตลอด
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง มั่วเชียนเสวี่ยก็สั่งให้ชุนเยี่ยนพาอวิ๋นอิ๋นมา
ชุนเยี่ยนรับคำสั่งแล้วออกไป
มั่วเชียนเสวี่ยมองหนิงเซ่าชิงด้วยสีหน้าจริงจัง และลืมเรื่องราวที่ไม่สบอารมณ์ก่อนหน้านี้ไปหมดแล้ว “เซ่าชิง ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้”
หนิงเซ่าชิงขมวดคิ้ว วางถ้วยชาในมือลง “สตรีนางนี้…อาจบริสุทธิ์ใจจริงๆ หรือไม่ก็ได้รับการเสี้ยมสอนจากใครบางคน!”
และ ‘ใครบางคน’ ที่ว่านี้ ย่อมหมายถึงหลูเจิ้งหยาง!
มั่วเชียนเสวี่ยย่อมหวังให้อวิ๋นอิ๋นเป็นคนบริสุทธิ์
ทว่า ตอนที่นางกลับไปจวนกั๋วกงในครั้งนี้ ก็เป็นฝ่ายเชิญอวิ๋นอิ๋นกลับมา ทั้งยังเอ่ยว่าซีซีคิดถึงนางอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจหลายครั้ง นางก็เลือกที่จะไม่กลับมา นี่เพิ่งจะผ่านไปไม่กี่วัน นางก็เป็นฝ่ายกลับมาด้วยตนเองเสียแล้ว…
รายละเอียดนั้นมักจะทำให้คนอยากสืบให้ถึงเบื้องลึก
“ช่างมันเถอะ! ตอนนี้คิดเรื่องพวกนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ อีกครู่หนึ่งเห็นว่านางต้องการจะทำสิ่งใดก็จะรู้เอง”
ทุกปัญหามีทางออก นี่เป็นหลักการในการปฏิบัติเรื่องต่างๆ ของมั่วเชียนเสวี่ย
ตอนนี้ นอกจากวิธีนี้ ก็ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว หนิงเซ่าชิงก็พยักหน้าแสดงออกว่าเห็นด้วย
อีกครู่หนึ่งชุนเยี่ยนก็พาอวิ๋นอิ๋นเข้ามาในห้อง
อวิ๋นอิ๋นไม่ได้นำสิ่งใดมาด้วย มาถึงเพียงตัวเปล่าเท่านั้น ดูเหมือนกับที่ตัวนางบอกเอาไว้ว่า คิดถึงบุตรีมากเกินไปจริงๆ ถึงได้กลับมาเยี่ยม เยี่ยมเสร็จก็จะกลับเมือง
“คารวะคุณหนูใหญ่ คารวะหัวหน้าตระกูลหนิงเจ้าค่ะ!” อวิ๋นอิ๋นทำความเคารพหนิงเซ่าชิงกับมั่วเชียนเสวี่ยสองคนอย่างมีมารยาท
มารยาทและกฎเกณฑ์ของนางดีมากเสมอ
มั่วเชียนเสวี่ยยิ้มน้อยๆ “ล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน จะมีพิธีรีตองมากขนาดนั้นทำไม คิดถึงซีซีแล้วหรือ”
เห็นใบหน้าอวิ๋นอิ๋นเผยความคาดหวังว่าจะได้พบออกมา มั่วเชียนเสวี่ยก็ส่งสายตาไป ชุนเยี่ยนจึงถอยออกไปตามซีซีมาอย่างเข้าใจ
มั่วเชียนเสวี่ยถามถึงเรื่องการสร้างจวนกั๋วกงขึ้นมาใหม่ อวิ๋นอิ๋นก็ตอบอย่างฉะฉาน
สนทนาเรื่อยเปื่อยกันไม่กี่ประโยค ชุนเยี่ยนก็พาซีซีมา
มั่วเชียนเสวี่ยได้ยินเสียงสนทนาระหว่างซีซีกับ ชุนเยี่ยนมาแต่ไกล ก็ยิ้ม “ได้ยินว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กที่รู้ความมากคนหนึ่งจริงๆ! อยู่ที่นี่มานานขนาดนี้ ก็ไม่เคยทำให้ทุกคนเป็นห่วง ทั้งยังเป็นผู้ใหญ่ในร่างเด็ก เรื่องอะไรก็ทำได้หมด”
สำหรับเรื่องนี้ อวิ๋นอิ๋นยิ้มอ่อนโยน แสดงออกว่าดีใจมาก
บุตรีสามารถอยู่ที่นี่อย่างมีความสุข ในใจนางก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง
“คารวะคุณหนูใหญ่…ท่านแม่!”
ซีซีที่เป็นผู้ใหญ่ในร่างเด็กเข้ามาในห้องโถง ก็คารวะทักทายมั่วเชียนเสวี่ยทันที
ทว่า สุดท้ายแล้วยังคงมีจิตใจและนิสัยเป็นเด็ก นัยน์ตามองกลอกเห็นอวิ๋นอิ๋น พลันดีใจจนลืมคารวะมั่วเชียนเสวี่ยให้เรียบร้อย พุ่งเข้ามาในอ้อมกอดอวิ๋นอิ๋นทันที!
เด็กในวัยนี้ เป็นวัยที่พึ่งพาและติดมารดามากที่สุด เห็นมารดาผู้ให้กำเนิดตนเอง ถึงได้มีความสุขเสียจนลืมทำความเคารพ
ซีซีที่เป็นเด็กคนหนึ่งลืมไปแล้ว แต่อวิ๋นอิ๋นจะลืมได้เช่นไร
นางไม่สามารถทำเรื่องที่ทำให้มั่วเชียนเสวี่ยรังเกียจแม้แต่น้อย มิเช่นนั้น จะเข้าใกล้ตัวคุณหนูใหญ่ เพื่อหาของที่คุณชายมอบหมายมาได้อย่างไร