เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค - ตอนที่ 540 อุปสรรคผ่านพ้นไป ใจร้ายกับตนเอง (3)
ตอนที่ 540 อุปสรรคผ่านพ้นไป ใจร้ายกับตนเอง (3)
หนิงเซ่าชิงลุกขึ้น ดึงอาภรณ์มั่วเชียนเสวี่ยมาห่อนางเอาไว้
ถอนหายใจเบาๆ “ข้าควรจะทำเช่นไรกับเจ้าดีนะ”
ทอดถอนใจเสร็จ ก็ดึงเข็มออกจากมือนาง วางไว้บนมุมโต๊ะด้านข้าง
“เก็บเข็มให้เรียบร้อย อย่าทำให้ตนเองบาดเจ็บก่อนที่จะทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ”
มั่วเชียนเสวี่ยพลันรู้สึกว่าตนเองทำเกินไปใช่หรือไม่ จึงเอ่ยอย่างกระอักกระอ่วนว่า “อื้อ!”
นางไม่กล้าขยับ กลัวว่าจะแตะถูกจุดสำคัญบนร่างกายเข้า
หนิงเซ่าชิงกอดนาง ปรับลมหายใจให้สงบ “ยังจับหลูเจิ้งหยางไม่ได้ แต่ ปีกเขาถูกเด็ดแล้ว ไม่คุ้มค่ากับความกังวล จับได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับปัญหาเรื่องเวลาเท่านั้น”
ที่แท้ก็ได้ยินแล้ว มั่วเชียนเสวี่ยเบ้ปากอย่างไม่เห็นด้วย ได้ยินแล้วยังจะกระตุ้นให้นางเกิดความต้องการอีก!
“ระยะนี้ตระกูลหนิงมีเรื่องมากมาย ข้ายังไม่ได้แต่งเข้ามา ทางที่ดีที่สุดไม่ควรจะเข้าไปเกี่ยวข้อง ข้าว่า วันนี้ข้ากลับบ้านไร่ดีกว่า”
ไม่ใช่ไม่อยากอยู่เป็นเพื่อนเขา แต่ไม่สามารถอยู่ได้ต่างหาก
ช่วงเวลาแบบนี้ เขาจะต้องยุ่งมากแน่ๆ
จวนหนิงเป็นสถานที่ที่มีแต่ปัญหา ไม่มีความจำเป็น นางก็ไม่ควรจะรั้งอยู่ต่อแม้แต่นาทีเดียว
หนิงเซ่าชิงลังเลเล็กน้อย นางจากไปก็ดี
แม้ว่าเซี่ยซื่อจะไม่ได้ใจฮูหยินผู้เฒ่ากับท่านพ่อ แต่กลับเป็นนายหญิงที่ถูกทำนองคลองธรรม คนที่มาร่วมพิธีทำบุญให้นางจะต้องไม่น้อยแน่นอน
กุ้ยซื่อก็เป็นฮูหยินสายตรงที่ถูกทำนองคลองธรรมเช่นกัน ชาติกำเนิดก็ไม่ต่ำต้อย คนที่มาร่วมพิธีทำบุญให้นางก็ไม่น้อยเช่นกัน
สถานการณ์ที่คนดีคนเลวอยู่ปะปนกันเช่นนี้ หากดูแลไม่รอบคอบ ทำให้นางได้รับความไม่เป็นธรรม เขาต้องปวดใจตายแน่ๆ
“อีกครู่ข้าจะให้คนส่งเจ้ากลับไป” วาจาของหนิงเซ่าชิงมีความรู้สึกผิดเจือปนอยู่เล็กน้อย เมื่อวานยังเอ่ยว่า วันนี้จะพานางออกไปเที่ยว ดูท่าจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
ในจวนเรื่องเยอะก็ด้านหนึ่ง ทั้งยังมีเรื่องพิธีศพที่ต้องจัดการอีก เขาจึงไม่สะดวกที่จะออกไปเที่ยวเล่นอย่างเปิดเผย
แต่จะให้นางกลับไปทั้งแบบนี้ ก็รู้สึกไม่ยินยอมอยู่บ้าง จึงเอ่ยเสริมอีกประโยคว่า “คืนนี้รอข้าด้วย!”
มั่วเชียนเสวี่ยยิ้มยั่วเย้าให้หนิงเซ่าชิง “อืม กลับไปจะอาบน้ำรอท่าน” รับมือไปก่อนค่อยว่ากัน
กินมื้อกลางวันเป็นเพื่อนหนิงเซ่าชิงแล้ว มั่วเชียนเสวี่ยก็ไปร่ำลาฮูหยินผู้เฒ่า และไปทำบุญให้เซี่ยซื่อกับกุ้ยเสี่ยวซี ฟ้าก็โพล้เพล้แล้ว
รอจนมั่วเชียนเสวี่ยกลับไปถึงบ้านไร่ ฟ้าก็มืดแล้ว
อยู่ในที่ของตนเองนั้นสบายกว่าจริงๆ มั่วเชียนเสวี่ยพิงตัวอยู่บนตั่งในเรือนเสวี่ยหว่าน ออกกำลังกายยืดเส้นยืดสาย แล้วพักผ่อนเล็กน้อย ก็ให้ชูอีไปพาสองสามีภรรยาหวังเทียนซงกับซีซีมา
การตายของอวิ๋นอิ๋ง มั่วเชียนเสวี่ยต้องมีคำอธิบายให้ซีซีไม่มากก็น้อย
เมื่อวาน การตายของอวิ๋งอิ๋ง นางก็ให้คนนำศพอวิ๋นอิ๋งส่งออกจากตระกูลหนิง วางไว้ที่กระท่อมเพิงหญ้าคาที่อยู่ไม่ห่างจากบ้านไร่ บอกกับซีซี ให้นางไปพบกับหน้ามารดาเป็นครั้งสุดท้าย และให้นางมีส่วนร่วมในการฝังมารดาของนางด้วยตนเอง
นี่เป็นความเมตตาสุดซึ้งที่มั่วเชียนเสวี่ยมอบให้แล้ว
ตามวาจาของหนิงเซ่าชิง ตามกฎระเบียบของเทียนฉี อวิ๋นอิ๋งเป็นคนที่ทรยศผู้เป็นนาย ตายแล้วก็ทำได้เพียงแค่โยนทิ้งไว้ โดยไม่ได้ฝังในป่าช้า!
ครู่หนึ่ง สองสามีภรรยาหวังเทียนซงก็มา
สองสามีภรรยาหวังเทียนซงค้อมตัว เอ่ยทักทาย “คารวะคุณหนูใหญ่”
ซีซีกลับคุกเข่าลง “ซีซีคารวะคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ” มองร่างเล็กกะจ้อยร่อยที่สูญเสียคนที่ใกล้ชิดที่สุดไป มั่วเชียนเสวี่ยก็รีบให้ชูอีไปดึงนางให้ยืนขึ้น
ซีซีกลับไม่ยอมลุกขึ้น ตอนที่เงยหน้าดวงตาแดงก่ำ คราบน้ำตายังไม่แห้งดี
มั่วเชียนเสวี่ยรู้สึกแย่
“ซีซี มีเรื่องอะไร ลุกขึ้นมาพูด”
นางไม่ได้ไม่อยากให้เกียรติอวิ๋นอิ๋ง แต่บางวาจาก็จำเป็นต้องเอ่ยแต่แรก
ดังนั้น เมื่อวานตอนที่ส่งอวิ๋นอิ๋งกลับมา นางจึงให้คนบอกเรื่องทุกอย่างกับซีซีจนหมด
นางไม่อยากหลอกซีซี และยิ่งไม่อยากให้มีคนที่เจตนาไม่ดีหลอกใช้ประโยชน์จากซีซี บอกความจริงไป ซีซีอาจจะรับไม่ได้ แต่กลับสามารถลดช่องว่างที่เกิดจากปัญหามากมายและการปิดบังได้
“ซีซีมิกล้า เรื่องที่ท่านแม่ทำผิด ซีซียอมเป็นวัวเป็นม้าตอบแทนคุณหนูใหญ่เป็นการชดเชยความผิดที่ท่านแม่เคยทำทั้งหมดเจ้าค่ะ ขอเพียงแค่คุณหนูใหญ่อย่าไล่ซีซีไป”
แม้ว่าซีซีจะยังเยาว์วัย แต่กลับเฉลียวฉลาด นับตั้งแต่ท่านแม่เข้าเมืองหลวงไป ก็กลายเป็นคนละคน นางจะไม่รู้สึกได้อย่างไร
ยังมี แม้ว่าครั้งนี้ท่านแม่จะพักอยู่ที่บ้านไร่เป็นเพื่อนนาง แต่กลับเอ่ยวาจาบอกใบ้นางกลายๆ
อีกไม่นาน นางจะจากไป ให้ตนเองเคารพและมีมารยาทกับคุณหนูใหญ่ ให้ตัวนางดูแลตนเองให้ดี ให้นางฉลาดสักหน่อย สังเกตรอบตัวอย่างรอบคอบ กำชับวาจาอะไรพวกนี้มากมาย
มั่วเชียนเสวี่ยถอนหายใจ ไม่รู้ว่าเพื่อความเลอะเลือนของอวิ๋นอิ๋ง หรือเพราะสงสารซีซี
“มารดาของเจ้าก็คือมารดาของเจ้า เจ้าก็คือเจ้า ใครทำคนนั้นรับผิดชอบ ภาระนี้ไม่ควรมีเจ้าเป็นผู้แบกรับ”
อย่างไรเสียซีซีก็ยังเยาว์วัย เห็นมั่วเชียนเสวี่ยเอ่ยถึงมารดา ก็ร้องไห้โฮทันที
ชูอีดึงนางลุกขึ้นมากอดปลอบไว้ในอ้อมแขนอย่างแข็งใจไม่ลง
มั่วเชียนเสวี่ยมองไปทางสามีภรรยาหวังเทียนซง “เทียนซง ชุนเยี่ยน ที่ให้พวกเจ้ามา ก็เพราะมีเรื่องหนึ่งอยากจะฝากฝังพวกเจ้า”
“เชิญคุณหนูใหญ่กล่าวได้เลยขอรับ”
สามีภรรยาหวังเทียนซงล้วนเป็นคนของหมู่บ้ายหวังจยา มั่วเชียนเสวี่ยเคยชินกับความตรงไปตรงมา จึงไม่อยากอ้อมค้อมอีก
“ตอนนี้อวิ๋นอิ๋งจากไปแล้ว ข้ารับปากนางว่าจะดูแลซีซีให้ดี พวกเจ้าสองคนก็เอ็นดูซีซีมาโดยตลอด ข้าอยากให้ซีซีนับถือพวกเจ้าเป็นบิดามารดาเลี้ยง เด็กคนนี้มีชีวิตที่น่าสงสาร บนโลกใบนี้ก็เหลือญาติสักคนเดียว…”
ในเมื่อนางรับปากอวิ๋นอิ๋งว่าจะปฏิบัติต่อซีซีเป็นอย่างดี ซีซีก็เป็นเด็กว่านอนสอนง่ายคนหนึ่ง เช่นนั้นก็ให้ซีซีมีที่ไปที่ดี ไม่เช่นนั้น เลี้ยงไว้ในบ้านไร่ จะเป็นข้ารับใช้ก็ไม่ใช่ นายก็ไม่ใช่ ไม่มีคนคอยปกป้อง ก็ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก
สองสามีภรรยามองตากันแวบหนึ่ง หวังเทียนซงเอ่ย “ถึงคุณหนูใหญ่จะไม่เอ่ยถึง พวกข้าก็มีความคิดเช่นนี้อยู่แล้วขอรับ ขอบคุณคุณหนูใหญ่ที่ทำให้สมปรารถนา”
มั่วเชียนเสวี่ยวางใจ “เช่นนั้นก็ดี รอผ่านเรื่องของอวิ๋นอิ๋งไป จัดพิธีเรียบร้อยหมดแล้ว ก็ต้องฝากซีซีไว้กับพวกเจ้าแล้ว”
“คุณหนูใหญ่วางใจได้ขอรับ”
“ในภายภาคหน้านางแต่งงาน ข้าค่อยเตรียมสินเดิมของเจ้าสาวให้สมศักดิ์ศรี”
“ขอบคุณคุณหนูใหญ่ขอรับ”
…
หนิงเซ่าอวี่ได้รับข่าวการตายของเซี่ยซื่อในหลายวันให้หลัง
เขาไม่เพียงแต่จะไร้ท่าทางเสียใจ เมื่อได้ยินข่าวนี้กลับหัวเราะขึ้นมากะทันหัน ตอนที่คนควบคุมตัวเขา นึกว่าเขาได้รับความสะเทือนใจเกินไปจนเป็นบ้า เขากลับเอ่ยอย่างโหดเหี้ยมว่า “นังสารเลว ตายได้ดี!”
ไม่มีวรยุทธ์ ไม่มีอิสระ ไม่มีความหวัง เขาเพิ่งจะรู้สึกเสียใจขึ้นมาในภายหลัง ทว่ามันสายเกินไปแล้ว
หลายวันมานี้ ระหว่างทางเขาคิดได้แล้ว
คนที่เขาเกลียดมากที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่หนิงเซ่าชิง แต่คือเซี่ยซื่อผู้เป็นมารดาของเขา
หากไม่ใช่ว่าเซี่ยซื่อเป่าหูเขามาตั้งแต่วัยเยาว์ หากเซี่ยซื่อไม่ได้บอกว่าทุกสิ่งล้วนอยู่ภายใต้การควบคุม หากครานั้นมารดามิได้คิดแผนวางยาพิษ…เขาจะทุ่มสุดตัว เพื่อเดิมพันเป็นครั้งสุดท้ายได้เช่นไร
ขนาดหลายวันก่อนหน้านี้ ตอนที่หนิงเซ่าชิงขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูล แม้ว่าเขาจะเกลียด แต่ความจริงกลับคิดจะยอมรับในชะตากรรม ดับไฟที่คิดจะแย่งชิงในหัวใจไป
แต่ คืนหนึ่งก่อนที่เซี่ยซื่อจะไปวัดประจำตระกูล ได้พบเขา และทิ้งกระดาษข้อความไว้ในเขา
ตัวอักษรบนกระดาษ ตอนนี้เขายังจำได้อย่างชัดเจน
ในนั้นเขียนไว้ว่า เขามีผู้อาวุโสใหญ่ให้การสนับสนุน มีอิทธิพลตระกูลเซี่ยให้การสนับสนุน ในภายภาคหน้าตระกูลหนิงย่อมเป็นของเขา