เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค - ตอนที่ 593 บทสรุป (4)
อย่างไรก็ตาม นางที่ลนลานก็ไร้ความสามารถที่จะจัดการเรื่องเร่งด่วนประเภทนี้ นางไม่ได้คุกเข่าทันที และไม่ได้ขอโทษ แต่ยืนซื่อบื้ออยู่ตรงนั้นนิ่งๆ
ฮูหยินผู้เฒ่าโมโหตัวสั่น ชุดมงคลของนางนี้ตัดเย็บขึ้นมาเพื่อเทศกาลปีใหม่ ด้านบนปักคำว่าความสุขหนึ่งหมื่นตัว
วันนี้เพิ่งจะได้ใส่ ก็ถูกน้ำแกงสาดใส่ หลังจากนี้ก็ไม่สามารถใส่ได้อีกแล้ว
สตรี…สตรีชั่วช้านางนี้ ไม่ได้กำลังสาปแช่งนางว่าไม่สามารถอายุยืนหมื่นปีได้หรอกหรือ
สตรีชั่วช้า ไม่เพียงแต่จะไม่ยอมรับผิด แต่ยังยืนนิ่งเป็นสากอยู่ตรงนั้นราวกับไม่รู้สึกอันใดกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไร้เหตุผลสิ้นดี!
นางจึงระเบิดอารมณ์ ตวาดเสียงดังทันที “ลากออกไป”
เมื่อได้ยินว่าตนเองจะถูกลากออกไป สวี่หยวนหยวนพลันสำนึกตัว กระเด้งตัวขึ้นมาทันที
นางไม่สามารถถูกขังได้อีก นางไม่อยากกลับไปที่เรือนเล็กๆ นั่น นางจะอยู่กับหัวหน้าตระกูล…
สมองครุ่นคิด แต่การกระทำเร็วยิ่งกว่า ถึงกับอ้อมมาเบียดถึงข้างกายหนิงเซ่าชิง แล้วเบียดวั่นจื่ออิ๋งออกไป
วั่นจื่ออิ๋งที่ถูกเบียดกะทันหันอย่างไม่ทันตั้งตัว จึงเกือบจะล้ม
นางยืนอยู่ข้างหนิงเซ่าชิง หนิงเซ่าชิงย่อมประคองนางเอาไว้เป็นธรรมดา เขาโอบนางเล็กน้อย แล้วดึงไปด้านข้าง เพื่อหลีกเลี่ยงสวี่หยวนหยวน สตรีคลุ้มคลั่งนางนี้
สวี่หยวนหยวนพุ่งเข้าหาความว่างเปล่า ก็ร้องโหยหวน “หัวหน้าตระกูล ข้าคือหยวนหยวนนะเจ้าคะ หัวหน้าตระกูลช่วยหยวนหยวนด้วยเจ้าค่ะ หยวนหยวนไม่อยากถูกขังเอาไว้อีกแล้ว”
ท่าทางเช่นนี้ ยังจะมีมารยาทเสียที่ไหน เทียบไม่ได้แม้กระทั่งสาวใช้ในจวน
ฮูหยินผู้เฒ่าทรวงอกกระเพื่อมขึ้นลง โมโหหนักมาก
แม้ว่านางจะไม่ได้เป็นคนทำเรื่องนี้ แต่ผลลัพธ์กลับเป็นไปตามทิศทางของแผนการที่นางวางไว้สุดท้ายแล้วในใจมั่วเชียนเสวี่ยก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย จึงเกลี้ยกล่อมว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าอย่าได้โมโหจนเสียสุขภาพนะเจ้าคะ”
ฮูหยินผู้เฒ่าเห็นว่ามีคนอยู่มาก ตอนนี้นางสูดลมหายใจให้ใจเย็นลง แล้วสั่งการลงไป “พวกเจ้า! ยังไม่ลากตัวนางออกไปอีก”
“เจ้าค่ะ”
เหล่าสาวใช้และผอจื่อที่ได้สติจากอาการนิ่งอึ้งกรูกันเข้ามา บางคนก็เก็บกวาดโต๊ะ บางคนก็คุมตัวสวี่หยวนหยวนเอาไว้
พวกนางกระทำการอย่างเป็นระเบียบแบบแผน!
แม้ว่าผอจื่อสองสามคนนั้นจะคุมร่างสวี่หยวนหยวนเอาไว้ แต่ก็ไม่ได้ลากออกไปทันที เพราะรอให้ฮูหยินผู้เฒ่าจัดการ
เมื่อลากออกไปแล้ว จะมีการลงโทษหลายประเภท
สามารถโบยให้ตาย สามารถโบยเพื่อลงโทษ สามารถขังในห้องเก็บฟืน และสามารถกักบริเวณในเรือนตนเอง…
ฮูหยินผู้เฒ่าเดือดดาล แต่ก็ไม่ได้สิ้นสติสัมปชัญญะ นางโบกมือ จ้องสวี่หยวนหยวนอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “ไปขังไว้ในห้องเก็บฟืนก่อน”
ไม่รอให้สวี่หยวนหยวนร้องขอความเมตตา ผอจื่อที่คุมตัวนางเอาไว้ก็ปิดปากนางไว้แต่เนิ่นๆ แล้วลากนางออกไป
หากวันนี้ไม่ใช่คืนส่งท้ายปีเก่า หากนางไม่ใช่สตรีที่ฮ่องเต้พระราชทาน หากไม่ใช่ว่าได้รับการสนับสนุนจากกุ้ยเฟยผู้ได้รับความโปรดปราน คาดว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะต้องลากอี๋เหนียงที่ซุ่มซ่ามผู้นี้ออกไปโบยให้ตายแน่นอน
อย่างไรก็ตาม สตรีนางนี้ไม่ได้รับความโปรดปรานจากหัวหน้าตระกูล แม้ว่าฮ่องเต้จะเป็นผู้พระราชทานให้ แม้ว่าจะมีกุ้ยเฟยให้การสนับสนุน คราวนี้ไม่ตายก็อนาถเช่นกัน
ไม่ใช่ว่าร่างกายถูกโบยจนพิการ แต่นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับความโปรดปราน อนาคตจบสิ้นแล้ว
อี๋เหนียงที่ไม่ได้รับความโปรดปรานผู้หนึ่ง หลังจากนี้ก็ไม่มีทางได้รับความโปรดปรานเช่นกัน อาศัยอยู่ในจวนหนิงโดยไม่มีรากฐาน เฉกเช่นการเลี้ยงหมาแมวตัวหนึ่ง ไม่หนาว ไม่หิว แต่กลับไม่มีเกียรติอันใดให้กล่าวถึง
สำหรับอี๋เหนียงที่เป็นเช่นนี้ คนที่ลงมือย่อมไม่ออมมือ ลากนางออกไปด้วยท่าทางหยาบคายตลอดทาง
มั่วเชียนเสวี่ยเห็นสวี่หยวนหยวนถูกลากออกไปแบบนี้ ในใจก็ไม่สบอารมณ์
ปัญหานี้ยังไม่ได้ถูกจัดการให้เสร็จสิ้นก็ถูกปลดเสียแล้ว และไม่สามารถมาปรากฏตัวในโอกาสสำคัญอีกเช่นกัน
น่าจะไม่สามารถทำให้นางหงุดหงิดใจได้อีกแล้วล่ะนะ
มั่วเชียนเสวี่ยประคองฮูหยินผู้เฒ่า พลางคิดวางแผนอยู่ในใจ
แต่ทว่า เมื่อสวี่หยวนหยวนถูกลากออกไปแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่ากลับโยนอารมณ์โมโหที่ว่านั่นใส่หัวนางดังโครม “มั่วซื่อ เจ้าสอนกฎระเบียบอย่างไรกัน!”
ถัดจากเสียงตวาดถามของฮูหยินผู้เฒ่า ทุกสายตาล้วนมองมาทางมั่วเชียนเสวี่ย
นางต้องการให้นางอับอายต่อหน้าทุกคนสินะ!
ในคืนส่งท้ายปีเก่า หากโทษจากการทำความผิดตกเป็นของนาง เช่นนั้นก็จบสิ้นแล้ว
ความรู้สึกเสียใจที่มั่วเชียนเสวี่ยมีก่อนหน้านี้เล็กน้อยถูกทำให้หายวับไปทันที
ทว่า นางก็ไม่ได้เถียงข้างๆ คูๆ
ต่อหน้าธารกำนัล การปะทะกับฮูหยินผู้เฒ่านั้นเป็นการกระทำที่โง่มาก
มั่วเชียนเสวี่ยย่อเข่ารับโทษ “ฮูหยินผู้เฒ่าโปรดให้อภัยด้วยเจ้าค่ะ หลานสะใภ้…หลานสะใภ้…สวี่อี๋เหนียงนาง…นางเป็นสตรีที่ฮ่องเต้พระราชทานให้ ทั้งยังได้รับการอบรมกฎระเบียบในวังจากอวี้กุ้ยเฟย หลานสะใภ้ยากจะหาคนมาอบรม จึงทำได้แค่ให้นางปิดประตูเพื่อพิจารณาถึงความผิดของตนเอง…”
มั่วเชียนเสวี่ยเอ่ยอย่างรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมยิ่ง
แต่ว่ากลับเต็มไปด้วยเหตุผล
เมื่อเอ่ยถึงฮ่องเต้กับอวี้กุ้ยเฟย ฮูหยินผู้เฒ่าก็หายโมโห
ใช่แล้ว อวี้กุ้ยเฟยเป็นผู้อบรมสั่งสอนด้วยตนเอง จึงไม่มีใครเหมาะสมจะไปอบรมสั่งสอนอีก
ฮูหยินผู้เฒ่าปรายตามองหนิงเซ่าชิงแวบหนึ่ง เห็นหนิงเซ่าชิงมองมั่วเชียนเสวี่ยด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความสงสาร
ก็ทำได้แค่เค้นรอยยิ้มมีเมตตาออกมา แล้วยื่นมือไปประคองนาง พลางปลอบโยน “เอาเถอะๆ! เรื่องนี้ก็ไม่สามารถกล่าวโทษเจ้าได้ เจ้าลุกขึ้นมานั่งเถอะ”
อาหารมื้อค่ำในคืนส่งท้ายปีเก่า ยังกินไม่เสร็จ ใครก็ไม่สามารถจากไปก่อนได้
ฮูหยินผู้เฒ่าทำได้เพียงแค่ฝืนทนกลิ่นน้ำแกงบนร่าง รอกินเสร็จแล้ว ค่อยกลับไปผลัดเปลี่ยนอาภรณ์
ฮูหยินผู้เฒ่าถูกน้ำแกงกว่าครึ่งชามสาดใส่ก็ยังอดกลั้น มั่วเชียนเสวี่ยเพียงแค่ถูกกระเด็นใส่เล็กน้อย แน่นอนว่าทำได้เพียงแค่อดกลั้นเช่นกัน
โชคดีที่อากาศเย็น อุณหภูมิของน้ำแกงที่สาดกระเด็นออกมาลดลงไปมาก บวกกับสวมเสื้อผ้าหลายชั้นในฤดูหนาว ไม่อย่างนั้นฮูหยินผู้เฒ่าคงถูกน้ำแกงชามนั้นลวกจริงๆ
คนที่นั่งอยู่อยากจะหัวเราะ คิดรังเกียจ แต่กลับไม่มีใครที่กล้าแสดงออกมาสักคน
ทุกคนล้วนรีบกินอาหารกันเงียบๆ
และคิดอยากจะให้การกินอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันของครอบครัวจบลงเร็วๆ จะได้หลุดพ้นจากบรรยากาศอันกดดันตรงนี้เสียที
หนิงเซ่าชิงมองไปทางมั่วเชียนเสวี่ยด้วยสายตาสงสัย มั่วเชียนเสวี่ยแย้มรอยยิ้มซุกซน แอบแลบลิ้นเงียบๆ
สำหรับหนิงเซ่าชิง แม้ว่านางจะทำเรื่องชั่วร้าย นางก็ไม่อยากปิดบังเขา
จากความเข้าใจที่หนิงเซ่าชิงมีต่อมั่วเชียนเสวี่ย เพียงแค่สายตาเดียวก็รู้แล้วว่า ทุกอย่างล้วนอยู่ในแผนการของมั่วเชียนเสวี่ย
เขาไม่ได้โกรธ แต่มองมั่วเชียนเสวี่ยด้วยรอยยิ้มจนปัญญาที่มีความหมายซึ่งเต็มไปด้วยความรักและทะนุถนอมยิ่ง
สวี่หยวนหยวนผู้นี้ เขาเคยมีประสบการณ์มาก่อน แม้ว่าวันนี้จะไม่ปล่อยไก่ ทำตัวขายหน้า ก็ต้องมีวันหนึ่งที่ทำให้เขาอับอายขายขี้หน้าจนหมด
ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็รังเกียจสวี่หยวนหยวนผู้นี้ที่สุด แม้ว่ามั่วเชียนเสวี่ยจะจัดการนางถึงตาย เขาก็ไม่มีทางขมวดคิ้วสักนิดเดียว
เขาเพียงแค่รู้สึกผิดต่อฮูหยินผู้เฒ่าอยู่บ้าง
กินอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากับคนในครอบครัวเรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปที่เรือนของแต่ละคน โต้รุ่งอธิษฐานขอพรให้มีความสุขความเจริญ
เมื่อกลับไปถึงเรือน หนิงเซ่าชิงก็รีบช่วยมั่วเชียนเสวี่ยถอดอาภรณ์อย่างกลัวว่านางจะถูกลวก และกลัวว่านางจะถูกบาดจากเศษกระเบื้องเมื่อครู่นี้
รอจนแน่ใจแล้วว่ามั่วเชียนเสวี่ยปลอดภัยไร้อันตราย ถึงได้ค่อยๆ เอ่ยวาจา
“หลังจากนี้ เจ้าคิดจะจัดการกับสตรีหน้าไหน ข้าล้วนไม่มีความเห็นใดๆ เพียงแต่…ความจริงแล้วท่านย่าก็ดีกับเจ้ามาโดยตลอด”
นัยความหมายในวาจานี้ชัดเจนมากว่า เขารู้สึกสงสารฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว
“ข้ารู้แล้ว เรื่องวันนี้ก็ไม่ได้ตั้งใจ และไม่ได้มีการเตรียมการมาก่อน ไหนเลยจะสามารถคำนวณได้ว่านางจะทำชามแตกตรงนั้นพอดี พลอยทำให้ข้าเลอะไปด้วยเลย”
หนิงเซ่าชิงกอดมั่วเชียนเสวี่ย เบียดกันอยู่บนตั่ง แล้วเอ่ยเสียงอ่อนโยนว่า “หลังจากนี้ก็ระวังหน่อย ความจริงแล้วเจ้าไม่จำเป็นต้องถือสาพวกนาง พวกนางเป็นแค่ของประดับที่วางไว้เฉยๆ ข้าไม่มีทางไปเรือนของพวกนาง”