เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค - ตอนที่ 594 บทสรุป (5)
เสียงมั่วเชียนเสวี่ยหวานซึ้ง “อืม ล้วนฟังท่าน”
ฟังท่านก็แปลกแล้ว!
แม้จะเป็นของประดับ ข้าก็รู้สึกขัดตา
วันนี้เห็นหนิงเซ่าชิงประคองวั่นจื่ออิ๋ง เห็นวั่นจื่ออิ๋งหน้าแดงระเรื่อในเสี้ยวพริบตา มองหนิงเซ่าชิงด้วยสายตาเป็นประกาย นางก็ยิ่งรู้สึกขัดลูกหูลูกตา
ทว่ามั่วเชียนเสวี่ยไม่มีทางถามหนิงเซ่าชิงว่า หากตนเองกับฮูหยินผู้เฒ่าขัดแย้งกันซึ่งๆ หน้า และเกิดเรื่องให้ต้องปะทะกัน เขาจะช่วยใคร?
นางรู้ว่า เขาต้องเลือกนางแน่นอน แต่นางก็รู้ถึงความลำบากใจของเขาเช่นกัน
ถึงฮูหยินผู้เฒ่าจะผิดอย่างไร ก็เป็นผู้อาวุโส อายุนางก็มากแล้ว
ขอเพียงแค่นางไม่ไปพัวพันกับตระกูลอวี่เหวิน หนิงเซ่าชิงก็ยังมีความรู้สึกฉันเครือญาติต่อนางหลายส่วน
มั่วเชียนเสวี่ยซุกตัวในอ้อมแขนหนิงเซ่าชิง วันนี้นางต้องการโต้รุ่งกับหนิงเซ่าชิงสองคนเท่านั้น ไม่อยากสนทนาเรื่องคนอื่น
การกระทำของมั่วเชียนเสวี่ยทำให้หนิงเซ่าชิงอบอุ่นหัวใจ จึงกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น
ทั้งสองคนกอดกันเงียบๆ เฝ้ารอการมาเยือนของปีใหม่
จวนกั๋วกงอันกว้างใหญ่แต่กลับมีผู้เป็นนายเพียงแค่คนเดียว
การกินอาหารในคืนส่งท้ายปีเก่ากลับมีถงจื่อจิ้งแค่คนเดียว
เขาคิดถึงพี่สาวมากจริงๆ!
ตลอดชีวิตนี้ ปีที่เขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากที่สุดคือปีที่แล้ว
แม้ว่า คนที่กินข้าวกับเขาจะเป็นบิดาที่เขาไม่ค่อยชอบผู้นั้นของเขา
แต่ว่าก่อนและหลังปีใหม่ เขาล้วนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านหวังจยา อยู่ข้างกายพี่สาว
ที่นั่นคือบ้านของเขา บ้านในใจของเขา
ที่นั่นมีความอบอุ่นที่เขาเคยได้รับมากที่สุด
ถงจั่นรู้สึกว่าหัวใจราวกับถูกมีดกรีด เมื่อเห็นท่าทางของผู้เป็นนาย!
วันปีใหม่นี้ มีวาจาบางอย่างที่จำเป็นต้องเอ่ย
บิดาส่งจดหมายมาหลายครั้งแล้วว่า สุขภาพของเหล่าเหยียไม่ดีเหมือนแต่ก่อน เร่งพวกเขาให้กลับไปฉลองปีใหม่ที่คฤหาสน์ตระกูลถงหลายครั้งเช่นกัน
“นายท่านจะแจ้งให้บิดาทราบสักหน่อยไหมขอรับ ให้เขาปล่อยเหล่าเหยียไป”
ถงจื่อจิ้งชะงักตะเกียบไปครู่หนึ่ง แล้วคีบอาหารเข้าปาก ราวกับไม่ได้ยินวาจาของถงจั่น
ถงจื่อจิ้งไม่ตอบ
ถงจั่นก็ไม่กล้าถามเช่นกัน
เขาย่อมไม่เห็นว่า ในปากผู้เป็นนายของตนเองเคี้ยวอาหาร แต่แววตากลับเย็นยะเยือก!
เพียงแต่ กลิ่นอายเย็นยะเยือกนั้น หลังจากเลือนหายไปอย่างช้าๆ ก็กลับกลายเป็นความเย็นชาเฉียบขาด
ถงจื่อจิ้งนั่งกินอาหารในคืนส่งท้ายปีเก่าเงียบๆ คนเดียว จากนั้นก็ลุกขึ้นกลับไปที่เรือนของตนเอง
เรือนของเขาอยู่ไม่ห่างจากเรือนเสวี่ยหว่านของมั่วเชียนเสวี่ย สามารถมองกันได้จากที่ไกลๆ
“ให้คนไปจุดไฟที่เรือนของพี่สาวให้สว่าง”
“ขอรับ”
ถงจั่นบุ้ยปาก ถงผิงและถงอันรับคำสั่งแล้วถอยออกไป
ถงจื่อจิ้งเริ่มต้นแกะสลักส่วนหัวของรูปปั้นอยู่ในเรือนตนเอง
ทุกมีดล้วนเต็มไปด้วยความตั้งใจ
ทุกมีดล้วนดูเหมือนกับใช้พละกำลังสุดความสามารถ
ผู้ที่อยู่เป็นเพื่อนเขามีเพียงแค่ข้ารับใช้ข้างกายไม่กี่คน
สิ่งที่อยู่เป็นเพื่อนเขามีเพียงแค่ความเงียบเหงาในเรือนนี้
สิ่งที่อยู่เป็นเพื่อนเขามีเพียงแค่รูปปั้นในมือของเขา
ถงจื่อจิ้งมองรูปปั้นในมือแล้ว นัยน์ตาก็มีคลื่นความรู้สึกราวกับคลื่นน้ำ
ทว่ากลับนึกขึ้นได้ว่า…
พี่สาวเคยบอกว่า ปล่อยเขาไป ก็เหมือนกับปล่อยตนเอง!
พี่สาวเคยบอกว่า เขากระทำความผิดอย่างไร ก็ชรา เป็นไม้ใกล้ฝั่งแล้ว…
ดังนั้น เขาจึงหันหน้าไปเอ่ยกับถงจั่นที่อยู่ข้างหลังอย่างจริงจัง
“ขอเพียงแค่เขารับปากว่าจะไม่สนใจข้า ไม่ไปจากคฤหาสน์นั่น ก็ปล่อยเขาเถอะ”
แม้ว่าเขาจะเกลียดคนผู้นี้ แม้ว่าคนผู้นี้มีข้อไม่ดีต่างๆ แม้ว่าตนเองจะโชคร้ายที่ถือกำเนิดจากคนผู้นี้ แต่คนผู้นี้กลับมอบชีวิตให้ตนเอง
ไม่ว่าตนเองจะยอมรับหรือไม่ คนผู้นั้น…ก็ยังคงเป็นบิดาของตนเอง!
หัวใจของเขาไม่ได้ทำจากเหล็กกล้า
เดิมเขาเพียงแค่อยากให้คนผู้นั้นรู้ถึงความเจ็บปวดจากการถูกขังในปีนั้นของตนเอง
ในสถานที่ห่างไกล
พ่อบ้านตระกูลถงปลดโซ่ที่ล่ามบนร่างของท่านผู้เฒ่าถงออก
“เหล่าเหยีย คุณชายให้ปล่อยท่านขอรับ”
ท่านผู้เฒ่าถงที่ถูกขังไว้เกือบหนึ่งปีได้เปลี่ยนเป็นคนละคนไปแล้ว
เรือนผมของเขาขาวโพลน แผ่นหลังก็ไม่อาจเหยียดตรงได้อีก ไร้ซึ่งพลังอำนาจและท่าทางขี้โมโห รวมถึงท่าทีบีบคั้นผู้คนเหมือนในตอนแรก
เป็นเพียงแค่ชายชราที่อ่อนโยนมากๆ คนหนึ่ง
สำหรับเขาแล้ว การปลดโซ่ตรวนเหมือนกับไม่ได้มีอะไรดีหรือไม่ดี คล้ายกับว่าเป็นเรื่องปกติมากเรื่องหนึ่ง
ท่านผู้เฒ่าถงที่ถูกปลดโซ่ตรวนไม่ได้เปิดปากถ้ำ แต่นั่งหลังโก่งเล็กน้อยอยู่บนตั่งศิลากลางถ้ำ มองดูกำแพงที่อยู่ตรงข้าม
ราวกับต้องการมองทะลุกำแพงนี้ไป มองดูสถานที่ที่อยู่ในใจเขา
“เขายังจะยอมรับข้าที่เป็นบิดาผู้นี้อีกไหม ยังจะกลับมาเยี่ยมข้าหรือไม่”
พ่อบ้านถงร้องไห้ “เหล่าเหยีย จะต้องมีสักวันที่คุณชายให้อภัยท่านขอรับ”
ไม่ว่าคุณชายจะกลับมาเยี่ยมเหล่าเหยียหรือไม่ เขาก็ไม่มีทางห่างจากเหล่าเหยียแม้แต่ก้าวเดียว
เหล่าเหยียถูกนิสัยเช่นนี้ทำร้ายให้โดดเดี่ยวตลอดชีวิต ในบรรดานั้นก็มีส่วนที่เขาต้องรับผิดชอบด้วย เป็นเขาที่ไม่ได้แนะนำอย่างจริงจัง
ตอนนี้ไม่ว่าเหล่าเหยียจะมีหรือไร้อำนาจ เขา…ก็จะเป็นตายไปด้วยกัน!
ในบ้านไร่นอกเมืองของมั่วเชียนเสวี่ย แม้ว่าคนจะไม่เยอะ แต่กลับคึกครื้นมาก
หวังเทียนซงต้องเฝ้าบ้านไร่ให้มั่วเชียนเสวี่ย ชุนเยี่ยนก็ใกล้จะคลอดแล้ว ย่อมไม่ได้กลับไปฉลองปีใหม่
มั่วเชียนเสวี่ยก็ให้ทั้งสามีภรรยาอีกสองคู่ที่มาจากหมู่บ้านหวังจยากลับไปยังอำเภอเทียนเซียงตามที่ตนเองต้องการ
เพิ่งจะผ่านปีใหม่ไป ชุนเยี่ยนก็คลอดบุตรชายจ้ำม่ำคนหนึ่งให้กับหวังเทียนซง
วันที่สิบห้าเดือนหนึ่ง สองคนที่กลับไปฉลองปีใหม่ก็กลับมา ทั้งยังพาสามีภรรยาที่ยังเป็นหนุ่มสาวกลับมาด้วยหลายคู่ หวังเอ้อร์ภรรยาหวังเอ้อร์ที่พาหวังเสี่ยวเหลยก็มาแล้วเช่นกัน
มาเยี่ยมหลานนั้นเป็นเรื่องหนึ่ง
สุดท้ายคนก็อยู่ภายใต้โอรสสวรรค์ แม้ว่าจะอยู่ในบ้านไร่ แต่ก็มีฐานะสูงศักดิ์อยู่หลายส่วน
หากเสี่ยวเหลยสามารถเป็นผู้จัดการดูแลร้านค้าในเมืองหลวงได้ ครอบครัวของพวกเขาก็นับว่าเงยหน้าอ้าปากได้แล้ว
มั่วเชียนเสวี่ยกำลังต้องการใช้คนพอดี ย่อมไม่มีทางปฏิเสธ นางรั้งตัวหวังเสี่ยวเหลยไว้ และส่งอีกคนหนึ่งไปเป็นผู้ดูแลร้านอาหารเชียนมั่ว
ผ่านวันที่สิบห้าเดือนหนึ่งไปได้ไม่นาน น้ำและดินรอบแรกที่หนิงเซ่าชิงให้คนขนมาจากเป่ยต้าฮวงก็มาถึง ภารกิจของมั่วเชียนเสวี่ยก็มาถึงเช่นกัน
ทุกสรรพสิ่งล้วนยากในตอนเริ่มต้น โดยเฉพาะภารกิจที่เกี่ยวพันกับโชคชะตาในอนาคตของตระกูลหนิงที่ไม่อาจล้อเล่นได้แม้แต่น้อย
ดังนั้นเรื่องนี้ นางจึงทำได้เพียงแค่ลงมือด้วยตนเอง รายละเอียดมากมายที่หากนางไม่สังเกต ไม่อยู่ในเหตุการณ์ ก็มีบางเรื่องที่ไม่สะดวกจะตัดสินใจ และสั่งการได้ยาก
ตั้งแต่น้ำและดินส่งมาถึง นางก็คล้ายกับอาศัยอยู่ในบ้านไร่
ตอนเย็นก็กลับเย็นมาก ตอนเช้าก็ออกเดินทางแต่เช้า บางครั้งยุ่งขึ้นมา ก็ตัดสินใจไม่กลับจวนหนิง แล้วพักอยู่ในบ้านไร่แทน แถมยังให้ชูอีรั้งอยู่ที่บ้านไร่ จะได้ไม่ต้องมาทรมานไปๆ มาๆ กับนางด้วย
ไม่เพียงเท่านี้ แต่ยังตั้งกฎระเบียบใหม่ขึ้นมา คนในบ้านไร่ อนุญาตให้เข้าได้เท่านั้น ไม่อนุญาตให้ออก
ทั้งยังให้หนิงเซ่าชิงส่งคนของหอลับมาเฝ้ารอบๆ บ้านไร่ ขอเพียงแค่มีคนที่น่าสงสัย ก็สังหารทิ้งทันที
ถงจื่อจิ้งเป็นข้อยกเว้น
ทว่าก็แค่เขาคนเดียว กระทั่งถงจั่นก็ไม่อนุญาตให้พามาด้วย
ในฐานะที่มั่วเชียนเสวี่ยเป็นสตรีที่เพิ่งจะแต่งงาน ฟ้าสางก็วิ่งไปยังบ้านไร่ ได้ยินมาว่าข้างกายมักจะพี่ชายที่ไม่เหมือนพี่ชาย น้องชายที่ไม่เหมือนน้องชายอย่างถงจื่อจิ้งคอยติดตาม ฮูหยินผู้เฒ่าจึงไม่พอใจเป็นอย่างมาก