เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค - ตอนที่ 600 บทสรุป (11)
เพียงแต่เขามุ่งหน้าไปยังทิศทางของจวนหนิง
เขาต้องถามหนิงเซ่าชิงต่อหน้าให้ชัดเจน พี่สาวของเขาทำอันใดผิดต่อเขา เขาถึงได้รังแกนางเช่นนี้
ทางด้านนี้ การประชุมใหญ่ระดับตระกูลของตระกูลหนิงเมื่อคืนสิ้นสุดลงในยามรุ่งสางจริงๆ
หนิงเซ่าชิงกลับไม่ได้นอนทั้งคืน
หัวหน้าตระกูลรุ่นก่อนกับเหล่าจงเหล่าจากไปแล้ว เขากลับเรียกผู้อาวุโสหลายท่านมา แล้วยุ่งอยู่ที่ห้องบัญชีตลอดทั้งคืน
หลังจากทำบัญชีเสร็จเรียบร้อย ก็คิดจะฉวยโอกาสพักผ่อนเล็กน้อยในตอนที่การประชุมกำลังดำเนินไป แต่กลับได้ยินเตาหนูบอกว่า ฮูหยินกลับไปจวนกั๋วกงคนเดียวกะทันหัน อารมณ์ก็ดูไม่ดียิ่ง
“เมื่อไร ทำไมถึงอารมณ์ไม่ดี?”
“ตอนนี้ยังไม่รู้เหตุผล รู้เพียงแค่เช้าตรู่ ฮูหยินเคี่ยวโจ๊กแล้วนำไปให้ท่านที่ท้ายเรือน ในภายหลังก็โยนโจ๊กทิ้ง จากนั้นก็กลับจวนกั๋วกงขอรับ”
“ไปตรวจสอบ!”
“ขอรับ”
หนิงเซ่าชิงให้เตาหนูรีบไปสืบสาเหตุ อีกทางหนึ่งก็คิดจะควบม้าไปดูมั่วเชียนเสวี่ยที่จวนกั๋วกง
ยังไม่ทันได้ออกจากเรือน ก็พบกับหัวหน้าตระกูลรุ่นก่อนที่พากลุ่มผู้อาวุโสและจงเหล่าเดินมาทางนี้
ถึงแม้ว่าหนิงเซ่าชิงจะร้อนใจเพียงใด แต่ตอนนี้ก็ปลีกตัวไปไม่ได้
เขาทำได้เพียงแค่ขยิบตาบอกใบ้กุ่ยซาให้ไปดูฮูหยินที่จวนกั๋วกงก่อน อย่าให้เกิดเรื่องกับฮูหยินเด็ดขาด
ใช่แล้ว นับตั้งแต่มั่วเชียนเสวี่ยแต่งเข้าจวนมา กุ่ยซาย่อมติดตามอยู่ข้างกายหนิงเซ่าชิงเป็นธรรมดา
เรือนหลังไม่มีที่ให้เขาอาศัย
หนิงเซ่าชิงนำกลุ่มผู้อาวุโสและจงเหล่าเข้าไปในโถงประชุม
ถงจื่อจิ้งกลับถือมีดเล่มเล็กมาหาเรื่องหนิงเซ่าชิงถึงจวน
เขาเป็นน้องชายภรรยาที่หัวหน้าตระกูลยอมรับ ในตระกูลหนิงมีใครกล้าขวางทางเขา ถงจื่อจิ้งย่อมเดินทางมาถึงเรือนหน้าของหัวหน้าตระกูลได้ราบรื่นตลอดทาง
เขาจะช่วยพี่สาวสังหารสตรีแพศยานั่น แล้วค่อยช่วยพี่สาวมัดตัวหนิงเซ่าชิงไปยอมรับความผิด ก่อนที่พี่สาวจะลงโทษ
หนิงเซ่าชิงอธิบายให้ถงจื่อจิ้งที่โมโหเดือดดาลได้ไม่ชัดเจน นี่ไม่ใช่เวลาที่เขาจะไปรับโทษจากมั่วเชียนเสวี่ยที่จวนกั๋วกง
เพราะเรื่องที่เขาต้องจัดการนั้นเกี่ยวพันกันอย่างแน่นหนา
ตอนนี้เหล่าจงเหล่าและผู้อาวุโสในตระกูลหนิงทั้งหมดล้วนมาแล้ว
วันนี้เขาต้องเรียกประชุมครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การประชุมที่เกี่ยวข้องกับอนาคตของตระกูลหนิง
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ
ดวงตามากมายล้วนกำลังมองมาที่เขา
“เจ้ากลับไปก่อน แล้วคิดหาวิธีให้มั่วเชียนเสวี่ยสงบลง เจ้าต้องเชื่อข้า ข้าจะต้องมีคำอธิบายให้นางแน่นอน แม้ว่าเมื่อคืนข้าจะอยู่ที่เรือนหน้า แต่กลับอยู่ที่โถงประชุมของเรือนหน้าตลอดทั้งคืน ในภายหลังก็ไปตรวจบัญชีที่ห้องบัญชี จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ก้าวเท้าเข้าไปที่ท้ายเรือนสักก้าวเดียว”
เรือนหน้าก็แบ่งเป็นหน้าเรือนกับท้ายเรือนเช่นกัน
บริเวณส่วนหน้าของเรือนคือสถานที่จัดประชุมเรื่องต่างๆ ในส่วนท้ายเรือนคือห้องหนังสือกับสถานที่พักผ่อน
หากให้เขาตรวจสอบพบว่าสตรีชั่วช้านางใดอยู่ในห้องของเขา เขาจะจัดการนางขั้นเด็ดขาด
ถงจื่อจิ้งเห็นหนิงเซ่าขิงมีสีหน้าวิตกกังวล และเห็นว่าคนในห้องโถงล้วนมองมา ก็ลังเลเล็กน้อย
เขาเข้าใจนิสัยหนิงเซ่าชิงพอสมควร
เขาเหมือนกับเขา เพียงแค่เห็นหนิงเซ่าชิงเป็นห่วงมั่วเชียนเสวี่ยและมีสายตาโหดเหี้ยมที่คิดจะจัดการสตรีที่เขาเอ่ยถึง เขาก็รู้ว่าจะต้องมีสตรีชั่วช้ามาก่อกวนแน่นอน
ขณะที่จงเหล่าใหญ่ครุ่นคิด ก็เอ่ยขึ้นว่า “ข้าสามารถเป็นพยานให้ได้”
แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมมั่วเชียนเสวี่ยถึงได้อิจฉาริษยาถึงเพียงนี้ และไม่เห็นด้วยกับการที่ฮูหยินหัวหน้าตระกูลไร้คุณธรรมเช่นนี้ แต่ว่ามั่วเชียนเสวี่ยสร้างคุณงามความดีให้กับตระกูลหนิงไม่น้อย
อีกอย่าง ด้วยสภาพการณ์ของหัวหน้าตระกูลในตอนนี้ พวกเขาแสดงตัวออกมาอธิบายสถานการณ์ในชัดเจนก่อนแล้วค่อยหารือกันอีกที เรื่องในภายหลัง หลังจากนี้ก็ค่อยว่ากัน
หลังจากนี้ พวกเขาจะให้ฮูหยินของตนเองไปเยี่ยมฮูหยินหัวหน้าตระกูลเพื่ออบรมสั่งสอนบ่อยๆ
ได้ยินมาว่า เฟิงชิงอวี่ผู้เป็นมารดาของฮูหยินหัวหน้าตระกูล ตอนนั้นก็มีนิสัยอิจฉาริษยา ไม่ยอมให้เจิ้นกั๋วกงรับอนุภรรยา
ได้ยินมาว่า ฮูหยินหัวหน้าตระกูลเติบโตในตระกูลเฟิง
เกรงว่าตระกูลเฟิงไม่ได้อบรมความประพฤติและคุณธรรมอันดีงามของสตรีให้กับนาง
ขณะที่เหล่าจงเหล่ากับผู้อาวุโสกำลังเปลี่ยนความคิดไปมา ถงจื่อจิ้งก็สนทนากับหนิงเซ่าชิงสองสามประโยค ให้หนิงเซ่าชิงรีบจัดการงานหลวงให้เสร็จ ค่อยไปอธิบายกับมั่วเชียนเสวี่ยให้ชัดเจนที่จวนกั๋วกง แล้วจากไป
หนิงเซ่าชิงหันกลับมา
จงเหล่าใหญ่ หัวหน้าตระกูลรุ่นก่อน และบุคคลผู้เป็นแกนหลักในตระกูลกำลังรอเขาอยู่
แต่ทว่า เขาเพิ่งจะเดินไปถึงตำแหน่งที่นั่งประธาน ยังไม่ทันจะได้นั่ง ในห้องโถงก็มีคนที่เอ่ยออกมาอย่างรอไม่ไหว
“หัวหน้าตระกูล ท่านทำให้ข้าผิดหวังเกินไปแล้ว สตรีนางหนึ่งก็ยังจัดการไม่ได้ จะแก้ไขปัญหาของตระกูลได้อย่างไร จะนำพาตระกูลหนิงของพวกเรามุ่งหน้าไปสู่อนาคตได้อย่างไร”
ผู้ที่เอ่ยวาจานี้คือจงเหล่าใหญ่
สายตาของทุกคนในห้องโถงจ้องไปยังจงเหล่าใหญ่ในทันที
ทุกคนล้วนไม่เข้าใจว่า จงเหล่าใหญ่ที่สุขุมหนักแน่นมาโดยตลอดนั้นเป็นอะไรไป
แม้ว่าฮูหยินหัวหน้าตระกูลจะขี้อิจฉาริษยา แต่ก็ยังค่อยๆ สอนได้
อีกอย่าง ฮูหยินหัวหน้าตระกูลก็เพิ่งจะสร้างผลงานยิ่งใหญ่ขนาดนั้นมาเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้
สตรีที่เฉลียวฉลาดเช่นนี้นางหนึ่ง จะหย่าได้อย่างไร ในภายหลังยังมีโอกาสให้ใช้งานอีกมาก
“จงเหล่าใหญ่?”
“จงเหล่าใหญ่ ท่าน…”
ไม่รอให้คนอื่นเกลี้ยกล่อม วันนี้จงเหล่าใหญ่คล้ายกับเปลี่ยนเป็นคนละคน
ถึงกับแค่นเสียงหนักใส่หนิงเซ่าชิงและหัวหน้าตระกูลรุ่นก่อนต่อหน้า
เขาเอ่ยอย่างไม่เกรงใจว่า “หัวหน้าตระกูลยอมศิโรราบต่อฮูหยินหัวหน้าตระกูลเช่นนี้ ท่านนำศักดิ์ศรีตระกูลหนิงไปไว้ที่ใด หัวหน้าตระกูล ข้าขอให้ท่านหย่ากับสตรีขี้อิจฉานางนี้เดี๋ยวนี้”
ไม่รอให้คนตำหนิ หนิงเซ่าชิงก็เดือดดาล ตวาดให้คนจับจงเหล่าใหญ่เอาไว้
ความจริงแล้วนี่เป็นละครฉากหนึ่งที่พวกจงเหล่าได้หารือกับหนิงเซ่าชิงและหัวหน้าตระกูลรุ่นก่อนเมื่อคืนวาน
ผู้ที่ถูกเลือกให้ไปเป่ยต้าฮวง หารือกันไป หารือกันมา ก็ต้องเป็นจงเหล่าใหญ่แต่เพียงผู้เดียว
จงเหล่าใหญ่มีศักดิ์ลำดับอาวุโสเป็นลุงของหัวหน้าตระกูลรุ่นก่อน ตอนนี้อายุหกสิบแล้ว
ไม่กล่าวถึงว่าเป่ยต้าฮวงระยะทางห่างไกล สภาพแวดล้อมที่นั่นก็เลวร้ายมาก นี่เป็นชีวิตที่ยากลำบาก ไม่แน่ว่าหลังจากไปแล้ว ก็ไม่สามารถกลับมายังเมืองหลวงได้อีก ทั้งยังต้องแบกรับชื่อเสียงฉาวโฉ่ เดิมหัวหน้าตระกูลรุ่นก่อนไม่ปรารถนาจะส่งเขาไปล่วงหน้า
แต่ว่านอกจากจงเหล่าใหญ่แล้ว พวกเขาก็คิดตัวเลือกที่สองไม่ออกจริงๆ
ตระกูลซูไปซ่อมแซมอย่างเปิดเผย
ตระกูลหนิงกลับไม่สามารถไปปลูกพืชที่เป่ยต้าฮวงอย่างเปิดเผยได้
หลังจากตัดสินใจแล้ว หัวหน้าตระกูลรุ่นก่อนก็ละอายใจอยู่บ้าง “ท่านลุง ท่านอายุมากขนาดนี้แล้ว สมควรจะเกษียณไปใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างสุขสบาย แต่กลับยังต้องให้ท่านออกไปวิ่งวุ่นอยู่ข้างนอก แบกรับชื่อเสียงเสียหายเอาไว้เช่นนี้”
จงเหล่าใหญ่กลับกล่าววาจาที่เต็มไปด้วยเหตุผลและสัจธรรม “ปั๋วเทาเลอะเลือนแล้ว! นี่เป็นการกระทำเพื่อนำความผาสุกมาให้ชนรุ่นหลัง ตราบจนชีวิตจะหาไม่ ชื่อเสียงเล็กน้อยนี้นับเป็นอะไรได้ ขอแค่ที่ดินศักดินาของตระกูลหนิงสามารถปลูกธัชพืชได้ แม้ว่าตอนนี้จะต้องการชีวิตคนในครอบครัวข้า ข้าก็เต็มใจลำบากไปด้วย…”
ดังนั้นถึงได้เกิดเหตุการณ์ที่จงเหล่าใหญ่ล่วงเกินหัวหน้าตระกูลในตอนนี้ขึ้น
สุดท้ายหนิงเซ่าชิงก็นำหลักฐานเท็จที่เตรียมการไว้ที่ห้องบัญชีทั้งคืนออกมา พิสูจน์ว่าจงเหล่าใหญ่ทุจริต
สภาผู้อาวุโสไม่เชื่อ
แต่ว่าสภาจงเหล่ากลับเกลียดชังจงเหล่าใหญ่เข้ากระดูกดำ มีบางคนที่น่ารังเกียจจนถมน้ำลายใส่จงเหล่าใหญ่
แน่นอนว่า เบื้องหน้าเกลียดชังเข้ากระดูกดำ แต่ในใจกลับเจ็บปวดยิ่งนัก พวกเขาล้วนรู้เหตุผล เดิมนี่ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาหารือกันเรียบร้อยแล้ว
เพียงแต่ว่าต้องปิดบังสภาผู้อาวุโส คนตระกูลหนิง ราชวงศ์ และสายตาของผู้คนในใต้หล้า