เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค - ตอนที่ 607 ตอนพิเศษ สูญเสียสิ่งที่อยู่ในกำมือไปโดยไม่คาดฝัน (4)
- Home
- เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค
- ตอนที่ 607 ตอนพิเศษ สูญเสียสิ่งที่อยู่ในกำมือไปโดยไม่คาดฝัน (4)
แม้ว่าครั้งที่แล้วจะแอบติดตามซูชีไปที่ค่ายทหาร แต่นั่นนางติดสินบนจำนวนคนเหล่านั้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ จึงมีของให้กินให้ดื่ม และไม่ต้องเอาสิ่งใดไปที่ค่าย
ดังนั้นถึงได้ปรากฏห่อผ้าเล็กใหญ่ที่ปี้เอ๋อร์ได้เห็นเมื่อครู่!
ตอนนี้ปี้เอ๋อร์เข้ามาในห้องแล้ว นางก็คล้ายกับหาผู้ช่วยชีวิตเจออย่างไรอย่างนั้น!
“ปี้เอ๋อร์! ปี้เอ๋อร์ เจ้าช่วยข้าดูทีว่า ข้าต้องพกสิ่งใดบ้าง หากออกจากจวน”
นางคว้าปี้เอ๋อร์เอาไว้ แล้วดันห่อผ้าเล็กใหญ่ของตนเองให้ปี้เอ๋อร์ดู
ปี้เอ๋อร์ตะลึงเล็กน้อย…
นี่มันอะไรกัน อย่าทำแบบนี้จะได้ไหม…
“ท่านหญิง…ท่านจะไปที่ไหนหรือเจ้าคะ บ่าวติดตามท่านไปด้วยหรือไม่” ปี้เอ๋อร์มองดูสภาพเละเทะตรงหน้าแล้ว ก็รู้สึกว่าปวดหัว! นางไม่วางใจให้ท่านหญิงออกจากจวนคนเดียว ยังไงก็พานางไปด้วยเถอะ!
“หือ” ความคิดนี้ กระทั่งคิด ซูซูก็ไม่เคยคิดเลยจริงๆ!
ตอนนี้นางไม่มั่นใจว่าซูชีไปที่ไหนกันแน่ แล้วจะพาปี้เอ๋อร์ไปด้วยได้อย่างไร แต่ว่า…
“อืมๆ! พาเจ้าไปด้วย เจ้าไปด้วยกันกับข้า รีบช่วยข้าเก็บสัมภาระเร็วเข้า พยายามเอาแบบเรียบง่าย เข้าใจไหม” หลอกสาวใช้นางนี้ให้ได้ก่อน แล้วค่อยว่ากัน!
ปี้เอ๋อร์พลันดีใจยิ่ง เมื่อได้ยินว่าท่านหญิงจะพาตนเองออกไปข้างนอกด้วยกัน
นางรีบยื่นมือไปรับห่อผ้าสัมภาระในมือของซูซูมา แล้วเอ่ยกับซูซู โดยที่ไม่สงสัยอันใด “ท่านหญิงวางใจเถอะเจ้าค่ะ ปี้เอ๋อร์จะต้องจัดสัมภาระให้ท่านอย่างเรียบร้อยเหมาะสมแน่นอน พวกเราจะท่องเที่ยวทั่วหล้าหรือเจ้าคะ เช่นนั้นก็เตรียมแบบเรียบง่ายแล้วกันเจ้าค่ะ!”
นางตัดสินใจเองด้วยท่าทางดีใจอยู่ตรงนั้น โดยไม่สังเกตเห็นสายตาระคนขอโทษของ ท่านหญิงซูซูที่มองมาทางนางเลยสักนิดเดียว
ครู่หนึ่ง ห่อผ้าเล็กใหญ่หลายห่อของซูซูก็ถูกปี้เอ๋อร์จัดการจนเหลือเพียงแค่ห่อเดียว
เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ นางก็ลุกขึ้นยิ้มน้อยๆ
“ท่านหญิง บ่าวตรวจดูสัมภาระของท่านเรียบร้อยแล้ว! ท่านรอบ่าวสักครู่นะเจ้าคะ บ่าวไปเก็บของสักครู่แล้วจะรีบมาทันที…”
แต่ทว่าไม่รอให้นางเอ่ยจบ นางก็รู้สึกเจ็บที่ต้นคอ แล้วหมดสติไป ซูซูมองปี้เอ๋อร์ที่ถูกนางฟาดสลบไปอย่างขออภัยยิ่ง
“ปี้เอ๋อร์ ขอโทษนะ ข้าไม่อาจพาเจ้าไปด้วยกันได้! และยิ่งไม่อาจให้เจ้าไปแอบส่งข่าวให้เสด็จแม่กับพวกเสด็จพี่ได้”
นางลากร่างปี้เอ๋อร์ไปวางไว้บนเตียงของตนเอง ทำภาพลวงเหมือนว่าตนเองกำลังนอนหลับพักผ่อน จากนั้นก็หยิบห่อผ้าสัมภาระที่ถูกปี้เอ๋อร์จัดเตรียมเรียบร้อยแล้วเดินออกจากประตูไป!
ความจริงแล้วปี้เอ๋อร์ไม่ได้ถูกซูซูฟาดสลบในทันที แรกเริ่มยังมีสติอยู่บ้าง
ระหว่างสติเลือนราง นางหรี่ตาเล็กน้อย มองท่านหญิงของพวกนางเดินออกไปอย่างสง่างาม สุดท้ายก็เข้าสู่สภาพสลบไปด้วยสีหน้าเสียใจในการกระทำของตน
ท่านหญิง! ท่านหญิงกลับมา! ท่านไม่ได้พกเงินไปด้วย! ท่านไม่มีเงิน…
ความจริงแล้ว ปี้เอ๋อร์เพียงแค่คิดว่า ในเมื่อนางต้องออกไปข้างนอกกับท่านหญิง เช่นนั้นท่านหญิงก็ไม่จำเป็นต้องพกพาสิ่งของมากมาย เพียงแค่เสื้อผ้าไม่กี่ชุดก็พอแล้ว สิ่งอื่นๆ นางล้วนจัดเตรียมไปเอง!
และที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ นางต้องใช้โอกาสนี้ไปขอคำแนะนำจากพระชายาเอกกับซื่อจื่อ…
แต่นางกลับคิดไม่ถึงว่า สุดท้ายท่านหญิงของพวกนางจะเล่นงานนาง ให้นางไม่มีแม้กระทั่งวิธีที่จะอธิบายเรื่องที่บนตัวนางไม่มีเงินนี้สักคำเดียว!
เสียใจ! เสียใจจริงๆ!
มาเอ่ยถึงซูซู
นางหิ้วห่อผ้าสัมภาระเดินตรงออกจากเรือนของตนเอง องครักษ์เฝ้าจวนอ๋องที่นั่นอ่อนแอที่สุด นางรู้ดีอยู่แก่ใจ ดังนั้นจึงจูงม้าของตนเองมาเงียบๆ หลังจากหลอกให้คนเฝ้าประตูหลังไปที่อื่นแล้ว ก็หวดม้าหลบหนีไป
จิ่่งซื่อจื่อกับกูอี้เฉินทั้งสองคน ใครก็ล้วนคิดไม่ถึงว่า น้องเล็กของพวกเขาจะซ้อนแผนพวกเขา แกล้งทำเป็นเสียใจ รู้สึกแย่ เพื่อลดความระมัดระวังของพวกเขา แล้วจากไปทั้งอย่างนี้!
รอถึงตอนที่พวกเขารู้เรื่อง ก็เป็นช่วงที่จะต้องกินมื้อเย็นแล้ว!
พระชายาเอกจิ่งที่เป็นห่วงบุตรี กลัวว่านางจะคิดไม่ตกแล้วทำเรื่องอันใดออกมาเพราะเรื่องของซูชี จึงไปที่เรือนของท่านหญิงซูซู ถึงได้รู้ว่านางจากไปโดยไม่ร่ำลา!
สำหรับเรื่องนี้ จิ่่งซื่อจื่อกับกูอี้เฉิน ทั้งสองคนรู้สึกเสียใจในภายหลังยิ่ง!
“พวกเจ้า…พวกเจ้ามองดูน้องสาวของพวกเจ้าเสียใจเฉยๆ แบบนั้น โดยไม่ปลอบโยนได้อย่างไร หากพวกเจ้าไปปลอบนาง ก็ไม่ถึงขั้นต้องทำให้นางจากไปคนเดียวใช่หรือไม่!”
พระชายาเอกจิ่งทั้งโมโหสองพี่น้อง ทั้งเป็นห่วงบุตรี
แม้ว่าท่านหญิงซูซูผู้นี้จะซุกซนและเกเรตั้งแต่เล็กจนโต มีความกล้าหาญเสียจนไม่ว่าเรื่องอันใดก็กล้าทำ แต่ท้ายที่สุดแล้ว นางก็เป็นแค่สตรีนางหนึ่ง!
คราวที่แล้วไปอยู่ในค่ายทหาร ยังมีการดูแล คราวนี้นางออกไปตามหาบุรุษด้วยตัวคนเดียว ที่สำคัญก็คือ นางไม่รู้ทิศทางที่บุรุษผู้นั้นไปเลยสักนิด!
จะทำอย่างไรดี!
พระชายาเอกจิ่งยังไม่ฟื้นคืนสติขึ้นจากความโศกเศร้า ปี้เอ๋อร์ที่ถูกสมุนไพรรมจนได้สติก็บอกเรื่องไม่คาดฝันที่ทำให้ตกใจยิ่งกับนางอีกเรื่อง!
“พระชายาเอก ท่านหญิง…ท่านหญิงจากไปในครั้งนี้ ไม่ได้พกเงินติดตัวไปด้วยเจ้าค่ะ!”
พระชายาเอกจิ่งตะลึงทันที!
ไม่เพียงแต่พระชายาเอกจิ่งที่ตะลึง กระทั่งจิ่่งซื่อจื่อกับกูอี้เฉินก็ล้วนตะลึงเช่นกัน!
ไม่มีเงิน…นี่หมายความว่าอย่างไร
อย่างไรก็ไม่มีทางหมายความว่าน้องสาวของพวกเขาไม่มีเงินแล้วจะกลับมาอย่างว่าง่ายเด็ดขาด! นางเป็นคนที่มีนิสัยหัวแข็งดื้อดึง ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีเงินก็ไม่มีทางหันกลับมาแน่นอน!
ยากที่จะจินตนาการได้จริงๆ นี่ก็จะฉลองวันปีใหม่แล้ว เป็นช่วงเวลาที่อากาศหนาวเย็นที่สุดในรอบปี ข้างนอกหิมะกำลังตก ตัวนางก็ไม่มีเงิน ไม่รู้ว่าจะหาสถานที่หลบลมหนาวได้หรือไม่ ไม่รู้ว่าจะมีอาหารกินประทังความหิวหรือไม่ และยิ่งไม่รู้ว่าจะพบกับคนชั่วร้ายหรือไม่
เมื่อคิดถึงคนเลว ก็นึกถึงเหตุการณ์สตรีเจ้าชู้หลายใจอะไรนั่นในครั้งนั้น พระชายาก็รู้สึกไม่ดีทันที
“ซูซู…ซูซูของข้า…”
“เสด็จแม่!”
“เสด็จแม่!”
จิ่งอ๋องยังไม่กลับมา เพราะยุ่งวุ่นวายกับการจัดการราชกิจ เนื่องจากฝ่าบาทสุขภาพไม่ดี เมื่อพรชายาเอกจิ่งหมดสติไป ก็ทำให้ทั้งบนและล่างของจวนจิ่งชินอ๋องวิ่งพล่านวุ่นวายไม่หยุด!
สำหรับเรื่องนี้ซูซูไม่รู้เลยสักนิดเดียว!
ในตอนเที่ยง นางก็ขี่ม้าออกจากเมืองหลวงแล้ว! นางกลัวว่าจะถูกพี่ชายหลายคนนั้นตามกลับไป เมื่อเห็นทางหนีก็ห้อตะบึงไปชั่วขณะหนึ่ง
แต่หลังจากห้อตะบึงไปครู่หนึ่งแล้ว ซูซูก็มึนงง นางไม่รู้ว่าซูชีออกจากเมืองหลวงไปยังที่ใด
นางจูงม้า ยืนอยู่ที่ชานเมือง สถานที่รอบด้านตรงหน้าขาวโพลน
ฟ้าใกล้จะมืดแล้ว เทือกเขาขาวโพลนทอดตัวยาวเหยียด เส้นขอบฟ้าสะท้อนแสงสีเขียวแกมน้ำเงินในยามสนธยา ด้านขวาคือภูเขาสูงชัน ป่าไม้ซาน[1] ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว
ทุ่งกว้างในฤดูเหมันต์ท่ามกลางแนวเทือกเขาเงียบสงัด มีเพียงแค่หิมะเนียนนุ่มละเอียดที่ยังคงตกลงมาไม่หยุด
ยามลมหนาวพัดมา ที่หนาวนั้นไม่ใช่ร่างกาย แต่เป็นหัวใจ นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านหญิงซูซูทำอะไรไม่ถูก และรู้สึกกลัวอยู่บ้าง
ไม่ได้กลัวความตาย และยิ่งไม่กลัวความหนาวเย็น
แต่กลัวว่าจะหาซูชีไม่พบ…กลัวว่าจะไม่ได้พบดวงหน้าที่ชอบหัวเราะสนุกสนานมากที่สุด กลัวว่าจะไม่ได้ยินเสียงนั้นอีก
อยากได้ยินเสียงตะคอกด้วยความจนปัญญาของซูชีอีกครั้งจริงๆ…
[1] ไม้ซาน เป็นไม้ตระกูลสนหนามที่มีเนื้อเนียนนุ่ม ละเอียด และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ใช้เวลาเจริญเติบโต 300-400 ปี