เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค - ตอนที่ 646 ตอนพิเศษ มีความสุข คู่รักคู่แค้น (1)
“กล้าสังหารท่านหญิงของราชวงศ์ พวกเจ้ามีกี่ชีวิตมาชดใช้กัน ตอนนี้พวกเจ้ายังสามารถลอยนวล แต่รอคนจากราชสำนักมา ก็ถึงตอนที่พวกเจ้าต้องตายอย่างแท้จริง!”
หลังซูชีตวาดเสียงเย็น ก็ก้าวเข้าไปคว้าหมับเข้าที่ร่างเหมือนสุกรของซินซื่อชิว สกัดจุดเขา แล้วเมินเฉยต่อสายตาที่เหมือนจะกินคนของเขา ก่อนจะโยนคนออกไป!
จากนั้นก็หันไปกำชับจ้าวเฟยลู่ที่อยู่ข้างหลังตนเอง “เฝ้าพวกเขาให้ดี ข้าจะขึ้นไปดูก่อนว่าซูซูเป็นอย่างไรบ้าง!”
สำหรับเรื่องนี้เป็นภาระที่จ้าวเฟยลู่ปฏิเสธไม่ได้ กล่าวตามตรง อย่ามองว่าเขาท่องอยู่ในยุทธภพ แต่กลับดูแคลนคนต่ำช้ามากที่สุด
หากมีคนจ่ายเงินว่าจ้างเขาให้สังหารคน ตีเขาให้ตาย เขาก็ไม่มีทางทำ!
ดังนั้นถึงกลายเป็นฐานะผู้ติดตามของเขาในวันนี้!
“อืม ท่านขึ้นไปเถอะ”
แม้จะไม่รู้ว่าท่านหญิงซูซูเป็นอะไร แต่จากวาจาเมื่อครู่ของซูชี เขาก็รู้แล้วว่า ท่านหญิงซูซูต้องได้รับบาดเจ็บแน่นอน
แม้ว่าเขาจะได้รับการฝากฝังให้รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยทั้งหมดของท่านหญิงซูซูจากจิ่งซื่อจื่อ แต่จ้าวเฟยลู่ก็ไม่ใช่คนคร่ำครึขนาดนั้น รู้ว่าตอนนี้ สิ่งที่ท่านหญิงซูซูหวังมากที่สุด คือการที่ซูชีอยู่เป็นเพื่อนข้างกายนาง ส่วนสิ่งที่เขาต้องทำก็คือจัดการเรื่องที่ตรงนี้ให้เรียบร้อยก่อน
“ท่านจอมยุทธ์! ขอเพียงท่านปล่อยพวกข้า ช่วยพวกข้าสังหารซูชี! ข้าจะต้องมอบความร่ำรวยมั่งคั่งให้กับท่านเป็นรางวัลแน่นอน!”
“ใช่แล้วๆ! ขอแค่เจ้าสังหารไอ้เด็กหน้าเหม็นนั่นให้ตาย ข้าจะต้องมอบความร่ำรวยมั่งคั่งและสาวงามให้กับเจ้าแน่นอน!”
ซูชีขึ้นไปข้างบนแล้ว ส่วนตาเฒ่าสองคนที่ถูกซูชีจัดการข้างล่างนี้ถึงกับเสนอสิ่งดึงดูดใจหลอกล่อให้จ้าวเฟยลู่แปรพรรค!
จ้าวเฟยลู่พลันมีสีหน้าท่าทางละโมบ ทำให้พวกเขานึกว่าเรื่องนี้มีทางออกแล้ว! จึงยิ่งเอ่ยโน้มน้าวอย่างไม่กลัวว่าจะเปลืองน้ำลาย
จ้าวเฟยลู่มองพวกเขาเอ่ยราวกับแสดงการแสดงตลกยิ้มๆ อยู่ตรงนั้น โดยไม่ได้เอ่ยส่งเสียงแม้แต่ครึ่งคำ
ตอนแรกเริ่มซินซื่อชิวกับนายอำเภอเป็นเพราะคิดอย่างมีความหวัง จึงไม่ได้มองสีหน้าท่าทางของจ้าวเฟยลู่ แต่เมื่อเอ่ยวาจาไปมากขนาดนี้แล้ว เขายังคงไม่เอ่ยอะไร พวกเขาสองคนก็รู้ว่าถูกผู้อื่นหลอกเขาแล้ว!
“จอมยุทธ์ท่านนี้! ท่านจะอยู่ข้างกายพวกเขาเงียบๆ ไปตลอดชีวิตเช่นนั้นหรือ เพียงแค่ท่านฟังวาจาของข้า ข้ารับประกันว่าอนาคตท่านจะไร้เรื่องให้กังวล!” ซินซื่อชิวคุยโวโอ้อวดด้วยน้ำเสียงจองหอง
หลังจากได้ยินวาจาของเขา จ้าวเฟยลู่ที่ไร้อารมณ์มาตลอดก็หัวเราะ…
หัวเราะความโง่เง่าของคนผู้นี้
“หากว่าข้าต้องการอนาคตอันรุ่งเรืองสดใส เช่นนั้นคนหนึ่งเป็นถึงคุณชายตระกูลขุนนางเก่าแก่ คนหนึ่งเป็นท่านหญิงแคว้นเทียนฉี ใครให้ข้าไม่ได้บ้าง อาศัยพวกเจ้าน่ะหรือ พักเถอะ ตกลงไหม”
จ้าวเฟยลู่เอ่ยจบ ก็ไม่สนใจพวกเขาอีก เขาหาที่นั่งให้ตนเอง รินน้ำชาจอกหนึ่ง แล้วนั่งดื่มนิ่งๆ
ส่วนที่ชั้นบน ซูชียืนอยู่ที่หน้าประตูห้องท่านหมอหนุ่ม เขากำหมัดแน่น แต่กลับไม่กล้าเปิดประตูเข้าไป
ตอนนี้เขาไม่รู้สภาพการณ์ภายในห้องว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นจึงไม่กล้ารบกวนสักนิดเดียว!
แม้สมองจะปลอบตนเองรอบแล้วรอบเล่า บอกว่าซูซูไม่เป็นอะไร นางเป็นคนดีย่อมได้รับการคุ้มครองจากสวรรค์ จะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน แต่สุดท้ายกลับควบคุมความคิดฟุ้งซ่านในใจไม่ได้!
“อ๊า…”
ตอนที่เขาลังเลใจ ก็พลันได้ยินเสียงกรีดร้องของซูซูลอยมาจากในห้อง หัวใจซูชีกระตุก เสี้ยววินาทีนั้น จึงผลักประตูเปิดออก แล้ววิ่งเข้าไป โดยไม่คิดอะไรอีก!
“ซูซู!”
ตอนที่ซูชีวิ่งไปถึงเตียง ก็เห็นว่าท่านหมอกำลังง่วนอยู่กับการพันแผลที่แผ่นหลังให้กับซูซูอย่างเป็นระเบียบ เขาปรายตามองเล็กน้อย ก็เห็นกระบี่ที่ถูกโยนทิ้งไว้บนพื้น
เสียงกรีดร้องเมื่อครู่นี้ของซูซู เป็นเพราะดึงกระบี่ออก!
เลือด!
ล้วนเต็มไปด้วยเลือด
แผ่นหลังนวลเนียนของนางเต็มไปด้วยเลือด สีแดงสด แดงจนทำให้คนหายใจไม่ออก!
ซูชีไม่เคยรู้เลยว่า ที่แท้เลือดก็ทำให้คนรู้สึกเช่นนี้! ให้ความรู้สึกว่าหัวใจคล้ายกับถูกคนบีบเอาไว้แน่น!
“นางเป็นอย่างไรบ้าง”
ตั้งแต่ต้นจนจบซูชีไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าสักก้าว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาขี้ขลาดหรืออะไร แต่เป็นเพราะว่า เขาช่วยรักษาบาดแผลที่หลังของซูซูไม่ได้เลยแม้แต่น้อย!
ส่วนซูซูก็สลบไปหลังจากเสียงกรีดร้องดังขึ้น
รอจนหมอหนุ่มจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซูชีถึงได้เอ่ยปาก แต่คิดไม่ถึงว่าเสียงเขาจะแหบพร่าไม่น่าฟังเช่นนี้
ท่านหมอเหลือบมองซูชีแวบหนึ่ง เอ่ยปลอบใจเขาว่า “ไม่เป็นอะไรแล้ว แผลบริเวณหลังไม่ได้หนักมาก ไม่ได้บาดเจ็บสาหัส เพียงแค่ต้องบำรุงสักหน่อย ช่วงปีใหม่ก็หายแล้ว ท่านวางใจได้”
ซูชีพยักหน้า สายตามองไปยังเงาร่างที่นอนคว่ำบนเตียงอย่างควบคุมตนเองไม่อยู่
เขาไม่เคยรู้เลยว่า นางจะมีความกล้ามากขนาดที่รับกระบี่แทนตนเอง! สิ่งใดที่มอบความกล้ามากมายขนาดนั้นให้กับนางกันแน่? กระทั่งชีวิตก็ไม่สนใจแล้ว?
ท่านหมอผู้นั้นถือพู่กันเขียนใบสั่งยา จากนั้นก็กำชับว่าจะดูแลซูซูอย่างไรในภายหลัง แล้วเก็บข้าวของเล็กน้อย ก่อนจะถอยออกจากห้องไป
แม้จะบอกว่าห้องพักห้องนั้นเป็นของเขา แต่สตรีบนเตียง เดิมก็ไม่สะดวกจะเคลื่อนไหว เขาไม่อาจสูญเสียมารยาทความเป็นบุรุษ แล้วให้ผู้อื่นอุ้มคนจากไปใช่ไหม?
อีกอย่าง จะกล่าวอย่างไร สตรีผู้นั้นก็ช่วยชีวิตตนเองเอาไว้ เขาก็ถือได้ว่าตอบแทนคุณแล้ว
รอซูชีเก็บกวาดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ลงไปข้างล่าง
ครั้งนี้พวกซินซื่อชิว ก็รู้สึกหวาดกลัวแล้ว! เสี้ยวพริบตาที่เห็นซูชีลงมา ก็รีบร้องขอความเมตตา จนเกือบจะนับซูชีเป็นบิดากับบรรพบุรุษของตนเองแล้ว!
แต่ทั้งหมดนี้กลับไม่อาจทำให้ไฟโทสะในใจซูชีสงบลงได้เลยสักนิด!
เพียงแค่คิดถึงซูซูที่ไม่ว่าเมื่อไร ที่ใดก็ล้วนเริงร่า แต่ตอนนี้กลับนอนสงบเงียบอยู่บนเตียง โทสะในใจเขาก็ทะลักออกมาราวกับอุทกภัยไหลหลาก!
“จับคนไปขังไว้ในคุกที่ว่าการอำเภอ รออาจ้าวกลับมาค่อยว่ากัน!”
ซูชีมองเหล่าองครักษ์ที่คุกเข่าอยู่ด้านหลังซินซื่อชิวกับนายอำเภออย่างเย็นชา นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาให้กับพวกเขา!
หากว่าพวกเขาไม่รู้จักทะนุถนอมมัน เช่นนั้นก็อย่าโทษว่าเขาไม่ยั้งมือ โหดเหี้ยมอำมหิตแล้วกัน!
เหล่าองครักษ์พวกนั้น เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า สุดท้ายก็ชั่งน้ำหนักผลดีเสีย แล้วลุกขึ้นจังกุมตัวซินซื่อชิวกับเจ้านายของพวกเขาทั้งหมด จากนั้นก็พาตัวไปยังคุกที่ว่าการอำเภอ!
“ท่านไม่กลัวว่าคนพวกนี้จะแอบปล่อยพวกเขาไปหรือ”
จ้าวเฟยลู่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีการจัดการของซูชี แต่สุดท้ายก็ไม่มีจุดยืนที่จะเอ่ย จึงทำได้แค่เตือนเล็กน้อย
ซูชีไม่สนใจแม้แต่น้อย หลังเห็นองครักษ์นำตัวพวกเขาลงไปแล้ว ถึงได้หันไปเอ่ยกับจ้าวเฟยลู่ “หากพวกเขายังอยากมีชีวิต จะต้องเฝ้าพวกเขาเป็นอย่างดี อย่างไรเสียคนที่แทงท่านหญิงก็ไม่ใช่พวกเขาที่เป็นองครักษ์ แต่เป็นตัวการวางแผนร้ายสองคนนั้น!”
หลังจากจ้าวเฟยลู่ไตร่ตรองอย่างละเอียดแล้ว ก็รู้สึกเหมือนว่าเป็นดั่งเช่นที่ซูชีเอ่ย จึงพยักหน้า แล้วไม่เอ่ยอันใดอีก