เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค - ตอนที่ 649 ตอนพิเศษ หมู่บ้านหวังจยา (1)
เมื่อเห็นสภาพการณ์ในตอนนี้ ซูซูก็ยิ่งโมโห!
นี่ทำเหมือนนางไม่มีตัวตนใช่หรือไม่
“ซูชี!”
ซูซูเดือดดาล ตะโกนเสียงดังใส่ซูชี!
“ตอนนี้ลูกค้าเยอะมาก หากเจ้าอยากขายหน้าล่ะก็ แหกปากเสียงดังได้ตามใจชอบเลย! ให้ทุกคนได้รู้ถึงความน่าเกรงขามของเจ้าผู้เป็นท่านหญิงของแคว้น”
เขาเอ่ยจบ ก็ชี้ไปยังกลุ่มคนที่ถูกเสียงตะคอกของซูซูเมื่อครู่ดึงดูดให้หันมามอง
ซูซูถูกทำให้โมโหจนแทบจะช้ำใน!
นางอยากจะก้าวเข้าไปตบเขาสักหลายครั้งแรงๆ จริงๆ!
ปึก!
ซูซูกระแทกตะเกียบในมือ นัยน์ตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ขณะมองซูชีด้วยสายตาคมปลาบยิ่ง
“ซูชี ถือว่าเจ้าแน่มาก!” นางเอ่ยจบก็ลุกขึ้นเดินตรงขึ้นไปข้างบนทันที
นางถูกซูชีทำให้โมโหแล้วจริงๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีท่าทางเช่นนี้
ซูชีอารมณ์สงบนิ่งมากอย่างเห็นได้ชัดสำหรับการที่ท่านหญิงซูซูถูกทำให้โมโหจนจากไป
หลังจากซูชีกินซาลาเปาในมืออย่างเอื่อยเฉื่อยจนหมด ก็เช็ดมือ แล้วลุกขึ้นจากไป
เขาออกจากโรงเตี๊ยม ก็หาถนนที่ค่อนข้างคึกคัก แล้วยืนอยู่ตรงนั้น
คล้ายกับมองดูกลุ่มคนที่ยุ่งวุ่นวายพวกนั้น แต่แววตากลับเลื่อนลอย ทำให้คนมองไม่เห็นจุดศูนย์รวมสายตาใดๆ
ความจริงแล้ว ในใจเขารู้ดีว่า ตอนที่ซูซูเอ่ยวาจานั้นออกมา ไม่ได้เป็นอารมณ์ชั่ววูบ และเขาก็รู้เช่นกันว่า นางคิดถึงบ้านแล้ว
แต่เขาจะทำอย่างไรได้
ให้นางกลับไปฉลองปีใหม่กับคนในครอบครัว ซูซูก็ไม่มีทางเห็นด้วยเด็ดขาด นอกจากตนเองจะกลับเมืองหลวงด้วย
แต่การกลับเมืองหลวง…ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องคิดใคร่ครวญในตอนนี้
อีกอย่างก็คือ ความรู้สึกที่ซูซูมีต่อเขา
อาจจะเพราะเป็นก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้วางตำแหน่งทั้งสองคนให้ชัดเจน ดังนั้นถึงทำให้ซูซูเข้าใจผิดคิดไปเอง
ทำให้นางมีความคิดอย่างหนึ่ง หรือตนเองเข้าใจผิดคิดไปเองว่ามีความรู้สึกต่อนาง
แต่เมื่อถามใจตนเองดูว่า เขามีความรู้สึกนั้นหรือ
ไม่ เขาไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น
ซูซูเป็นสตรีที่ดีนางหนึ่ง เขาไม่อยากหน่วงเหนี่ยวอนาคตของนางเพราะเหตุนี้ ดังนั้น เขาจึงทำได้แค่ใช้หน้ากากเย็นชาของตนเองมาทำให้ซูซูถอยออกห่างเมื่อเห็นความยากลำบากของสถานการณ์นี้
ประมาณดูแล้วว่า สัญญาหนึ่งเดือนระหว่างพวกเขาผ่านไปครึ่งหนึ่งแล้ว อีกสิบกว่าวัน ก็จะถึงระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้
ตอนนั้น เขาก็สามารถหลุดพ้นจากซูซูได้แล้ว
แต่เมื่อคิดถึงเวลานั้น เขาก็ไม่ได้รู้สึกยินดีมากมาย ความรู้สึกเดียวที่มีก็คือ ความไม่คุ้นเคยเล็กน้อย หากตั้งแต่นั้นสตรีที่ร่าเริงผู้นั้นจะไม่ปรากฏตัวขึ้นในโลกของเขาอีก เขาคิดว่า เขาคงจะอ้างว้างมากเช่นกัน
ซูซูกลับห้องพัก นางโมโหซูชีที่ทำหน้าตาเฉยเมยในหลายวันมานี้จนต้องขยี้เท้า!
นางไม่อาจยอมให้ซูชีรังแกนางแบบนี้!
นางจะต้องจัดการบุรุษน่าตาย เย่อหยิ่งจองหองผู้นี้สักรอบ!
นางชอบเขาแล้วอย่างไร ชั่วชีวิตนี้นางปักใจรักซูชีคนเดียวแล้วอย่างไร?
แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น นางก็ไม่อาจปล่อยให้ซูชีรังแก และเหยียบย่ำความรู้สึกนางแบบนี้ได้เช่นกัน!
“จ้าวเฟยลู่!” ซูซูเปิดหน้าต่าง ตะโกนเสียงดังออกไปข้างนอก!
หลายวันมานี้ ซูซูชอบสิ่งที่เรียกว่าความลึกลับซับซ้อนของยอดฝีมือในยุทธภพเข้าแล้ว
ก็เหมือนกับอาจ้าว เห็นอยู่ชัดๆ ว่าไม่ได้อยู่ข้างกายซูชี แต่ขอแค่ซูชีตะโกนเรียกชื่อเขา อาจ้าวก็คล้ายจะกลายเป็นนักแสดงมายากล แล้วปรากฏตัวขึ้นข้างกายซูชีทันที
เป็นดั่งที่คาดเอาไว้เลย ในตอนที่ซูซูปิดหน้าต่าง นั่งลงบนม้านั่งในห้อง ประตูห้องก็ถูกเคาะแล้ว
“เข้ามา!”
คนที่เข้าประตูมาเป็นจ้าวเฟยลู่จริงๆ
“ท่านหญิง เรียกหาข้าน้อยมีเรื่องอันใดหรือขอรับ” จ้าวเฟยลู่ยืนอยู่ไม่ไกลจากประตู รักษาระยะห่างจากซูซูตลอด
ซูซูจ้องมองถ้วยชาบนโตอย่างเหม่อลอย ครู่ใหญ่ถึงได้เอ่ยเนิบๆ ว่า “หาของให้ข้าสองอย่าง ข้าจำเป็นต้องใช้!”
ซูซูสาบานว่าจะต้องให้ซูชีได้รู้ว่า อันใดที่เรียกว่าซูซูเก่งกาจ!
แต่รอจนซูซูเอ่ยของที่นางต้องการเรียบร้อย จ้าวเฟยลู่ก็รู้สึกไม่สบายไปทั่วทั้งร่าง…
ท่านหญิงซูซู ท่านแน่ใจนะว่าครั้งนี้ไม่ได้เล่นงานข้าน้อย?
“ทำไมหรือ เจ้าของสิ่งนี้หาได้ยากมากเลยหรือ” เมื่อเห็นสีหน้าสับสนของจ้าวเฟยลู่ ซูซูก็ถามขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น
เหมือนนางจะจำได้อย่างรางๆ ว่า แต่ก่อนเจ้าของสิ่งนี้มีขายใน…สถานที่ประเภทนั้นไปใช่หรือ หรือว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีแล้ว?
จ้าวเฟยลู่เหงื่อตก
ท่านหญิงซูซู ท่านอย่าเอ่ยเรื่องพวกนี้ด้วยท่าทางจริงจังแบบนี้จะได้ไหม
แต่เมื่อจ้าวเฟยลู่คิดดูอีกที นี่จะไม่ใช่โอกาสในการพลิกสถานการณ์อย่างหนึ่งได้เช่นไร หากว่าเกิดเรื่องน่ายินดีเพราะเหตุนี้ เช่นนั้นก็เป็นการทำบุญกุศลเรื่องหนึ่งเช่นกัน!
“ข้าจะรีบไปหามาให้ท่านหญิง ท่านโปรดรอสักครู่!”
จ้าวเฟยลู่เอ่ยจบ ก็เปิดประตูจากไป
ทิ้งซูซูนั่งอยู่ในห้องคนเดียว เมื่อลองครุ่นคิดดูแล้ว ก็หน้าแดงก่ำด้วยความเขินอายทันที!
นางก็แค่อยากจะสั่งสอนซูชีสักหน่อย แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่จ้าวเฟยลู่คิด…
เดิมซูซูคิดว่าจะต้องสร้างความลำบากให้กับซูชีสักหน่อย! ใครใช้ให้เขาชอบรังแกตนเองกัน!
แต่นางลูบยาในมือไปมาหลายครั้ง สุดท้ายก็ไม่ได้นำออกมาใช้
อย่างไรเสีย การที่สตรีมอบยาประเภทนี้ให้กับบุรุษผู้นั้น มากน้อยอย่างไรก็ดูโรคจิตอยู่บ้าง!
ใช่แล้ว โรคจิต
นับตั้งแต่วันนั้นที่จ้าวเฟยลู่มอบของให้ซูซู นางก็เห็นความนัยในสายตาจ้าวเฟยลู่
ใครก็ล้วนไม่รู้ว่า ตอนนั้นซูซูเกิดความรู้สึกบุ่มบ่ามอยากเอาศีรษะโหม่งกำแพงตายจริงๆ!
“เก็บของสักหน่อย อีกครู่พวกเราจะไปสถานที่อื่นกัน!” ตอนที่กินอาหารเช้าเสร็จ ขณะที่ซูชีวางชามและตะเกียบในมือ ก็กำชับทั้งสามคนที่นั่งอยู่ด้วย แล้วลุกขึ้นจากไปก่อน
ซูซูมองเงาร่างซูชีที่จากไปอย่างประหลาดใจ
สองวันก่อนนางยังบอกว่าตนเองจะลงมือในตอนวันปีใหม่ แต่กลับถูกซูชีกล่าววาจาปฏิเสธแทงใจ และคิดไม่ถึงว่า วันนี้เขาถึงกับเตรียมตัวจะจากไป!
เชอะ! ปล่อยให้ขุนนางวางเพลิง แต่ไม่ยอมให้ชาวบ้านจุดตะเกียง ใช้อภิสิทธิ์อำนาจในทางที่มิชอบชัดๆ!
ซูชี เจ้าไม่ได้เป็นขุนนาง มิเช่นนั้นจะต้องเป็นขุนนางทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวงคนหนึ่งแน่นอน!
ซูซูอดไม่ได้ที่จะตำหนิในใจ
แต่กล่าวตามตรง นางก็อยากรู้มากว่า การจากไปในครั้งนี้ของซูชี จะพาพวกเขาไปที่ไหน
รอพวกซูซูเก็บของของตนเองเรียบร้อยแล้ว อาจ้าวก็ไปหารถม้ามาจากไหนไม่รู้หนึ่งคัน ยังคงเป็นซูซูกับซูชีสองคนที่นั่งในห้องโดยสาร จ้าวเฟยลู่กับอาจ้าวสองคนเป็นคนขับ
ภายในห้องโดยสาร ตั้งแต่ที่ซูชีเข้ามา ก็หลับตางีบทันที มีหลายครั้งที่ซูซูทนความอยากรู้ไม่ไหว คิดจะถามซูซูว่าจะไปที่ได้กันแน่