เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค - ตอนที่ 656 ตอนพิเศษ กินยาอะไรไป (2)
นางหลับตาลงช้าๆ เชิดคางขึ้นอย่างควบคุมตนเองไม่อยู่
พยายามเขยิบร่างกายเข้าไปใกล้ คล้ายกับว่ามีเพียงวิธีนี้ ถึงจะทำให้ร่างกายที่ไม่สบายตัวของนางสบายมากขึ้น
ในที่สุด
ก็ได้เติมเต็มความปรารถนาที่ตนเองติดพันมาเนิ่นนาน!
ส่วนลึกในห้วงความคิดนั้นนึกถึงแต่มั่วเชียนเสวี่ย…มั่วเชียนเสวี่ย…
มั่วเชียนเสวี่ยหรือ
ตอนที่ชื่อนี้ถูกสลักลงในสมองอีกครั้ง ซูชีก็รีบลืมตาตนเองทันที
เขากำลังทำอะไรอยู่?
“ทำไม…ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้?” เสียงของเขามีแววสั่นเทาจากการผ่านความรู้สึกหวาดกลัว!
“ซูชี…ซูชี…”
เสียงเรียกซูชีแต่ละครั้งเหมือนกับทุบลงบนหัวใจของซูชี ทำให้หัวใจของเขาเหน็บหนาว!
เพียะ!
ซูชีตบตนเองอย่างแรงครั้งหนึ่ง!
เขาเป็นอันใดไป? เหตุใดจึงเลวทรามขนาดนี้?
เขารีบกระชับเสื้อผ้ากูเสี่ยวซูเข้าหากัน แล้วห่มผ้านวมให้นาง เมื่อจัดการทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาก็โล่งใจมาก
เมื่อครู่เขาถึงกับ…เห็นกูเสี่ยวซูเป็นมั่วเชียนเสวี่ย ถึงขั้นที่ทำเรื่องต่ำช้ากับนางเช่นนี้ออกมา!
เขาจะไม่ละอายใจต่อมั่วเชียนเสวี่ยได้อย่างไร!
เขาจะไม่ละอายใจต่อกูเสี่ยวซูได้เช่นไร?
ซูชีลุกขึ้น และต้องการจะจากไป แต่แขนเสื้อกลับถูกคนจับเอาไว้แน่น!
ซูชีหันหน้าไปมองกูเสี่ยวซู ดวงตาพร่าเลือนคู่นั้นของนางมองมาทางเขาอย่างน้อยใจ
“ซูชี…ทรมานมาก...ทรมานยิ่งนัก…”
ทรมาน?
ความรู้สึกประเภทนี้ เขาจะไม่รู้ว่าเป็นเช่นไรได้อย่างไร เขาเข้าใจได้ว่า นางจะต้องรู้สึกร่างกายไม่สบายแน่นอน! แต่ เขาสบายอย่างนั้นหรือ?
วิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุดก็คือร่วมสัมพันธ์กับนาง
แต่จะเป็นไปได้หรือ
เขาไม่สามารถทำให้กูเสี่ยวซูผิดหวังได้ เพราะหัวใจเขาไม่ได้อยู่ที่ตัวนางด้วยซ้ำ!
เขาจับมือกูเสี่ยวซูที่กำแขนเสื้อเขาข้างนั้นเอาไว้
ซูชีมองนัยน์ตาน่าสงสารของกูเสี่ยวซู ก็ทำใจร้ายไม่ลงอยู่บ้าง แต่กลับไม่กล้ามีความรู้สึกสงสารอันใดอีก
ซูชีออกแรงดึงมือกูเสี่ยวซูออก แม้จะรู้ว่าตอนนี้สตินางเลือนราง แต่กลับยังคงเอ่ยเสียงแข็งว่า “กูเสี่ยวซู ซูชีไม่คู่ควร! และก็ไม่สามารถกระทำเช่นนั้นกับเจ้าได้! เจ้าเข้าใจไหม”
เขาเอ่ยจบ ก็ปล่อยมือนางที่คิดจะจับชายแขนเสื้อเขาอีก แล้วหมุนตัวจากไป
เขากลับมองไม่เห็นว่า วินาทีที่เขาหันหลังไป น้ำตาที่เอ่อคลอหน่วยตาของกูเสี่ยวซูพลันรินไหลลงมา ผ่านหางตา ซึมเข้าไปในเรือนผม แล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย
มือที่ถูกปล่อยออกก็ทุบข้างเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง
ซูซูที่สติสัมปชัญญะฟื้นคืนมาเล็กน้อยออกแรงจิกตนเอง
ต้นขา แขน...
ซูชียืนอยู่ข้างนอกประตู พยายามทำให้ตนเองสงบเยือกเย็น
ภายในห้อง มีเสียงอดกลั้นครวญครางดังลอยมาในบางครั้ง แม้ว่าจะแข็งใจไม่ลงอยู่บ้าง แต่เขากลับยังคงยืนนิ่งอยู่หน้าประตู โดยไม่ขยับเลยแม้แต่ครึ่งก้าว!
ยาตัวนี้ ไม่ถึงแก่ชีวิต เพียงแค่ต้องทนทรมานเล็กน้อยเท่านั้นเอง
อากาศหนาวเย็นจึงไม่สามารถโยนลงน้ำเพื่อบรรเทาอาการได้ ทำได้เพียงแค่ฝืนทนต่อไปเท่านั้น
โชคดีที่ยานั่นไม่ใช่ยาที่มีฤทธิ์รุนแรงมาก ซูซูเพียงแค่บังเอิญกินเข้าไปเล็กน้อย ขอแค่ทนผ่านวันนี้ไป ฤทธิ์ยาผ่านไป ก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ยานี้ไม่ใช่ยาที่ต้องกระทำเรื่องพวกนั้นถึงจะแก้ได้เท่านั้น
ซูชีบอกตนเองไม่หยุดว่า อย่าเข้าไปใกล้และอย่าใจอ่อนเด็ดขาด นางอดทนสักหน่อยก็ผ่านไปได้แล้ว!
ตอนนี้อาจ้าวกับจ้าวเฟยลู่เพิ่งกลับมาจากในเมือง เมื่อเขามาในบ้านก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศกดดัน ทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง จึงรีบเข้าไปด้านในทันที
แม้จะรู้ว่าด้วยวรยุทธ์ของซูชี คนธรรมดาล้วนสู้เขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นห่วงอยู่ดี
แต่เพิ่งจะเดินเข้าประตูไป กลับเห็นซูชียืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องท่านหญิงซูซู
ท่าทีชัดเจนมากว่า พวกเขาล้วนเข้าไปไม่ได้!
จ้าวเฟยลู่ขมวดคิ้ว เขาได้รับการฝากฝังจากจิ่งซื่อจื่อแห่งจวนจิ่งอ๋องให้มาคุ้มครองความปลอดภัยของท่านหญิงซูซู ตอนนี้ภายในบ้านกลับมีแค่ซูชีที่ปรากฏตัวขึ้น แต่กลับไร้เงาของท่านหญิงซูซู จึงรู้สึกร้อนใจ สายตาที่มองไปทางซูชีก็ยิ่งคมปลาบขึ้น!
“คุณชายซูชี ไม่ทราบว่าท่านหญิงซูซูอยู่ที่ได้หรือ” เขามองซูชีด้วยนัยน์ตาคมกริบ หวังว่าจะได้ยินคำอธิบายจากซูชี
แต่ว่าซูชีในตอนนี้จะยังมีอารมณ์ไปอธิบายเรื่องพวกนี้กับคนอื่นได้อย่างไร
“ไสหัวไป!”
เสียงอึดอัดและอดกลั้นที่เจือไปด้วยกลิ่นอายสังหารดังขึ้น ซูชีออกคำสั่งในทันที เขาไม่แม้แต่จะปรายตามองพวกเขาสักแวบเดียว!
แม้ว่าจ้าวเฟยลู่จะหวาดผวาต่อซูชีที่เป็นเช่นนี้ แต่กลับยังคงยึดมั่นในจรรยาบรรณอาชีพของตนเอง เขาถามอีกครั้งว่า “คุณชายเจ็ดโปรดแจ้งด้วยว่า ตอนนี้ท่านหญิงซูซูอยู่ที่ใด ข้าได้รับคำสั่งให้ปกป้องท่านหญิงซูซู จำเป็นต้องคุ้มครองความปลอดภัยของนาง!
ซูชีถึงได้เหลือบตาขึ้นมองจ้าวเฟยลู่
บางทีอาจเป็นเพราะเห็นแก่ที่ในใจเขาเป็นห่วงซูซู หรืออาจไม่อยากให้เขาจัดการได้ยากเกินไป ซูชีจึงเก็บงำรังสีสังหารในแววตา แต่น้ำเสียงยังคงเย็นเยียบ “ตอนนี้นางสบายดีมาก เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง”
นี่ถือว่าเป็นการอธิบายแล้ว
จ้าวเฟยลู่ได้ยินวาจานี้แล้ว ก็โล่งใจ
ด้วยนิสัยของคุณชายซูชี เขาสามารถรับประกันได้!
ดูท่าคงเกิดเรื่องไม่สบอารมณ์อะไรในตอนที่พวกเขาจากไปเมื่อครู่แน่นอน คุณชายซูชีคงไม่อยากให้พวกเขารู้สินะ
“อืม! มีประโยคนี้ของคุณชายซูชี ข้าน้อยก็วางใจแล้ว!” จ้าวเฟยลู่ประสานมือเคารพซูชี วางกล่องอาหารในมือลงบนพื้น แล้วหันไปมองอาจ้าว ทั้งสองคนแลกเปลี่ยนสายตากันครู่หนึ่ง ก่อนจะหมุนตัวจากไปอย่างไม่ลังเล
มีคุณชายซูชีอยู่จะต้องคุ้มครองความปลอดภัยของท่านหญิงซูซูได้แน่นอน
เห็นเงาร่างของพวกเขาหายลับไป ซูชีก็ยกมือขึ้นเล็กน้อย ใช้กำลังภายในดึงกล่องอาหารสองกล่องที่อยู่บนพื้นเข้ามา แล้วตรงกลับไปห้องข้างๆ ตนเอง พร้อมกับปิดประตูลงอย่างไม่รีรอ
ประตูบานนี้ปิดเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน!
และในหนึ่งวันหนึ่งคืนนี้ จ้าวเฟยลู่กับอาจ้าวก็ไม่ได้กลับมา ซูชีนั่งอยู่กลางห้องโดยไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย จนกระทั่งไม่ได้ยินเสียงครวญครางของซูซูดังลอยออกมาจากในห้องอีกแล้ว เขาถึงได้โล่งใจ
และในตอนนั้นก็เป็นเวลาดึกดื่นค่อนคืนแล้ว
ซูชีไม่มีความง่วงงุนเลยสักนิดเดียว เขาจุดไฟต้มน้ำทำให้ห้องที่หนาวเย็นในคืนเดือนสิบสองอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย
เช้าวันรุ่งขึ้น ซูชีก็นำอาหารที่พวกจ้าวเฟยลู่เอากลับมาจากในเมืองลงไปอุ่นร้อนในหม้อ จากนั้นก็มองไปทางประตูห้องกูเสี่ยวซูบ่อยๆ
ไม่รู้ว่าตอนนี้นางจะเป็นอย่างไรบ้าง ไม่รู้ว่าจะดีขึ้นบ้างหรือไม่
ความรู้สึกวิตกกังวลนี้คล้ายกับต้องการจะทรมานให้เขาเกือบเป็นบ้า ลมพัดใบหญ้าไหว เพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้เขารู้สึกถึงความผิดปกติได้ นึกว่ากูเสี่ยวซูจะลุกขึ้น ออกมาแล้ว
แต่รอจนตอนที่เขาเบนสายตาไปทางประตูห้องของนาง กลับไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เลยแม้แต่น้อย
ซูชีรู้สึกว่าตนเองมีอาการประสาทเล็กน้อยแล้ว
ในที่สุด เมื่อฟ้าสว่าง ประตูที่ปิดสนิทก็ถูกเปิดออก!