เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค - ตอนที่ 658 ตอนพิเศษ เหนื่อยที่จะรัก (2)
ความจริงแล้วสิ่งที่นางกลัวที่สุดก็คือ หลังจากที่ซูชีรู้เรื่องที่ผ่านมาแล้ว พวกเขาจะไม่ได้เป็นแม้กระทั่งสหาย
“ถูกต้อง!” จ้าวเฟยลู่เห็นความลังเลกับความปรารถนาในสายตาของท่านหญิงซูซู จึงพยักหน้ายืนยัน
“ในเมื่อท่านหญิงซูซูมีความรู้สึกชอบพอต่อคุณชายซูชี และในสายตาของข้าน้อย คุณชายเจ็ดก็คล้ายจะไม่ใช่ว่าไม่มีความรู้สึกใดๆ กับท่านหญิงซูซูเลยสักนิด ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เหตุใดท่านหญิงจึงไม่พยายามดูสักครั้ง กล่าวโดยสรุปก็คือ ท่านไม่ได้มีอะไรเสียหายเช่นกัน”
ไม่มีอะไรเสียหายจริงๆ นอกจากว่า หลังจากเรื่องนี้ถูกทำให้ล้มเหลวจริงๆ ระหว่างซูชีกับกูเสี่ยวซู ก็กลายเป็นแค่คนแปลกหน้าระหว่างกันเท่านั้น
หากเขาไม่อาจตอบรับนางได้จริงๆ เป็นคนแปลกหน้า…แล้วอย่างไร
นางคงไม่สามารถสร้างอารามแม่ชีให้ตนเองแห่งหนึ่ง แล้วฝังตนเองอยู่ในนั้น โดยไม่พบกันไปชั่วชีวิตได้หรอก
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ในใจท่านหญิงซูซูก็เกิดความกล้าขึ้นเล็กน้อย
ความจริงแล้ว การที่จ้าวเฟยลู่ทำเช่นนี้ ไม่ได้อยากทำลายความคิดที่จะไล่ตามคนที่ตนเองรักของท่านหญิงซูซู
เพียงแต่ทุกครั้งที่เขาเห็นท่านหญิงซูซูเป็นเช่นนี้ ก็รู้สึกแย่มาก!
ในเมื่อรู้สึกชอบ และกล้าที่จะพูดมันออกมา ทั้งยังทำจนถึงขั้นนี้แล้ว เช่นนั้นก็นำความกล้าที่จะสามารถจัดการฝ่ายตรงข้ามได้ในหมัดเดียวออกมาเสีย!
เขาจะตอบรับหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องของเขา ส่วนเจ้าจะพยายามหรือไม่นั้น กลับเป็นเรื่องของเจ้า
ในเรื่องของความรัก ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าต่ำช้าหรือไม่ต่ำช้า
มันง่ายมาก!
และตรงไปตรงมายิ่ง
ในโลกของเขา ทั้งหมดล้วนง่ายดายเช่นนี้ หากต้องการ และชื่นชอบ ก็ต้องใช้ทุกวิถีทาง เขาไม่เข้าใจว่า ทำไมท่านหญิงซูซูถึงได้ทำเรื่องราวที่ง่ายดายขนาดนี้เรื่องหนึ่งให้กลายเป็นเรื่องราวซับซ้อนถึงเพียงนั้น?
เชื่อเลยจริงๆ …
ท่านหญิงซูซูลุกขึ้นยืน คล้ายกับตัดสินใจแล้ว
แต่ตอนที่หันหน้าเดินกลับไปอย่างแท้จริง นางกลับลังเลเสียแล้ว
ในเรื่องของความรัก คนที่จริงจังก่อนจะเป็นคนที่เศร้าเสียใจและถูกกระทำมากที่สุด
กูเสี่ยวซูยอมรับว่านางอ่อนแอยิ่งนัก ไม่ได้มีท่าทางทะนงตนของท่านหญิงซูซูที่เมื่อคนทำให้ไม่พอใจก็ชักสีหน้าคนนั้นอีกแล้ว
แต่ก่อนนิสัยลังเลไม่เด็ดขาดเช่นนี้เป็นนิสัยที่นางไม่ชอบและดูแคลนมากที่สุด
ตอนนี้…สิ่งที่ทำให้ตนเองดูแคลนมากที่สุดค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนตัวนางทีละเล็กทีละน้อย
แต่นางจะยังมีหนทางใดอีก?
ก็เพราะไม่กล้า ไม่กล้าที่จะพนันทุกอย่างไว้กับเรื่องนี้!
กล่าวตามตรง ความจริงแล้วยังคงมีความคิดเพ้อฝันอยู่เล็กน้อยเท่านั้นเอง
กล่าวตามตรง มักจะเหลือเส้นบางๆ เส้นหนึ่งให้ตนเองได้มีความหวัง
“หรือว่านอกจากวิธีนี้ ก็ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว?”
วาจานี้ไม่ได้ถามจ้าวเฟยลู่ แต่เหมือนกำลังถามตนเอง และคล้ายกับถามเง็กเซียนฮ่องเต้
หรือว่านอกจากวิธีรุนแรงเกินกว่าเหตุประเภทนี้ จะไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วหรือ
“ท่านหญิง! ล่วงเกินท่านแล้ว!” จ้าวเฟยลู่ทนมองท่าทางหงอยเหงาเศร้าซึมของท่านหญิงซูซูต่อไปไม่ไหว จึงก้าวเข้าไปคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของท่านหญิงซูซู แล้วใช้กำลังภายในพานางจากไปทันที
และในตอนนี้ซูซูมีความรู้สึกเช่นไร?
สงบ!
สงบมาก
นางไม่แม้แต่จะดิ้นรนเลยสักนิด
เพราะในใจนางรู้มาตลอดว่า จ้าวเฟยลู่ไม่มีทางทำร้ายนาง ซูซูหลับตาลงแล้วตามจ้าวเฟยลู่จากไป
ให้เขาเป็นคนตัดสินใจให้ตนเองแล้วกัน
ตลอดวันมานี้ซูชีรู้สึกหัวใจกระตุกแปลกๆ อย่างไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด
อาจ้าวกลับมาในตอนบ่าย
เมื่อวานเขาถูกนายท่านไล่ออกไป เขากับจ้าวเฟยลู่ก็ไม่กล้าจากไปไกล จึงไปพักแรมที่บ้านของคนอื่นในหมู่บ้าน จนกระทั่งตอนนี้ถึงได้กลับมา
แม้ว่าเขาจะภักดีและเป็นองครักษ์ลับของซูชี แต่ก็เป็นคนฉลาดคนหนึ่ง รู้ว่าการที่คุณชายซูชีไล่พวกเขาไปนั้น จะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่นอน ทว่าเรื่องประเภทนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาซึ่งเป็นข้ารับใช้คนหนึ่งจะจัดการได้ ดังนั้นจึงได้เงียบ แล้วทำเป็นไม่สนใจ
ส่วนซูชีที่เห็นแค่อาจ้าวคนเดียว ก็ประหลาดใจอยู่บ้าง
“จ้าวเฟยลู่ล่ะ?”
ซูชีจำได้ว่า เมื่อวานพวกเขาออกไปด้วยกัน แต่ทำไมถึงไม่ได้กลับมาด้วยกัน?
อาจ้าวอึ้งไปครู่หนึ่ง
จ้าวเฟยลู่ยังไม่กลับมาหรือ
“คุณชาย จ้าวเฟยลู่ยังไม่กลับมาหรือขอรับ” เขาจำได้ว่าจ้าวเฟยลู่ออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว?
เดิมนึกว่าเขากลับมาแล้ว แต่เมื่อเห็นสีหน้าสงสัยของนายท่าน ก็อธิบายได้ว่าจ้าวเฟยลู่ยังไม่ได้กลับมาเลยด้วยซ้ำ!
“เกิดอะไรขึ้น!” ในที่สุดซูชีก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
จ้าวเฟยลู่ไม่ได้ตามอาจ้าวกลับมาด้วยกัน อีกอย่างซูซูก็ออกไปแต่เช้าจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา
ทั้งหมดนี้ถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ทำให้ซูชีรู้สึกกดดันอย่างน่าประหลาด!
เขากำลังคิดว่า เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับซูซูหรือไม่
ปัง!
แต่ในตอนนี้ประตูกลับถูกผลักอย่างแรงจากด้านนอก!
“คุณชายซูชี!”
ซูชีกับอาจ้าวมองไปทางด้านนอก ก็เห็นคนที่พวกเขาสองคนเพิ่งจะพูดถึงไปมายืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาในตอนนี้อย่างน่าอัศจรรย์!
ซูชีหรี่ตาลง โดยไม่พูดอันใด สายตาที่เขามองจ้าวเฟยลู่เจือไปด้วยการพิจารณา
ส่วนจ้าวเฟยลู่ก็ไม่สนใจสิ่งเหล่านั้น เขาเดินตรงไปถึงด้านหน้าซูชี และคุกเข่าลงตรงหน้าเขา
“คุณชายซูชี! ท่านหญิงหายตัวไปแล้ว!”
เสี้ยวพริบตานั้น จ้าวเฟยลู่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมาจากร่างของซูชีได้อย่างชัดเจน!
ในใจพลันยินดี…
พลั่ก!
เสียงดังสนั่น!
ทันใดนั้น จ้าวเฟยลู่ก็ถูกซูชีถีบปลิวออกไปนอกประตูที่ยังไม่ได้ปิด แล้วตกลงบนกองหิมะในลานบ้านทันที!
ซูชีเดินย้อนแสงมายืนตรงหน้าจ้าวเฟยลู่ เขาหลุบตาลงมองจ้าวเฟยลู่ราวกับเทพเซียนบนสวรรค์
“อย่ามาเล่นลูกไม้น่าขบขันเช่นนี้กับข้า! หากว่ากูเสี่ยวซูไม่อยากกลับมา เช่นนั้นก็ให้นางไสหัวกลับเมืองหลวงไปเสีย!”
ซูชีเอ่ยจบก็สะบัดแขนเสื้อตรงกลับเข้าไปในห้อง
อาจ้าวมองจ้าวเฟยลู่ในกองหิมะแวบหนึ่งอย่างตกใจ แล้วหันไปมองเงาร่างของคุณชายแวบหนึ่ง พลางกลืนน้ำลายด้วยความรู้สึกหวาดกลัว
นายท่านเป็นอันใดไป?
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
อาจ้าวอยู่ร่วมกับจ้าวเฟยลู่มานานหลายวัน ก็พอจะมีมิตรภาพระหว่างกันไม่มากก็น้อย เขายื่นมือออกไปข้างหนึ่ง แล้วออกแรงกระตุกจ้าวเฟยลู่ให้ลุกขึ้นมา
อาจ้าวเอ่ยด้วยความเป็นห่วง และเตือนสติว่า “เหตุใดเจ้าจึงใช้วิธีนี้มาล้อเล่นกับคุณชาย เจ้าไม่รู้หรือว่า สิ่งที่คุณชายเกลียดที่สุดก็คือ คนอื่นหลอกเขา”
จ้าวเฟยลู่ได้ยินแล้ว ก็ยิ้มเจื่อนเล็กน้อย
ใช่แล้ว เขาไม่รู้ว่าซูชีรังเกียจการถูกคนหลอกลวง ดังนั้นถึงได้ไปสะกิดต่อมโมโหเขาเข้าแล้วใช่ไหม?
แต่ว่า
เขายินยอมที่จะสะกิดต่อมโมโหของคุณชายซูชี แต่จะต้องช่วยท่านหญิงซูซูให้ได้
ไม่ใช่เพียงเพราะรับผลประโยชน์จากซื่อจื่อ…