เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด - ตอนที่ 100
ตอนที่ 100
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
「เฮ้ นานะฟูชิ! ชั้นไม่ได้บอกให้รอเหรอ!」
ทามะมูชิตะโกนระหว่างที่วิ่ง
เธออยู่ในระหว่างการคุยทางกระแสจิตกับนานะฟูชิ อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ดูเหมือนว่านานะฟูชิเคารพคำสั่งของเธอ
「มู่? มมมู่ เข้าใจแล้ว งั้นไม่มีทางอื่น」
ทามะมูชิที่โกรธนานะฟูชิฟังเหตุผลของเธอและรับรู้มันด้วยความไม่เต็มใจ
「ซูซูฮาระ นานะฟูชิได้ออกมาจากที่เกิดเหตุพร้อมกับยูกะใต้ปีกเธอ แม้ว่า อาซาฮินะยังอยู่ที่นั่น」
ระหว่างที่วิ่ง ทามะมูชิบอกสถานการณ์
ตอนนี้ที่ความสามารถผมกลับมาใช้งานได้ ผมแอบมองข้างในใจของทามะมูชิได้ ดังนั้น ผมจะรู้สถานการณ์แม้ว่าผมไม่ได้ยินมันจากเธอ
มันดูเหมือนนานะฟูชิตามอาซาฮินะเข้าไปในโรงงานร้าง และเจอว่ายูกะได้อยู่ที่นั่นกับเธอ แต่จากนั้นที่นั่นมีการต่อสู้ระหว่างมนุษย์ ดังนั้นเธอได้เฝ้าดูอย่างเงียบๆจากข้างๆ
อาซาฮินะนั้นไกลจาก ‘มนุษย์ปรกติ’ คือที่นานะฟูชิคิดอย่างไรก็ตาม นั่นเป็นการคำนวนผิดพลาด
มันเป็นตัวตนของยูกะ
อาซาฮินะพูดว่าเธอจะไม่สู้จนกว่าคู่ต่อสู้จะเริ่มโจมตีก่อน แต่นั่นเป็นแค่ข้ออ้างสำหรับการปกป้องยูกะในระหว่างสู้ ซึ่งมันทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะโจมตีสวน
สำหรับเหตุผลนั้น นานะฟูชิลอดผ่านช่องเปิดของคู่ต่อสู้และมุ่งหน้าเขาไปเพื่อช่วยยูกะ
แต่――
ยูกะคิดเกี่ยวกับการหนีและทิ้งอาซาฮินะไว้ข้างหลังไม่ได้
เพราะยูกะได้ทิ้งอาซาฮินะไปครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้
แม้ว่ายูกะรู้ว่าเธอเป็นภาระ เธอจะไม่มีวันทิ้งอาซาฮินะอีกครั้ง
และนั่นทำไมเธอได้กรีดร้องเมื่อนานะฟูชิช่วยเธอ
แม้ว่าความพยายามทั้งหมดที่จะลอดผ่านเงามืด พวกเธอถูกเปิดเผยจากการกรีดร้องของยูกะ
มีปัญหาจากการกระทำของเธอ นานะฟูชิตัดสินใจว่าอาซาฮินะไม่ได้จำเป็นต้องปกป้องยูกะ และน็อคยูกะหมดสติ และจากที่เกิดเหตุมา
เธอคิดอย่างแท้จริงว่าอาซะฮินะจะโอเค แต่การต้องช่วยทั้งยูกะและอาซาฮินะในเวลาเดียวกันจะเป็นงานที่เป็นไปไม่ได้
หนึ่งในเหตุผลคือลักษณะทางกายภาพของนานะฟูชิ
นานะฟูชิเป็นสาวโลลิที่โลลิมากกว่าแม้แต่โลลิทามะมูชิ ไม่ว่าเธอมีพลังมากเท่าไหร่ในเธอ ตัวของเธอยังเล็ก
เพิ่มเติมจากนั้น อาซาฮินะจะไม่ถอยอย่างเชื่อฟัง ดังนั้นเธอต้องทำให้เธอสลบเพื่อที่พวกเธอจะหนีได้
อาซาฮินะและยูกะที่หมดสติ ตัวของนานะฟูชิจะเล็กเกินไปที่จะรับมือพวกเธอสองคนภายใต้สถานการณ์แบบนั้น
ยกกายหนึ่งเป็นงานง่าย อย่างไรก็ตาม เธอทำได้เพียงการลากถ้ามีสองคน เพิ่มเติมจากนั้น ถ้าเธอบินหรือกระโดดไปรอบๆ อาซาฮินะและยูกะอาจจะตายเพราะตัวของพวกเธอไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรับแรงกระแทก
ดังนั้น คนที่หนีได้มีขีดจำกัดลงไปเหลือหนึ่งคน
มีอีกเหตุผลที่ทำไมเธอทิ้งอาซาฮินะไว้ด้วยตัวของเธอเอง
มันจะเป็นงานง่ายสำหรับนานะฟูชิที่จะน็อคพวกเขาให้หลับ แต่มีเหตุผลที่ทำไมเธอทำมันตอนนี้ไม่ได้
เหตุผลเพราะเธอแข็งแกร่งมากเกินไป
เนื่องด้วยผมแตกข้างในทามะมูชิ พลังงานแมลงของเธอ ตกอยู่ภายใต้การเพิ่มพลังกระทันหันซึ่งมีผลโดยตรงกับพลังของนานะฟูชิ
ผลของมัน ตัวตั้งขีดจำกันของนานะฟูชิได้ปลดออกด้วยกำลัง
นานะฟูชิ ที่ถูกออกแบบมาให้สู้กับคุดันเก่งขึ้นได้อย่างต่อเนื่องตราบใดที่มีพลังแมลงอยู่รอบๆเธอ ซึ่งเป็นประโยชน์มาก
ในทางกลับกัน เธอไม่สามารถจะลำเลียงพลังงานแมลงของเธอเองซึ่งทำให้เธออยู่ในความเสียเปรียบ
สั้นๆคือ เธอเก่งในการทำอะไรง่ายๆ แต่ไม่เก่งในบริเวณที่ละเอียดเยอะๆ
ดังนั้น ส่วนใหญ่มันจะดีกว่าที่จะเลี่ยงเผชิญหน้ากับมนุษย์ที่อ่อนแอ
เพราะเธอแย่กับการควบคุมพลังเธออยู่แล้ว หลังจากที่ได้เพิ่มพลังอย่างทรงพลังเข้าไปอีก มันทำให้ยากขึ้นไปอีกสำหรับเธอที่จะปรับมัน
ถ้าเธอคำนวนพลาดแม้ขนาดเท่าเส้นผมระหว่างที่ปรับพลังของเธอ เธอฆ่าคนได้ง่ายๆ
เพราะเธอได้ถูกสร้างมาให้สู้ นานะฟูชิจะไม่คิดมันมากถ้าเธอฆ่าคน ดังนั้น นั่นไม่ใช่ที่เธอกังวล
มันเป็นเพราะมันเป็นไปได้ที่จะถูกตามกลิ่นโดยองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือองค์กรของคุดันถ้าเธอจบที่การฆ่าคน มันจะแย่มากถ้านั่นเกิดขึ้น นั่นทำไมนานะฟูชิเลือกที่จะหนีจากการสู้
วิธีคิดของนานะฟูชิไม่ผิด ถ้าผมอยู่ในตำแหน่งเธอ ผมก็จะทำอย่างเดียวกัน
ถ้าองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติหรือองค์กรของคุดันได้ข้องเกี่ยวกับกรณีนี้ งันผมคิดว่าเราไม่มีทางเลือกนอกจากจะสู้พวกเขา
อย่าไรก็ต่าง อีกฝ่ายเป็น “แค่มนุษย์” และมันเป็นแค่การพิพาทระหว่างนักเลง
งั้นตัวเลือกที่ดีที่สุดคือช่วยทั้งยูกะและอาซาฮินะโดยไม่เพิ่มความปั่นป่วนและถอนตัวจากที่นั่น
อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยขีดจำกัดทางกายภาพของนานะฟูจิ มันจบที่อาซาฮินะถูกทิ้งไว้ที่ที่เกิดเหตุ
ดังนั้นผมเดาว่าเราต้องไปช่วยเธอ
นี่คือสถานการณ์ปัจจุบัน
「รู้ว่าอาซาฮินะอยู่ที่ไหนมั้ย?」
「แมลงที่เฝ้าดูอาซาฮินะยังอยู่ มันเลยไม่ใช่ปัญหา」
「ตำแหน่งปัจจุบันของนานะฟูชิอยู่ที่ไหน?」
「ถ้ามันเป็นชั้น งั้นชั้นรู้」
อาซาฮินะและยูกะแยกจากกัน แต่มีคนเดียวที่หาพวกเขาได้คือทามะมูชิ
เราไม่ควรต้องกังวลเกี่ยวกับยูกะ เพราะเธออยู่ภายใต้การปกป้องของนานะฟูชิ แต่ผมยังอยากจะส่งกำลังเสริมเผื่อไว้
「เธอจะใช้แมลงบินไปหานานะฟูชิได้มั้ย?」
「นั่นไม่ใช่ปัญหา」
ทามะมูชิพยักหน้าโดยไม่ลังเล
「ได้เลย งั้นบินไปหานานะฟูชิ」
「โอเค」
「และริกกะ」
「คะ!」
「ตามแมลงทามะมูชิและร่วมกลุ่มกับนานะฟูชิ เมื่อเธอทำนั่นแล้ว หลบภัยไปในบ้านทามะมูชิก่อนตอนนี้ และพร้อมที่จะทิ้งบ้านนานะฟูชิทันทีที่ชั้นกลับไป」
「รับทราบ!」
ริกกะพยักหน้ากับคำสั่งของผม
จากนั้นผมเห็นทามะมูชิวิ่งระหว่างที่ยกนิ้วชี้ขวาของเธอขึ้น แมลงเหมือนด้วงได้ขี้ปลายของนิ้วเธอ
「ไป」
ตามสัญญานของทามะมูชิ แมลงได้สยายปีกและบินขึ้นไปที่ท้องฟ้า
「ริกกะ」
ผมเรียกริกกะทันทีที่เธอพยายามจะกระโดดและตามแมลงไป
「ริกกะ “ความตั้งใจของเธอคือความตั้งใจของชั้น” บอกที่ชั้นพูดให้นานะฟูชิ」
ได้ยินผมพูดนั่นกับเธอ ตาของริกกะเริ่มมีน้ำตา ใส่หน้าที่เธอดูเหมือนกำลังจะร้องไห้ แต่เธอทำสีหน้าของเธอแน่นๆทันที
「รับทราบ!」
เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่กระฉับกระเฉง และเหมือนกระสุน ริกกะพุ่งไปในทันที
「ฟุนนน」
ทามะมูชิที่จ้องริกกะส่งเสียงทางจมูกในความไม่พอใจและหันหัวเธอไป
――ซูซูฮาระ ริกกะ มันน่าโมโห แต่สาวคนนั้นเป็นคนเดียวที่ได้รับนามสกุลซูซูฮาระจากชายคนนั้นเอง ฉันเทียบกับเธอไม่ได้ ตั้งแต่ทีแรก สำหรับสิงมีชิวิตที่เปื้อนอย่างฉันที่จะถูกรับรู้และเรียกว่า“ครอบครัว” ของซูซูฮาระ จะไม่ตลกแม้ว่ามันเป็นมุข
ทามะมูชิดูค่อนข้างหดหู่ ดูเหมือนว่าเธอยอมรับความพ่ายแพ้ในใจ
เห็นทามะมูชิ อิจฉาและหดหู่มากค่อนข้าง “น่ากระสัน” แต่มันจะไม่ดีสำหรับกำลังใจเมื่อเรากับลังจะเข้าไปในถิ่นศัตรู
「ศัตรูของเราครั้งที่เป็น “แค่มนุษย์ธรรมดา”」
「อนนู๋?」
ผมพึมพำระหว่างที่วิ่ง หยิบความสนใจของทามะมูชิมา ทำให้เธอมองผม
「ริกกะมีสมดุลย์ที่ดีระหว่างทั้งโจมตีและป้องกัน อย่างไรก็ตาม สถานะเบื้องต้นของเธอสูงเกินไป และพลังของเธอไม่สามารถที่จะควบคุมได้ ดังนั้นเธออาจจะจบที่การฆ่าคู่ต่อสู้โดยอุบัติเหตุถ้าเธอต่อต้านกับ “คนธรรมดา” ในทางกลับกัน ความสามารถทางกายภาพของเธอใกล้เคียงกับเธอ แต่เธอใช้ประโยชน์กับแมลงเพื่อค้นหาหรือโจมตีที่ระยะกลางถึงไกลได้โดยไม่ต้องพึ่งความสามารถนั้น พูดอีกอย่างเธอเป็นคนรอบด้าน」
กับคำพูดของผม ทามะมูชิมองขึ้นมาหาผมด้วยตาที่มีความหวังและแก้มย้อมเป็นสีแดง
ริกกะชอบที่จะโจมตีตรงไปตรงมาและถูกพาไปด้วยอารมณ์ของเธอ
ผมใช้ประโยชน์จากข้อมูลนี้เพื่อที่จะใช้มันกับเธอและนั่นทำไมเธอแพ้ผม
ถ้าบางคนได้ล้อผม เธอจะฆ่าคนนั้นโดยไม่คิดเป็นครั้งที่สองจากความโกรธ
แม้ว่าจะต่าง เธอพูดง่ายๆคือนานะฟูชิปัจจุบันที่ควบคุมพลังของเธอไม่ได้
ในทางกลับกัน ทามะมูชิไม่เพียงแค่เก่งในการต่อสู้ระยะประชิด แต่ยังเชี่ยวชาญในการค้นหาและโจมตีศัตรูจากระยะไกลเพราะการใช้แมลงของเธอ
แม้ว่าความสามารถทางกายภาพเธอไม่ต่ำกว่าริกกะ เธอเป็นคนรอบด้านที่เก่งอย่างเหลือเชื่อ
แม้ว่ามันใช่เวลาสำหรับเธอที่จะเคลื่อนไหวแมลงตัวใหญ่ไปรอบๆ และจำนวนของแมลงที่ควบคุมได้ในเวลาเดียวกันนั้นจำกัด มันสามารถชดเชยได้โดย “เพื่อน” ของเธอ
และตรงกันข้ามกับริกกะที่เลือดร้อน เธอแสดงเฉพาะหน้าแต่จริงๆแล้วเธอเป็นแมวขี้กลัว เพิ่มเติมจากนั้น รูปลักษณ์ที่น่ารักของเธอตามไปด้วยผมหางม้าสีเงิน ตาสีเขียว และหน้าอกที่กำลังโต มันจะไม่เร็วเกินไปที่ตัวเธอจะพัฒนาไปเป็นตัวที่ลามก บนนั้น น้องหนูของเธอน่าทึ่ง
ดังนั้นพูดง่ายๆ――
เธอสะดวกในหลายความหมาย
「เธอนั้นสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่เธอคิด ข้อเสียคือเธอไม่รู้ตัวกับเรื่องนั้นชั้นเดาว่า」
「ชั้นสามารถเหรอ?……มุ่ฟุนน♥」
ได้ยินผมพูดนั่นว่าเธอสามารถตอนนี้ได้ทำให้เธอยิ้มหูถึงหูระหว่างที่หายใจออกมาทางจมูก
เหมือนดั่งช่วงเวลาหดหู่ของเธอนั้นโกหก ทามะมูชิตอนนี้มีดอกไม้บานจากหัวใจเธอ
ทามะมูชิ เพราะเธอเป็นแบบนี้ ชั้นต่ำอย่างผมใช้เธอได้มากเท่าที่พวกเขาต้องการ กังวลเกี่ยวกับมันมากกว่านี้หน่อยได้โปรด
รูปลักษณ์ของเธอโลลิ แต่เธอจริงๆแล้วเกือบจะสามสิบ
ตามการนำของทามะมูชิ เรามาถึงที่โรงงานร้าง อยู่ห่างจากตัวเมืองนิดหน่อย
มันเคยเป็นที่ที่ชิโนซากิและคนน่าเบื่อบางคนได้ถูกแก้วินัย
พวกเราเข้าไปที่ที่ของโรงงานร้างผ่านช่องเปิดระหว่างรั้วที่พัง แตะตัดสินใจกลยุทธ์ก่อนการรุกราน
「มนุษย์ถูกทำให้สลบโดยแมลงได้มั้ย?」
นั่งยองๆอยู่ในเงามืด ผมถามทามะมูชิที่ยังยิ้มอยู่เหมือนคนงี่เง่า
「มันเรียบง่าย ใช่แมลงนี้เถอะ」
จากนั้นทามะมูชิยืดมือซ้ายของเธอมาหาผมในกลางฝ่ามือที่เล็กของเธอมีสิ่งมีชีวิตที่พิลึกที่มีปีก
「เกล็ดของมันมีพิษ ชั้นคิดว่าเราได้เจอกับสิ่งมีชีวิตเหนือมนุษย์ที่ทรงพลัง ชั้นเอาแมลงที่มีพิษร้ายแรงที่สุดมา」
「ร้ายแรง…ถ้าเราใส่สิ่งนั้น มันจะฆ่าพวกเค้าทันที」
「ฟุฟุฟุ ไม่」
ทามะมูชิพองหน้าอกของเธออย่างภาคภูมิใจตอบ
เพราะทามะมูชิปรกติไม่ใส่ยกทรง ผมเห็นรอยปูดทั้งสองเด้ง เมื่อเธอดันหน้าอกเธอใส่เสื้อคลุมสีดำ ผมช่วยไม่ได้นอกจากจะสังเกตมัน
「เมื่อเจอคู่ต่อสู่ที่มีความสามารถพิเศษมันดีที่สุดที่จะเลี่ยงการใช้พิษถึงตาย」
ชี้นิ้วชี้มือขวาของเธอขึ้นไป ทามะมูชิอธิบาย ขณะที่เธอมองหน้าผม
นมของเธอเด้งทุกการเคลื่อนไหว
「แน่นอนว่านายต้องระวังพิษ ดังนั้นมีโอกาสที่ประสิทธิผลของพิษนั้นไม่มีศักยภาพพอ หรือบางทีมันไม่ได้ผลเลยซักนิด ดังนั้น มันดีกว่าและมีประสิทธิภาพกว่าที่จะใช้พิษที่ซับซ้อนที่จะนำผลข้างเคียงอื่นมาก มากกว่าใช้เพียงพิษถึงตาย」
ทามะมูชิอธิบายระหว่างที่ทำท่าทางด้วยมือของเธอ และทุกครั้งที่เธอทำท่าทาง นมของเธอเด้ง
หยุดเด้งอย่างรุนแรงได้แล้ว
อย่าบอกผมนะน่านมของเธอโตขึ้นอีกแล้ว?
「พูดถึงแล้ว พิษไม่ได้ผลกับพี่สาวน้องสาวกึ่งสัตว์ เหตุผลก็คือตัวของพวกเธอเพียงแค่หายเร็ว กึ่งสัตว์ส่วนใหญ่จะมีกายที่เสริมกำลังมา และพึ่งพากำลังของพวกเธอ ดังนั้นมันพูดได้ว่ามันง่ายต่อการรับมือ เพราะมันไม่มีความสามาถที่ผิดปรกติ แต่มันก็ค่อนข้างมีปัญหาที่เก่งจริงๆด้วย」
ทามะมูชิได้ร้อนรุ่มระหว่างที่เธออธิบายมันให้ผม ซึ่งทำให้ท่าทางของเธอรุนแรงขึ้น และหน้าอกเธอแค่ต้องเป็นจังหวะเดียวกันกับการเคลื่อนไหวมากเกินไปเหล่านั้น โดยการเด้งไปทั่วทุกที่
อย่างที่คาด นมของทามะมูชิพัฒนาอยู่
ผมอ่านที่อยู่ในใจของทามะมูชิได้ ดังนั้นการที่เธออธิบายนั้นไร้ประโยชน์กับผม แต่เห็นนมของเธอเด้งไปทั่วมันบันเทิง ดังนั้นผมแค่ดูเธอและฟังการสอนของเธอ
「นำหัวเรื่องกลับมา เกล็ดของมอธสร้างภาพหลอนได้ คิดกับมันว่าเป็นความสามารถที่ทำให้มองไม่เห็นที่ทรงพลัง ใช้มันบนมนุษย์มีความเสี่ยงที่ใจของพวกเขาจะแตกสลาย แต่ชั้นไม่คิดว่ามันจะเป็นภัยถึงชีวิต」
「โอเค นั่นโล่งใจ」
ผมไม่สนใจว่าอะไรเกิดขึ้นตราบใดที่การเอะอะมันไม่ใหญ่กว่านี้ และคู่ต่อสู้ของเราเป็นนักเลง ดังนั้นมันจะไม่แปลกที่บางคนจะจู่ๆก็บ้าไป
「อย่างไรก็ตาม ชั้นมีคนถาม เพราะมันเป็นแค่เกล็ด ระยะนั้นจำกัด เพราะอย่างนั้น มันยากที่จะใส่พิษจากระยะไกล แต่มันใส่พิษทุกคนในที่แคบเมือนโรงงานได้ พูดอีกอย่าง อาซาฮินะก็จะถูกปราบโดยพิษนั้นด้วย」
อะไรนะ?! อาซาฮินะจะถูกพิษเนื่องจากเหตุสุดวิสัย!? จากทุกอย่างมันเป็น “เหตุสุดวิสัย”!
อะไรกันวะ!
「นั่นทำไมถ้าเราช่วยอาซาฮินะระหว่างที่ศัตรูไม่ได้มอง และใช้แมลงนี้เมื่อหนี――」
「ม-มันช่วยไม่ได้! มันปวดใจที่จะได้ยินว่าอาซาฮินะจะโดนพิษด้วยแต่ยังไงก็ทำมันนะ」
「เอ๋?」
「ชั้นไม่อยากให้หน้าเราถูกเห็น! เราต้องลอดใต้เรดาร์องค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติและองค์กรของคุดัน ดังนั้น เผื่อไว้」
「อ-โอ้ งั้นชั้นอยากให้นายรอชั้นนิดหน่อย มันเป็นไปได้สำหรับชั้นที่จะเรียกแมลงอื่นมาจากบ้านที่มีพิษเบากว่า――」
「เราไม่มีเวลา! อาซาฮินะอาจจะอยู่ในปัญหาแม้แต่ตอนนี้!」
「จิ-จริงเหรอ? สำหรับบางคนที่มีเสริมร่างกายเหมือนอาซาฮินะ ชั้นคิดว่ามันควรจะโอเคถ้าเราช่วยเธอนานกว่านี้นิดหน่อย――」
「ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในชีวิต! ไม่ใช่ว่านั่นถูกเหรอ ทามะมูชิ-จัง! นึกถึงมันแล้ว มันเป็นวันที่โชคดี! ไปด้วยความรีบเถอะ!」
「อ-อุมุ่ ยังไงซะ ความแข็งแกร่งทางจิตใจของอาซาฮินะทนมันได้ ชั้นคิดว่ามันจะโอเคสำหรับชั้นที่จะใช้มัน」
「《อ๊าา!》มันยากจริงๆแต่มันช่วยไม่ได้! ใช้มัน!」
「อุ่มุ? อ-อุมุ่」
ได้รับอิทธิพลจากการกล่อมอย่างจริงใจของผม ทามะมูชิพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ และเปิดมือของเธอ ปล่อยให้แมลงบินไปจากมือเธอ
กระพือปีกของมัน มอธนำตัวของมันไปที่รอยแยกเล็กๆในกำแพงของโรงงาน
พวก สามารถที่จะควบคุมแมลงนั้นสะดวก
พาเรื่องกลับเข้าเรื่อง――
「เฮ้ ทามะมูชิ มีพิษแบบอื่นใช่มั้ย?」
เอียงตัวไปข้างหน้า ผมถามทามะมูชิแล้วมองเข้าไปในตาเธอ
ทามะมูชิแดง และดึงตัวของเธอกลับไปเล็กน้อย จากการที่หน้าผมใกล้กับเธอ
「ซุ-ซูซูฮาระ มันอาจจะเป็นจินตนาการของชั้น แต่นายเล่นไปทั่วกับอาซาฮินะเหรอ?」
ทามะมูชิถามในเสียงที่อ่อนโยนด้วยความเขินอาย
หยาบคายจัง ไม่ไม่คิดเกี่ยวกับอะไรแบบนั้นแม้แต่เล็กน้อย
「เฮ้ เฮ้ ทามะมูชิ มีพิษอะไรที่น่าสนใจที่เธอใช้ได้มั้ย?」
「……อย่างที่คาด นายเล่นไปทั่วกับอาซาฮินะ」
ทามะมูชิพึมพำ มองตรงมที่ผมโดยไม่มีสีหน้าในการตอบ
「นั่นล้อเล่นน่ะ」
ยิ้มขณะที่ผมพูดอย่างนั้น ผมลูบทามะมูชิบนไหล่
คุคุ ขอบคุณทามะมูชิ ผมสามารถจะรู้รูปแบบทั้งหมดของพิษ และที่ที่พวกมันอยู่จากคำถามนั้น ทั้งหมดมันต้องขอบคุณเธอ
ผมต้องจำที่ทรงพลังที่สุดในนั้นให้ได้อย่างถูกต้อง
พิษที่เพิ่มความไว และพิษที่มีผลเป็นยากระสัน และพิษที่ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและคันอย่างหนัก
แม้ว่าพิษเหล่านี้ ไม่ได้มีความหมายเพื่อฆ่า พิษ โดยเฉพาะที่แรงมีผลข้างเคียงมหาศาลที่สร้างอันตรายให้คนที่ใช้มัน มันเป็นการทำให้ล้าทั้งกายและใจได้
พิษเหล่านั้นควรจะเลี่ยงถ้าพวกเขาเป็น “มนุษย์ธรรมดา”
ดังนั้นมันโอเคถ้าพวกเขาไม่ใช่ “มนุษย์ธรรมดา”
อาา นี่มันตื่นเต้น
ไม่นานหลังจากที่มอธเข้าไปในที่เกิดเหตุ ทามะมูชิรายงานว่ามันได้แพร่เกล็ดมันมหมดแล้ว
แต่เรายังเข้าไปในโรงงานไม่ได้
สำหรับบางคนที่มีตัวที่พิษหายไวแบบทามะมูชิ มันไม่มีปัญหาถ้าเราเข้าไปทันที แต่พิษจะมีผลกับมนุษย์ปรกติอย่างผม
「อ๊า♥ อ๊าา♥ ม-ไม่ใช่ที่นั่น♥ อย่าเขี่ยมันมาก♥」
ม้วนเสื้อคลุมสีดำขึ้นและเปิดเผยผิวขาวที่โปร่งใสของเธอ ซึ่งดูเหมือนไม่เคยจะได้กระทบกับแสงแดดเลย ทามะมูชิวางมือเธอไว้ข้างหลังเธอขณะที่เธอเปิดขาถึงขีดจำกัด เขี่ยเม็ดถั่วเธอที่ตอนนี้แข็งและตั้ง เธอเริ่มกระตุกจากความรู้สึกดี ระหว่างที่ส่งเสียงหวาน ทุกครั้ง นมของเธอเด้งทุกครั้งที่เคลื่อนไหว
เพื่อที่จะเติมเต็มความเบื่อระหว่างที่เรารอ ผมตัดสินใจจะฝึกเธอไม่ให้แตก และให้เธอฝึกวิชาพลังชี่แมลงภายใต้การกระตุ้น
「ช-ชั้น♥ ชั้นต้องเข้าไปข้างในโรงงานเพื่อรับอาซาฮินะ――อ่ะคุ้♥ คุนนน♥」
ทามะมูชิพูดบางอย่างแต่เนื่องจากการที่เธอหอบ เข้าไม่เข้าใจว่าเธอพูดถึงอะไร
「ทามะมูชิ เธอต้องโฟกัส เธอไม่ได้รับอนุญาติให้แตกนะ เข้าใจมั้ย?」
ถามคำถามนั้นกับเธอ ผมขูดเม็ดถั่วเธอด้วยเล็บอย่างอ่อนโยน
「ช-ชั้นเข้าใจ――อึนคยยยยู้♥ แตกแล้ว♥ แตกแล้วชั้นแตกแล้ว♥」
ทามะมูชิทำสีหน้าของเธอแน่น อย่างไรก็ตาม สีหน้านั้นแห่งความมุ่งมั่นที่จะไม่แตกเละไปทันทีจากการที่โดนเกาเม็ดถั่ว ขณะที่เธอน้ำแตกคลื่นสั้นๆออกมาหลายครั้ง ระหว่างที่แทงสะโพกของเธอเขาไปในอากาศพร้อมกัน
และนมของเธอส่ายทุกการกระตุกที่เธอทำ
หัวนมของเธอนั้นแข็งเท่ากับเม็ดถั่วที่แข็งดุจหิน
แม้ว่านมของเธอมีความเด้งอยู่ในมัน พวกมันยังพัฒนาอยู่ และตรงกลางของหน้าอกเธอ หัวนมแข็งยืนอยู่
หัวนมและเม็ดถั่วที่แข็ง ผสมเข้าด้วยกันกับหน้าที่เด็กของเธอ และตัวที่เล็ก และน้องหนูที่มันขมิบอย่างสม่ำเสมอซึ่งมันเอ่อล้นไปด้วยน้ำน้องหนู มันยื่นความลามกออกมาที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
「ไม่ใช่ชั้นบอกเธอว่าเธอไม่ได้รับอนุญาตให้แตกเหรอ?」
「ฮิ้อุอออุ♥ ชั้นขอโท――แตกกกกแล้ววว」
สะบัดเม็ดถั่วเธอขณะที่ผมติเตียนความไม่เชื่อฟังของเธอ ทามะมูชิขอโทษระหว่างที่คลื่นใหญ่พุ่งออกมาอีก
มันสมควรจะฝึกเธอไม่ให้แตก และเก็บโฟกัสและสติของเธอระหว่างที่ถูกทำโดยผม แต่อย่างไรก็ไม่รู้ ผมรู้สึกว่ายิ่งผมทำมัน เธอยิ่งแย่ลง
ยังไงซะ มันทั้งหมดคือการทำให้เธอผ่านมัน เมื่อเธอชินกับความสุดขีด งั้นมันอาจจะมีโอกาสสำหรับเธอ ที่จะพัฒนาความทนมันได้
คิดอย่างนั้น ผมแทงสองนิ้วเข้าไปในน้องหนูที่เปียกแฉะของเธอที่มันเอ่อล้นไปด้วยน้ำน้องหนู
「คุ้อ่ะะ♥ คุ้ฮฮฮฮิ้♥」
ทามะมูชิขึ้นเสียงกรีดร้องอย่างหวาน และกำแพงของน้องหนูเธอขมิบบีบลงมาที่นิ้วของผม
ทามะมูชิกระตุกอย่างรุนแรง เปิดขาของเธอถึงขีดจำกัดที่สุด และส่ายสะโพกของเธอไปในอากาศ จากนั้นเธอได้รับประสบการณ์ของคลื่นอีกลูกแห่งการกระตุก และระหว่างที่เอวของเธอได้ค้างอยู่ในอากาศ เธอน้ำแตกและน้ำพุ่งจากความรู้สึกดีอันเข้มข้น
แค่การที่นิ้วของผมเข้าไปในน้องหนูเธอเพิ่มทำให้เธอถึงจุดสุดยอดแบบสุดขีด
ใช่ นี่ไม่ใช่เรื่องของความอดทนหรืออะไรระดับนั้นอีกแล้ว
แต่ช่างเป็นน้องหนูที่ยอดเยี่ยม ในที่สุดผมก็เขาใจว่ามันน่าทึ่งจากไหน จากความรู้สึกจากนิ้วของผม
เปียก ลื่น และแน่น และบนนั้น เนื้อของกำแพงเธอทั้งหมดได้สร้างจากก้อนและปุ่มเล็กๆ ดังนั้นเพราะเธอ ผมยังรู้สึกการต่อต้านเล็กน้อย แม้ว่าน้องหนูของเธอเอ่อล้นไปด้วยน้ำน้องหนู เพิ่มเติมจากนั้น กำแพงเนื้อที่ขมิบเข้ามาเหมือนตัวดูดของปลาหมึก ดูดตัวมันเข้ากับผม
นานะฟูชิพูดว่าน้องหนูของเธอมาจากหนอนพันตัว แต่นั่นเพราะนานะฟูชิเป็นแมลงที่คนสร้าง ผมสงสัยว่าน้องหนูเธอจะท่าทึ่งกว่าของทามะมูชิมั้ย
「หยุดขยับมัน♥ ชั้นจะแตกถ้านายขยับ ♥ ชั้นจะไม่สามารถทนมันได้และแตก ♥」
กระตุกเป็นครั้งคราว ทามะมูชิวิงวอนระหว่างที่หอบ
มีแค่นิ้วเข้าไปในเธอทำให้เธอมีประสบการณ์การถึงจุดสุดยอดที่สุดขีด แต่มันดูเหมือนเธอสงบลงหลังจากทิ้งมันไว้ที่นั่นซักพัก
「ขยับ…เธอหมายถึงทำอย่างนี้เหรอ?」
พูดสิ่งนั้น ผมใส่สองนิ้วเข้าไปแล้วเริ่มแทงมันเข้าและออกน้องหนูของเธอ กระตุ้นข้างในเธออย่างสมบูรณ์
「อุอ๊ะอ๊าา《อ๊า♥》 แตกแล้วแตกแล้วแตกแล้วแตกแล้วแตก《แล้ว♥》 《ชั้นแตกแล้ว♥》」
การกระตุกของทามะมูชิแรงขึ้นอย่างก้าวหน้าด้วยทุกการเคลื่อนไหว นมของเธอยกขึ้นไปบนฟ้า สันหลังของเธองอไปข้างหลังสุดทางเป็นรูปแบบเหมือนธนู ขณะที่เธอน้ำแตกคลื่นมโหฬาร
ผมไม่ได้โจมตีแม้แต่จุดอ่อนของเธอเลย เธอแตกง่ายจริงๆ
「เอ็น♥ เออ็นนน♥ ชูจูฮาร์ย้ะทำชั้นด้วยเเออ็นนนน♥」
แตกเหมือนบ้าและยังมีสติอยู่ได้อย่างไรก็ไม่รู้ มันดูเหมือนว่าทำน้องหนูของทามะมูชิเละได้สับสวิทช์เธอ
นี่ก็เกิดขึ้นเมื่อผมใส่เอ็นเข้าไปในน้องหนูของเธอด้วย
แต่ครั้งนี้มันใช้เวลาซักพักที่จะสับสวิทช์ของเธอ
มีความต่างมากขนาดนั้นระหว่างนิ้วและเอ็น?
「ตรูดช้าน♥ ชูจูฮาร์ย้ะ♥ ชั้นยั้กดั้ยมันข้างในตรุดชึ้น♥ ทรำตรูดชั้นด้ยเอ็นนนน」
อ้อแอ้ประโยคของเธอ ทามะมูชิส่งเสียงกรีดร้องที่หวานและด้วยมือหนึ่งที่หนุนตัวเธอ เธอเริ่มเล่นกับตูดเธอด้วยอีกมือ แทงนิ้วเข้าไปข้างใน ซึ่งทำเสียงเปียกที่เละเทะ
รูหลังของเธอเปิดออกระหว่างที่ทำเส้นน้ำของความลามก
เปิดสวิทช์ขี้กระสันของเธอคือหนึ่งในลักษณะพิเศษของทามะมูชิ และมันทำให้เธอโหยหาเอ็นไปเติมเต็มรูหลัง ไม่ว่าอย่างไร มันดูเหมือนเธออยากให้รู้หลังเธอถูกทำโดยเอ็น
ผมโอเคกับการทำมัน แต่การควักเอ็นผมออกมาในที่แบบนี้มันขัดกับศีลธรรมของผม
「ชั้นจะทำทึ้กหย่าง♥ ทามะมูชิจะทำทุ้กก่ะอย่าง♥ ดังนั้นใย้โปรดใส่เอ็นของนายขึ้วปุยในยูหลางชั้น♥ ไย่ปดทรำน้องหนูของช้นด้วยเอ็นของนาย♥」
ทั้งตัวของเธอแดงและเปียกไปด้วยเหงื่อ และหัวนมและเม็ดถั่วของเธอแข็งอย่างผิดปรกติ ตามรกตของเธอออกจากจุดเน้นไป และหน้าที่หัวเราะที่น่าอับอายของเธอน้ำลายไหลอย่างชุ่ยๆ
ไม่มีเงาของน้ำเสียงและท่าทางที่เป็นชายของเธออีกต่อไป
ทามะมูชิตอนนี้ได้หยุดคิดเกี่ยวกับทุกอย่าง ยกเว้นการมีเอ็นเข้าไปในรูหลังของเธอและถูกทำโดยมัน
「โอเค งั้นยองลงเหมือนเธอนั่งขี้และชูสองนิ้วบนสองมือ และจากนั้นเราจะมาดูกันว่าชั้นจะใส่เอ็นเข้าไปในรูหลังเธอมั้ย」
「เค่อะ♥」
หลังจากที่ได้ยินข้อเรียกร้องของผม ทามะมูชิตอบอย่างสิ้นหวังและพยายามจะยองลงในท่านั่งขี้
แต่――
「น๊าาาาา♥ นน๊าาาาาาาาาาาาาาา♥」
เพื่อผมได้กระตุ้นข้างในน้องหนูเธอด้วยนิ้วของผม เธอได้แตกและกระตุกอย่างบ้าคลั่ง และเธอขับจากที่เดิมของเธอไม่ได้
น่า ทำเต็มที่ เธอทำได้
ขณะที่ผมส่งกำลังใจหัวทามะมูชิ ผมเร่งความเร็วนิ้วของผมที่กระทำชำเราข้างในน้องหนูของเธอ
「โออ《อ》อ《ออ่》♥ 《โอ》ออ《อออ》ออ《อ》อออ《อ》อ《อ่》♥」
เสียงลื่นที่ลามกสร้างมาจากการสอดใส่ ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นเสียงน้ำกระจาย ซึ่งได้พาน้ำจำนวนมากมา ซึ่งเพิ่มความเข้มข้นของการกระตุกของเธอด้วย
มันน่าจะเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอที่จะลุกขึ้นจากสภาวะนั้น
อย่างไรก็ตาม
「โอ《ออออ》อ《ออ》♥ ทรำจูดชชชช๊าาาานนนนนนน♥」
ทามะมูชิขึ้นเสียงกรีดร้องที่หวานขณะที่ตัวเธอลุกขึ้นอย่างช้าๆ
ความบริสุทธิ์ของความต้องการที่น่าสนใจที่อยากให้เอ็นทำรูหลังเธอ ทำให้เธอพยายามทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้
「ยยยยยูห《ล》าาาาาาาาาา《งง》งง♥ เเเเ《เเ》เอออ《อ็》นน《นน》นนนน♥ เซซซซซซซซซซ《รร้》กก《ก》ก《ก》ก♥」
ขึ้นเสียงกรีดร้องที่หวานอีกครั้ง ตัวเธอยกขึ้นไปในจังหวะเดียวกัน
ให้กำลังใจทามะมูชิด้วยหัวใจทั้งหมดของผม ผมกระตุ้นน้องหนูของเธอต่อด้วยนิ้วมือขวา และเม็ดถั่วเธอด้วยซ้าย
「《นนนฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮิ้♥》 ซรูซสยูฮาร์ย้า ใจร้ายยยยยยย♥ ม่ายยย《ยย》ยยย《ยย》ย《ย》♥」
ทามะมูชิน้ำแตกออกมาอย่างเข้มข้นและฉีดคลื่นออกมาระหว่างที่ขึ้นเสียงกรีดร้องอย่างหวาน ลิ้นของเธอแทงออกมาหลวมๆจากปากเธอแตะตาของเธอม้วนกลับไปที่หลังหัว ขณะที่ในที่สุดเธอได้นั่งตรงๆ
เล็ดแอ่งของน้ำน้องหนูทิ้งรอยเปื้อนสีดำไว้ที่พื้น อย่างไรก็ไม่รู้ ทามะมูชิสามารถจะยองลงในตำแหน่งขี้ได้ ยกสองมือชูสองนิ้วด้วยลิ้นที่แลบออกมาและตากลับไปหลังหัว
โออ อาเฮะกาโอะชูสองนิ้วสองมือของจริง มากกว่านั้น มันอันตรายจริงๆ เมื่อโลลิเหมือนทามะมูชิทำมัน
ความรู้สึกของความผิดศีลธรรมมันอันตรายมากจนมันมอบความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ของความ “กระสัน”
ยังไงซะ ตอนนี้ ผมเห็นสิ่งที่ผมต้องการจะเห็นแล้ว――
「มันได้เวลาที่เราควรจะไปรับอาซาฮินะ」
ดึงนิ้วของผมจากน้องหนูเธอซึ่งทำเสียง ‘ซริก’ ผมมองขึ้นมา หรี่ตาผมขณะที่ผมต้องท้องฟ้าสีฟ้าและพึมพำ
นั่งยองๆเปิดขาระหว่างที่ชูสองนิ้วสองมือ ทามะมูชิที่หอบจ้องผมอย่างโมโหด้วยตาที่มีน้ำตา ระหว่างที่น้ำแตกคลื่นสั้นๆติดตอกัน
「โกวหรก♥ ชูสฮูฮาร์ย้ะโกวหรก♥ นายพ่ดว้านายจะทรำชรั้นในตูด♥」
เธอได้ค่อนข้างคาดหวังกับมัน เปลี่ยนเป็นแดงในความโกรธ ทามะมูชิที่ร้องให้ฝังหมัดของเธอสู่อกผม ซึ่งรู้สึกเหมือนการเตะที่อ่อนโยนมากกว่า
นี่มันน่ารักมาก
ไม่กี่นาทีต่อมา――
「ขะ-ขอโทษ……」
จัดเสื้อคลุมสีดำของเธอ ทามะมูชิที่แดงไปถึงใบหู ด้วยน้ำตาที่ยังอยู่ในตาเธอ ยืดตัวของเธอขึ้น และขอโทษกับผม
เธอหมดความรู้สึกของตัวเองไปอย่างสมบูรณ์ เมื่อสวิทช์ขี้กระสันได้ถูกเปิดขึ้น แต่มันดูเหมือนว่าเมื่อเธอกลับมา ความทรงจำกับสิ่งที่เกิดก่อนหน้านี้จะยังอยู่
เนื่องด้วยเหตุผลนั้น เมื่อเธอกลับมาสู่ปรกติ เธอได้ถูกทรมานโดยความทรงจำของเวลาที่เธอได้หมดการควบคุม
ไม่มากกว่าก็น้อยกว่ามันเป็นความผิดผม แต่มันดูเหมือนทามะมูชิได้อับอายว่าเธอลามกมากแค่ไหน รูปลักษณ์นั้นของทามะมูชิที่เฉยเมยจั๊กจี้ความซาดิสม์ข้างตัวผม
ถ้าเธอใช้ท่าทางที่เฉยเมย งั้นเธอจะทำให้ผมคิดว่าผมควรจะแหย่เธอมากกว่านี้ในครั้งหน้า
ทิ้งเรื่องนั้นไว้ก่อน มันได้เวลาที่เราควรจะไปช่วยอาซาฮินะ
「อึน-ยังไงซะ ไปกันเถอะ」
「อุ-อุมุ่」
ยืนขึ้น ผมส่งเสียง ทามะมูชิพยักหน้า และเซขึ้นเพื่อยืนขึ้น
「อึน♥」
จากนั้นเธอกระตุกและเล็ดเสียงครางที่หวานและเริ่มอยู่ไม่สุขเป็นบางครั้งบางครา
หลังใช้เวลาเล่นกับตัวเธอซักพัก ความไวของทั้งตัวทามะมูชิเพิ่มขึ้น แต่เธอยังไม่พอใจแม้ว่าหลังจะทำทั้งหมดนั่น
มันดูเหมือนหลังจากที่ได้รู้รสชาติของเอ็นผม ทามะมูชิไม่สามาถที่จะพอใจ โดยไม่มีเอ็นผมใส่เข้าไปในเธอ
มากกว่านั้น เพราะทามะมูชิเป็นสาวที่ชอบมันในตูด ถ้ารูหลังเธอไม่ถูกเล่น เธอจะต้องทำมันด้วยตัวเธอเอง อย่างไรก็ตาม เธอทำไม่ได้ เพราะผมได้ยืนอยู่ต่อจากเธอ
เพราะสิ่งนั้น รูหลังของเธอเปิดขึ้นนิดหน่อยทันทีที่เธอยืนขึ้น ซึ่งมันกระตุ้นเธอ
ผมสงสัยว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าผมได้ใส่เอ็นผมในรูหลังแบบนั้น
ด้วยนั้นในใจ เราได้เดินไปที่ทางเข้าของโรงงาน
มี่เสียงประหลาดที่ถูกได้ยินเมื่อเราเข้าไปในโรงงาน
เครื่องจักรใหญ่ที่ชิ้นส่วนพัง ซึ่งเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล-แดงในสีของสนิม เศษเหล็กที่กระจายอยู่ทุกที่ที่พื้น
กราฟฟิตี้ได้ถูกพ่นลงบนกำแพง ซึงมีความมหายที่ลามกและยั่วยุอยู่เบื้องหลังตัวอักษร ที่ได้ถูกเขียนและได้ถูกพ่นไปทุกที่
ด้วยกันกับขยะที่กระจายอยู่ด้วยกันกับเศษเหล็ก
มันไดแย่ลงเมื่อเทียบกับครั้งที่แล้วที่ผมมาที่นี่ น่าจะเป็นนักเลงที่เป็นผู้ร้ายให้เกิดความเละเทะนี้
มีเสียงของการต่อยและเตะของที่ยืดหยุ่น ซึ่งก้องมาลึกจากข้างในโรงงาน
หลบเครื่องจักรที่พังและเศษเหล็ก เราได้เดินหน้าผ่านโรงงานจนผมได้เจออาซาฮินะอยู่ในสายตา
「อ-อุว้าา……」
ช่างเป็นฉากที่น่าสยดสยองอย่างมาก
ตัวของอะไรที่คล้ายกับพวกนักเลงได้นอนอยู่ที่พื้น
หน้าของพวกเขาทั้งหมดได้บวมไปถึงจุดที่แยกแต่ละคนไม่ออก และพวกเขาทั้งหมดกระดูกหักไปทั้งตัว
อาซาฮินะน่าจะทำสิ่งนี้
เดชะบุญ มันดูเหมือนทุกคนยังมีชีวิตอยู่
งั้น――
「ไอ้เหี้ย ไอ้หน้าเหี้ยหัวเอ็น มึงกล้าดียังไงมาเรียกยูกะว่าส้วม กูจะไม่ยกโทษให้มึง」
ระหว่างที่พึมพำอยู่ในภวังค์ อาซาฮินะเตะนักเลงที่นอนอยู่บนพื้นด้วยกำลังทั้งหมดของเธอ
「เธอเห็นภาพหลอนจากพิษใช่มั้ย」
กลืนน้ำลายของผม ผมถามทามะมูชิที่ยืนอยู่ต่อจากผม
อาซาฮินะอยู่ในระยะความสามารถของเผม ดังนั้นผมสามารถจะเห็นว่าเธอคิดอะไอยู่ตอนนี้ และเมื่อผมทำ ผมเห็นความโกรธที่ลุกไหม้ใส่พวกนักเลง
ไม่ว่าอย่างไร มันไม่ได้ดูเหมือนว่าเธอได้ถูกมีผลโดยภาพหลอน ความใจเย็นและโกรธสุดขีด คือนั่นที่เหลืออยู่ในเธอ
「พิษอาจจะไม่มีผลซักนิดเนื่องจากการทำใจให้คมสุดขีด」
กลืนน้ำลายของเธอ ทามะมูชิพึมพำขณะที่เหงื่อหยดลงจากแก้มของเธอ
มันไม่มีผลเลยซักนิด…อย่างที่คาดกับความดื้อรั้นของจิตใจที่ดั่งสัตว์ประหลาด
ด้วยนั้นที่พูด อาซาฮินะก็อยู่ในสภาพผ้าขี้ริ้วเหมือนกัน
มันเป็นเพราะเธออยู่ในโหมดป้องกัน เพื่อที่จะปกป้องยูกะ จนกว่าเธอจะถูกช่วยโดยนานะฟูชิ
ขอบคุณนานะฟูชิที่ช่วยอยู่กะ เธอควรจะมีโอกาสโจมตีสวน แต่เธอน่าจะได้รับความเสียหายไปมากเกินไปแล้ว
แมลงข้างในของอาซาฮินะสามารถให้เธอฟื้นฟูจากความบาดเจ็บ แต่ไม่เหมือนริกกะและทามะมูชิ มันใช้เวลาเพื่อรักษา
ด้วยเหตุผลนั้น เธอได้ถูกซัดค่อนข้างแย่ แต่จากการสนับสนุนของมอธที่ทามะมูชิได้ส่งออกมา กระดานได้พลิกและจากที่เห็น ตอนนี้ปัจจุบันนี้เธออยู่ระหว่างการเตะศพ
พวกนักเลงได้โดนพิษภาพหลอนนั้นน่าจะไม่รู้ถึงการเตะของอาซาฮินะอย่างสมบูรณ์ และตอนนี้ได้อยู่ในสภาพฝันอยู่
มันดูเหมือนอาซาฮินะไม่ได้ปลดปล่อยการเตะถึงตาย ดังนั้นผมเดาว่าผมจะปล่อยเธอจนกว่าเธอจะพอใจ
หลังจากที่รอซักพัก ในที่สุดอาซาฮินะก็ได้พอใจกับงานของเธอ และหยุดเตะนักเลงที่นอนอยู่บนพื้นจากนั้นเริ่มเดินออกมาเร็วๆ
ผม ผู้ที่นั่งอยู่ในเงารอเธอ ยืนขึ้นแล้วเดินไปหาเธอ
และยืนในทางที่เธอกำลังจะเดิน
「โย่ เธอดูน่วมๆนะ พวก」
ผมบอกอาซาฮินะด้วยรอยยิ้ม และอาซาฮินะที่เดินอย่างเร็วหยุดและยืนอยู่กับที่ จากนั้นเธอมองผมและยิ้ม
เธอน่าจะพูดบางอย่างที่เสียดสี
ด้วยความคิดนั้นวิ่งผ่านในใจผม――
「โมทาโร่ ชั้นรักนาย ♥」
ด้วยหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และแก้มที่ย้อมเป็นสีแดง อาซาฮินะพึมพำบางอย่าง
หืมม เออ๋ ย-ยังไงซะ ผมคิดว่าผมฟังเธอผิด
「นายมาเพื่อช่วยชั้น ♥ ชั้นขอโทษที่ไม่จริงใจกับความรู้สึกมาตลอดเวลานี้ ♥ แต่วันนี้มันต่างออกไป ♥ ชั้นรักนาย ♥」
พูดสิ่งนั้นระหว่างที่ยิ้มอย่างเต็มอกเต็มใจด้วยแก้มแดง อาซาฮินะเริ่มเดินมาหาผม
เดี๋ย-เดี๋ยวก่อนดิ้ ผมคิดว่าผมฟังผิด
อ่า ไม่ ผมเข้าใจมัน มันเป็นการเสียดสี อาซาฮินะพูดมันอย่าเสียดสี
ถ้าผมเชื่อเธอ จากนั้นเธอจะพูด “เหมือนว่านั่นจะจริงหน่ะ ไอควายยย” เธอน่าจะมีความคิดนั้นอยู่ในใจ
พฟิ้ว~ นั่นมันใกล้ไปละ ผมเกือบจะตกไปใส่เล่ห์กลของเธอ――
「โมททโร่คิดยังไงกับชั้น? เมื่อชั้นคิดเกี่ยวกับมัน มันเติมเต็มชั้นไปด้วยความวิตกกังวลและมันทนไม่ได้เลย แต่ที่สำคัญที่สุด มันไม่ได้อยู่ที่ว่าโมทาโร่รักชั้นหรือไม่ มันเกี่ยวกับว่าชั้นรู้สึกกับนายยังไง และชั้นรักนายโมทาโร่ ♥ ชั้นรักนายจริงๆมากๆจริงๆ ♥」
อาซาฮินะที่ไม่หยุดเดินตอนนี้ได้อยู่ต่อหน้าต่อตาผม กอดผม ยืนบนปลายนิ้วและพาริมฝีปากของเธอมาที่หูของผม กระซิบในเสียงหวาน
ข-ขนลุก มันมีขนลุกทั่วทั้งตัวผม
น-นั่นมันมุข ใช่มั้ย? มันเป็นการเสียดสี ใช่มั้ย?
เหี้ย เธอได้แต้มไปจากผม ผมยอม ผมยอม ผมไม่คิดว่าเธอจะทำบางอย่างแบบนี้
ผมเข้าใจมันแล้ว ง้นมันก็ได้เวลา――
「เมื่อวานนี้ ชั้นขอโทษที่บอกเรื่องโกหกกับนายเกี่ยวกับที่ชั้นช่วยตัวเอง ระหว่างที่คิดถึงทานากะ-คุง ♥ ความเป็นจริงก็คือ นี่ไม่ต้องพูดเลย แต่ชั้นได้ดื่มด่ำกับการช่วยตัวเองของชั้น ระหว่างที่โมทาโร่ทำชั้นแรงๆ ♥ ได้โปรดเถอะ นายลงโทษยูที่สิ้นหวังคนนี้ที่โกหกนายได้มั้ย? ♥」
การกระซิบที่หวาน และเต็มไปด้วยความรัก เดินทางมาที่หูผมและลงไปที่สันหลัง
มันโกหก ไม่มีทาง นี่ไม่ใช่อาซาฮินะ
แต่ผมมองดูใจของอาซาฮินะได้ แต่การแสดงของเธอมันเชื่อถือได้มาก จนผมไม่เห็นเศษเสี้ยของการหลอกลวง
ทุกอย่างที่เธอพูดมาจากก้นบึ้งของหัวใจเธอ
แต่ ไม่มีทางที่อาซาฮินะจะพูดบางอย่างแบบนี้
นั้นเป็นเรื่องที่แน่นอน
จริง
「น-นายเป็นใคร! นายเป็นผู้ใช้ความสามารถที่เลียนแบบรูปลักษณ์ของอาซาฮินะเหรอ!?」
ตะโกนขณะที่ผมพยายามจะถอยออกจากอาซาฮินะปลอม อย่างไรก็ตาม อาซาฮินะไม่กระดิกเลยซักนิด
「ชั้นเป็นใคร? ฟุฟุ ชั้นเดาว่านายอยากให้ชั้นพูดมัน ♥ ชั้นอาซาฮินะ ยู ♥ ชั้นอาซาฮินะ ยู ผู้ที่รักโมทาโร่มากมายจนมันทนไม่ได้ ♥ ชั้นอาซาฮินะ ยู ที่อยากจะให้โมทาโร่ลงโทษเธออย่างหนักในแบบที่ลามก♥ ชั้นเป็นบ้ากามสุดขีดและมาโซคิสม์ และทาสส่วนตัวของนายชื่อว่า อาซาฮินะ ยู ♥」
「อา……อาาา……」
หยุด ได้โรปดหยุด ผมจะไม่มีวันพูดถึงหน้าของเธอ ตาของเธอ เสียงของเธอ และเกี่ยวกับความตายของเธออีกต่อไปแล้ว
มันขยะแขยงมากและมันทำให้ผมบ้า
「น-นี่ บางทีนี่คือ……ผลข้างเคียงจากพิษ」
หันไปหาเสียง ผมเห็นทามะมูชิมองขึ้นมาหาอาซาฮินะด้วยหน้าตาที่จริงจัง
ผลข้างเคียงของพิษ?
「มันเป็นพิษที่ทำให้เกิดภาพหลอน แต่ความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ของอาซาฮินะที่จะซัดพวกนักเลงได้ระงับผลนั้น ดังนั้นเธอสามารถที่จะซัดพวกนักเลง ระหว่างที่ยังมีพิษวิ่งอยู่ในตัวเธอ」
「ล-แล้วนั่นมันเกี่ยวอะไรกับนี่ละ」
「ถ้าพูด พิษมันได้ผลแน่นอน ยังไงก็ตามสำหรับกรณีของอาซาฮินะ มันเสือกสุดขีด และเธอได้อยู่ในสภาพของการอยู่ในภวังค์ แยกไม่ออกว่าอะไรเป็นการหลงผิดและความเป็นจริง ซึ่มมันเปลี่ยนในเธอเพียงแต่จริงใจกับตัวเธอเอง」
「《เเเเเเอออออออ๋!?》」
พิษที่ทำให้เธอจริงใจเหรอ? พิษอันตรายอะไรแบบนั้น!
「นั่นใช่แล้ว ♥ ปรกติแล้ว ชั้นไม่มีวันจะจริงใจกับความรู้สึกชั้นได้ ♥ แต่ตอนนี้ชั้นสามารถจะจริงใจกับตัวเองได้อย่างเป็นธรรมชาติด้วยเหตุผลบางอย่าง ♥ ชั้นรู้สึกสดชื่นจัง ♥ และมีความสุข♥ เพราะชั้นตอนนี้พูดกับนายได้อย่างตรงไปตรงมาว่าชั้นรักนาย ♥」
「อุว้า- อุว้าาาาาาาา หยุด ได้โปรดหยุดดดดดดดดด」
การกระทำที่อาซาฮินะกระซิบอย่างอ่อนโยนในหูผมด้วยเสียงหวานขณะที่เธอหอมจุ้บปิดปากบนแก้มผม มำให้ใจผมกรีดร้องในความเจ็บปวด
「ทา-ทามะมูชิ! เธอทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้เลยเหรอ!? จิตใจของชั้นจะไม่สามารถทนที่ถ้ามันดำเนินต่อไปนานกว่านี้!」
เกาะอยู่กับความคิดของผม ผมขอความช่วยเหลือจากทามะมูชิ
อาซาฮินะตอนนี้น่าขยะแขยงมากกว่าหนอนที่น่าขยะแขยงที่สุดที่มีตัวตนอยู่บนโลกนี้
「เมื่อผลของพิษหมดไปเธอน่าจะกลับมาที่ตัวแบบเดิมของเธอ ไม่มีความเสียหายหนิ ชั้นหมายถึง ใครสนล่ะ?」
「มันสร้างความเสียหายให้จิตใจชั้น!」
เมื่อผมซึโคมิไปใส่คำพูดที่ไม่ไยดีของทามะมูชิ เธอยกมือขวาของเธอเพื่อปิดการหัวเราะของเธอ และเล็ดเสียง “ปุ ปุ” ออกมา
「ชั้นอยากจะเห็นซูซูฮาระเสียความสงบของเขาไปเป็นครั้งแรก ชั้นไม่มั่นใจว่าจะอธิบายมันว่าสดใหม่หรือน่ารักดี」
「《เฮ้ย》ทามะมูชิ อีเวรหยุดหัวเราะชั้นได้แล้ว! ชั้นอยู่ในปัญหาจริงจังที่นี่นะ!」
หลังจากที่วิจารณ์ทามะมูชิที่มีมือขวาของเธอปิดปากของเธอ เธอเล็ดเสียงหัวเราะ “ปุปุปุ” ออกมามากกว่าเดิม หัวของผมได้ถูกจับและถูกบังคับให้หันไปข้างหน้า
ต่อหน้าต่อตาผมคือหน้าของอาซาฮินะ
เธอจ้องผมด้วยตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ และด้วยแก้มของเธอที่ย้อมเป็นสีแดง ริมฝีปากสีลูกพีชของเธอเริ่มเคลื่อนไหว
――ซุ-กิ♥*
TLN: ชอบ
โดยไม่ได้ส่งเสียง อาซาฮินะขยับริมฝีปากของเธอเป็นรู้ร่างของคำเหล่านี้ และยิ้มขณะที่เธอเอียงหัวของเธอที่มีทวินเทลสีดำยาว
ตรงที่เป็นตัวอย่างของหญิงสาวน้อยๆที่ได้ตกหลุมรักอย่างลึกซึ้ง
「ช-ชั้นผิดไปแล้ว……」
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตผมที่ผมรู้สึกอยากร้องไห้――
「ชั้นผิดไปแล้วววว! อาซาฮินะ ได้โปรด กลับไปเป็นเธอแบบเดดดิมมมมมมม!」
ผมรู้สึกช่วยไม่ได้นอกจากจะตะโกนนั่นออกมา
—————————————————————
เดเระ-อาซาฮินะ 「ซุกิซุกิ ไดซุกิ ไอชิเตรุ* ♥」
TLN: suki(好き) = ซุกิ ชอบ < Daisuki(大好き) = ไดสุกิ รัก < Aishiteru(愛してる) = ไอชิเตรุ รัก/รักอย่างลึกซึ้ง ((ส่วนใหญ่ใช้ในคนสนิทแบบความสัมพันธ์ สามี/ภรรยา อาซาฮินะได้ใช้ ไอชิเตุ สำหรับการสารภาพรักส่วนใหญ่ในตอนนี้))
ซูซูฮาระ 「ไม่ จริงจังเลย เว้นให้ชั้นเถอะ นี่มันการทรมานแบบไหนกัน……」
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
TLN: 100 ตอนแล้วครับ เรามากันไกลนะครับ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามครับ
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord