เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด - ตอนที่ 62
ตอนที่ 62
ด่าผมอย่างงดงาม และไม่มีเจตนาจะล้มเลิกเลยซักนิด
อีเหี้ยอาซาฮินะแม่งน่ารำคาญ, นั่นทำไมผมถึงคิดว่าเธอเหมาะกับงาน
ความสามารถพิเศษ ไม่มีใครจะเชื่อมันแม้ว่าคุณคุยเกี่ยวกับมัน
พูดแบบนั้น, ถ้าคุณอธิบายแล้วพวกเขาเชื่อจริงๆ, พวกเขาก็คือไอโง่ที่ไม่คิดอะไรเลย
งั้น, คุณควรทำยังไงถ้าคุณต้องอธิบายเกี่ยวกับความสามารถพิเศษให้พวกโน้นที่ไม่โง่
คำตอบนั้นง่ายมาก
คุณแค่ต้องแสดงความสามารถพิเศษ
เพื่อทำให้เธอเข้าใจอันตรายของคามูโระ ฮิซูกิ, มันดีที่สุดที่จะให้เธอได้เห็นความสามารถของริกกะ
ผมได้ปล่อยให้ริกกะบาดเจ็บเพื่อพิสูจน์ความสามารถของเธอ
ริกกะที่หมดสติเป็นแค่สาวน้อยไร้เดียงสาเมื่อมองเห็น
ถ้าคุณพยายามจะทำร้ายสาวแบบนั้น, ปรกติแล้วคุณจะรู้สึกรังเกียจ แล้วก็, คุณต้องทนมันอย่างไรก็ได้จนกว่าคุณจะยอมรับความจริงว่าความสามารถพิเศษมีอยู่
จากนั้น, คุณต้องการพลังใจที่แข็งแกร่ง และพลังใจของอาซาฮินะแข็งแกร่งในระดับที่เหนือกว่าไปอีกระดับ
มันน่ารำคาญแต่อาซาฮินะเหมาะสำหรับมัน
แล้วก็, มีอีกอย่างที่อาซาฮินะเหมาะสม
อิทธิพล
อิทธิพลของอาซาฮินะกับรอบข้างนั้นใหญ่มาก
เมื่ออธิบายกับทุกคน, ถ้าอาซาฮินะยืนยันการพูดของผม, พลังการเกลี้ยกล่อมจะมากขึ้น
ยูกะ และคิซารากิอยู่ฝ่ายอาซาฮินะ, มารินะจะไม่ต่อต้านอาซาฮินะด้วย ยูกินะเป็นอีโง่งั้นเว้นเธอไว้ และโลลิฮินะเป็นน้องสาวอาซาฮินะ
มันไม่มีใครเหมาะที่จะทำให้ทุกคนมั่นใจยกเว้นอาซาฮินะ
ผมเอาอาซาฮินะไว้ในห้องผมและแบกริกกะ ที่ผมทิ้งไว้ข้างนอกบ้านตรงขอบสวน และกลับเข้ามา
「อาซาฮินะ, เธอเชื่อในสิ่งลึกลับมั้ย」
เข้ามาที่ห้อง, ผมถามอาซาฮินะ
「นี่เกี่ยวกับอะไร?」
นั่งบนเตียงของผม, กอดอกอยู่หน้าหน้าอกที่ไม่มีนมของเธอ, อาซาฮินะไขว่ห้างอย่างหยิ่ง และถามผมด้วยหน้าตาที่สงสัย
เธอน่ารำคาญแต่นั่นทำไมผมควรให้เธอรู้ความสามารถของริกกะก่อน
ผมไม่ได้มีเจตนาจะพูดว่า ‘เป็นพวกชั้น’ มันโอเคตราบใดที่เธอเข้าใจความสามารถริกกะและระวังตัว
ถ้าอาซาฮินะได้ระวังตัว, ทุกคนจะระวังและตั้งคำถามกับหลายอย่าง
ถ้ามาซาฮินะระวัง นั่นอย่างเดียวก็พอแล้วที่จะเป็นการกล่อม
「มีบางอย่างที่ชั้นอยากให้เธอเห็น」
พูดสิ่งนั้น, ผมวางริกกะลงและนำชุดที่ห่อตัวเธอออก
อาซาฮินะที่นั่งอยู่บนเตียงมองอย่างสงสัยและเข้ามา จากนั้นー
「อะไ?!」
ทันทีที่เธอเห็นริกกะ, ตาของเธอเบิกกว้างและขึ้นเสียง
「น-นายทำอะไรลงไป สาวคนนี้อายุเท่ากับยุย?! นายทำเรื่องที่น่ากลัวกับเด็กแบบนี้…」
มองริกกะด้วยตาที่สั่น, เสียงของอาซาฮินะสั่น ขณะที่เธอมองผมด้วยหน้าที่คิ้วขมวด จากนั้น, เธอจับคอเสื้อผม
ความโกรธของอาซาฮินะนั้นปรกติ ถ้าเธอเห็น “ร่าง” ของริกกะโดยไม่รู้สถานการณ์ซักนิด
ตัววัยเยาว์ที่เปลือยได้ถูกเปิดเผย, ทั้งสองมือและเท้าถูกผูกเหมือนกุ้ง, ตาเหลือกขาวและเธอกระตุกโดยมีฟองออกจากปาก, มากกว่านั้นแขนขวาบิดไปในทิศที่ไม่ปรกติ
ถ้าเธอไม่รู้อะไรเธอจะคิดว่าผมลักพาตัวเด็กแปลกหน้าแล้วทรมานเธอ
「อย่างที่คาดกับเธอ, เธอจ้องชั้นโดยไม่กรีดร้อง」
「นายไม่ถูกปล่อยผ่านโดยแค่เรื่องตลกนะ นายรู้มั้ยว่าแม้แต่ว่านายทำอะไรอยู่มั้ย?」
พูดกับอาซาฮินะด้วยรอยยิ้ม เธอจ้องผมด้วยตาที่ฆ่าได้ และเสียงที่สั่นขณะที่เธอจับคอเสื้อผม
เสียงของเธอสั่นจากความโกรธ, ไม่ใช่ความกลัว
「เธอเป็นคนที่พูดว่าชั้นไม่ทำสิ่งรุนแรงโดยไม่มีเหตุผล」
สีหน้าของอาซาฮินะเปลี่ยนเมื่อผมพูดอย่างนั้น
「ใช้ชั้นอธิบายคร่าวๆ ชื่อของเธอคือริกกะ เธอถูกมัดเพราะเธอจะฆ่าชั้น ถ้าชั้นไม่ทำ」
「ห๋า?」
「เธอมีพลังที่ฆ่าชั้นได้อย่างง่ายดาย ไม่ใช่แค่ชั้น เธอมีพลังที่จะฆ่าชายสิบคนในทันที สั้นๆก็คือ, สัตว์ประหลาด」
「นายพูดอะไー」
「ไม่มีความจำเป็นที่ต้องบังคับตัวเธอเองให้เข้าใจชั้น ชั้นจะให้เธอเห็นด้วยตาของเธอเอง ว่าเธอเป็นสัตว์ประหลาดแค่ไหน」
อาซาฮินะจะไม่เข้าใจไม่ว่าผมจะอธิบายสถานการณ์นี้ขนาดไหน ไม่ใช่แค่อาซาฮินะ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ใคนก็ตามเข้าใจ ดังนั้น, ผมต้องแสดงให้ดู
「เอามือถือเธอออกมา」
「เอ๋?」
「แค่ทำมันน่า」
อาซาฮินะมองอย่างสงสัยจากที่ผมพูด, เธอนำมือถือออกมาจากกระเป๋าระหว่างที่จ้องผม
「ชั้นจะแทงเธอด้วยมีด」
「อะไ?!」
「ริกกะจะไม่ตาย แผลเธอจะรักษาทันทีในทางตรงกันข้าม」
「อ-อย่าพูดเพ้อー」
「เรียกตำรวจถ้าเธออยากหยุดชั้น」
เรียกตำรวจ คำพูดมันใหญ่ อาซาฮินะปล่อยมือเธอจากคอเสื้อของผม
「สาวคนนี้เป็นศัตรูกับนาย?」
「ใช่」
「ทำไม?」
「มันจะใช้เวลาเพื่ออธิบาย ยังไงก็ตาม ชั้นอยากให้เธอเข้าใจว่าเธอคนนี้เป็นสัตว์ประหลาด」
อาซาฮินะดูยังไม่มั่นใจ, แต่เธอไม่ม่ทางเลือกนอกจากเห็นด้วย
「ชั้นไม่ได้บอกให้เธอเชื่อชั้น ชั้นไม่ต้องการให้เธอเชื่อใจชั้น แต่, ชั้นอยากให้เธอเห็นว่าเธอคนนี้อันตรายแค่ไหนด้วยตาของเธอเอง」
ตาของอาซาฮินะสั่นจากคำพูดผม
「มันเป็นไปได้ว่าคามูโระ ฮิซูกินั้นอันตรายมากกว่าเธอคนนี้ แต่มันยากที่จะเข้าใจโดยไม่มีพื้นฐานใช่มั้ย? นั่นทำไมชั้นจะใช้ริกกะเป็นแหล่งอ้างอิง ถ้าเธอรู้ว่าสัตว์ประหลาดคนนี้อันตรายแค่ไหน, เธอจะเข้าใจได้ถึงอันตราย ของคามูโระ ฮิซูกิ」
อธิบายกับอาซาฮินะแบบนั้น, เธอฟังคำอธิบายของผมด้วยตาที่สั่นแต่สีหน้าเธอแน่น จากนั้น, เธอโยนมือถือของเธอลงบนเตียง
「นายไม่ใช้ความรุนแรงที่ไม่มีเหตุผล แน่นอนว่ามันเป็นชั้นที่พูดอย่างนั้น ดีมาก, ชั้นจะเชื่อใจตัวชั้นเอง」
พับแขนของเธอและพองหน้าอกที่ไม่มีอยู่, อาซาฮินะพูดในท่าทางที่หยิ่งอย่างท่วมท้น
อา, น่ารำคาญ ผมอยากจะฝึกเธอและทำให้เธอแตก
「ยังไงก็ตาม, ชั้นก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับพฤติกรรมบ้าๆของนายด้วย เธอเกิดอะไรขึ้นเก็บเด็กสาวคนนี้ ชั้นจะพานายไปหาตำรวจ」
「ได้ เข้าใจแล้ว」
ผมพยักหน้ากับอาซาฮินะ
ความสามารถของผมตอนนี้ไม่ใช่แค่ “มอง” ข้างในตัวของมนุษย์
แต่, “เข้าใจ” ด้วยนั้น, ผมสามารถเข้าใจได้ว่าหัวใจของอาซาฮินะได้เต้นอย่างเข้มข้น นั่นไม่ใช่ทั้งหมด กล้ามเนื้อทั้งตัวของเธอได้เกร็งในระดับ “ปานกลาง”
เธอซีเรียส อาซาฮินะซีเรียส ในกรณีที่บางอย่างเกิดขึ้นเมื่อผมแทงตัวของริกกะ เธอจะพาผมไปหาตำรวจจริงๆไม่ว่ายังไง แม้ผมจะพลิกกระดานและจับเธอ, เธอจะไม่ยอมแพ้
แม้ว่าเธอตาย
「เธอขาดสามัญสำนึกนะ」
เมื่อผมถามเธอ, อาซาฮินะส่งเสียงทางจมูก
อาซาฮินะซีเรียส แต่เธอ “อนุญาต” ให้ผมแทงริกกะ
ปรกติคุณจะไม่
ไม่, เธอกลัวการตอบโต้ของการต่อต้านผมดังนั้นเธออนุญาติมันภายนอก แต่, อาซาฮินะไม่กลัวผมเลยซักนิด, เธออาจจะอนุญาตพฤติกรรมที่ผิดปรกติของผม แต่ในเหตุฉุกเฉิน, เธอจะใช้พลังทั้งหมดของเธอเพื่อทำลายผม
พลังใจของเธอนั่นเพียงพอที่จะพูดว่ามันไม่ปรกติ แต่, นั่นทำไมผมรู้สึกไม่สบายใจ
อาซาฮินะได้เปลี่ยนไปมาก เธอเห็นแก่ตัวและกดชอบกดขี่ก่อนหน้า แต่เธอได้แข็งแกร่งขึ้น
โดยเฉพาะ “ใจ” ของเธอ
ผมไม่รู้เกี่ยวกับอาซาฮินะคนเก่า, แต่อาซาฮินะคนปัจจุบัน สามารถบอกตำรวจอย่างมั่นใจได้ว่าเธอถูกข่มขืนโดยผม
เพื่อที่จะข่มขู่อาซาฮินะ, ผมได้ถ่ายรูปและอัดวีดีโอของการถูกข่มขืนโดยผม อาซาฮินะรู้สิ่งนั้นด้วย แต่อาซาฮินะตอนนี้จะไม่ถูกข่มขู่ด้วยสิ่งของแบบนั้น
งั้น, ทำไมอาซาฮินะไม่พยายามจะขยี้ผมล่ะ?
เป็นเพราะผมช่วยยูกะ? หรือมันเป็นเหมือนที่เธอพูด, เธออยากจะขยี้ผมด้วยมือของเธอเอง หรือเป็นไปได้มั้ยว่าเธอตั้งใจจะทำตามคำพูดของเธอเกี่ยวกับการเป็นทาสของผม
ไม่ว่าทางไหน, อาซาฮินะนั้นไม่ปรกติเหมือนผม อย่างไรก็ตาม, ทิศทางของเราค่อนข้างต่างกัน
มีความคิดอย่างนั้น, ผมนำมีดตัดกระดาษออกมาจากลิ้นชัก มันไม่เหมาะต่อการตัดเนื้อแต่มันพอที่จะแทง
แม้ว่า, ตัวริกกะไม่ปรกติ ปัญหาคือว่ามันจะไปได้ดีมั้ย
ยังไงซะ, ผมสามารถจิ้ม “ช่องว่าง” ได้ด้วยความสามารถผมและมันจะโอเค
「งั้น, ชั้นจะแทงเธอแล้วนะ」
กลับไปที่ริกกะ, ผมยองลงและบอกอาซาฮินะ
「นายพูดมันเหมือนเรื่องเบาๆ」
กอดอกของเธอระหว่างที่มองลงมา, อาซาฮินะพูดระหว่างที่ส่งเสียงทางจมูก
「ชั้นไม่มีงานอดิเรกที่ชอบแทงคน ชั้นทำเพราะมันจำเป็น ชั้นไม่อยากจะแทงยกเว้นเมื่อจำเป็น ชั้นชอบแทงด้วยเจ้าหนูมากกว่ามีด」
「อย่างนั้นเหรอ? คนอย่างนายเค้าเรียกว่าไซโคพาธ, ชั้นพูดผิดมั้ย?」
ไซโคพาธ? ยังไงซะ, ผมไม่ปฏิเสธมัน
จับมีดตัดกระดาษด้ววยมือขวา, ผมจับไหล่ของริกกะด้วยมือซ้ายและเหวี่ยงมือขวา
โครงสร้างของตัวเธอต่างจากคนปรกติอย่างชัดเจน
ริกกะล้วงท้องด้วยมือของเธอเองแต่มันเป็นไปได้เพราะความสามารถของเธอเท่านั้น บางทีมันอาจจะยากเกินไปกับความสามารถของผม
แต่, ตัวของริกกะที่สามารถเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง; มันยืดหยุ่นและมีช่อง สั้นๆก็คือ, ส่วนเชื่อมต่อของกล้ามเนื้อ ถ้าผมเล็งไปที่นั่นー
ผมแทงมือขวาที่เล็งไปที่ส่วนเชื่อมต่อของกล้ามเนื้อด้วยพลังทั้งหมด
มีดตัดกระดาษเข้าไปในท้องเธออย่างราบรื่น
มันแทงได้ง่ายจนมันเป็นเรื่องที่ผิดหวัง
สามารถรู้โครงสร้างของตัวศัตรู, นี่อาจจะเป็นความสามารถที่น่าทึ่งมากกว่าที่ผมคิดมาก
ผมพยายามจะดึงมีดออกแต่ผมรู้สึกถึงแรงต้านต่างจากเมื่อผมแทงมันอย่างสุดขีด
กล้ามเนื้อของเธอเกร็ง?
ผมใส่กำลังเข้าไปแล้วดึงมีดออกมาโดยบังคับ
ผมแทงท้องของเธอ เลือดสีแดงได้ซึมออกมา
เพราะผมเล็งไปที่ช่องว่าง, เลือดไม่ออกมาเยอะมาก
แต่, นั่นไม่สำคัญ
「อาซาฮินะ」
「ได้, ชั้นดูอยู่」
เมื่อผมเรียกอาซาฮินะ, เธองอตัวของเธอและดูท้องของริกกะ
แม้ว่าเธอเพิ่งเห็นภาพที่คนถูกแทง, เธอแค่ดูแผลโดยไม่ส่งเสียงร้อง
แม้ว่าเธอดูดี, เธอเป็นผู้หญิงที่อุกอาจ
ฟองได้เริ่มออกมาจากเลือดและแผล, จากนั้นแผลหายไปทันทีที่ควันสีแดงลอยขึ้นไป
「…ม-ไม่มีทางน่า!?」
อาซาฮินะที่เห็นสถานการณ์ของแผลได้ปิดทันที, ส่งเสียงที่สั่นด้วยตาที่เบิกกว้าง
「อยากเห็นมันอีกครั้งมั้ย? นี่เป็นความสามารถรักษาขั้นสูง, แม้ว่าเธอได้รับแผลถึงชีวิต, มันจะรักษาในทันที แต่พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ รักษาขั้นสูงของเธอกินพลังงานเพื่อทำให้มันสมดุลย์ นั่นทำไมชั้นไม่อยากจะแสดงให้เธอดูหลายครั้งจริงๆ เธอจะตายถ้าเธอทำมากเกินไป」
อธิบายมันให้อาซาฮินะที่งอตัวมาข้างหน้า, เธอจ้องท้องของริกกะแล้วกลืนน้ำลาย
「อีกกี่ครั้งที่มันโอเคที่จะแทงอีก?」
อาซาฮินะส่งสายตามองข้างมาหาผมจากนั้นถามสิ่งนั้น
อย่างที่คาด ไกลจากความกลัว, เธอถามคำถามออกมา
มากกว่านั้น เธออยากจะเห็นจังหวะที่แผลรักษาอีกครั้ง
สั้นๆก็คือ, มันเหมือนกับบอกผมให้แทงริกกะอีกครั้ง
「ชั้นก็ไม่รู้ถ้าพูดจากใจ ชั้นเดาว่า เราลองแล้วลองอีกได้ถ้าเธอฟื้นฟูพลังงานของเธอ แต่ตอนนี้มันสถานการณ์อันตราย ชั้นไม่อยากจะแทงเธอมากกว่านี้ถ้าเป็นไปได้ มันจะมีปัญหาถ้าเธอตาย」
ได้ยินที่ผมพูด, อาซาฮินะมองริกกะ
「ความสามารถอื่นของเธอล่ะ? มีแค่รักษาขั้นสูงเหรอ」
「ไม่, เธอมีความแข็งแรงของกอริลลา, ความเร็วของเสือชีต้าและตาที่มองสิ่งเคลื่อนไหวได้เหนือกว่าเหยี่ยว」
「มันเป็นบางอย่างที่ยากที่จะเชื่อฉุกละหุก」
「โอ้, เธอพูดถูก แต่, นั่นคือความจริง」
อาซาฮินะที่มองริกกะมีเหงื่อไหลอาบแก้มระหว่างที่ฟังผม
「บางที, เธออาจจะทำลายกำแพงคอนกรีตได้ด้วยมือของเธอ การกระโดดตรงๆพลังของมันมากกว่าสามเมตร เมื่อมันเป็นเรืองของการเร่งความเร็ว, เธอไปจากศูนย์ถึงสูงสุดได้ในทันที ชั้นคิดว่าเธอสามาตรวิ่งร้อยเมตรได้ในสองถึงสามวินาที, มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมองมันด้วยสายตามนุษย์ ลองซัดหมีน้ำตาลยักษ์จากมุมด้วยมือเปล่า, มันเป็นอย่างนั้น」
พบควรจะพูดมันด้วยตัวเองแต่, ริกกะสามารถซัดหมีน้ำตาลได้ด้วยมือเปล่า มากกว่านั้น, เธอจะไมม่บาดแผลบนตัวเธอเอง
ผมทำได้ดีที่เอาชนะสาวแบบนี้ได้
「ถ้าที่นายพูดมันจริงงั้นเธอก็เป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ」
อาซาฮินะพึมพำกับตัวเธอเอง
มันเป็นอย่างนั้น มันช่วยชั้นที่เธอเข้าใจ
「แข็งแกร่ง, เคลื่อนไหวรวดเร็ว, รักษาแผลได้ในพริบตา, และแม้แต่มีใบหน้าที่สวยงาม เธอเหมือนแวมไพร์ในเรื่องเล่าเก่าๆ」
「ไม่เธอไม่ใช่พวกที่ไม่ใช่ทางกายภาพแบบนั้น เธอไม่สามารถหายตัวได้ไม่ว่าเธอจะเร็วเท่าไหร่ และถ้าตัวเธอได้รับการโจมตีที่เหนือกว่าการป้องกันของเธอ, ตัวเธอจะถูกทำลาย และมันมีขีดจำกัดของการรักษาขั้นสูงของเธอด้วย เธอเอาชนะเธอคนนี้ได้ง่ายๆถ้าเธอรู้ว่าทำยังไง」
「ยังไง?」
「ไม่ใช่ว่ายาสลบได้ผลเหรอ? แล้วก็, การช็อตไฟฟ้า ชั้นว่าการโจมตีการหายใจของปอดด้วยน้ำก็ยังมีผลด้วย ไฟควรจะมีประสิทธิภาพด้วยเหมือนกัน เธอจะหมดสติถ้าเธอสูดควันเข้าไปด้วย เธอเหนือกว่าความรู้ของมนุษย์แต่เธอยังเป็น “มนุษย์” ในท้ายที่สุด มันยังมีหลายวิธิที่เธอจะจัดการกับเธอคนนี้ เมื่อเธอจับเธอคนนี้, เธอสามารถตัดแขนขาเธอด้วยอุปกรณ์ช่าง และมันเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอที่จะต่อต้านถ้าแขนและขานั้นหายไป แล้วก็, มันเป็นไปได้ที่จะฆ่าเธอ」
เธอจะรักษาทันทีเมื่อเธอรับการโจมตีถึงตาย งั้น, ทำไมคุณไม่เล็งไปที่หัวใจริกกะระหว่างที่รักษาขั้นสูงทำงานอยู่ล่ะ
บางที่, เธออาจจะสามารถหลบการตายเฉียบพลัน
ตัวของริกกะจะไม่ตายจนกว่าเธอจะได้รับการบาดเจ็บถึงชีวิต
พูดอีกอย่าง, หัวใจของริกกะเป็นจุดอ่อนของเธอเหมือนคนปรกติ
ผมไม่รู้เกี่ยวกับสมองเธออย่างไรก็ตาม สมองเธอเป็นตัวตัดสินการบาดเจ็มที่ถึงชีวิตหรือมันเป็นเซลล์ของร่างกายเธอ?
ถ้ามันเป็นอย่างแรก, ทำลายสมองเธอแล้วเธอจะตาย แต่เธอจะไม่ตายแม้ว่าคุณทำลายสมองเธอถ้ามันเป็นอย่างหลัง
ถ้าเซลล์ร่างกายของเธอตัดสินมันแทนที่จะเป็นสมองของเธอ, มันควรจะยังเป็นไปได้ที่จะใช้งานการรักษาขั้นสูงแม้ว่าหัวใจเธอหยุดเต้น
ยังไงซะ, ตัวริกกะเองไม่คุ้นชินกับการใช้งานการรักษาขั้นสูง ริกกะอาจจะไม่รู้ด้วยเหมือนกัน ดังนั้น เธอไม่มั่นเจอเธอเลยจะเลี่ยงการโจมตีหัวใจของเธอเอง
「แต่ชั้นมีคำถามนึงนะ」
อาซาฮินะงอตัวขณะที่มองริกกะจากนั้นเธอกอดเข่าของเธอแล้วมองผม
「นายจับ “นี่” มาได้ยังไง?」
คำถามของอาซาฮินะค่อนข้างธรรมชาติ
มันเป็นไปได้ที่จะทำถ้าเตรียมแผนการ กับคนจำนวนหนึ่งแต่มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน สำหรับผมที่จะจับเธอ
นั่นเป็นเพราะผมมีความสามารถพิเศษ คือที่ผมอยากจะพูด แต่ผมไม่สามารถให้เธอรู้ได้ว่าผมมีความสามารถพิเศษ
「ไม่ว่าสัตว์ป่าจะแข็งแกร่งมากขนาดไหน, พวกมันไม่มี “ความภาคภูมิ” พวกมันจับเหยื่อของมันอย่างดีที่สุด และเอาชีวิตของพวกมันไปก่อนอะไรทั้งสิ้น เพราะทั้งหมดมันอาจจะต่อต้านถ้ามันยังมีชีวิต แต่ริกกะ, เธอเป็นมนุษย์ เธอมี “ความภาคภูมิใจ” เพราะเธอมีพลังที่ยิ่งใหญ่ เธอสามารถกำจัดชั้นได้ทุกเวลาเธอเลยประเมินชั้นต่ำไป」
ผมอธิบายความจริงระหว่างที่ซ่อนความสามารถของผม
「งั้นนายจับเธอยังไง? ไม่ว่าเธอจะมอบโอกาสให้นายมากแค่ไหน, สาวคนนี้มีพลังพอที่เปลี่ยนสมดุลย์ของมัน ไม่ใช่เหรอ?」
「ใช่, มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะเธอด้วยพลังของชั้น นั่นทำไมชั้นนำเธอไปสู่การทำลายตัวเอง」
「การทำลายตัวเอง?」
「เธอมีพลังสูงมาก ดังนั้นการทำลายตัวเองของเธอก็ใหญ่ด้วย มันง่ายกว่าถ้าชั้นพูดว่ารถเบาๆความเร็วสูงวิ่งชนกำแพง, ใช่มั้ย?」
「โอ้, เข้าใจแล้ว」
อาซาฮินะพยักหน้าเห็นด้วยเมื่อผมมอบคำอธิบายให้เธอ
「งั้น, คำถามต่อไป」
「ไม่ใช่ว่าเธอบอกว่ามีแค่หนึ่งเหรอ?」
「ใครสนล่ะ ชั้นไม่เห็นว่ามันจะผิด」
เมื่อผมพยายามตอบโต้, อาซาฮินะแค่คิ้วขมวด
ขอโทษ ผมรักการจับผิดคน
「ชั้นเข้าใจว่าการรักษาขั้นสูงใช้พลังงานเยอะ ชั้นก็รู้ด้วยว่าเธออ่อนแอลงไป แต่, นายทำให้เธออ่อนแอขนาดนี้ได้ยังไง? เธออ่อนแอมาถึงขนาดนี้ด้วยแค่การทำลายตัวเองเหรอ? หรือนายทำให้เธออ่อนแอโดยการแทงเธอหลายครั้งเหมือนที่นายทำก่อนหน้านี้?」
ผมเกือบหัวเราะอย่างไม่ตั้งใจกับคำถามอาซาฮินะ
มันจริงๆแล้วเป็นคำถามที่ดี ผมรู้สึกอยากชมเธอที่สังเกตสิ่งนั้น
「ดูแขนขวาริกกะสิ」
「แขนขวา?」
อาซาฮินะดูอย่างสงสัยจากที่ผมพูดแต่เธอดูแขนขวาของริกกะ
แขนขวาของริกกะบิดไปในทิศที่ไม่ปรกติ จากนั้นมันพยายามโดยกำลังเพื่อกลับมาที่เดิม แต่เพราะมันถูกมัด มันไม่สามารถกลับมาเป็นปรกดิ ดังนั้นมันทำเสียงระหว่างที่งอไปมา
「แม้มันจะเป็นความบังเอิญ ถ้าเธอหักแขนของเธอคนนี้, มันจะหักและรักษาซ้ำ และการรักษาขั้นสูงของเธอจะไม่จบ จนกว่าแผลจะหาย ดังนั้นยกเว้นว่าแขนมันเชื่อมต่อ, ริกกะจะใช้พลังงานต่อไปเรื่อยๆ」
「มันจะไม่จบยกเว้นว่าเธอรักษาจนสมบูรณ์เหรอ? นั่นอะไร? ไม่ใช่ว่ามันแค่ยกเลิกเมื่อมันรักษาส่วนใหญ่เหรอ」
「มันไม่ใช่มันไม่ทำแต่มันทำไม่ได้ นั้นก็เป็นความเสี่ยงของพลังของเธอด้วย」
「นั่นมันไม่สะดวก」
「ถ้ามันไม่มีรถ, จะไมมีใครตายจากรถ ถ้าไม่มีเครื่องบิน จะไม่มีใครตายจากเครื่องบิน ถ้าไม่มีปืน, จะไม่มีใครตายจากปืน มันมีราคาที่ต้องจ่ายจากพลังที่ใหญ่」
「เข้าใจแล้ว」
อาซาฮินะมองผมข้างๆและพยักหน้า ระหว่างที่วางนิ้วของเธอไว้บนคาง
มันดูเหมือนในที่สุดเธอก็มั่นใจแล้ว
「งั้น, ความสามารถที่คามูโระ ฮิซูกิมีล่ะ? นายบอกว่าเธออันตรายกว่าเธอคนนี้?」
มันใจเกี่ยวกับริกกะ, มันดูเหมือนความสนใจเธอเปลี่ยนไปที่คามูโระ ฮิซูกิ
ผมอยากจะอธิบายทันทีแต่, มันอันตรายที่จะปล่อยริกกะไว้มากกว่านี้ เราต้องเติมพลังงานของเธอสำหรับตอนนี้
แต่ก่อนหน้านั้นー
「อาซาฮินะ, เธอมีต่างหูมั้ย?」
ผมคิดว่าเธอไม่มีแต่ผมแค่ถามเผื่อไว้
อาซาฮินะไม่ใส่ต่างหู ในทางตรงกันข้าม, เธอไม่มีเครื่องประดับแบบไหนเลย เครื่องประดับที่เธอมีอย่างเดียวคือเชือกยางที่รัดผมที่มัดทวินเทลของเธอ
มารินะและยูกะก็เหมือนกัน, แล้วผมก็ไม่สามารถคาดหวังอะไรได้กับยูกินะหรือโลลิฮินะ
ยังไงซะ, ผมควรใช้เข็มกลัดมั้ย?
「ชั้นมี」
「เอ๋?」
เพราะผมไม่ได้คาดคิดเลยซักนิด, ผมได้ส่งเสียงไปโดยสัญชาติญานเมื่ออาซาฮินะพูด
「นายจะทำอะไรกับต่างหู?」
「อ-โอ้, มันจะใช้พลังงานต่อเนื่อถ้าชั้นทำให้แขนเธอบาดเจ็บใช่มั้ย? แต่, การรักษาขั้นสูงของเธอจะหายถ้าชั้นปล่อยให้มันรักษา」
「โอ้, เข้าใจแล้ว, นั่นทำไมนายอยากใช้ต่างหู」
ก่อนได้ยิงคำอธิบายทั้งหมด, อาซาฮินะที่ดูเหมือนจะสังเกตประโยชน์ของต่างหู และเธอพยักหน้าระหว่างพึมพำ
เป็นไปได้มั้ยว่าอาซาฮินะนั้นยืดหยุ่นและเข้าใจคนมากกว่าที่ผมคิด?
ผมคิดว่าเธอเป็นแค่อีโง่บุ่มบ่ามและดื้อ
「รอเดี๋ยวชั้นจะไปเอามัน」
พูดสิ่งนั้น, อาซาฮินะยืนขึ้นแล้วออกไปจากห้อง
แต่ยังไง, มันน่าตกใจเพราะผมคิดว่าอาซาฮินะไม่มีความสนใจในเครื่องประดับแบบไหนเลย
เดินผ่านทางเดิน, อาซาฮินะลงบันไดไปแล้วหยิบกระเป๋าเธอจากทางเข้า
โรงเรียนของเราไม่มีกระเป๋าโรงเรียนที่บังคับ นั่นทำไมนักเรียนส่วนใหญ่ใช้กระเป๋าที่เป็นที่นิยม แต่กระเป๋าของอาซาฮินะเป็นกระเป๋าถือหนังทรงสี่เหลี่ยม สั้นๆก็คือ, กระเป๋านักเรียน
บางที อาซาฮินะเป็นคนเดียวในโรงเรียนเราที่ใช้กระเป๋านั้น
อาซาฮินะขึ้นบันไดมาพร้อมกับกระเป๋าในมือ และกลับมาที่ห้อง เธอยองลงต่อจากผม, เปิดกระเป๋าและนำถุงกระดาษออกมา
「นี่」
จากนั้นเธอส่งถุงกระดาษมาให้ผม
มันเป็นถุงกระดาษเล็กๆสีน้ำตาล แน่นอนว่า, ผมสามารถ “เห็น” ข้างในไปแล้ว
「โอ้ โอเค」
รับถุงกระดาษ รู้สึกถูกดันถอยหลังนิดหน่อย, ผมกลืนน้ำลายในทางที่อาซาฮินะไม่เห็น
มันโชคดีที่อาซาฮินะมีต่างหู แต่ー
มันไม่ใช่แค่ต่างหูธรรมดาแต่เป็นจิวตัว
ผมรู้สึกไม่สบายใจไปแล้วเมื่อเธอบอกว่าเธอมีต่างหู แต่ทำไมเธอมีสิ่งนี้?
ผมมองไปข้างๆสู่อาซาฮินะแล้วจ้องตัวที่เปลือยของเธอเพื่อยืนยัน
ผมไม่ได้เยินยอแต่ผิวของอาซาฮินะสวยมาก แล้วมันไม่มีรอยขีดข่วนเลย แน่นอนว่า, มันไม่มีจิวที่ติดกับหัวนมและเม็ดถั่ว
「อะไร?」
สังเกตเห็นการมองข้างของผม อาซาฮินะถามผมอย่างใจเย็น
「มันแปลกที่ชั้นจะมี “นั่น” เหรอ?」
「โอ้, ใช่, อืม」
「ชั้นได้บอกว่าชั้นเป็นทาสของนาย ชั้นคิดว่านั่นปรกติสำหรับทาสที่จะทำมากเท่านั้น นั่นทำไมชั้นได้เตรียมมัน」
อาซาฮินะพูดในท่าทางที่ ซึน แต่แก้มของเธอแดงอ่อนๆ
เป็นไปได้มั้ยว่าเธอคาดหวังกำมัน? เธอคาดหวังให้ผม “ทำแบบนั้น” เธอเลยเตรียมมัน
「ให้ชั้นบอกนาย มันไม่เหมือนว่าชั้นคาดหวังหรืออะไรนะ ชั้นแค่คิดว่ามันธรรมชาติสำหรับทาส ชั้นอยากให้นายไม่เข้าใจผิด」
อาซาฮินะเก็บความซึนของเธอ แต่ “ตา” ของผมไม่สามารถถูกหลอก
แก้มของเธอแดงเล็กน้อยและการหายใจของเธอหยาบ
การเปลี่ยนภายนอกมันน้อยแต่ “ภายใน” ได้แสดงการสั่นอย่างชัดเจน
จิวมันเป็นห่วง, มันค่อนข้างหนาสำหรับใช้ครั้งแรก และมันมีสามอัน มันต้องเป็นสำหรับ หัวนมสองหัวนมและเม็ดถั่ว
ผมคิดว่าเธอมีแนวโน้มการเป็นมาโซคิสมส์เพราะเธอบ้ากามทางรูหลัง แต่เธอเป็นมาโซคิสม์ใหญ่เลย
อาซาฮินะได้ยั่วยุผมบ่อยๆ แต่ในฐานะที่เป็นมาโซคิสม์ใหญ่, เธอต้องโหยหาการถูกโจมตีโดยไม่ปราณี
แทนที่จะอย่างนั้น, แค่คุณจะทำหัวใจของคนที่มีพลังใจสูงและมาโซคิสม์สลายยังไง
แม้เธอจะต่อต้านการโจมตีภายนอก, จริงๆแล้วเธอพอใจข้างใน ยิ่งคุณโจมตีอาซาฮินะมากเท่าไหร, เธอยิ่งจะพอใจมากเท่านั้น
เธอแข็งแกร่งที่สุดในบางความหมาย
แทนที่จะอย่างนั้น, แนวคิดว่าสลายได้มีตัวตนกับมาโซคิสม์รายใหญ่มากมั้ย?
「อะไร? นายไม่ได้คิดว่าชั้นเป็นบ้ากาม, ใช่มั้ย?」
กดดันผมให้ตอบ, อาซาฮินะยื่นหน้ามาใกล้แล้วจ้องผม
「ไม่ ไม่มีอะไร」
ผมตอบระหว่างที่มองตาอาซาฮินะ
「ตาของนายมันอะไรน่ะ」
「ชั้นเกิดมากับมันนะ」
「ชั้นรู้ว่านั่นว่านายมีตาที่น่าขยะแขยงทั้งปีแต่มันน่าขยะแขยงมากกว่าเดิมวันนี้」
「มันมีวันแบบนั้นด้วย」
「ทำไมนายทำเหมือนว่ามันเป็นปัญหาของคนอื่นล่ะ」
「ชั้นไม่มีความรู้ตัวในที่เธอพยายามจะสื่อ ยังไงซะ, แน่นอนว่า มันจะเป็นปัญหาคนอื่น」
「นายไม่ได้คิดว่าชั้นเป็นบ้ากามจริงๆ, ใช่มั้ย?」
อาซาฮินะถามผมขณะที่มองผมในตาและเอียงหัวของเธอ
「ใช่, เอิ่ม」
เส้นเลือดขึ้นมาบนขมับของอาซาฮินะเมื่อผมตอบอย่างนั้น
「อะไรของนายที่เงียบไปน่ะ! นายลังเล!」
「หุบปาก」
ผมขมวดคิ้วขณะที่อาซาฮินะตะโกนและผมปิดหูด้วยสองมือ
「ชั้นต้องบอกนายกี่ครั้งว่าชั้นไม่ใช่บ้ากาม จนกว่านายจะเข้าใจ!」
「เหมือนที่ชั้นพูด, ชั้นเข้าใจแล้ว เธอน่ารำคาญ」
แม้เธอพูดอย่างนั้น เธอเตรียมจิวเพราะเธอเป็นทาส, เธอบอกว่าเธอไม่ใช่บ้ากาม
ไม่ว่าคุณจะคิดอย่างไร, เธอเป็นบ้ากามและมาโซคิสม์ที่ใหญ่มาก
「งั้นพูดนั่นว่าชั้นไม่ใช่บ้ากาม」
「อาซาฮินะ-ซังไม่ใช่บ้ากาม」
มันน่ารำคาญเกินไป ดังนั้นผมแค่พูดที่อาซาฮินะบอกผม
「เรียบเกินไป! นายโกหก!」
「งั้นชั้นควรทำอะไรเล่า?!」
แม้ผมจะทำตามที่เธอบอก, อาซาฮินะแว้ดใส่ผมอย่างน่ารำคาญ
ผมปิดหูด้วยทั้งสองมือขณะที่ยืนขึ้นและเดินไปที่ทางเข้าอย่างเงียบๆ
「เฮ้! นายวิ่งเหรอ?! นายเป็นแม้แต่ผู้ชายมั้ย!?」
อาซาฮินะยืนขึ้นแล้วตามผมระหว่างที่แว้ด
น่ารำคาญ จริงๆเลย น่ารำคาญ
「ริกกะกำลังจะตาย นั่นทำไมเราต้องให้เธอกินสารอาหารเข้าไป」
ผมหยุดและหันหลัง และพูดกับอาซาฮินะด้วยสองมือที่ปิดหู
「นี่กับนั่นมันต่างกัน! นายต้องพูดว่าชั้นไม่ใช่บ้ากามจากก้นบึ้งของหัวใจー」
「อาซาฮินะ, เธอทำอาหารเป็นมั้ย?」
「…เอ๋?」
เมื่อผมขัดเสียงแว้ดของเธอด้วยคำถามของผม, เธอหยุดและตาของเธอสั่น
โอ้, เข้าใจแล้ว, อย่างที่คิด
「ชั้นจะถามมารินะー」
「ชั้นทำอาหารได้นะอย่างน้อย!」
「ไม่, เธอไม่จำเป็นต้องบังคับตัวー」
「ชั้นไม่ได้บังคับตัวเอง」
อาซาฮินะที่หน้าแดงไม่ยอมแพ้ยิ่งไปกว่าการคุยบ้ากามอีก
มันไม่สำคัญแม้ว่าอาซาฮินะจะทำอาหารได้แย่ แต่, ถ้าผมปฏิเสธ, เธอจะแว้ดอีกครั้ง, แล้วก็ー
ผมไม่ใช่คนที่กิน
「เข้าใจแล้ว งั้นได้โปรด」
「หืมม, ปล่อยชั้นได้เลย!」
ได้ยินที่ผมพูด, อาซาฮินะวางมือไว้บนเอวและพองหน้าอกที่มันไม่มีอยู่ออกมา
ยังไงซะ, ไม่ว่าเธอจะทำอาหารได้แย่ซักแค่ไหน, มันจะไม่มีพิษ
ด้วยนั่นที่พูด, ผมลงไปที่ข้างล่างกับอาซาฮินะและไปที่ครัว
เมื่อผมเข้าไปที่ครัว อาซาฮินะเปิดตู้เย็นเหมือนเธอเป็นเจ้าของที่นี่
มันปรกติที่จะเปิดตู้เย็นเมื่อคุณทำอาหาร แต่มันหงุดหงิดสำหรับเธอที่จะทำโดยไม่ได้รับอนุญาติ
ไม่ใช่ว่าปรกติแล้วต้องถาม 「ชั้นดูข้างในตู้เย็นได้มั้ย?」
「เหห๋, มันค่อนข้างครบนะ」
ตรวจดูข้างในตู้เย็น, อาซาฮินะพึมพำทำเหมือนจะรู้ ผมมองอาซาฮินะอย่างนั้นและผมฟังเสียงจากห้องนั่งเล่น ผมสามารถได้ยินเสียงหัวเราะ
นั่งบนโซฟาคือมารินะและยูกินะและแม่อยู่ตรงกลาง จากนั้นคิราซากิและโลลิฮินะนั่งอยู่อีกฝั่งของโซฟา
พวกเขามีการคุยกันที่เป็นมิตรและกลมกลืน แต่โลลิฮินะเป็นคนเดียวที่ไม่พูดและก้มหัวของเธอ จากนั้น, เธอมองยูกินะบางครั้งบางคราว
โลลิฮินะดูเหมือนจะสามารถมอบธรรมชาติของเธอออกมาหน้ายูกินะ แต่เธอใช้งานไม่ได้ถ้าเป็นคนอื่นยกเว้นยูกินะ
「นี่อาจจะไม่สำคัญ แต่น้องสาวของเธออาจจะไปผิดทาง ถ้าเธอปล่อยไว้อย่างนี้」
เมื่อผมพึมพำนั่น, อาซาฮินะที่ดูตู้เย็นหยุดกระทันหัน
「นี่เป็นคำเตือนจากประสบการของคนที่เดินผิดทาง」
อาซาฮินะพึมพำระหว่างที่มองข้างในตู้เย็น
「ถ้าชั้นก้าวออกมาจากถนนมาสู่ฝั่งผู้กดขี่ แต่เธอจะไปฝั่งของผู้ถูกกดขี่ สั้นๆก็คือ, เธอจะไปอยู่ฝั่งของคนที่ถูกใช้งาน ทันทีที่เธอก้าวพลาด เธอจะล้มกับทางลาดชันทันที และมันแก้ไม่ได้เมื่อเธอสังเกตมัน น้องสาวของเธอ “อ่อนแอกว่า” ยูกะจัง」
โลลิฮินะอ่อนแอเกินไป หัวใจของเธอดูเหมือนจะพึ่งยูกินะแต่, นั่นทำไมมันอันตราย
ุ้าเกิดอะไรขึ้นกับยูกินะและโลลิฮินะเป็นคนทำมัน, โลลิฮินะจะไม่สามารถเห็นอะไรได้เลย
คนเดียวที่เลี่ยงสิ่งนี่ได้คืออาซาฮินะ, พี่สาวของเธอ
「ถ้านายคิดอย่างนั้นทำไมนายไม่ฝึกเธอล่ะ?」
อาซาฮินะพูดอะไรน่าขันออกมาระหว่างหัวเราะ
「ไม่ใช่งานอดิเรกชั้น ชั้นชอบผู้หญิงแข็งแกร่ง」
ผมตกใจเมื่อผมพูดมัน, ผมปิดปากด้วยมือขวาของผม
ผมชอบผู้หญิงแข็งแกร่ง, ผมพูดอะไรน่ะ? มันเหมือนกับว่าผมสารภาพรักกับอาซาฮินะ
「ชั้นก็มีปัญหาที่จะจัดการกับยุย สาวนี้ไม่เปิดใจของเธอให้ใครนอกจากยูกินะ」
อาซาฮินะตอบมาอย่างใจเย็นระหว่างที่ดูตู้เย็น
มันดูเหมือนสารภาพรัก ดังนั้นผมอยากจะต้อบโต้มัน แต่อาซาฮินะดูเหมือนจะไม่สนใจมันเป็นพิเศษ
นั่นอันตราย ผมแค่พูดมันเพราะจังหวะมันหลุด แต่มันจะแย่ที่สุดถ้าเธอคิดว่ามันเป็นการสารภาพรัก โดยเฉพาะอาซาฮินะ
ด้วยสิ่งนั้นที่พูด, อาซาฮินะดูเหมือนจะรู้จักกับยูกินะ
ยังไงซะ, เธอเป็นเพื่อนสนิทของโลลิฮินะ มันไม่แปลกที่เธอรู้จัดยูกินะ
「นายพูดได้ว่ามันเพราะตัวตนของชั้น แต่หัวใจสาวคนนั้นปิดแม้ว่าชั้นพยายามจะใจดี」
อาซาฮินะถอนหายใจขณะที่เธอพูดนั่นและมองไปที่ห้องนั่งเล่น
ผมพูดอะไรดีไม่ได้เพราะผมไม่มีพี่ชายน้องชาย หรือ พี่สาวน้องสาว แต่, มันต้องเป็นปัญหามากมายที่มีพี่สาวที่มีคุณสมบัติมากเกินไป
มันไม่ใช่บางอย่างที่คุณสามารถหาให้เท่ากันได้ด้วยความพยายาม
「ชั้นแค่จะให้คำแนะนำ ชั้นไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นภายหลัง」
「อะไรของนาย? นั่นไม่เหมือนนายเลย ชั้นรู้สึกขยะแขยงเมื่อนายมีเมตตา」
อาซาฮินมองผมจากด้านข้างแล้วแสดงสีหน้าขยะแขยงจากก้นบึ้งของหัวใจเธอ
จริงๆเลย มันไม่เหมือนผม
「ชั้นเป็นเจ้าของยูกินะ น้องสาวของเธอดูเหมือนจะเป็นเพื่อนสนิทของยูกินะ」
「อย่างนั้นเหรอ? งั้น ชั้นจะรับคำแนะนำของนายมาอย่างขอบคุณละกัน」
ได้ยินสิ่งที่ผมพูด, อาซาฮินะหัวเราะ
อา, เหี้ย, ผมรู้สึกเหี้ย
อาซาฮินะนำวัตถุดิบหลายอย่างจากข้างในตู้เย็นและเรียงมันตรงหน้าเขียง จากนั้นเธอจับมีดอย่าภาคภูมิใจ
「ช่วยชั้นด้วยสิ นายมีเขียงอีกมั้ย?」
「มีอีกอัน」
ผมตอบคำถามอาซาฮินะทันที
「งั้นเอามันออกมา」
「มันออกมาแล้ว」
「หือห? ที่ไหน?」
「นี่ไง」
ได้ยินว่าเขียงอีกอันได้ออกมาแล้วอาซาฮินะถามระหว่างมองไปรอบๆและผมชี้มัน
อกของอาซาฮินะ
「ฮ่าฮ่า」
อาซาฮินะสังเกตุมุขของผม, เธอซ่อนอกเธอด้วยสองมือและหน้าเธอที่แดงมีรอยยิ้มที่แข็ง จากนั้นー
「อยากตายเหรอ」
เธอชี้มีดมาที่ผมระหว่างที่ถาม
ฮ่าา, ยาเระยาเระ, รับมุขไม่ได้เหรอ
「อย่าหวังให้ชั้นทำอาหาร ถ้าเธอทำไม่ได้งั้นเรียกมารินะ ทักษะการทำอาหารของเธออยู่ในระดับโปรー」
「ไอโง่! ใครบอกว่านั่นเป็นไปไม่ได้! ชั้นทำได้!」
อาซาฮินะที่โมโหจากที่ผมพูด ยกมือขวาขึ้น และยิงมันลงไปอย่างแรง
มีดตัดหัวหอมและฝังเข้าไปในเขียง
มันกล้าหาญเกินไปไม่ว่าคุณจะมองมันแบบไหน เธอแยกชิ้นส่วนทูน่า? แทนที่จะอย่างนั้น, ปอกเปลือกมันก่อนตัดมันสิ
「นายมีเครื่องปั่นมั้ย?」
「อะไร?」
「เครื่องปั่น! ริกกะนั่นหมดสติอยู่เธอกินอาหารแข็งไม่ได้ใช่มั้ย? งั้นเราควรจะทำให้เหลวโดยเครื่องปั่น」
「โอ้ เข้าใจแล้ว เธอฉลาดกว่าที่ชั้นคิดนะ」
「ฟุฟุ, อืม ใช่!~」
รู้สึกดีโดยการถูกชมโดยผม, อาซาฮินะพองอกที่ไม่มีอยู่ของเธอด้วยหน้าตาที่มีชัยชนะ
มันเหมือนที่อาซาฮินะพูด ริกกะกินอาหารแข็งไม่ได้ตอนนี้ งั้นเราต้องเทอาหารในสภาพของเหลว
ด้วยนั่นที่พูด, ผมนำเครื่องปัญออกมาจากที่เก็บในครัว
เมื่อผมเตรียมเครื่องปั่น, ผมสามารถได้ยินเสียงเข้มข้น ของการตัดวัดถุดิบที่เรียงกันในเขียง
ดูซุ่มซ่าม, เธอยกมีดขึ้นมาเหนือหัวแล้วเหวี่ยงมันลงเพื่อตัดวัตถุดิบ เธอได้มีทักษะในบางความรู้สึก
「อย่างแรกต้องเป็นไข่」
เมื่อเครื่องปั่นพร้อม, อาซาฮินะนำไข่ออกมา
「ใช่」
พยักหน้าขณะที่ผมรับไข่, ผมตอกเปลือกมันและใส่ข้างในเข้าไปในเครื่องปั่น
ยังไงซะ, ไข่นั้นพื้นฐาน แต่มันโอที่ที่มันจะดิบเหรอ? อ้า, ไม่, มันจะยากที่จะทำให้เหลวถ้ามันสุก
「งั้นต่อไปเป็นบร็อคโคลี่ มันดีต่อสุขภาพ」
「จริง」
ผมรับบร็อคโคลี่แล้วใส่มันเข้าไปในเครื่องปั่น
ผมไม่เข้าใจแต่บร็อคโคลี่ดูดีสำหรับสุขภาพ
「วิตามิน ซี ก็สำคัญด้วย ใส่มะนาวสำหรับวิตามิน ซี」
「เข้าใจแล้ว」
วิตามินซี แน่นอนว่ามันรู้สึกสำคัญ
รับมะนาวที่หั่นอย่างงดงามมา, ผมใส่มันเข้าไปในเครื่องปั่น
「ถ้ามันสารอาหาร, มันต้องเนื้อ」
「จริง」
「มีคาลบิอยู่ในตู้เย็น มาใส่มันเถอะ」
「คาลบิ? นั่นดีเกินไป」
「นายไม่อยากให้ริกกะตาย ใช่มั้ย?」
「หืมมม」
มันมีปัญหาถ้าริกกะตายแต่ไม่ใช่ว่าคาลบิมันหรูไปสำหรับริกกะเหรอ?
ยังไงซะ, ช่วยไม่ได้
หยิบจานมาอย่างไม่เต็มใจ, ผมนำคัลบิจากจานไปบนเครื่องปั่น นั่นเมื่อผมจำได้
「มันโอเคที่จะใส่ดิบๆเหรอ?」
「ความสามารถของริกกะเป็นของสัตว์ป่าไม่ใช่เหรอ? สัตว์ป่าไม่เผาเนื้อของมัน」
「เข้าใจแล้ว」
「แล้วก็, เธอมีรักษาขั้นสูงไม่ใช่เหรอ? งั้นมันจะโอเค มันยากที่จะทำให้เหลวถ้ามันสุก」
「จริง」
เห็นด้วยกับคำอธิบายของอาซาฮินะ, ผมใส่คาลบิเข้าไปในเครื่องปั่น มันควรจะให้ความสำคัญกับสารอาหารมากกว่ารสชาติ, แล้วก็ー
มันไม่ใช่ว่าผมจะดื่มนี่
「ผู้หญิงรักผลไม้ นั่นทำไมใส่พีชกระป๋องด้วย」
「มันดีกว่าที่จะแยกกันมั้ย?」
「ไอโง่ นายชดเชยกลิ่นของเนื้อได้ด้วยน้ำพีช」
「ชดเชยมันได้เหรอ? ไม่ใช่มันจะเป็นไปไม่ได้เหรอ? มันจะไม่เสียเหรอ?」
「เราจะรู้เมื่อเราทำมัน」
「จริง」
เราจะรู้เมื่อเราทำมัน สั้นๆคือ, เราจะไม่รู้จนกว่าเราจะลอง
ด้วยนั่นที่พูด, ผมใส่พีชกระป๋องที่อาซาฮินะส่งให้ผมเข้าไปในเครื่องปั่น
「จะได้เวลาแล้ว」
ใส่พีชเข้าไปทำให้เครื่องปั่นเต็ม, ผมบอกอาซาฮินะสิ่งนั้น
「เดี๋ยว ชั้นจะใส่เต้าหู้และนมด้วย」
「โออ้, นั่นดีต่อสุขภาพ」
「สาวๆสนเรื่องสุขภาพของพวกเขา」
「โอ้, ผู้หญิงมีปัญหาเยอะนะ」
「นายจะใส่อะไรอีกมั้ย」
「ชั้นว่ามันโอเค ถ้าเธอตั้งใจทำ」
ผมพยักหน้ากับคำถามอาซาฮินะ
วิธีตัดวัตถุดิบของเธอนั่นน่าทึ่ง แม้ว่ามันเต็ม, มันยังมีช่อง เต้าหู้มันนิ่ม, นมเป็นของเหลว, ถ้าคุณดันมันเข้าไปด้วยกำลัง มันจะสามารถได้อย่างไรก็ไม่รู้
ผมใส่เต้าหู้ไปก่อนจากนั้นเทนม
「งั้น ชั้นจะปั่นมัน」
「เดี๋ยวใส่กลิ่นวานิลลาและชินนาม่อนเพื่อชดเชยกลิ่นมัน」
「โออ้, เธอมีสไตล์จริงๆ」
「ฟุฟุ, แน่นอน」
อาซาฮินะต่อจากผมพองหน้าอกอย่างภาคภูมิใจ, จากนั้นใส่ของเหลวจากขวดไปที่เครื่องปั่น ต่อไปเธอใส่แป้งจากกระป๋องไปในเครื่องปั่น
ผมไม่รู้ว่ากลิ่นอะไรลอยอยู่
「งั้น, มาปั่นกันเถอะ」
「ได้」
ยืนยันอาซาฮินะพยักหน้า, ผมปิดฝาเครื่องปั่นและกดสวิทช์ระหว่างที่จับฝา
กโย้กโย้กโย้กโย้กโย้กโย้กโย้, เครื่องปั่นเล่นเสียงที่แปลกประหลาด ผลที่ตามมา, วัตถุดิบที่ถูกหั่นได้เหลว
「มันดูน่าสนใจที่จะใส่ทาบาสโก้」
ผมถามอาซาฮินะระหว่างที่จับฝา
「เราไม่ได้เล่นกันอยู่นะ」
「ธ-เธอพูดถูก ขอโทษ」
เธอได้อารมณ์เสียกับมุขเบาๆของผม แทนที่จะอย่างนั้น
นั่นไม่ได้เล่นเหรอ?
พวกเราใช้เวลาที่จะปั่นวัตถุดิบ จากนั้นมันเปลี่ยนเป็นของของเหลวไซรัป
ปิดสวิทช์และเปิดฟ้า, กลิ่นมันน่ารังเกียจ
ยังไงซะ, พวกเราใส่อาหารทั้งหมดที่กินได้ ดังนั้นมันจะไม่สร้างพิษ
ผมกังวลเกี่ยวกับเนื้อดิบ แต่มันเป็นอย่างที่อาซาฮินะพูด, ความสามารถริกกะก้าวข้ามสัตว์ป่า ดังนั้นผมไม่สามารถคิดว่าเธอไม่สามารถจัดการกับเนื้อดิบได้ ตั้งแต่ทีแรก มันไม่มีปัญหาเพราะการรักษาขั้นสูงของเธอ
แม้ว่า ผมยอมตายมากกว่าดื่มนี่
「มีกรวยมั้ย?」
「เอ๋?」
「ที่นายใช้เทน้ำไปในขวดที่แคบ มันเหมือนถ้วยที่มีไม้」
สิ่งของชิ้นหนึ่งเข้ามาในหัวผมเมื่อผมได้ยินคำอธิบายของอาซาฮินะ โอ้, อันนั้นเหรอ?
「เธอหมดสติดังนั้นเราต้องใช้อุปกรณ์ให้มันเทง่าย」
「เข้าใจแล้ว เดี๋ยว ชั้นจะไปหยิบมัน」
จริง, แม้ว่ามันเหลว, มันยากที่จะเทใส่คนที่หมดสติ แต่ถ้าคุณมีนั่น, มันจะง่ายขึ้น
อาซาฮินะเอาใจใส่มากกว่าที่ผมคิดมาก
ผมได้ดูชั้นวางของและเจอของทรงถ้วยที่มีไม้
「นี่เหรอ?」
「นั่นถูกแล้ว, นั่นคือกรวย」
อาซาฮินะเห็นแล้วพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก
โอเค, เราเตรียมตัวแล้ว มันเสร็จสมบูรณ์ แต่ー
นี่มันจะดื่มได้จริงๆเหรอ
มองดูของของเหลวไซรัปที่ส่งกลิ่นทีอธิบายไม่ได้ออกมา, ผมมองอาซาฮินะแล้วกลืนน้ำลาย
อาซาฮินะที่พอใจกับการทำอาหารของเธอ ฮัมด้วยรอยยิ้ม
ยังไงซะ, มันมีสารอาหารแน่นอน, แล้วก็ー
ผมไม่ใช่คนที่ดื่มนี่ อืมโอเค
บอกตัวเองอย่างนั้น, ผมนำเครื่องปั่นที่มีของเหลวไซรัปที่มีกลิ่นที่อธิบายไม่ได้ และไปที่ชั้นสองกับอาซาฮินะ
อย่าได้กินอาหารของอาซาฮินะ
ผมสาบานในหัวใจผม
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอนได้ทั้ง facebook และ discord