เอ็กซ์เรย์เป็นมากกว่าที่ฉันคิด - ตอนที่ 98
ตอนที่ 98
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
「ขออภัยอย่างจริงใจ」
เปลือยตั้งแต่หัวยันนิ้วโป้งเท้า ทามะมูชิ ขอโทษ เธอคุกเข่ากราบก่อนหน้าผมขณะที่เธอได้รับประสบการณ์การกระตุกบางครั้งบางคราว
「มะ-ไม่ต้องคิดมาก」
ผมลูบทามะมูชิที่ไหล่
เหตุผลที่ทามะมูชิได้ขอโทษอยู่ที่พื้นใน ‘โดเกสะ’ เพราะเธอไม่สามารถที่จะลำเลียงพลังชี่แมลงของเธอ จากการโดนทำจนบ้า
「มันจะไม่เป็นความไร้ความหมายอย่างสมบูรณ์ถ้าเธอทำวิธีไหลเวียนแมลงของเธอต่อ」
ยืนอยู่ในมุม นานะฟูชิพึมพำขณะที่เธอดูเงียบๆ
「ถ้าเธอทำวิธีไหลเวียนแมลงระหว่างการมีเซ็กส์ งั้นความเร็วในการฝึกวิชาจะเพิ่มไปพร้อมกับคุณภาพการปรับแต่ง มากกว่านั้น การรับอสุจิของชายหมายถึงพลังงานชี่ของแมลงพื้นฐานโดยรวมจะเพิ่มขึ้น ถ้านั่นเกิดขึ้น ชั้นจะสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วย」
ผมเข้าใจได้ว่านานะฟูชิพูดมาจากไหน
แม้ว่าถ้าทามะมูชิและผมได้มีเซ็กส์กันต่อไป และไม่สามารถจะไปถึงจุดหมายที่เราต้องการ งั้นมันจะไม่เป็นการสูญเปล่าอย่างสมบูรณ์
「แล้วก็ ถ้านายมีเพศสัมพันธ์กันต่อกับมาสเตอร์ นายจะสามารถที่จะทนพลังชีแมลงของเธอได้ถึงจุดหนึ่ง ยิ่งความต้านทานของนายมีมาก ความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จก็มากขึ้นด้วย ชั้นคิดว่าถ้านายทำนี่ต่อไปประมาณสิบปี ความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก」
「สิ-สิบปี?」
นั่นมันค่อนข้าง……
「นี่คือระดับของความยากที่นายเผชิญหน้า ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของนาย มันอาจจะต้องใช้ขึ้นไปเป็นยี่สิบถึงสามสิบปี」
「ข-เข้าใจแล้ว……」
นานะฟูชิได้เกริ่นมันตั้งแต่แรกเริ่มแล้วว่าโอกาสที่จะสำเร็จมันน้อยสุดขีด
แต่ยังไงผมก็ตัดสินใจที่จะทำมัน
「ไม่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้แค่ไหน ความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จมันไม่ใช่ศูนย์ แต่ถ้าเราไม่ทำมัน งั้นมันจะเป็นศูนย์ ใช่มั้ย?」
「ถูกต้อง และแม้ว่านายจะล้มเหลว มันจะช่วยให้ชั้นแข็งแกร่งขึ้น ดังนั้นมันจะดีถ้านายทำมันต่อไปเรื่อยๆ」
นานะฟูชิพยักหน้ากับคำถามผม
แม้ว่าถ้ามันล้มเหลว นานะฟูชิจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน แค่นั่นอย่างเดียวมันก็เพียงพอแล้ว
「ไม่ว่ายังไง พักเรื่องนั้นไว้ก่อน เมื่อเธอ ‘อาเฮะ’ เร็วเกินไป ตาของเธอม้วนกลับไปหลังหัวทันทีที่มันเริ่ม และได้ร้อง “ซูซูฮาระ~♥ ซูซูฮาระ~♥ นัยทำน้องหนูชั้ยพังแย้ววววว~♥ เย้ะยูตูดชึ้นโด้ยยยย~♥” ในแบบที่ไม่สมศักดิ์ศรีตลอดเวลาเลย เธอได้คุยโอ้อวดเรื่องอย่างที่เธอโยนความเป็นผู้หญิงของเธอทิ้ง แต่นั้นเป็นอีตัวอย่างสมบูรณ์ ชั้นหมายถึงเธอมากตัณหาแค่ไหนกัน? เธอมันมากไปจนมันน่าหัวเราะ」
จ้องลงไปที่ทามะมูชิที่คุกเข่ากราบ นานะฟูชิดูหมิ่นเธอด้วยท่างทางที่ไม่แยแส
「อ-อย่างเธอจะพูดได้แหน่ะ เธอได้เกือบจะ ‘อาเฮะ’ แล้วเธอจบที่การวิ่งหนี」
สั่น ทามะมูชิยกหัวของเธอขึ้น และจ้องไปที่นานะฟูชิขณะที่รอยยิ้มที่เกร็งลอยอยู่บนหน้าเธอ
「งั้นเราควรจะจบมันมั้ย?」
「เอ๋?」
ทามะมูชิจ้องมันอย่างว่างเปล่าไปที่นานะฟูชิ
「บ่นมันกับชั้นและแค่เหมือนกับชั้น วิ่งหนีจากปัญหาของเธอ ถ้าเธอคิดว่านั้นมันทำให้เธอพอใจ」
ได้ยินคำพูดของเธอ ทามะมูชิสั่นและกัดฟันของเธอ มอบการจ้องที่อารมณ์เสียให้นานะฟูชิ
「ช-ชั้นจะทำมัน」
จากนั้น เธอต้อบด้วยคำพูดเหล่านี้
「งั้นได้โปรดทำให้ดีที่สุดที่จะไม่ ‘อาเฮะ’ จากมัน แม้ว่าซูซูฮาระ-ซามะมีขีดจำกัดรายวันว่าเค้าจะน้ำแตกได้กี่ครั้ง การฝึกส่วนตัวจำเป็นต้องถูกนำไปใช้」
「ช-ชั้นรู้แล้ว」
สองคนจ้องกันระหว่างที่มีบรรยากาศที่อันตรายลอยอยู่ในห้อง
คำพูดของทามะมูชิดูจะเข้มงวดมากเกินไป แต่ก็อีกแหละ เธอไม่ได้เล่นไปเรื่อย
ทามะมูชิก็เข้าใจสิ่งนี้ด้วย ดังนั้นแม้ว่าเธอขุ่นเคืองเกี่ยวกับมัน ผมคิดว่าในท้ายที่สุด เธอยังเห็นด้วยกำคับพูดของนานะฟูชิ
มันดูเหมือนว่าพวกเธอเชื่อใจกันลึกมากกว่าความสัมพันธ์ที่ถูกสร้างมาด้วยความรักและเสียงหัวเราะ
เหมือนที่เธอพูด แม้ว่าจะสำหรับผม มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแตกอีกแล้ว มันเพราะผมสามารถที่จะแตกสองครั้งติดกันได้ข้างในทามะมูชิ อย่างไรก็ไม่รู้
วันนี้ ผมทำริกกะไปหลายครั้ง รับการบริการจากทั้งทามะมูชิและนานะฟูชิ และบนนั้น มีเซ็กส์กับทามะมูชิ
มันเป็นเพราะน้องหนูของทามะมูชิรู้สึกดีเป็นพิเศษ และกับการเห็นหน้าเธอมึนเมากับเอ็นของเผม ผมสามารถที่จะแตกได้
「ขอโทษ แต่ชั้นถึงขีดจำกัดแล้ว」
「ชั้นขอโทษ ซูซูฮาระ พ-เพราะชั้นขาดความงดงามทางเพศ」
เข้าใจคำพูดผมผิด ทามะมูชิใส่หน้าตาที่ดูเหมือนจะร้องให้ และอีกครั้ง เธอคุกเข่ากราบตรงหน้าผม
ไม่ ไม่ เธอดูดีกว่าก่อนหน้าที่มาก เธอได้น่ารักขึ้นตั้งแต่หัวยันนิ้วโป้งเท้า ได้คู่ของนมที่ใหญ่ขึ้น และหางม้าเหมาะกับเธอ
「ที่ชั้นหมายถึงคือชั้นแตกมากไปและถึงขีดจำกัดแล้ว เหมือนที่นานะฟูชิได้พูด มันมีขีดจำกัดว่าวันนึงชั้นน้ำแตกได้แค่ไหน มันหยุดเหมือนชั้นปล่อยที่ชั้นรวบรวมมาจนถึงจุดนั้นไปจนหมด แต่ถ้าเธอให้เวลาชั้นอีก มันจะเริ่มขึ้นมาใหม่」
พักมือของผมบนไหล่ของเธอ ผมพูดอย่างอ่อนโยนที่สุดเท่าที่ผมทำได้
「จิ-จริงเหรอ? มันไม่ใช่เพราะชั้น?」
ทามะมูชิตอบมาในเสียงที่สั่น ขณะที่เธอยกหัวของเธอขึ้นและมองผมด้วยตาที่มองขึ้นมาที่มันจะร้องไห้
ตาที่มีน้ำตาและสีหน้าที่ยั่วยวนของเธอได้กระตุ้นความใคร่ของผม
มากกว่านั้น เมื่อผมยกหัวของเธอขึ้น หน้าอกเธอเด้งไปด้วยกับการเคลื่อนไหวของทามะมูชิ
และแค่นั้น มันก็ลามกจนแทบทนไม่ได้แล้ว
บนนั้นเข้าไปอีก แม้ว่ามีกายที่ดูอายุต่ำกว่าเกณฑ์ หัวนมเธอได้แข็งอย่างผิดปรกติ ซึ่งมีความรู้สึกถึงความลามกกับมัน มันทำให้ผมอยากจะพลังเธอลงทันที
แม้ว่าผมจะพลักเธอลง ผมแตกไม่ได้อีกแล้ว แต่แม้อย่างนั้น ทุกอย่างที่ทามะมูชิทำ ไปจั๊กจี้สัญชาติญานของผมซึ่งมันจะทำให้ผมอยากทำแบบนั้น
「เค้าได้เลยขีดจำกัดไปแล้ว ซูซูฮาระ-ซามะ ชั้นขอบคุณอย่างจริงใจสำหรับงานหนักทั้งหมดที่นายทำในวันนี้」
ขณะที่ผมเลื่อนตัวเองให้เข้าใกล้ทามะมูชิสำหรับการโอบกอด เสียงปรบมือทีหนึ่งที่ดังที่ตามคำพูดของนานะฟูชิมา บังคับให้อากาศออกมาจากปอดของผม พาผมกลับมามีสติ
นั่นมันอันตราย ผมเกือบจะใช้กำลังทำทามะมูชิแล้ว
「งั้นมาจบมันที่นี่สำหรับวันนี้ ไม่ว่ายังไง ได้โปรดพักผ่อนอย่างที่นายสมควรจะได้รับ」
ปรบมือของเธอทีหนึ่งเข้าด้วยกัน นานะฟูชิพาการฝึกวันนี้มาถึงจุดจบ
ผมเหนื่อยอย่างแน่นอน และตัวของผมได้เนือยหลังจากที่แตกไปมากเท่านี้
คิดอย่างนั้น ผมพยายามจะยืนขึ้น แต่ในทันทีนั้น ผมจำบางอย่างที่สำคัญได้
ดั้งเดิมแล้วผมมีแผนที่จะถามเกี่ยวกับความสามารถของฮิซูกิ
「นานะฟูชิ」
「คะ?」
นานะฟูชิเอียงหัวของเธอในความกระทันหันของผม
「ชั้นอยากจะถามเธอเกี่ยวกับบางอย่าง มันเกี่ยวกับความสามารถของฮิซูกิ」
「อาา」
เมื่อผมถามนานะฟูชิ น่าจะเพราะเธอได้รู้ด้วยตัวเธอเองด้วย เธอพยักหน้า
「มีปัญหากับความสามารถของฮิซูกิเหรอ?」
ยังอยู่ในการคุกเข่ากราบ ระหว่างที่เปลือยตั้งแต่หัวยังนิ้วโป้งเท้า หน้าอกของทามะมูชิส่าย ขณะที่เธอเอียงหัวของเธอไปด้านข้าง
ผมได้มีสมาธิอยู่ที่มัน ผมช่วยไม่ได้นอกจากจะมีสมาธิอยู่กับนมที่เด้งของเธอทุกครั้งที่เธอขยับ
คิดว่ามันเป็นพิษกับตาของผม ผมถอดแจ็คเก็ตผมออกและวางมันลงไปบนไหล่ของทามะมูชิ
「เอ๋♥」
ตกใจกับการกระทำของผม ทามะมูชิหยิกแจ็กเก็ตของผมที่วางอยู่บนตัวเธอและหน้าแดงอย่างเขินอาย
แม้ว่าผมวางแจ็กเก็ตไว้บนไหล่ของเธอ หน้าอกของเธอยังไม่ถูกปกปิด
「ขะ-ขอบคุณ♥」
จ้องผมด้วยตาที่แฉะ ทามะมูชิพูดคำขอบคุณระหว่างที่เธอจับแจ็คเก็ตของผม
ทามะมูชิ นั่นพอแล้ว แค่ซ่อนนมเธอได้แล้ว
「อะแฮ่ม!」
ตกใจจากเสียงของนานะฟูชิกระแอม ทามะมูชิกระตุก และเลี่ยงสายตาของเธอไปจากผมอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ผมพยายามจะวางแจ็คเก็ตไปบนไหล่เธอ เธอจับมันด้วยสองมือและยิ้มอย่างโง่เขลาบนหน้าของเธอ
ถ้าเธอจะไม่ใช้มัน งั้นผมจะอยากให้เธอคืนมันให้กับผม
「ความสามารถของฮิซูกิ-จังนั้นไม่มั่นคงน่าจะเป็นเพราะเหตุผลที่เรียบง่าย ยังไงก็ตาม เพราะมันเรียบง่าย มันอาจจะยากเป็นพิเศษที่จะทำให้มันดีขึ้น」
นานะฟูชิมองผมด้วยหน้าที่ตรงไปตรงมาขณะที่เธออธิบาย
เหตุผลของความไม่มั่นคงนั้นเรียบง่าย? และนั่นทำไมมันยากที่จะทำให้ดีขึ้น?
「ชั้นคิดว่ามันเป็นเพราะเธอใช้มัน “เพื่อตัวเธอเอง” มันพูดว่าตาแห่งสวรรค์นั้นใช้ “เพื่อคนอื่น” ซึ่งมันจะเปิดเผยพลังที่แท้จริงออกมา」
ทามะมูชิพยักหน้ารัวๆกับคำพูดของนานะฟูชิ
พูดถึงแล้ว ผมรู้สึกว่าทามะมูชิได้พูดเกียวกับสิ่งนี้ก่อนหน้า
「มันเหมือนที่นานะฟูชิพูดเลย มันได้ถูกเขียนไว้อย่างนั้นในหนังสือที่ชั้นอ่านด้วย ยกเว้นว่าเธอจะเป็นนักบุญที่ถึงการตรัสรู้ มันได้พูดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้มันอย่างอิสระ」
ทามะมูชิดำเนินการอธิบายรายระเอียดที่นานะฟูชิปล่อยไว้
「มันง่ายที่จะพูด แต่มันยากที่จะทำ แม้ว่ามันเป็นแค่ความคิดที่จะทำมันเพื่อ “บางคน” ถ้าความรู้สึกของการทำนั่นเพื่อ “บางคน” นั้นเชื่อมต่อกับความต้องการของนายเองไม่ว่ายังไง ประสิทธิภาพของความสามารถจะลดลง ยกตัวอย่างเช่น การเจอกระเป๋าและส่งมันให้สถานีตำรวจ มันดูเหมือนมันไม่ใช่ความโลภเมื่อมองผ่านๆ แต่ถ้ามันได้มีความรู้สึกของ “ชั้นได้ทำเรื่องดีๆแล้ว” มันจะถูกนับเป็นการเติมเต็มความต้องการที่เห็นแก่ตั้ว เหมือนกัน ถ้านายสนับสนุน “บางคน” และเชื่อมันว่า “การสนับสนุนพวกเค้าจะช่วยอีกคน” มันจะถือว่าเป็นการกระทำของความเห็นแก่ตัว พูดอีกอย่าง ค่าของความสามารถจะตกลงไป」
ผมรู้สึกวิงเวียนกับคำอธิบายของนานะฟูชิ
ช่างเป็นความสามารถที่มีปัญหา แล้วก็ ผมสงสัยอย่างมากว่ามีใครที่จะควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์มั้ย
อาา นั่นทำไมมันเป็นความสามารถที่มีแค่นักบุญที่ใช้มันได้
「แม้ว่ามันเป็นความสามารถที่ไม่มั่นคง มันเป็นความสามารถที่สร้างปาฏิหาริย์」
「ใช่……」
ความสามารถเหมือนปาฏิหาริย์ หือห์
สั้นๆก็คือ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการกับมันอย่างอิสระ
「แต่อย่ารู้สึกมองโลกในแง่ดีกับมันมาก」
「เอ๋?」
「มันหายากที่จะเห็นตาแห่งสวรรค์ที่ตื่นแล้ว แต่ไม่เหมือนตาแห่งพื้นดิน มันเป็นความสามารถที่ฉูดฉาด มันเกือบจะแน่นอนที่ชื่อของคนที่ทำให้ตื่นจะถูกเขียนอยู่ในบันทึก คนพวกนั้นจะถูกเรียกว่าผู้กอบกู้」
ผู้กอบกู้ แน่นอนว่ามันมีคนที่ถูกเรียกเป็นครั้งคราวว่าเป็นผู้กอบกู้ในหนังสือประวัติศาสตร์ ผมสงสัยว่ามันหมายถึงพวกเขาเป็นผู้ใช้ความสามาถตาแห่งสวรรค์
「นี่เป็นของชั้น…ไม่ การคาดการณ์ของมากิริ-ซามะ แต่ผู้ใช้ความสามารถในอดีตที่ใช้ตาแห่งสวรรค์ได้ ดึงได้แค่เปอร์เซ็นต์เล็กน้อยจากศักภาพจริงของมัน เมื่อซ้อนสิ่งนี้เข้ากับข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลของฮิซูกิ-จัง ค่าของความสามารถของเธอถือว่าสูงอย่างท่วมท้น」
「สูง? ความสามารถของฮิซูกิอยู่ระดับสูงกว่าผู้ใช้ตาแห่งสวรรค์ก่อนหน้านี้เหรอ?」
「ยังไงซะ แม้ว่าเราควรจะไม่เชื่อข้อมูลจากอดีตง่ายๆ ถ้าเราใช้มันเป็นแหล่งอ้างอิง ความสามารถของฮิซูกิ-จังนั้นก้าวข้ามมันได้อย่างง่ายๆ แต่เอาเรื่องนั้นไว้ก่อน แม้แต่การไปเดินเล่นกับตาแห่งสวรรค์ที่ตื่นขึ้นนั้นก็เป็นภัย ผู้ใช้ตาแห่งสวรรค์คนก่อนได้นั่งอยู่ที่ก้อนหินจนตะไคร่ได้ขึ้นเค้า พวกเค้าพูดง่ายๆว่าอยู่ในสภาพเป็นผัก」
นั่งบนหินจนตะไคร่น้ำขึ้นนั้นค่อนข้าง…
ยังไงซะ นักบุญที่ไปถึงจุดตรัสรู้จะเป็นอย่างนั้นอย่างแน่นอน…
「ซูซูฮาระ-ซามะ นายคือเหตุผล」
นนานะฟูชิชี้มาที่ผม จิ้มหน้าอกผมด้วยนิ้วขณะที่เธอพูดมัน
「ในบันทึกจากอดีต มันไม่มีซักครั้งที่ผู้ใช้ตาแห่งสวรรค์และตาแห่งพื้นดินมีตัวตนอยู่ในเวลาเดียวกัน เงื่อนไขที่ได้เมื่อจะใช้ความสามารถของตาแห่งสวรรค์นั้นยาก แต่ตาแห่งพื้นดินใช้เพื่อความต้องการส่วนตัวได้ ตรงกันข้ามกับตาแห่งสวรรค์ที่ถูกเรียกว่านักบุญ ผู้ใช้ตาแห่งพื้นดินมีบ่อยครั้งที่ถูกเรียกว่าปีศาจ」
เฮฮฮ๋ ปีศาจ หือห์ คนเห็นความสามารถผมเป็นแบบปีศาจบ่อยๆเหรอ?
「สร้างผู้ใช้ความสามารถทีละคนและใช้พวกเขาเพื่อเหยียบย่ำประเทศในความแข็งแกร่งที่ท่วมท้น ที่รากของสิ่งนี้ก็คือผู้ใช้ความสามารถตาแห่งพื้นดิน ระหว่างที่มันถูกบูชาเป็นความสามารถดั่งพระเจ้าจากผู้คนของประเทศ คนที่ได้ถูกรุกรานเห็นว่ามันคือปีศาจ」
เข้าใจแล้ว ที่ถูกเรียกว่าฮีโร่นั้น ถูกเห็นว่าเป็นผู้รุกรานได้ด้วย แน่นอนว่ามันเป็นแบบนั้นกับประเทศที่โดนปกครองโดยพวกเขา
「ผู้ใช้ความสามารถของตาแห่งพื้นดินยังมีลักษณะทั่วไปร่วมกัน」
「ลักษณะทั่วไปร่วมกัน?」
「ใช่ ด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเขายืนอยู่ที่จุดสูงสุดไม่ได้ นั่นทำไมชื่อของพวกเขานั้นยากที่จะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ บางอย่างเหมือนการเชื่อว่าตาแห่งพื้นดินเป็นเหตุผลสำหรับการก้าวไปอีกระดับที่เหลือเชื่อของประเทศ จุดสูงสุด พูดอีกอย่างคือ ราชา ไม่ใช่ผู้ใช้ความสามาถตาแห่งพื้นดิน นั่นทำไมมันได้ยากอย่างมากที่จะสังเกต สั้นๆคือ ผู้ใช้ความสามารถตาแห่งสวรรค์แต่งตั้งราชาของเค้าและรับใช้พวกเค้าไปตลอดชีวิต มันเป็นลักษณะทั่วไปร่วมกันที่แปลก」
「เฮฮฮ๋」
ไม่สามารถเป็นจ่าฝูงหมา
อย่างไรก็ไม่รู้ ผมรู้สึกว่าผมเข้าใจ
「ชั้นคิดว่าผู้ใช้ความสามารถตาแห่งสวรรค์ในอดีตไม่ได้อยากมีอำนาจทางการเมืองหรือทรัพย์ แต่แทนอันนั้น พวกเค้าต้องการอย่างอื่น ดังนั้นพวกเค้าดันเรื่องน่าปวดหัวออกไปและบังคับมันใส่คนอื่น อะไรแบบนั้น?」
「ยกตัวอย่าง?」
「ยังไงซะ เหมือนที่ที่พวกเค้าเรียกว่าบ้าน?」
เมื่อตอบด้วยการยักไหล่ นานะฟูชิปลอยเสียง “พรืดด”
「ถ้าผู้ใช้ความสามารถตาแห่งพื้นดินพูดอย่างนั้น งั้นมันอาจจะเป็นอย่างนั้น」
เธอตอบขณะที่เธอหัวเราะ
ไม่ ยังไงซะ ผมพูดมันเพื่อประโยชน์ของมัน
「ไม่ว่ายังไง ศักยภาพของฮิซูกิ-จังนั้นมากกว่าพอแล้ว ดังนั้น ชั้นคิดว่ามันดีกว่าสำหรับเธอที่จะมีเป้าไปที่การดึงพลังออกมายี่สิบเปอร์เซ็นต์และทำให้มันมั่นคง แทนที่จะมีเป้าไปที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ของมัน ถ้าซูซูฮาระ-ซามะอยู่ข้างเธอ งั้นมันจะทำได้ง่ายๆ」
「เข้าใจแล้ว」
เน้นไปที่ความมั่นคงมากกว่าพลังของมัน
ความสามารถของฮิซูกิแน่นอนแล้วว่าค่อนข้างทรงพลังในตอนนี้ แต่มันไม่มั่นคงสุดขีด มันรู้สึกเหมือนมันไปจากร้อยถึงศูนย์และย้อนกลับ
แม้ว่าศักยภาพของความสามารถมันจะถูกลดลง อย่างที่นานะฟูชิพูด มันดีกว่าที่จะทำให้มั่นคงที่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของมัน
นั่นใช่แล้ว มาคิดถึงมันแบบนั้นกัน
「อ้าา แล้วก็ สีตาของซูซูฮาระ-ซามะได้เปลี่ยน」
「เธอรู้อะไรเกี่ยวกับมันมั้ย?」
「ชั้นขอโทษ เพราะไม่มีกรณีคล้ายกันในอดีตชั้นไม่มีความคิดอะไรเลย」
นานะฟูชิส่ายหัวของเธอด้วยหน้าตาที่ดูขอโทษบนหน้าของเธอ
เมื่อผมชำเลืองมองดูทามะมูชิ ผมเห็นเธอมองผมด้วยสีหน้าที่มีปัญหา
แม้แต่นานะฟูชิที่ได้เกิดมามากกว่าสามร้อยปีก่อน และได้มีความรู้ที่อุดมสมบูรณ์ ไม่รู้เหตุผลหลังการเกิดนี้ ผมเดาว่ามันธรรมชาติที่ทามะมูชิจะไม่รู้ด้วย
「ขอบคุณ เธอได้ช่วยชั้นหลายๆทาง」
ผมลูบหัวเธอขณะที่ผมขอบคุณนานะฟูชิด้วยรอยยิ้ม
น่าจะเนื่องจากเธอไม่สามารถจะมอบเหตุผลให้คำถามผมได้ นานะฟูชิอยู่ในกำลังใจที่ต่ำ
ไม่มีความจำเป็นต้องหดหู่เกี่ยวกับมัน
แม้แต่การที่ตาจะไม่กลับไปที่มันเคยเป็น มันไม่สำคัญสำหรับผม
ตราบใดที่เราทำวัตถุประสงค์หลักของเราได้ ไม่มีอะไรอื่นสำคัญ
ถ้าเรากำจัดคุดัน ให้องค์กรอนุรักษณ์ธรรมชาติมอบการปกป้องและการต้อนรับกับเรา และสร้างที่ที่คุณเรียกว่าบ้านได้ งั้นงานผมก็เสร็จ
「น-นายถูหัวของนานะฟูชิเหรอ?」
รู้สึกถึงการดึงที่กางเกงของผม ผมพาสายตาไปที่ทิศทางของเสียงและเห็นทามะมูชิกอดแจ็คเก็ตผมอย่างแน่น และมองขึ้นมาหาผมด้วยตาที่สั่น ดูเหมือนกำลังจะร้องไห้
นี่อะไร? ความอิจฉา? เธอเป็นสาวที่น่ารักจัง
“เธอทำอะไรไม่ถูกมาก” ขณะที่ผมคิดนั่นในใจ ผมยองลงและยืดมือไปที่หัวของทามะมูชิเพื่อลูบหัวเธอ แต่ในทันทีนั้น บางอย่างที่ไม่ปรกติเกิดขึ้น
ทามะมูชิที่กอดแจ็คเก็ตผมอย่างแน่น ได้สร้างหุบเขาบนหน้าอกของเธอ
แม้ว่านมของทามะมูชิได้โตกว่าเดิมหน่อย เธอไม่ควรจะสามารถก่อเนินนมที่ชัดเจนแบบนี้ได้
แต่มันมี
มันไม่ใช่แค่นมของเธอ ผมของเธอเงา และผิวของเธอเรียบเนียนดุจไหม ตามรกตของเธอมีชีวิตมากขึ้น และปากที่แฉะของเธอมีความเด้งเมื่อเทียบกับไม่นานมานี้
อย่าบอกผมนะว่าเธอโตขึ้นอีก
เฮ้ย เฮ้ย ผู้ใช้แมลงสำควรจะเป็นอะไรกันวะ
มันทีมันเป็นเพราะยิ่งพวกเธอรับอสุจิมากไปเท่าไหร่ จะยิ่งน่ารักมากเท่านั้น
ถ้าานั่นจริง งั้นช่างเป็นตระกูลที่น่ากลัว
มันจะเป็นไปไม่ได้ทีจะกลับมาเมื่อเริ่มทำมันแล้ว?
ระหว่างที่ผมคิดอย่างนั้น ทามะมูชิที่จ้องผมตลอดเวลานี้ ได้พาสายตาเธอลงไปที่เนินนมของเธอ และกลืนน้ำลาย
ผมควรจะนาบเธออีกครั้ง
รู้ว่าผมคิดนั่นอยู่ ผมดีดตัวผมเองให้กลับมามีสติ
ไม่ ไม่ ผมต้องกลั้นไว้ก่อนตอนนี้ เวลาที่จะฟื้นอสุจิของผมจะกลับไปเริ่มต้นใหม่ถ้าผมได้มีเซ็กส์แตกในกับเธออีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม แต่น้องหนูของทามะมูชิรู้สึกพิเศษมากนะ หลังจากที่รู้เรื่องนั้น มันยากที่จะระงับความใคร่ของผม
มาแค่นอนก่อนวันนี้เถอะ ผมควรจะทำอย่างนั้น
บังคับความใคร่ผมลง ผมคิดเกี่ยวกับมันแล้วยืนขึ้น
「ยังไงซะงั้น ชั้นจะไปนอนตอนนี้――」
เลี่ยงการสบตากับทามะมูชิ ที่ผมคิดว่าเธอใส่สีหน้าที่ไม่มีกำลังใจ ระหว่างที่มองขึ้นมาหาหม ผมเรียกนานะฟูชิ แต่คำพูดของผมถูกตัดกลางประโยค
「ค่ะ ฝันดี」
นานะฟูชิตอบด้วยรอยยิ้มที่หวาน
เธอยิ้ม แต่เธอเหงื่อออกเป็นถัง
「มีอะไร?」
เมื่อผมถามนั่น นานะฟูชิแลบลิ้นของเธอออกมา
「ชั้นคิดว่าชั้นซ่อนมันได้ค่อนข้างดี แต่ชั้นเดาว่าเหงื่อชั้นเปิดเผยชั้น」
นานะฟูชิหัวเราะอย่างอึดอัด และด้วยหลังมือของเธอ เธอเช็ดเหงื่อจำนวนมากจากหน้าผากของเธอ แต่เหงื่อมันขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็วและมันหยดลงที่แก้มของเธอ
ชั้นในครึ่งตัวที่เธอใส่ได้เปลียนเป็นมองเห็นทะลุได้จากการที่ท่วมไปด้วยเหงื่อ
ไม่ว่าคุณจะคิดเกี่ยวกับมันยังไง เธอได้สร้างเหงื่อที่จะนวนมากผิดปรกติ
「ชั้นโอเค ไม่มีปัญหา」
「จริงเหรอ?」
「ใช่ คุณภาพและปริมาณพลังชี่แมลงจากมาสเตอร์ของชั้นไหลเข้ามาในชั้น นั้นเหนือกว่าความคาดหวังของชั้นมาก และดูเหมือนว่ากายของชั้นช็อกจากมัน」
「จะมีปัญหาอะไรกับนั่นมั้ย?」
「มันมีขีดจำกัดว่าชั้นรับมันได้แค่ไหน บางอย่างเหมือนตัวจำกัด ถ้านั่นไม่มีตัวตนอยู่ ชั้นจะจบที่การฆ่าคนที่ชั้นทำสัญญาด้วยโดยการดูดพลังชี่แมลงของพวกเค้าโดยไม่มีจุดจบ กายของชั้นพยายามจะปลดล็อคตัวจำกัด เพราะพลังชี่แมลงของมาสเตอร์ได้แข็งแกร่งขึ้น นั่นทำไมมันไม่มีปัญหา」
「เข้าใจแล้ว」
ลบตัวจำกัด มันโอเคตราบใดที่ไม่มีปัญหา
แต่ มันสร้างความต่างขนาดนั้น จากการที่ผมแตกไปสองครั้งข้างในทามะมูชิ?
พูดถึงแล้ว เธอได้พูดถึงการรับมันผ่านปากมีผลที่ลึกซึ้ง ดังนั้นการรับมันเข้าไปในช่องคลอดมันสามารถนำไปถึงผลที่ลึกซึ้งกว่า
「มันดีตราบใดที่มันไม่มีปัญหา」
「ใช่ ขอบคุณที่ใช้ความพยายามเพื่อกังวลเกี่ยวกับชั้น」
นานะฟูชิยิ้มอย่างหวานให้กับคำตอบของผม
รอยยิ้มของเธอไม่ได้บังคับ เพราะเธอพูดว่าเธอโอเคด้วยตัวเธอเอง ดังนั้นมันโอเค
และถ้าผมกังวลกับมันมากเกินไป นานะฟูชิจะมีสมาธิอยู่แต่กับมัน
คิดอย่างนั้น ผมยกมือของผมขึ้นเบาๆโดยไม่พยายามจะสบตากับทามะมูชิ ผมออกจากห้องแสต็ค
「บ-บ๊ายบาย……」
เสียงที่เศร้าของทามะมูชิอ่อยอิ่งมาจากขั้นหลัง
ถ้าผมมองทามะมูชิตอนนี้ ผมจะตกอยู่ในการล่อลวงของเธอ
ขณะที่ผมเดินที่โถงทางเดิน ผมเจออาซาฮินะ
อาซาฮินะหยุดเมื่อเธอเห็นผม จ้องผมอย่างเกลียด
เธอยังมีความแค้นกับผมอยู่ ตั้งแต่เหตุการณ์ที่ห้องน้ำเหรอ?
「โย่」
ผมเข้าหาอาซาฮินะที่ยืนในโถงทางเดิน วางมือของผมไปบนไหล่เธอ และยิ้มขณะที่ผมเรียกเธอ
「ทำไมนายไม่ใส่เสื้อ อา โอ้ใช่ มันเพราะนายมันบ้ากาม」
อาซาฮินะจ้องผมในความดูถูก
ดี…อย่างที่คาดเธอเก่ง มันเป็นเพราะเธอเป็นแบบนี้ ผมรังแกเธอได้โดยไม่ต้องลังเล
「พบกับความสุขในการเล่นไปทั่วกับรูหลังของเธอในห้องน้ำ และทำความสะอาดพื้นที่เธอทำเลอะ ชั้นสงสัยว่าเธอจะทำความสะอาดที่เธอทำเละที่ไหนต่อ?」
มันไม่มีทางที่อีตัวขี้กระสันอย่างอาซาฮินะจะพอใจกับการช่วยตัวเองระดับนั้น แล้วก็ จากที่ทามะมูชิพูดมาก่อน ผลข้างเคียงของแมลงมันเล็กกว่าที่คาด แต่มันไม่ได้หมายถึงว่ามันไม่มีตัวตนอย่างสมบูรณ์
หลังจากที่เช็ดพื้นในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า อาซาฮินะต้องไปบางที่เพื่อช่วยตัวเอง ดังนั้นเธอพยายามจะปกปิดมันด้วยคำถาม
「ใช่ นายพูดถูก ชั้นช่วยตัวเองในส้วมจนกว่าชั้นจะพอใจ」
อาซาฮินะตอบ แสดงรอยยิ้มที่ยั่วยุ
อย่างที่คาด หือห์ แต่ผมไม่คาดว่าเธอจะสารภาพอย่างเปิดเผยแบบนั้น
「ชั้นใช้เวลาทั้งหมดช่วยตัวเองกับเพื่อนร่วมชั้นของชั้น ทานากะ-คุง」
「อะ-อะไร!? ทา-ทานากะ ไม่ใช่ว่าเค้าเป็นคนที่มีเอ็นใหญ่ที่สุดในชั้นเรียนเหรอ!?」
「ใช่ นั่นใช่แล้ว มันเป็นทานะกะ-คุงคนนั้นที่มีข่าวลือว่าเอ็นใหญ่ที่สุดในชั้นเรียน」
อะไรวะ เหี้ยเอ้ยทานากะ ทำตัวอวดดีเพราะนายแค่มีเอ็นที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย
ผมคิดว่าเค้าเป็นคนค่อนข้างดีเพราะเขาให้ผมยืมยางลบ แต่เขาน่าจะดูถูกผม
นั่นมันยกโทษให้ไม่ได้ ทานากะ ครั้งหน้าที่ผมเห็นนาย นายตายแน่
「ไม่ว่ายังไง มาปล่อยเรื่องนั้นไว้ก่อน มาที่นี่ซักวินึง」
「อ๋าา?」
บางอย่างแบบนั้น? เธอพูดจริงๆว่า “บางอย่างแบบนั้น”?
「พอแล้วนายน่ะ แต่มาที่นี่ได้แล้ว」
อาซาฮินะจับและดึงแขนขวาของผม
「โอ้ววววว! มันจะขาด! เธอจะดึงแขนชั้นขาด!」
ข้อมือและข้อต่อหัวไหล่ของผมได้กรีดร้องในความเจ็บปวด
อะไรวะ เธอเป็นกอริลลาเหรอ? นี่ไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่ผู้หญิงควรจะเป็น
อาา ใช่ เธอได้พลังเพิ่มขึ้นอย่างมโหฬารจากแมลง
แต่ผมจะพูดมันยังไงดี เธอได้มีพลังของคนปัญญาอ่อน
「มันจะไม่ฉีกง่ายขนาดนั้น」
หลังจากพูดอย่างนั้น อาซาฮินะดึงแรงขึ้นอีก
「ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่! มันจะขาด มันจะขาด! มันจะขาดจริงๆ」
มันพูดว่า “บุชิ” ผมได้ยินแขนของผม “บุชิ”
ผมคิดว่าถ้าผมต่อต้าน ผมจะเสียแขนของผมไปจริงๆ ดังนั้นผมได้ตัดสินใจที่จะตามอาซาฮินะไปอย่างไม่เต็มใจ
อาซาฮินะได้มุ่งหน้าไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
หลังจากที่ปล่อยแขนของผม อาซาฮินะมุ่งหน้าเข้าไป และวางเก้าอี้ไว้ตรงหน้าอ่างล้างหน้า
「นั่งลง」
ยืนต่อจากเก้าอี้ อาซาฮินะกอดอกและสั่งผมให้ทำตามคำสั่งของเธอ ขณะที่เธอจ้องผมอย่างเอาแต่ใจด้วยท่าทางที่ทำกับผมต่ำต้อย
อะไรของเธอ? เธอทำให้ผมอารมณ์เสียจริงๆ
「ทาสไม่มีสิทธิ์จะมาสั่งมาสเตอร์ของเธอ」
จ้องอาซาฮินะ ผมบ่นอยู่ใต้ลมหายใจและนั่งไปที่เก้าอี้
มันทำให้ผมอารมณ์เสียที่ต้องตามคำสั่งของอาซาฮินะ แต่มันจะมีปัญหาถ้าเธอฉีกแขนผม
「นายมีแผลที่ไหล่ นายไปได้แผลนั้นมาได้ยังไง? เลือดไหลส่วนใหญ่ได้หยุดแล้ว แต่เนื้อได้ถูกควักออกไป」
อาซาฮินะที่ได้คุ้ยผ่านชั้นวางของถามคำถามผมแบบนี้
ความจำของผมย้อนขึ้นมาเมื่อเธอถามผมเกี่ยวกับมัน พูดถึงแล้ว นานะฟูชิเป็นคนที่ฉีกเนื้อจากไหล่ผม
「มันไม่มีอะไรใหญ่โต ไปละ」
เมื่อผมพยายามจะยืนขึ้นหลังจากที่พูดอย่างนั้น อาซาฮินะจับไหล่ผมอย่างแน่น
สะโพกของผมหล่นไปข้างล่าง
ไม่สามารถจะต่อต้านได้ ผมได้ถูกบังคับให้นั่งบนเก้าอี้
เหี้ย พลังปัญญาอ่อน
「ระหว่างที่ชั้นทำความสะอาดห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ชั้นเจอเครื่องปฐมพยาบาล ชั้นมอบให้ได้แค่การปฐมพยาบาลทั่วไป แต่มันดีกว่าไม่มีอะไรเลยใช่มั้ย?」
อาซาฮินะที่จับผมไว้บนไหล่ผมด้วยมือหนึ่ง ถือกล่องปฐมพยาบาลสีขาวอีกมือ และยิ้มให้ผม
「มันไม่ใช่ธุระของเธอ」
ผมตอบขณะที่ผมจ้องอย่างเกลียดไปที่อาซาฮินะ
「โทษที? ชั้นไม่มีเจตนาที่จะฟังความเห็นของนาย ชั้นเจอคนที่บาดเจ็บ ชั้นเลยทำแผล ไม่มีที่ให้เจรจา」
อาซาฮินะคิกคักขณะที่เส้นเลือดได้ปูดที่หน้าผากเธอ พร้อมที่จะระเบิด
นั่นเป็นพลังของความใจดีที่ท่วมท้น แม้ว่าอีกคนไม่ได้ขอมัน เธอยังทำตัวตามความต้องการของเธอ มันไม่ได้ถูกพิจารณาเป็นเจตนาดีแล้ว มันเป็นแค่ความเห็นแก่ตัวที่บริสุทธิ์
เธอนั้นช่างเป็นคนที่นารำคาญและเห็นตัวเองเป็นศูนย์กลาง
「สีของตานายเปลี่ยน เกิดอะไรขึ้น?」
อาซาฮินะเทน้ำยาฆ่าเชื้อลงบนผ้าก๊อซและวางมันลงบนไหล่ผม
「ชั้นใส่คอนแทค」
มันน่าปวดหัวที่จะอธิบาย มากกว่านั้น แม้แต่ผมก็ไม่รู้เหตุผลด้วย และมันก็เพราะผมไม่ได้รู้สึกอยากพูดจริงกับคำถามของอาซาฮินะ ผมคิดคำโกหกที่มีเหตุผล
「เห๋~ คอนแทคหือห์ ชั้นจะไม่พูดอะไรเพราะตานายมันแย่และนายใช้มัน แต่ชั้นจะไม่ประทับใจที่เห็นนายใช้ของแบบนี้ เป็นวิธีที่จะดึงดูดเพศตรงข้าม ไม่ใช่ว่านายคิดว่ามันจะดูเป็นชายกว่าถ้านายเผชิญหน้ากับตัวตนเก่าของนายเหรอ?」
ความรำคาญได้ขึ้นมาจากการฟังคำของอาซาฮินะ
หุบปาก มันไม่เหมือนผมอยากให้มันเปลี่ยน
「แต่มันเปลก」
「อ๋า?」
「มันดูเหมือนกับว่ามันดั้งเดิมแล้วเป็นสีนั้นตั้งแต่แรก มันเป็นสีที่ไม่ปรกติ แต่มันไม่รู้สึกแปลกเมื่อมองมัน」
「ยังไงซะ ขอบคุณ」
ผมตกใจชั่วครู่ แต่จากนั้น ผมดึงสติกลับมาหาตัวเองและตอบมันด้วยท่าทางไมแยแส
หันหน้าเข้าหากระจก ผมเห็นอย่างชัดเจนว่าตาของผมได้เป็นสีทอง
อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่แค่สีทอง มันเหมือนมีไฟดิ้นอยู่ข้างในส่วนที้เข้มของสี
ผมรู้สึกรังเกียจมัน มันรู้สึกเหมือนบางอย่างแปลกไป ผมรู้สึกได้แค่ว่าบางอย่างแปลกไปเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่น
ผมตกใจวินาทีนึง แต่ผมคิดว่ามันแค่การประชด
อาซาฮินะได้เก่งในการทำแผลบนไหล่ของผมอย่างเหลือเชื่อ และห่อไหล่ของผมด้วยผ้าพันแผลหลังจากการทำแผล
ผมไม่เคยที่จะคาดหวังสิ่งนั้นเลย ผมได้คิดว่าความสามารถของความเป็นสาวของเธออยู่ต่ำติดดิน
「ช่าย และมันเสร็จละ」
「อ-อาา」
อาซาฮินะสะกิดไหล่ของผม ผมส่งเสียงตอบและยกแขนของผมเพื่อทดสอบ
ผ้าพันแผลไม่ได้พันผิดตำแหน่งเลย และบนนั้น มันไม่ขัดขวางการเคลื่อนไหวที่ไหล่ผมทำ
เธอเก่งในการพันแผลคน
「นายจะไม่พูดคำขอบคุณอะไรจากการถูกทำแผลเลยเหรอ? ยังไงซะ ยังไงมันก็เป็นบางอย่างที่ชั้นทำโดยสมัครใจ และชั้นจะมีปัญหาถ้านายคอบคุณ」
อีกแล้ว กับการตอบโต้ที่ไม่จำเป็นของเธอเหมือนเคย
อาซาฮินะเก็บกล่องปฐมพยาบาลและเดินออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
「เฮ้ย」
เมื่อผมเรียกเธอ อาซาฮินะหยุดและหันกลับมา
「มีอะไร? ชั้นไม่ต้องการคำขอบคุณจากนาย มากกวันนั้น มันจะรู้สึกขยะแขยงถ้านายพูดมัน」
กอดอกของเธอ อาซาฮินะจ้องผมลงด้วยความอวดดีสุดขีดเหี้ยๆ และท่าทางที่ทำราวกับผมต่ำต้อย
อาา- เธอทำผมอารมณ์เสีย ผมอยากจะดันเธอลงและขมขืนเธอตอนนี้เลย แต่โชคร้าย ผมได้หมดกระสุนแล้ววันนี้
「ชั้นไม่ได้จะพูดขอบคุณ อีโง่ ชั้นแค่คิดว่าทักษะการพันแผลของเธอดีกว่าที่คาดไว้ นั่นทั้งหมด ที่ชั้นหมายถึงคือมันไม่ควรเป็นบางอย่างที่เธอทำได้」
ใส่ความเสียดสีลงไปมากมายกับคำพูดผม ผมพูดนั่นกับอาซาฮินะ
ยังไงซะ มาดูกัน ว่าเธอจะพูดเสียดสีอะไรอีกครั้งนี้
ระหว่างที่ผมคิดอย่างนั้น อาซาฮินะหน้าแดงเล็กน้อยและหันหัวเธอไป
จากนั้น――
「ฝันของชั้นคือการเป็นพยาบาล」
ระหว่างที่เธอหันไปจากผม อาซาฮินะตอบในเสียงที่เกือบจะไม่ได้ยินและวิ่งไป
「……ห๋าา?」
พยาบาล? อาซาฮินะนั่นน่ะนะ? เธอพูดว่าเธออยากจะเป็นพยายาล เธอหมายถึงเธออยากจะเป็นนางฟ้าในชุดขาว?
「เฮ้ย เฮ้ย ถ้าคนนั้นเป็นพยาบาล คนไข้จะวิ่งหนีหมดและโรงพยาบาลจะเจ๊งเป็นผลของมัน」
ได้เป็นคนที่เห็นแก่ตัวและอีโก้สูงไปแล้ว เธอยังได้พลังเพิ่มขึ้นอย่างมโหฬารจากแมลง ถ้าบางอย่าง และถ้าบางอย่างเกิดขึ้นที่ทำเธออารมณ์เสีย การทำบางอย่างอย่างการซ้อมคนไข้จะจบที่การส่งพวกเขาไปสวรรค์
แล้วก็สำหรับความเป็นอยู่ของคนไข้ อาซาฮินะไม่ควรจะเป็นพยาบาล
แต่ยังไงซะ――
「ส่วนตัวแล้วไม่แต่พรสวรรค์ของเธอใช่」
ผมพึมพำขณะที่ผมขยับแขนขวาไปรอบๆ
มาถึงที่ห้องนั่งเล่น ฮิซูกิได้มีหัวของเธอนอนอยู่บนตักของคาซะฮานะและได้งีบอยู่บนโซฟา
ผมเห็นคาซะฮานะที่เธอดูเหมือนเธอหลับอยู่ กระตุกหูสัตว์ของเธอและเปิดตาเธออย่างช้าๆ
――ปล่อยมันไปอย่างนั้น
ผมบอกเธอโดยการทำท่ายกนิ้วชี้ขึ้นและวางมันลงไปที่ปากของผม
เหมือฮิซูกิ คาซะฮานะควรจะเหนื่อยด้วยเหมือนกัน กับสิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้
เห็นท่าของผม คาซะฮานะปิดตาของเธอแล้วกลับไปหลับต่อ
ไม่ได้ขยับไปจากทางเข้า ผมมองไปรอบห้องนั่งเล่น แต่ผมไม่สามารถเจอริกกะ
เธออยู่ที่อื่นเหรอ? หรือเธอออกไปข้างนอกแล้วไปที่ไหน?
ยังไงซะ มันควรจะโอเคถ้าริกกะได้ออกไปคนเดียว
และผมได้สัญญากับฮิซูกิว่าเราจะนอนด้วยกันวันนี้
ดังนั้นผมได้เดินไปหาฮิซูกิ ที่ใช้ขาของคาซะฮานะแทนหมอน และนั่งต่อจากเธอ หาว ปิดตาของผม
วันต่อมา ผมตื่นขึ้นโดยริกกะและเราออกจากบ้าน
ที่ปลายของหน้าบ้านทามะมูชิ ริกกะหยุดแลหะหันมาเพื่อมองผม
「ชั้นได้สนใจในที่ฮิซูกิพูด ชั้นเลยออกไปเพื่อหามารินะ-ซังและยูกะ-ซังเมื่อวาน ชั้นขอโทษที่ทำอะไรด้วยตัวเอง」
ริกกะคำนับขอโทษ
งั้นนั่นเกิดขึ้น เธอกังวลเกี่ยวกับมารินะและยูกะ
อย่างที่คาดกับหมาของผม
「มันไม่ใช่บางอย่างที่ต้องขอโทษ และ มันเป็นยังไงล่ะ?」
เพื่อผมพูดนั่นกับริกกะ เธอยกหัวของเธอขึ้นและมองผมด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน
ผมรู้สึกถึงข่าวร้ายที่จะมาทางผม
「มันไม่มีอะไรผิดกับมารินะ-ซังเป็นพิเศษ ยังไงก็ตาม ยูกะ-ซังนั้น……」
เมื่อเธอพูดถึงชื่อยูกะ เธอลังเลและเริ่มพูดตะกุกตะกักและพึมพำ
ผมเดาว่าบางอย่างเกิดขึ้นกับยูกะ
「เธอไม่ได้นอนเลยซักนิด และมีผ้านวมปิดตัวเธอตลอด……」
เธอทำอะไรอยู่ใต้ผ้านวม?
「เธอได้ช่วยตัวเองโดยไม่หยุดจนถึงเช้าวันต่อมา เธอมีพลังใจ พลังกาย และความต้องการทางเพศที่น่าทึ่ง」
ริกกะที่สั่นรายงานกลับพร้อมเหงื่อได้ขึ้นมาจากแก้มของเธอ
「มารินะ-ซัง ทำตุ๊กตาที่น่ารักที่ดูเหมือนมาสเตอร์เป๊ะเลย และใช้มันเพื่อช่วยตัวเองจนกว่าจะเที่ยงคืน หลังจากนั้น ผมอยากจะตรวจดูสภาวะของยูกะ-ซัง แต่มันดูเหมือนเธอได้ช่วยตัวเองไปหลายครั้งไปแล้ว จากตรงนั้น เธอไม่พักและช่วยตัวเองตลอดจนกว่าจะเช้าวันต่อมาและพูดนี่」
สั่นจากความกลัว ริกกะกลืนน้ำลายและพูดต่อ
「“ชั้นค่อนข้างพอสำหรับวันนี้” คือที่เธอพูด」
ความกลัวได้สะท้อนอยู่ที่ตาสีแดงของริกกะ
「ไม่แม้แต่ครั้งเดียว เธอไม่ได้พักแม้แต่ครั้งเดียว!! มากกว่านั้น มันเป็นคืนที่ไม่นอนและไม่พัก และเมื่อเช้าวันต่อมามาถึง เธอมีรอยยิ้มที่สดชื่นและพูดว่า “ชั้นพอใจสำหรับวันนี้”? และเธอเอียงหัวของเธอไปด้านข้างและพูด “ฟฟฟู่~♥” ในวิธีที่น่ารัก!? ชั้นไม่เห็นสัญญานใดๆจากความเหนื่อยจากการเห็นรอยยิ้มที่พอใจที่เธอได้ทำ! คนนั้นเป็นมนุษย์จริงๆเหรอ!?」
เธอน่าจะกลัวจนหลุด ริกกะที่อธิบายในน้ำเสียงที่ใจสลายได้รีบเข้ามาหาผมและโอบกอดผมในน้ำตา
ตัวที่เล็กของเธอได้สั่นมากจนในดูเหมือนมันพังได้ทุกเวลา
「……อ-โอ้」
ผมไม่รู้ว่าจะตอบริกกะอย่างไร
「ชั้นขอโทษ! ชั้นได้ประเมินยูกะ-ซังต่ำไป! ชั้นขอโทษ! ชั้นขอโทษ!」
ริกกะร้องไห้ขณะที่เธอเกาะผม
ผมเอื้อมมือไปรอบริกกะและลูบไหล่ที่เล็กของเธอ
เธอผมถามว่าเธอยังเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่ ผมคาดไม่ได้แล้วว่าเธอยังเป็นอยู่
มันเป็นเพราะยูกะ สาวคนนั้นเป็นแค่คนเดียวที่อาซาฮินะรับรู้ มันธรรมชาติสำหรับริกกะที่จะกลัว
ได้พูดสิ่งนั้นแล้ว ยูกะ เธอ เธอได้อั้นมันไว้เหรอนั่น……
—————————————————————
ยูกะ 「ชั้นคิดว่าชั้นได้กลิ่นโมตะ-คุง……」
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord