เฮดโฟนของผมเชื่อมต่อกับอนาคตได้! My Headphones Can Connect to the Future - ตอนที่ 42
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ซูฟ่านก็ได้ฟังข่าวอีกสองข่าวที่เหลืออีกครั้ง
ข่าวแรกคือภัยธรรมชาติ ซูฟ่านไม่มีความสามารถที่จะหยุดยั้งพวกมันได้
ซูฟ่านสนใจอีกข่าวหนึ่งมาก
ข่าวเกี่ยวกับน้ำมันดิบ ซูฟ่านรู้เรื่องนี้หนึ่งหรือสองเรื่องจากการได้ยินพ่อของเขาพูดถึง
หากเขาสามารถใช้ประโยชน์จากข่าวนี้ได้เขาก็อาจสามารถสร้างโชคได้
ซูฟ่านใช้เวลาครึ่งคืนเพื่อชดเชยความรู้เกี่ยวกับตลาดน้ำมันดิบ
วันรุ่งขึ้นเขาก็นั่งคอตกอยู่ในชั้นเรียน
ซูฟ่านที่กำลังง่วงนอนก็ได้รับข้อความ WeChat
“คืนนี้ว่างไหม?”
ฉินเสี่ยวหยุนส่งข้อความมา
“ผมว่าง”
ซูฟ่านตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“ไปทานข้าวด้วยกันเถอะ ฉันอยากคุยเรื่องงานกับคุณ”
“เยี่ยมเลย”
หลังจากเลิกเรียนในตอนเที่ยง ก็เป็นเวลาพักของซูฟ่าน
ในตอนเย็นเขาขับรถไปที่โรงแรมที่ฉินเสี่ยวหยุนจองไว้
มันเป็นร้านอาหารระดับไฮเอนด์ของมิชลิน
เมื่อเข้าไปในร้านอาหารทุกอย่างดูหรูหรามาก
แต่ตอนนี้ซูฟ่านมีภูมิคุ้มกันต่อสิ่งหรูหราเหล่านี้แล้ว
เขามีเงินมากกว่าสิบล้านและการกินอาหารในสถานที่แบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป
ตอนนี้เขาต้องการเงินมากขึ้นเพื่อให้ตัวเองมีความสุขและปลอดภัย
ความโลภของมนุษย์นั้นมีไม่จำกัด
หลังจากนั่งรอเป็นเวลาห้านาที ฉินเสี่ยวหยุนที่แต่งตัวดูสมาร์ทก็ก้าวท้าวมาด้วยรองเท้าส้นสูง เดินมาข้างหน้าซูฟ่านอย่างมั่นคงและทรงเสน่ห์
ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะบรรยายถึงผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยคำว่าเรือนร่างของปีศาจสาว
ดวงตาของซูฟ่านจับจ้องไปที่ร่างของฉินเสี่ยวหยุนโดยไม่รู้ตัว
“ทำไมคุณซูถึงไม่เป็นคนตรงไปตรงมากันหน่อยน๊า แบบนี้เรียกว่าคุกคามทางสายตาหรือเปล่า?”
ฉินเสี่ยวหยุนเลื่อนเก้าอี้แล้วนั่งลงก่อนพูดติดตลก
“ผมขอโทษที่ไม่ได้ตอบกลับ WeChat ของคุณ ผมไม่ได้มีเจตนาจริง ๆ ผมไม่ได้ตอบกลับใครเลยเพราะโทรศัพท์เสียในสองวันนั้น”
ซูฟ่านอธิบาย
“ไม่เป็นไร สั่งอาหารก่อนเถอะฉันมีอะไรจะบอกคุณ”
ฉินเสี่ยวหยุนไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไป เธอได้พูดคุยกับซูฟ่านแล้วหลังจากนั้นก็เรียกหาบริกรเพื่อสั่งอาหาร
“ก่อนอื่นขอขอบคุณที่ช่วยฉันทำงานให้เสร็จ ถ้าไม่มีคุณฉันอาจต้องกระโดดลงจากตึกจริง ๆ คุณช่วยชีวิตนี้ไว้”
หลังจากนั้นฉินเสี่ยวหยุนก็ยกแก้วไวน์ขึ้น ซูฟ่านก็รีบยกแก้วขึ้นตาม
“คุณช่วยฉันไว้ มันเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะไม่ตอบแทนคุณ สมมติมาหน่อยสิว่าคุณต้องการอะไร”
ฉินเสี่ยวหยุนมองไปที่ซูฟ่านด้วยความจริงใจและพูดออกมา
ในความเป็นจริงซูฟ่านได้คิดไว้แล้วว่าเขาต้องการอะไร
“ให้ผมเป็นที่ปรึกษาการลงทุนของบริษัทของคุณ ตราบใดที่คำแนะนำของผมสำเร็จ ผมจะได้รับ 50% ของรายได้จากการลงทุน”
“คิดง่าย ๆ เงินเดือนปีละ 200 ล้านหยวนไม่ดีเหรอ”
“ไม่ ผมไม่ต้องการขายตัวให้กับประธานฉินนอกจากนี้ผมยังเป็นนักเรียนอยู่และผมก็ไม่มีเวลาไปทำงานมากนักหากยังไม่จบการศึกษา”
ซูฟ่านพูดติดตลก
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่บังคับแล้วกัน มีอะไรอีกไหม?”
“”ก่อนหน้านี้หุ้นทำรายได้เท่าไหร่”
“1.2 พันล้าน”
เมื่อพูดถึง 1.2 พันล้านเหล่านี้ฉินเสี่ยวหยุนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น
นี่เป็นจำนวนเงินที่เธอทำได้มากที่สุดตั้งแต่ลงทุนมาและทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณซูฟ่าน
“แบ่งเงินร้อยล้านให้ผม”
“แค่หนึ่งร้อยล้าน?”
ฉินเสี่ยวหยุนมองไปที่ซูฟ่านด้วยความประหลาดใจ
ซูฟ่านยิ้ม
“หรือคุณจะให้ผมทั้งหมด 1.2 พันล้าน?”
“ก็ไม่เลวเลยถ้าคุณต้องการให้ฉันล้มละลาย”
ซูฟ่านยิ้ม
“ผมต้องการแค่ 100 ล้านเพราะผมช่วยชีวิตคุณและรักษาบริษัทของคุณ”
ในความเป็นจริงฉินเสี่ยวหยุนจะให้ซูฟ่านมากกว่านี้ แต่เนื่องจากซูฟ่านยืนยันว่าเขาต้องการหนึ่งร้อยล้าน เธอจึงไม่ทำเรื่องไร้สาระ
เธอสั่งให้เลขาส่งเงินให้ซูฟ่านทันที
ในความเป็นจริงซูฟ่านไม่ได้โง่เขารู้ว่าเธอต้องการมอบให้เขามากกว่านี้
แต่สายตาของเขาไม่ได้อยู่กับเงินไม่กี่ร้อยล้าน เงินเหล่านี้ตราบใดที่ยังมีบริษัทของฉินเสี่ยวหยุนเขาก็สามารถทำเงินได้
ซูฟ่านสามารถพึ่งพาบริษัทของฉินเสี่ยวหยุนเพื่อทำเงินได้มากขึ้น
ห้านาทีต่อมาซูฟ่านได้รับข้อความบนโทรศัพท์มือถือของเขาว่าเงินหนึ่งร้อยล้านหยวนเข้าแล้ว
เป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและเรียบง่ายแบบนี้
แต่สำหรับครอบครัวของฉินเสี่ยวหยุนการโอนเงินหนึ่งร้อยล้านนั้นง่ายมาก
เมื่อเห็นยอดเงินในบัตรธนาคารของเขา ซูฟ่านก็รู้สึกตื่นเต้น
เขามีเงินมากขนาดนี้เป็นครั้งแรก
ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคิดถึงเงินจำนวนร้อยล้าน้ลย เขากลัวด้วยซ้ำว่าจะไม่มีรายได้ไปตลอดชีวิต
แต่ในพริบตาเงินหนึ่งร้อยล้านก็อยู่ในมือของเขาแล้ว
การรับประทานอาหารกับฉินเสี่ยวหยุนเป็นที่น่าพอใจมากและทั้งคู่ก็ดื่มไวน์ไปมากมาย
หลังจากอาหารค่ำ ฉินเสี่ยวหยุนก็นั่งในรถของซูฟ่าน
บรรยากาศค่อย ๆ คลุมเครือขึ้น
ฉินเสี่ยวหยุนพิงไหล่ของซูฟ่าน
“คุณไม่สามารถขับรถได้หลังจากดื่มใช่ไหมล่ะ คืนนี้ไม่ต้องกลับหรอก”
ฉินเสี่ยวหยุนแนะนำ
สำหรับเรื่องซูฟ่าน เธอไม่ยอมแพ้จริง ๆ
ตอนที่เธอบอกว่าจะไม่รบกวนซูฟ่าน เธอแค่รู้สึกเจ็บปวดในความภาคภูมิใจของตัวเอง
แต่วันนี้ซูฟ่านได้ขอโทษเธออย่างเป็นทางการแล้ว แม้ว่าฉินเสี่ยวหยุนจะไม่เชื่อสักคำ แต่เธอก็ไม่ต้องการที่จะใส่ใจมากเกินไป
ทั้งสองไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่โรแมนติกและซูฟ่านก็ดูเหมือนจะไม่ชอบเธอเช่นกัน
ทุกอย่างเป็นไปตามความสมัครใจของเธอเองแล้วเธอจะสนใจอะไร?
กลิ่นจากร่างกายของฉินเสี่ยวหยุนและกลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้งเข้าไปเต็มโพรงจมูกของซูฟ่าน
มันทำให้จิตใจของเขากระอักกระอ่วนเล็กน้อยและมีความคิดบางอย่างที่เขาไม่ควรมี
แต่เมื่อเขาเกือบจะเสียสติเขาก็จำฉากที่เขาและชูหยุนซีจูบกันในรถเมื่อคืนนี้ได้
ในทันทีซูฟ่านก็ระงับความต้องการของเขา
“พรุ่งนี้ผมยังมีเรียน ผมจะหาคนขับรถมาทีหลังคุณขับรถมาด้วยหรือเปล่า?”
“ก็ตรงนั้นแหละ”
ฉินเสี่ยวหยุนชี้ไปที่รถรุ่น Big G สีขาวขนาดใหญ่ที่จอดอยู่ตรงข้าม
แน่นอนว่าตอนนี้สาว ๆ นั้นชอบรถออฟโรดยิ่งไปกว่านั้นสำหรับผู้หญิงที่มีความสามารถและเป็นอิสระอย่างฉินเสี่ยวหยุนด้วยแล้วก็นับว่าเข้ากัน
รถ Big G นั้นก็เป็นสไตล์โปรดของซูฟ่านเช่นกัน
ซูฟ่านสามารถซื้อมันได้ในตอนนี้
แต่เขามี GTR นี้อยู่แล้วดังนั้นซูฟ่านจึงจะไม่ซื้อรถมากเกินจำเป็น
เขายังไม่มีบ้านด้วยซ้ำและไม่มีที่ให้จอดรถ
เขาแค่ต้องการใช้เงินที่มีอยู่ในมือเพื่อสร้างรายได้ให้มากขึ้น
ซูฟ่านเรียกคนขับรถและฉินเสี่ยวหยุนก็สั่งให้คนขับรถของบริษัทมารับเธอ
หลังจากกลับมาในตอนเย็น ซูฟ่านก็ได้ศึกษาผลิตภัณฑ์การบริหารความมั่งคั่งของธนาคารและตัดสินใจใช้เงินสิบล้านเพื่อแบ่งระยะเวลาการฝากเงินในธนาคารเป็นเงินช่วยชีวิตของเขาเอง
ด้วยเงินที่เหลืออีก 100 ล้านซูฟ่านวางแผนที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่!
เขากำลังวางแผนแต่โทรศัพท์ของซูฟ่านก็ดังขึ้น
เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมานั่นก็กลายเป็นชูเทียนฉี!
ซูฟ่านขมวดคิ้ว ผู้ชายคนนี้ต้องการอะไรในตอนกลางดึก?
แม้ว่าเขาจะช่วยชูเทียนฉีเกลี้ยกล่อมชูหยุนซี แต่เขาก็ยังไม่มีความรู้สึกที่ดีต่ออีกฝ่าย
หลังจากเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นอีกสองสามครั้ง ซูฟ่านก็รับสาย
“ซูฟ่านฉันเองชูเทียนฉี”
เสียงที่แข็งแกร่งของชูเทียนฉีดังมาจากหูฟัง
“ฉันรู้ มีอะไรเหรอ?”
ซูฟ่านถามอย่างไม่กระตือรือร้น