แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 502
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 502
“เฉินไต้ซือ เขาเป็นเฉินไต้ซือจริง ๆ! มิน่าหลังจากที่เขาได้ยินสถานะของผมแล้ว แต่สีหน้ายังคงราบเรียบ มิน่าตั้งแต่ต้นจนจบเขายังคงแสดงท่าทางที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ที่แท้เขาคือเฉินไต้ซือ!”
“ฉู่เหวินสงผู้ทรงอิทธิพลจากอู่โจว คุณท่านเซวียจากหนานหลิง ฉินเยว่ซานจากอานหลิน แล้วยังมีผู้ทรงอิทธิพลที่มีชื่อเสียงมากมายจากทั่วทิศ แม้กระทั่งอาเขยผม ท่านสามจากตระกูลจิน อยู่ต่อหน้าเขาแล้วยังแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน เดิมทีผมคิดว่าเฉินไต้ซืออาจจะเป็นนักต้มตุ๋นชั้นสูงในยุทธภพ แต่ดูเหมือนว่าผมคิดผิด และผิดอย่างมหันต์!”
“คนคนเดียวที่สามารถครอบงำจนผู้ทรงอิทธิพลทั่วฮ่านหยางยอมก้มหัวได้ แม้แต่ท่านสามแห่งตระกูลจินที่ชื่อดังในฮ่านหยางก็อ่อนน้อมถ่อมตนต่อเขา เขายืนบนจุดสูงสุดของฮ่านหยาง นี่ถึงจะเป็นเฉินไต้ซืออย่างแท้จริง มันน่าขำที่เมื่อสักครู่ผมยังคงหัวเราะเยาะว่าเขาเป็นคนบ้านนอกที่มาจากอำเภอเล็ก ๆ! ฮ่า ๆ น่าขำจริง ๆ!”
“ได้ยินว่าเย่เทียนหนิงกลับมาพร้อมความสามารถ กลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงในแวดวงคุณชายชั้นนำในมณฑลซีไห่ พลังอำนาจของเขานั้นใกล้เคียงกับคุณชายชั้นนำของยานจิง เป็นความหวังของตระกูลเย่ แต่เมื่อเทียบกับเฉินไต้ซือเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของฮ่านหยางแล้ว ถึงจะมีเย่เทียนหนิงสิบคนก็ไม่สามารถเทียบเขาได้!”
“แต่ผมล่วงเกินเข้าแล้ว ไม่รู้ว่าเขาจะปล่อยผมไปหรือไม่!”
ไม่เพียงแค่กงซุนหลีที่แอบกังวล ลูกเศรษฐีที่ตามเขามาล้วนตกใจจนหน้าขาวซีด พวกเขาขยับฝีเท้าอย่างเงียบ ๆ ตามสัญชาตญาณ เพื่อให้ตนเองอยู่ห่างจากกงซุนหลีมากที่สุด
อานเข่อเยว่มองเฉินโม่ รู้สึกเพียงแค่สายฟ้าฟาดอยู่ในใจ เธอรู้สึกตกตะลึง ตอนนี้มีเสียงเดียวที่หลงเหลืออยู่ในสมอง นั่นคือเสียงหัวเราะเยาะเธออย่างไม่รู้จบว่า “เขาคือเฉินไต้ซือ เขาคือเฉินไต้ซือ เขาคือเฉินไต้ซือ…..”
อานเข่อเยว่กัดริมฝีปากและใบหน้าซีดเผือด “เฉินไต้ซือ หือ ๆ เฉินโม่ นายปกปิดได้ลึกมาก! ที่แท้นี่คือที่พึ่งพาอาศัยที่แท้จริงของนาย เฉินไต้ซือคนดังคนใกญ่ของฮ่านหยาง!”
“มิน่านายถึงได้มีท่าทางที่เย่อหยิ่งอยู่เสมอ มิน่าที่นายบอกว่านายอยู่คนละโลกกับพวกเรา มิน่าแม้แต่คุณหนูตระกูลจินก็เคารพนายมากขนาดนั้น ออกหน้าช่วยเหลือนายซ้ำแล้วซ้ำเล่า……ในเมื่อนายเป็นเฉินไต้ซือ ถ้าเช่นนั้นทุกอย่างก็สมเหตุสมผล”
“แต่ทำไมนายถึงกลายเป็นเฉินไต้ซือได้? เฉินโม่ นายมีสิทธิ์อะไร!”
ความตกใจ ความหงุดหงิด ความไม่เต็มใจ และความริษยา หลากหลายอารมณ์ผสมปนเปกัน และสุดท้ายอารมณ์พวกนี้ก็สามารถเอาชนะสติสัมปชัญญะที่เหลืออยู่ของอานเข่อเยว่
อานเข่อเยว่ตะโกนใส่เฉินโม่ทันที “ไม่! มันไม่ใช่แบบนี้ ตัวปลอม ต้องเป็นตัวปลอม! เขาเป็นแค่นักเรียนมัธยมปลายธรรมดาเหมือนพวกเรา เขาจะเป็นเฉินไต้ซือได้อย่างไร?”
ชาติก่อนเฉินโม่ชอบอานเข่อเยว่มาโดยตลอด สามารถกล่าวได้ว่าตามใจอานเข่อเยว่ทุกอย่าง แต่นับตั้งแต่เฉินโม่เกิดใหม่แล้ว ทัศนคติของเขาที่มีต่ออานเข่อเยว่ก็เปลี่ยนไปมาก
อานเข่อเยว่เป็นที่รักและน่าภาคภูมิใจของคนอื่น ความแตกต่างที่มากขนาดนั้น ทำให้เธอยอมรับไม่ได้
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เธอเปรียบเทียบเฉินโม่กับเจิ้งหยวนฮ่าวมาโดยตลอด ความจริงแล้วมันเป็นการปลอบใจตนเองอย่างหนึ่ง ถ้าเฉินโม่ยังคงเป็นคนไร้ประโยชน์ของโรงเรียนตี้ยีแห่งอู่โจว อานเข่อเยว่ก็จะไม่สนใจทัศนคติที่เย็นชาของเฉินโม่ที่มีต่อเธอ หรือรังเกียจที่จะสนใจทัศนคติของคนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง
แต่ตอนนี้เฉินโม่เปลี่ยนแปลงและกลายเป็นเฉินไต้ซือที่ชื่อเสียงสั่นสะท้าน แม้แต่ผู้ทรงอิทธิพลในฮ่านหยางก็ยังให้ความเคารพเขา เธอปลอบใจตนเองมาโดยตลอดว่าเจิ้งหยวนฮ่าวดีกว่า แต่ตอนนี้เมื่อเทียบกับเฉินโม่แล้ว เจิ้งหยวนฮ่าวกลายเป็นขยะทันที
ความรู้สึกแตกต่างใหญ่หลวงที่เหมือนตกจากสวรรค์สู่นรก แล้วยังมีความเสียใจและความไม่เต็มใจที่เฝ้ามองสมบัติที่เป็นของตนเองหลุดจากมือไป ทำให้อานเข่อเยว่ที่เย่อหยิ่งมาตลอดสติแตกทันที