แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 674
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 674
ปกติแล้วเธอเป็นคนที่ร่าเริงแจ่มใส เมื่อเธอคิดแบบนี้ ก็ทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้น
ฉีเยว่หยูยังคงยิ้ม แต่ความมิตรไมตรีน้อยกว่าก่อนหน้านั้น และตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ไม่ได้เจอกันนาน!”
“ไอ้คนไร้ประโยชน์ นายมาทำอะไรที่นี่?” ฉีหมิงซานกล่าวด้วยความเย่อหยิ่ง
เฉินโม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย พวกเขาไม่ได้เจอกันสองปี ทัศนคติของฉีหมิงซานยังคงเลวร้ายเหมือนเดิม
มู่หรงยานเอ๋อร์จ้องมองฉีหมิงซานด้วยความโกรธ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเย็นชา ตอนนี้ใครก็ตามที่ดูถูกเฉินโม่ จะถูกคุณหนูยานเอ๋อร์ตีตราว่าเป็นคนเลว
ฉีเยว่หยูพ่นลมออกมาด้วยความไม่พอใจ “พี่ พูดแบบนี้ได้ยังไง? รีบขอโทษเฉินโม่!”
“อะไรนะ! เธอจะให้พี่ขอโทษเขา ฉีเยว่หยู เธอมันบ้าไปแล้ว!” ฉีหมิงซานรู้สึกโกรธ
“ไม่จำเป็น พวกเรายังมีธุระ ขอตัวก่อน!” เฉินโม่ไม่อยากจะสนใจคนอย่างฉีหมิงซาน เพราะเห็นแก่หน้าฉีเยว่หยู เฉินโม่จึงไม่สามารถลงมือจัดการหมิงซานได้
เมื่อเห็นเฉินโม่พามู่หรงยานเอ๋อร์เดินจากไป ฉีเยว่หยูกลอกตาใส่ฉีหมิงซานด้วยความหงุดหงิดและด่าเบา ๆ ว่า “ดูสิ ต้องโทษพี่คนเดียว เขาโกรธจนเดินหนีไปแล้ว!”
ฉีหมิงซานมองมู่หรงยานเอ๋อร์เดินผ่านตนเองไปอย่างช้า ๆ เขาได้กลิ่นหอมจาง ๆ จากร่างกายของมู่หรงยานเอ๋อร์ ความเร่าร้อนในดวงตายิ่งรุนแรงขึ้น
“เพื่อนนักเรียนเก่า อย่าโกรธเลย ฉันแค่ล้อเล่นกับนายเท่านั้น ทำไมนายพูดว่าไปก็ไปทันทีเลย!” ฉีหมิงซานวิ่งไปหยุดเฉินโม่กับมู่หรงยานเอ๋อร์เอาไว้ และกล่าวด้วยหน้าทะเล้น
เฉินโม่รู้สึกรำคาญเล็กน้อย “หลีกไป!”
ความชั่วร้ายประกายผ่านดวงตาของฉีหมิงซาน เขาระงับความโกรธที่อยู่ในใจ และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เฉินโม่ ยังโกรธอีกเหรอ ฉันขอโทษน่ะ!”
ปากบอกว่าขอโทษ แต่ฉีหมิงซานดุด่าเฉินโม่อยู่ในใจว่า “เฉินโม่ไอ้คนไร้ประโยชน์ ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่สาวสวยที่อยู่ข้างนาย ฉันจะไม่สนใจนายหรอก คนอย่างนายไม่คู่ควรที่จะถือรองเท้าให้ฉันด้วยซ้ำ!”
ฉีเยว่หยูไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลใด ตอนนี้คิดว่าพี่ชายขอโทษเฉินโม่ด้วยความจริงใจ ดังนั้นเธอจึงเดินมาเกลี้ยกล่อมเช่นกัน “เฉินโม่ เมื่อพวกเราได้พบเจอกัน นายไม่ควรจากไปเร็วขนาดนี้! พี่ชายของฉันขอโทษนายด้วยความจริงใจแล้ว นายยกโทษให้เขาด้วยเถอะ!”
มู่หรงยานเอ๋อร์เป็นคนที่ใจอ่อน เมื่อเธอเห็นฉีเยว่หยูเอ่ยปากพูด เธอก็กล่าวว่า “เฉินโม่ อย่าโกรธอีกเลย เพราะอย่างไรเสียพวกคุณก็เคยเป็นเพื่อนร่วมชั้น!”
เฉินโม่เหลือบมองมู่หรงยานเอ๋อร์ และแอบถอนหายใจ ด้วยความที่เป็นคนมีจิตใจเมตตาของยานเอ๋อร์ มันทำให้พวกคนเลวหลอกใช้เธอได้ง่าย แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่น่าประทับใจและน่ารักของยานเอ๋อร์
ดูเหมือนว่าเธอจะกังวลว่าเฉินโม่จะรู้สึกเก้อเขิน ดังนั้นมู่หรงยานเอ๋อร์จึงจับมือของฉีเยว่หยูอย่างมีไมตรีและกล่าวว่า “พี่สาว ฟังจากสำเนียงแล้ว พวกคุณน่าจะเป็นคนในพื้นที่ใช่ไหม? พวกเรามาที่นี่ครั้งแรก และไม่รู้ว่าที่นี่มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง คุณพาพวกเราไปเที่ยวได้ไหม?”
คำพูดของสาวสวยไม่ได้มีผลต่อผู้ชายเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อผู้หญิงอีกด้วย
ฉีเยว่หยูกล่าวอย่างมีความสุข “โอเค พวกเรามาที่นี่บ่อย ฉันจะพาพวกคุณไปเที่ยว!”
“อืม!” มู่หรงยานเอ๋อร์พยักหน้าอย่างมีความสุข หันไปมองเฉินโม่และกล่าวด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเล็กน้อยว่า “เฉินโม่ พวกเราไปเที่ยวด้วยกันน่ะ?”
ฉีหมิงซานอยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงรีบเสแสร้งหัวเราะและกล่าวว่า “ถูกต้อง คนเยอะจะสนุก!”
ฉีเยว่หยูอยากทราบสถานการณ์ปัจจุบันของเฉินโม่ กับเพื่อนนักเรียนที่สนิทอีกหลายคนที่เคยเรียนอยู่ที่โรงเรียนตี้ยีแห่งอู่โจว จึงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจว่า “เฉินโม่ พวกเราไม่ได้พบกันเป็นเวลาสองปีแล้ว ฉันอยากคุยกับนายจริง ๆ”
“โอเค ถ้าเช่นนั้นก็เดินเที่ยวด้วยกันเถอะ!” เฉินโม่ไม่อาจทนปฏิเสธได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงตกลงเท่านั้น
“เยี่ยมมากเลย!” มู่หรงยานเอ๋อร์กับฉีเยว่หยูกล่าวพร้อมกัน
ฉีหมิงซานถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่นกัน ในที่สุดเขาก็มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับสาวสวย และไม่เสียแรงที่เขาอ่อนน้อมถ่อมตนกับเฉินโม่เมื่อสักครู่
เมื่อมองแผ่นหลังของเฉินโม่แล้ว สีหน้าของฉีหมิงซานเต็มไปด้วยความชั่วร้าย “ไอ้คนไร้ประโยชน์ อีกสักครู่ฉันจะทำให้นายอับอายต่อหน้าสาวสวย! ขยะอย่างนาย คู่ควรที่จะเดินกับสาวสวยระดับนี้เหรอ?”
“ดอกฟ้ากับหมาวัด!”