แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 678
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 678
ตอนแรกฉีหมิงซานยังกลัวหวงไต้ซือเล็กน้อย แต่เมื่อสักครู่เขาชนะหนึ่งเกม เขารู้สึกว่าหวงไต้ซืออาจเป็นนักตุ้มตุ๋นในยุทธภพ และคิดว่าหวางเส้าหยู่เป็นเศรษฐีที่โง่เขลา ถูกคนอื่นหลอกแล้วยังคิดว่าตนเองพบขุมทรัพย์อีก
คราวนี้จะต้องชนะและได้เงินก้อนโตจากเขาให้สาสม!
“คุณอยากเดิมพันเท่าไหร่? ผมก็จะเดิมพันตาม!” ฉีหมิงซานกล่าวด้วยความเย่อหยิ่ง หลังจากนั้นเขาก็หันไปมองมู่หรงยานเอ๋อร์ด้วยความภูมิใจ
“คุณหนูยานเอ๋อร์ คุณหาเงินค่าขนมตามผมดีกว่า?”
มู่หรงยานเอ๋อร์กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันจะเดิมพัน แต่ฉันจะไม่ตามคุณ เมื่อสักครู่คุณใช้โชคไปหมดแล้ว คราวนี้ฉันจะเดิมพันเอง!”
ฉีหมิงซานหัวเราะและกล่าวว่า “คุณหนูยานเอ๋อร์ คุณคิดผิดแล้ว การชกมวยมันไม่ได้อาศัยโชค มันอาศัยสายตาและสมอง!”
“เดิมพันตามผมเถอะ ผมรับรองว่าคุณชนะอย่างแน่นอน ถ้าคุณแพ้ ผมจะเป็นคนจ่ายเงินเดิมพันให้ทั้งหมด!” ฉีหมิงซานใจกว้างกับสาวสวยเสมอ
ฉีเยว่หยูขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าพี่ชายตนเองลำพองใจมากเกินไปแล้ว
หวางเส้าหยู่ที่อยู่ด้านข้างกล่าวเร่งว่า “คุณชายฉี คุณจะเดิมพันไหม? ถ้าคุณไม่เดิมพันผมก็จะกลับ วันนี้สภาพร่างกายของหวงไต้ซือไม่ค่อยดีและเขาอยากจะพักผ่อน!”
สภาพร่างกายไม่ค่อยดี? ข้ออ้างแย่ ๆ แบบนี้ก็สามารถพูดออกมาได้ ถ้าเขาไม่ใช่นักตุ้มตุ๋นในยุทธภพแล้วจะเป็นอะไรล่ะ!
“เดิมพัน เดิมพันแน่นอน บอกมาสิ คุณต้องการเดิมพันเท่าไหร่?” ฉีหมิงซานรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่จะหลอกฟันเงินของหวางเส้าหยู่
“ผมมีเงินอยู่ห้าล้าน ตัดสินผลชนะด้วยเกมเดียว คุณว่าไง?” หวางเส้าหยู่หยิบการ์ดออกมาแล้วกล่าว
“ห้าล้าน!” ฉีหมิงซานขมวดคิ้วและรู้สึกลังเลเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเขาจะมีเงินห้าล้าน แต่ถ้าเขาเป็นฝ่ายแพ้ มันจะส่งผลกระทบต่อเขาอย่างมาก แล้วปีนี้เขาจะต้องประหยัดตลอดทั้งปี นอกจากนี้ถ้าพ่อรู้เรื่องนี้จะต้องจัดการเขาอย่างแน่นอน
“ทำไมล่ะ? คุณชายฉีขี้ขลาดตาขาวเหรอ?” หวางเส้าหยู่กล่าวด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
สีหน้าของฉีหมิงซานแดงก่ำ และคำรามว่า “ขี้ขลาดตาขาว? คำนี้ไม่เคยปรากฏอยู่ในพจนานุกรมของผมฉีหมิงซาน!”
“ห้าล้าน ผมเดิมพัน!”
หวางเส้าหยู่อุทานด้วยความตื่นเต้น “ตกลง สะใจ ไปทำสัญญาเดิมพันกันเถอะ!”
ฉีเยว่หยูยังคงรู้สึกสงสัยว่าเมื่อสักครู่เฉินโม่กับมู่หรงยานเอ๋อร์พูดอะไร แล้วทำไมพี่ชายเป็นฝ่ายชนะ? เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“พี่ เงินห้าล้านไม่ใช่เงินจำนวนน้อย อย่าถูกหลอกเด็ดขาด!” ฉีเยว่หยูเตือนด้วยความระมัดระวัง
หวางเส้าหยู่หัวเราะและกล่าวว่า “ที่แท้เงินห้าล้านสำหรับคุณชายฉีแล้ว มันเป็นเงินที่มากขนาดนั้นเชียวเหรอ ถ้าเช่นนั้นพวกเราไม่เดิมพันแล้ว ถ้าเกิดคุณชายฉีเป็นฝ่ายแพ้ กลับบ้านแล้วอาจจะถูกพ่อทุบตี!”
พวกลูกเศรษฐีที่เฝ้ามองความคึกคักอยู่รอบ ๆ พวกเขามองฉีหมิงซานแล้วหัวเราะเยาะ
ทำให้ฉีหมิงซานก็รู้สึกว่าตนเองเสียหน้า เขาจึงจ้องฉีเยว่หยูและดุว่า “เป็นผู้หญิงจะไปรู้เรื่องอะไร ไปอยู่ด้านข้างเลย!”
“คุณชายหวาง แค่เงินห้าล้านเท่านั้น ผมฉีหมิงซานกล้าเดิมพัน!”
หลังจากทั้งสองทำสัญญาเดิมพันเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นพวกเขาก็เริ่มเลือกนักมวยของตนเอง
คนที่เดิมพันหนึ่งล้านขึ้นไป ถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ สามารถเลือกนักมวยได้เอง และคนอื่น ๆ สามารถเดิมพันตามได้ แต่ไม่มีสิทธิ์เลือกนักมวย
หวางเส้าหยู่แสร้งทำเป็นใจกว้าง “คุณชายฉี ให้คุณเป็นฝ่ายเลือกก่อน!”
ฉีหมิงซานก็ไม่ได้เกรงใจ เพราะการเลือกนักมวยก่อนมีข้อดีหลายประการ
ฉีหมิงซานเดินวนดูนักมวยเหล่านั้นไปหนึ่งรอบ และสุดเขาก็เลือกชายผิวดำที่สูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ที่มีกล้ามเนื้อไปทั่วร่างกาย
นักมวยผิวดำคนนี้ชนะมาสามนัดแล้ว และเป็นหนึ่งในนักมวยที่คนส่งเสียงเชียร์มากที่สุด
“คุณชายหวาง ถึงตาคุณแล้ว!”
ฉีหมิงซานแสดงท่าเหมือนกับว่าตนเองจะเป็นฝ่ายชนะ เมื่อสักครู่เขาได้เห็นแล้ว แทบไม่มีนักมวยระดับเดียวกันกับชายผิวดำคนนี้ การชกนัดนี้ เขามีโอกาสชนะแปดสิบเปอร์เซ็นต์
หวางเส้าหยู่เลือกชาวหัวเซี่ยร่างเล็กผอมบางจากนักมวยสิบกว่าคน นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่เพิ่มมาใหม่ และยังไม่มีประวัติการชก เมื่อเขายืนอยู่กับชายผิวดำที่ฉีหมิงซานเลือกแล้ว รู้สึกว่าเบาะบาง