แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1031 รสนิยมพี่สะใภ้สุดยอด / บทที่ 1032 รับประกันว่าจะทำภารกิจให้สำเร็จ
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1031 รสนิยมพี่สะใภ้สุดยอด / บทที่ 1032 รับประกันว่าจะทำภารกิจให้สำเร็จ
บทที่ 1031 รสนิยมพี่สะใภ้สุดยอด
อีกฟากชายฝั่งมหาสมุทร
ในบ้านเก่าโบราณหลังหนึ่ง
หญิงสง่างามน่าเกรงขามนั่งอยู่บนเก้าอี้สานในสวน มองภาพแต่ละใบในโทรศัพท์ ดวงตาปรากฏความอ่อนโยนอย่างผิดปกติ
“เด็กเหม็นนั่นส่งรูปมาแล้วเหรอ” ผู้ชายเดินเข้ามาช้าๆ
“อืม” หญิงวัยกลางคนพยักหน้าก่อนถอนหายใจแผ่วเบา “ต่อให้พวกเรารักถังถังแค่ไหน ก็เป็นตัวแทนพ่อแม่เขาไม่ได้ คุณดูสิ ถังถังหัวเราะร่าเริงขนาดไหน เด็กควรเป็นอย่างนี้ต่างหากถึงจะถูก!”
ผู้ชายถอนหายใจ “ถังถังมีความสุข ทำไมคุณยังทำหน้าแบบนี้”
หญิงวัยกลางคนพูดพลาง ดวงตาวาบแววเศร้าสลด “ถ้าเด็กสาวคนนั้นเป็นลูกสาวพวกเราจริงๆ จะดีแค่ไหน!”
ฝ่ายชายกอดหญิงวัยกลางคน ปลอบเสียงอ่อนโยน “อย่าเสียใจเลย บอกแล้วว่ามีข่าวคราวแล้วไม่ใช่เหรอ จะต้องหาเจอแน่!”
“หวังว่าครั้งนี้จะหาเจอจริงๆ…”
…
คฤหาสน์กุหลาบ ในห้องนอน
ซือเยี่ยหานในมือถือชุดนอนมาสคอตการ์ตูนลายวัวน่ารักหนึ่งตัว ราวกับกำลังเจอปัญหาใหญ่อะไรบางอย่าง
บนเตียง ถังถังสวมกางเกงชั้นในกับเสื้อกล้ามนั่งอยู่ตรงนั้น เอ่ยน้ำเสียงจริงจัง “ผมว่า ให้แม่มาช่วยผมสวมดีกว่า”
ซือเยี่ยหานชำเลืองมองเด็กน้อยบนเตียง “ลองอีกครั้ง”
เด็กน้อยไม่เต็มใจอย่างเห็นได้ชัด “ลองกี่ครั้งก็เหมือนเดิม”
ซือเยี่ยหานจ้องชุดนอนเด็กในมืออยู่เนิ่นนาน สุดท้ายก็ถ่ายรูปมันจากนั้นส่งไปในกลุ่ม
ครั้งก่อนหลังเข้าออกกลุ่ม หลินเชวียก็ลากเขากลับไปเข้ากลุ่มอีกรอบ
[ซือเยี่ยหาน: สวมยังไง]
หลินเชวียแทบจะโผล่มาในทันที ก็ไม่รู้ว่าเช้าจรดเย็นเขาว่างเสียจนปวดไข่หรือเปล่า วันๆ จึงเอาแต่จ้องโทรศัพท์
[หลินเชวีย: พี่เก้า…กลุ่มนี้ของพวกเรา…สำหรับพี่แล้ว…เป็นแค่แผนกบริการลูกค้าเหรอ]
หลินเชวียตอบกลับประโยคเศร้าใจนี้ จากนั้นก็พิมพ์ส่งไป
[หลินเชวีย: พี่เก้า รูปที่พี่ถ่ายมามันของอะไรละนั่น มันคือชุดเหรอ หน้าตาประหลาดซะไม่มี! ใครเป็นคนซื้อมา]
[ซือเยี่ยหาน: หวันหวั่น]
[หลินเชวีย: ชุดนี้น่ารักชะมัดเลย! รสนิยมพี่สะใภ้สุดยอด! เจ๋งมาก!]
หลินเชวียกลับลำทันทีอย่างรู้จักเอาตัวรอด
[หลินเชวีย: พูดก็พูดนะพี่เก้า ผมกับเซี่ยเจ๋อจือเป็นหมาโสดทั้งคู่ ไหนเลยจะสวมชุดเด็กเป็น! ผมช่วยถามเพื่อนผมว่าเขารู้หรือเปล่าให้พี่แล้วกัน!]
[เซี่ยเจ๋อจือ: รอบตัวนายก็มีแต่เพื่อนโสดไม่ใช่เหรอ ฉันจะไม่รู้ได้ยัง]
เซี่ยเจ๋อจือพลันโผล่มา
[หลินเชวีย: เชี่ย! พูดยังกับนายไม่ใช่งั้นแหละ!]
ซือเยี่ยหานมองบทสนทนาในกลุ่ม สุดท้ายก็พบว่าตัวเองถามผิดที่แล้ว
“เบบี๋ อาบน้ำเสร็จแล้วยัง”
เวลานี้ ที่ทางเข้ามีเสียงของเยี่ยหวันหวั่นดังขึ้นมา
“คุณแม่!” ได้ยินเสียงของเยี่ยหวันหวั่น เด็กน้อยเผยท่าทีดีใจทันที
“เอ่อ…ทำไมเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งเดินเข้ามาก็เห็นซือเยี่ยหานถือเสื้อในมือเหมือนกับถือปัญหาวิทยาศาสตร์ยากยังไงยังงั้น
“คุณพ่อสวมไม่เป็น” ถังถังเอ่ยปาก
“เอ่อ…” เยี่ยหวันหวั่นเหงื่อออกเล็กน้อย
ลืมเรื่องนี้ไปเลย…
“แม่สวมให้แล้วกัน!”
เยี่ยหวันหวั่นกำลังจะรับเสื้อมา ซือเยี่ยหานกลับไม่ขยับ “เธอสอนฉัน”
เขาจะยอมให้ภรรยาตัวเองสวมเสื้อผ้าให้ชายคนอื่นได้ยังไง!
เยี่ยหวันหวั่นนึกไม่ถึงว่าซือเยี่ยหานจะชอบถังถังมากขนาดนี้ ถึงกับต้องยืนกรานว่าจะสวมชุดให้เขาเอง เธอย่อมดีใจมาก เอ่ยปากทันที “ได้ๆๆ ฉันสอนคุณ! คุณกลับชุดออกมาก่อน แกะกระดุมแป๊กด้านในออก จากนั้นเริ่มสวมที่เท้าก่อน แล้วก็ค่อยสวมมือ…”
ซือเยี่ยหานทำตามคำแนะนำของเยี่ยหวันหวั่น เริ่มสวมชุดให้ถังถัง
เด็กน้อยกางแขนให้ความร่วมมือ แต่แววตากลับเสียใจยิ่ง…
—————————————————————————————-
บทที่ 1032 รับประกันว่าจะทำภารกิจให้สำเร็จ
วันประลองใหญ่มาถึงอย่างรวดเร็ว
เยี่ยหวันหวั่นตื่นแต่เช้า เปลี่ยนชุดฝึกสีขาวล้วนด้วยความลิงโลด
ซือเยี่ยหานที่กำลังอยู่ระหว่างทางมุ่งหน้าไปพิธีเซ็นสัญญาโทรมาอีกครั้งอย่างไม่วางใจ “จำที่ฉันพูดได้ไหม”
เยี่ยหวันหวั่นรับประกันรัวๆ “จำได้ๆ อย่าก่อเรื่องใช่มะ! คุณไม่ต้องห่วงทำงานของคุณไป ฝั่งคุณมู่ให้ฉันจัดการเอง รับประกันว่าจะทำภารกิจให้สำเร็จ ไม่ก่อเรื่องทะเลาะวิวาทเด็ดขาด!”
อุตส่าห์ลำบากทำให้ซือเยี่ยหานวางใจได้ แถมยังย้ำพวกเหล่าเจียงให้ดูแลบ้านดีๆ แล้วด้วย เวลานี้สวี่อี้พาคนไปรอที่ด้านนอกประตูแล้ว
“คุณหนูหวันหวั่น ห้าคนนี้เป็นบอดี้การ์ดที่มาใหม่ ฝีมือไม่เลว เคยผ่านการอบรมมารยาททางธุรกิจมาก่อนครับ” สวี่อี้เอ่ยแนะนำเยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นกวาดตามองห้าคนนั้นก่อนผงกหัวเล็กน้อย “ตกลง”
สวี่อี้พูดจบแนะนำทั้งห้าคน “คุณหนูเยี่ยเป็นตัวแทนและผู้นำของพวกคุณ ถึงตอนนั้นพวกคุณต้องเชื่อฟังแผนการและคำสั่งของเธอทั้งหมด”
ทั้งห้าคนได้ยินดังนั้นก็สบตากันโดยไม่รู้ตัว คิ้วขมวดขึ้นมา มีสีหน้าตกใจ นึกไม่ถึงว่าผู้นำของพวกเขาจะเป็นหญิงสาวน่ารักอ่อนหวานคนหนึ่ง
แต่ทั้งห้าไม่กล้าสงสัยคำพูดของสวี่อี้ กักเก็บความไม่พอใจไว้ในใจ ตอบกลับพร้อมกัน “ครับ! ยินดีที่ได้พบคุณหนูเยี่ย!”
เยี่ยหวันหวั่นตอบรับ “อื้ม ไม่มีอะไรแล้วก็ออกเดินทางกันเถอะ!”
…
ขณะเดียวกัน สนามฝึกตระกูลซุน
สนามจัดงานของงานประลองครั้งใหญ่เตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เวทีประลองอยู่ในกรงตาข่ายแปดเหลี่ยม ด้านล่างเวทีเป็นที่นั่งหนึ่งแถว
ฉินรั่วซีนำห้าคนที่คัดสรรเป็นอย่างดีจากในตระกูลเร่งรีบมาถึง
“รั่วซี เธอมาแล้ว!” ซุนเสวี่ยเจินเข้าไปต้อนรับทักทายทันที
ซุนลี่จ้งเห็นฉินรั่วซี ก็มีท่าทีอ่อนน้อมกับเธอมาก “รั่วซี ครั้งนี้ต้องขอบคุณหนูที่ชักใยอยู่เบื้องหลังมาก!”
ฉินรั่วซีได้ยินแบบนั้นก็เอ่ยอย่างไม่ถือสา “คุณลุงซุนเกรงใจไปแล้ว แค่เรื่องเล็กน้อยเองค่ะ!”
ซุนลี่จ้งเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เรื่องเล็กน้อยของหนูช่วยลุงไว้มหาศาล!”
ซุนเสวี่ยเจินจูงฉินรั่วซี่ไปนั่งบนที่นั่งอย่างกระตือรือร้น “คนปกติคิดจะคุยกับคุณมู่ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าไม่ได้เธอช่วย พวกเราไหนเลยจะเชิญเขามาบ้านได้!”
ซุนเสวี่ยเจินพูดพลางเหลือบมองห้าคนที่ฉินรั่วซี่พามา “รั่วซีเธอให้หน้าพวกเราจริงๆ พาแต่ยอดฝีมือมาทั้งนั้น! ได้ยินว่าคุณลุงฉินดึงคนมีความสามารถมามากมาย อยากเห็นกับตมานานแล้ว!”
ฉินรั่วซี่หัวเราะอย่างถ่อมตน “เทียบคุณลุงซุนได้ที่ไหนกัน คุณลุงซุนเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีนเราเลยนะ เชิญมาได้แม้แต่แขกรับเชิญพิเศษอย่างราชาหมาป่าเซนนี! จริงสิ คุณเซนนีล่ะ”
“น่าจะใกล้มาถึงแล้ว…”
ซุนเสวี่ยเจินเพิ่งพูด ชายกำยำหัวเกรียนร่างสูงใหญ่ผิวดำก็เดินมาทางสังเวียน ซึ่งก็คือราชาหมาป่าเซนนี
ห้าปีก่อน เซนนีล้มอาเบลจนได้แชมป์นักมวย WBC กลายเป็นแชมป์มวยโลกรุ่นเฮฟวี่เวจที่หนุ่มที่สุดในประวัติศาสตร์ จากนั้นเขาก็ล้มแชมป์มวยได้อีกหลายคนจนกลายเป็นแชมป์รุ่นเฮฟวี่เวจระดับโลกที่ได้รับการยอมรับจากสามสมาคมนักมวยระดับโลกอย่าง WBC WBA และ IBF ปีก่อนเขาเอาชนะนักกีฬายูโดของบราซิลได้ คว้าแชปม์การแข่งใหญ่ MMA ได้สำเร็จ
การประลองใหญ่ครั้งนี้ เซนนีย่อมลงสนามไปแข่งกับเหล่าหัวกะทิที่พวกเขาตระกูลใหญ่คัดเลือกมาไม่ได้ แต่เขามาในฐานะแขกรับเชิญชมการแข่งพิเศษ
คนที่อยู่ในสายตาเขาในการประลองวันนี้ มีแค่ซุนลี่จ้งคนเดียวเท่านั้น
“สวัสดีค่ะ คุณเซนนี ฉันแซ่ฉิน ได้ยินชื่อเสียงของคุณมานาน ยินดีมากที่ได้รู้จักคุณค่ะ!” ฉินรั่วซี่เห็นผู้มาเยือนก็รีบเข้าไปทักทาย
เซนนีแค่ตอบรับง่ายๆ อย่างไม่เย็นชาและไม่กระตือรือร้น
ยอดฝีมืออย่างนี้ ไม่แปลกที่จะมีท่าทีสูงส่งเย็นชา ฉินรั่วซีไม่ถือสาแม้แต่น้อย
“คุณเซนนี เชิญทางนี้!” เวลานี้ ซุนลี่จ้งเดินเข้ามาเชิญเซนนีไปยังที่นั่ง
อีกด้านหนึ่ง ซุนเสวี่ยเจินกวาดมองรอบสนามประลองหนึ่งรอบ ก่อนถามขึ้นลอยๆ ว่า “รั่วซี คนของตระกูลซือล่ะ ทำไมยังไม่มา?”
………………………….