แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1065 ไม่เคยก่อปัญหา / บทที่ 1066 จะถูกรังแกได้ยังไง
บทที่ 1065 ไม่เคยก่อปัญหา
เยี่ยหวันหวั่นเอื้อมมือออกไป ปลดกระดุมเสื้อของชายหนุ่มออกทีละเม็ดๆ แผงอกของชายหนุ่มค่อยๆ เผยออกมาให้เห็น…
เธอพยายามไม่มอง แต่ก็อดเหลือบมองไม่ได้…
ร้ายกาจจริงๆ!
ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าสองสามวันนี้ซือเยี่ยหานตั้งใจยั่วเธอตลอดเลยล่ะ? ประเมินความสามารถในการหักห้ามใจของเธอสูงเกินไปแล้ว
สุดท้ายเธอก็เพียรพยายามช่วยซือเยี่ยหานเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยท่าทางแข็งทื่อเหมือนท่อนเหล็ก
หลังเปลี่ยนเสร็จจึงเพิ่งนึกขึ้นได้…
อะแฮ่ม คงไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ถังถัง ซือเยี่ยหานเลยขอให้เธอทำแบบนี้หรอกนะ!
ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นแอบหัวเราะอย่างเอือมระอา ลึกๆ ในใจส่วนหนึ่งก็อ่อนยวบ
ผู้ชายคนนี้ ยิ่งรู้จักก็ยิ่งค้นพบว่าเขาไม่ได้เย็นชาและโหดร้ายเหมือนที่เห็นภายนอกสักนิด…
……
ไม่นาน วันงานหมั้นก็มาถึง
บ้านตระกูลเยี่ยคับคั่งไปด้วยแขกเหรื่อที่แต่งกายด้วยชุดหรูหรา และรถราคาแพงที่จอดเต็มบ้าน
เยี่ยหวันหวั่นกับเยี่ยมู่ฝาน และพ่อแม่ของพวกเขาลงจากรถพร้อมกัน มองดูภาพตรงหน้า สีหน้าเหม่อลอยเล็กน้อย
ครั้งล่าสุดที่พวกเขามาที่นี่ คืองานฉลองวันเกิดของคุณปู่
พนักงานต้อนรับหน้าประตูเห็นครอบครัวของเยี่ยหวันหวั่น ก็เดินเข้ามาต้อนรับพร้อมกับรอยยิ้ม “คุณชายใหญ่ คุณหนูรอง เชิญข้างในค่ะ!”
สีหน้าของเยี่ยมู่ฝานเข้มขึ้นเล็กน้อย เขารับคำ จากนั้นก็พาพ่อแม่และน้องสาวเดินเข้าไปพร้อมกัน
ครั้งที่แล้วที่มา พวกเขาถูกห้ามเข้าเพราะไม่มีบัตรรับเชิญ แล้วยังโดนหวงหมิงคุนพายามมาดูถูกซ้ำอีก
แต่พักนี้เขามักมากินข้าวกับผู้อาวุโสทั้งสองเป็นประจำ จึงเข้าออกที่นี่ถี่ขึ้นเรื่อยๆ คนรับใช้พวกนี้เห็นอย่างนั้น ก็ไม่กล้าทำตัวเพิกเฉยกับพวกเขาอีก
“หวันหวั่นเอ๋ย พ่อกับแม่รู้ว่าลูกเสียใจ แต่อีกเดี๋ยวลูกต้องใจเย็นนะ อย่าก่อเรื่องอะไร เข้าใจไหม?” เหลียงหว่านจวินกำชับลูกสาวอย่างไม่วางใจ กลัวว่าเยี่ยหวันหวั่นจะก่อเรื่องเหมือนเมื่อก่อน
ถึงแม้ช่วงนี้ลูกสาวจะเปลี่ยนไปมากแล้ว แต่เธอรู้ว่าลูกสาวเธอรักกู้เยว่เจ๋อขนาดไหน วันนี้เป็นวันสำคัญ ไม่รู้ว่าลูกสาวเธอจะควบคุมตัวเองได้หรือไม่
“พ่อบอกมู่ฝานแล้ว ว่าไม่ต้องให้ลูกมาก็ได้ เฮ้อ…” เยี่ยเส่าถิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “มู่ฝาน แกดูน้องดีๆ ล่ะ เข้าใจไหม?”
เยี่ยมู่ฝานได้ยินก็ปากกระตุก “รู้แล้วครับ รู้แล้ว…”
เธอไม่จำเป็นต้องให้เขาปกป้องหรอก ถึงจะมีกู้เยว่เจ๋อกับเยี่ยอีอีเพิ่มขึ้นมาอีกกี่คนก็คงเล่นงานเธอไม่ได้อยู่แล้ว…
“พ่อคะ แม่คะ หนูรู้แล้วค่ะ หนูจะเป็นเด็กดี!” เยี่ยหวันหวั่นทำท่าเชื่อฟังเต็มที่
เยี่ยมู่ฝานพูดไม่ออก
เอาเถอะ สร้างภาพต่อไปเถอะ…
เขาไม่เชื่อหรอกว่าวันนี้เธอจะไม่ทำอะไรเลย…
เยี่ยมู่ฝานกระซิบข้างหูเยี่ยหวันหวั่นเบาๆ “เธอดึงดันจะมาให้ได้ คิดจะทำอะไรกันแน่?”
เยี่ยหวันหวั่นกระดกคิ้ว “พี่ก็พูดซะ ฉันจะไปทำอะไรได้ล่ะ? ก็ต้องมาดื่มเหล้ายินดีน่ะสิ! ฉันไม่เคยก่อปัญหาอะไรซักหน่อย!”
เยี่ยมู่ฝาน “…” เชื่อก็โง่แล้ว…
การมาถึงของครอบครัวเยี่ยเส่าถิงดึงดูดสายตาแขกในงานหลายคู่ กลุ่มคนที่กำลังแสดงความยินดีกับเยี่ยอีอีและกู้เยว่เจ๋อ หันมามองพิจารณาพวกเขาทั้งสี่คนด้วยสายตาที่แตกต่างกันไป
ในตอนนั้นเอง เยี่ยอีอีเดินควงแขนกู้เยว่เจ๋อเข้ามา แล้วพูดว่า “หวันหวั่น มู่ฝาน คุณลุง คุณป้า มาแล้วเหรอคะ!”
เยี่ยมู่ฝานเบะปาก แค่นยิ้ม “ยินดีด้วยนะ ทั้งคู่เหมาะสมกันมาก!”
เยี่ยอีอีทำเหมือนไม่เห็นแววตาเยาะเย้ยของเยี่ยมู่ฝาน เธอพูด พร้อมกับควงแขนกู้เยว่เจ๋อแน่นกว่าเดิม “ขอบคุณที่มารวมงานหมั้นของหนูนะคะ!”
กู้เยว่เจ๋อถือแก้วเหล้าไว้ในมือหนึ่งใบ เขาเองก็กล่าวขอบคุณด้วยเช่นกัน จากนั้นก็เหลือบมองหญิงสาวที่ยืนเงียบๆ อยู่ข้างกายเยี่ยมู่ฝาน
หญิงสาวเหมือนดอกกุหลาบที่อิ่มน้ำค้าง ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน กลับดูสวยขึ้นมาก แทบจะสามารถดึงดูดสายตาผู้คนจนไม่อาจละออกไปได้ ไม่เหลือเค้าเดิมที่ทั้งอ้วน น่ารังเกียจ และไม่มีมารยาทเหมือนแต่ก่อน
นึกไม่ถึงว่าเขาจะมองผิดไป…
……………………………………………………….
บทที่ 1066 จะถูกรังแกได้ยังไง
เยี่ยหงเวยกับถานอี้หลานรับหน้าแขกเสร็จ ก็เดินมาทางนี้
“มาแล้วเหรอ” ถึงเยี่ยหงเวยจะยังปั้นหน้าเข้มเวลาเจอหน้าเยี่ยเส่าถิง แต่ก็ไม่ได้ทำท่าจะชักดาบยิงธนูใส่เขาเหมือนแต่ก่อนอีก
“พ่อครับ แม่ครับ!” เยี่ยเส่าถิงกับเหลียงหว่านจวินทักทายผู้อาวุโสทั้งสอง
เวลาเจอหน้าเหลียงหว่านจวิน สีหน้าของถานอี้หลานยังคงไม่น่าดูนัก แต่พอหันไปหาเยี่ยมู่ฝานกับเยี่ยเส่าถิงสีหน้าก็ดีขึ้นมาบ้าง “อย่ามัวยืนอยู่ตรงนี้เลย ไปช่วยดูแลแขกหน่อยเถอะ!”
ให้พวกเขาไปช่วยดูแลแขก ก็เท่ากับแสดงว่ายอมรับว่าพวกเขาเป็นคนของตระกูลเยี่ยแล้ว
เยี่ยมู่ฝานรีบเอ่ย “ครับ คุณย่า ผมจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับ!”
เยี่ยเส่าถิงกับเหลียงหว่านจวินเองก็รับคำด้วย
เหลียงเหม่ยเซวียนกับเยี่ยเส่าอันที่ยืนอยู่ข้างหลังเริ่มก่นด่าในใจ แต่ภายนอกกลับยังคงยิ้มแย้ม
“แม่ครับ ดูแม่พูดเข้าสิ บ้านเราก็มีคนคอยดูแลแขกตั้งหลายคน ปล่อยให้พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ดื่มกินตามสบายเถอะครับ!” เยี่ยเส่าอันพูดพร้อมรอยยิ้ม พยายามกีดกันเยี่ยเส่าถิงกับเหลียงหว่านจวินทางอ้อม
ตอนนี้ เยี่ยอีอีแอบเหลือบมองกู้เยว่เจ๋อด้วยหางตาตลอด ในขณะที่สายตาของชายหนุ่มวนเวียนอยู่รอบกายเยี่ยหวันหวั่นคล้ายไม่ได้ตั้งใจตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
สายตาของเยี่ยอีอีขรึมลงเล็กน้อย เธอปล่อยแขนของกู้เยว่เจ๋อ แล้วควงแขนเยี่ยหวันหวั่นอย่างเป็นมิตร พูดว่า “หวันหวั่น พี่ยังเลือกสร้อยคอกับสร้อยข้อมือไม่ได้เลย ไปช่วยพี่เลือกหน่อยได้ไหม?”
เยี่ยหวันหวั่นยิ้มกว้าง “ได้สิ!”
เอ่ยจบ ก็หันไปพูดกับเยี่ยหงเวยกับถานอี้หลานว่า “คุณปู่คุณย่าคะ หนูไปกับพี่อีอีนะคะ”
เยี่ยหงเวยพยักหน้า “อืม ไปเถอะ”
เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นวางตัวเหมาะสม ไม่ได้มีท่าทีสูญเสียการควบคุม เยี่ยหงเวยกับถานอี้หลานก็มีสีหน้าพึงพอใจ
โดยเฉพาะเยี่ยหงเวย เพราะศาสตราจารย์หลี่เหยียนพูดกับเขาตลอดว่าผลการเรียนของหวันหวั่นโดดเด่นมาก ฉะนั้นเขาจึงเริ่มมองหลานสาวคนนี้เปลี่ยนไปมากแล้ว
เห็นได้ชัดว่าเรื่องพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่บ้านรองอยากเห็น…
หลังจากที่ที่ผู้อาวุโสทั้งสองถูกแขกเรียกตัวเข้าไปในงาน เยี่ยเส่าถิงกับเหลียงหว่านจวินก็รีบเรียกมู่ฝานมาคุย
“มู่ฝาน รีบตามไปดูน้องสาวแกเร็ว!” เยี่ยเส่าถิงพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“หา? ผมจะตามไปทำไมครับ?” เยี่ยมู่ฝานกำลังหิวเพราะไม่ได้กินข้าวกลางวัน ตอนนี้เขากำลังถือเค้กก้อนหนึ่งไว้ในมือ พอได้ยินอย่างนั้นก็ถามอย่างไม่เข้าใจ
เยี่ยเส่าถิงขมวดคิ้ว “ก็กลัวน้องจะถูกรังแกเอาน่ะสิ! ยังไม่รีบไปอีก! ทำไมแกมัวแต่ห่วงกินอยู่ได้!”
เยี่ยมู่ฝานบ่นอุบ “โธ่ ไม่หรอกครับ หวันหวั่นไม่ถูกรังแกหรอก…”
เหลียงหว่านจวินตำหนิเขาด้วยสายตา “ไม่อะไรกัน น้องสาวลูกเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แถมวันนี้ยังเป็นวันสำคัญ ตอนแรกน้องก็เสียใจอยู่แล้ว ยังโดนเยี่ยอีอีลากไปช่วยเลือกสร้อยอีก น้องจะเสียใจแค่ไหน? ไปเร็ว! อีกเดี๋ยวค่อยกลับมากิน!”
ยิ่งลูกสาวเชื่อฟังและอดทนแค่ไหน เยี่ยเส่าถิงกับเหลียงหว่านจวินก็ยิ่งรู้สึกสงสารและรู้สึกผิด
พอถูกทั้งพ่อและแม่ผลัดกันเร่งเร้า สุดท้ายเยี่ยมู่ฝานก็ทำได้แค่วางเค้กในมือลงอย่างกล้ำกลืน จากนั้นก็ไปหาเยี่ยหวันหวั่นอย่างอับจนหนทาง
เสียใจงั้นเหรอ…
พ่อกับแม่ดูยังไงถึงเห็นว่าเธอเสียใจเนี่ย?
ทั้งที่ก่อนมายังเห็นเธอคุยโทรศัพท์กับแฟนว่าวันหยุดจะไปเที่ยวที่ไหนกันอยู่เลยแท้ๆ…
บนบ้าน ในห้องของเยี่ยอีอี
ห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกห้องนี้กว้างที่สุด และแสงดีที่สุด เดิมทีเป็นห้องของเยี่ยหวันหวั่น แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นของเยี่ยอีอีไปแล้ว ส่วนของของเธอได้ถูกย้ายไปไว้ในห้องคนรับใช้ทั้งหมด
เมื่อผลักประตูบานหนึ่งในห้องนอนเข้าไป ด้านในจะเป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ากว้างๆ ห้องหนึ่งที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้า กระเป๋า และรองเท้ามากมายละลานตา
…………………