แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1101 ไม่มีใครสวยเท่าเธอ / บทที่ 1102 ไม่เปลี่ยนใจแน่นอน
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1101 ไม่มีใครสวยเท่าเธอ / บทที่ 1102 ไม่เปลี่ยนใจแน่นอน
บทที่ 1101 ไม่มีใครสวยเท่าเธอ
ซ่อนผู้หญิง?
“จะเป็นไปได้ยังไงครับ!!!” สวี่อี้ทำหน้าเครียด จากนั้นก็รีบโบกมืออธิบายว่า “คุณหนูหวันหวั่นยังไม่รู้จักคุณชายเก้าอีกเหรอครับ? คุณชายเก้าจะทำเรื่องอย่างนั้นได้ยังไงครับ!”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ฉันต้องรู้จักเขาดีอยู่แล้ว! ถึงแม้จะมีผู้หญิงที่สวยกว่าคุณเก้าของฉันก็ไม่แลหรอก! แต่แน่นอนว่าไม่มีผู้หญิงที่สวยกว่าฉันอยู่แล้ว!”
สวี่อี้พูดไม่ออก
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ในเมื่อไม่ใช่ แล้วจะขวางฉันทำไม?”
สวี่อี้ปาดเหงื่อ รู้ว่าปิดบังเจ้านายที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้อยู่แล้ว ทำได้เพียงตอบตามตรง “คุณหนูหวันหวั่น ที่ผมขวางคุณหนูก็เพื่อตัวคุณหนูเอง คุณชายเก้ากำลังจัดการ…จัดการเรื่องบางอย่างอยู่ข้างใน…ก่อนหน้านี้คุณหนูเคยให้ผมเป็นสายให้ไม่ใช่เหรอครับ…ว่าหากเจอเรื่องประเภทนี้ก็ให้รายงานคุณหนูทันที”
เยี่ยหวันหวั่นกลอกตาไปมา แล้วนึกอะไรขึ้นมาได้
จำได้ว่าตอนที่เธอเพิ่งเกิดใหม่ มีครั้งหนึ่งที่กลับมาจากโรงเรียน แล้วบังเอิญกลับมาเห็นซือเยี่ยหานกำลังทรมานคน ปรากฏว่าเกือบทำให้เขาโมโห…
ต่อมาเธอดึงสวี่อี้มาเป็นพวก ให้สวี่อี้คอยเตือนเธอถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก หลีกเลี่ยงไม่ให้เธอเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นอีก
ไม่น่าล่ะเธอถึงได้กลิ่นคาวเลือด ที่แท้เธอก็ไม่ได้คิดไปเอง…
เยี่ยหวันหวั่นเม้มปาก “ถ้างั้นก็ได้ ฉันจะไปดูผักที่ฉันปลูกไว้ในสวน รอให้เขาเสร็จธุระ แล้วค่อยมารายงานฉัน”
สวี่อี้ได้ยินก็ถอนหานใจ “ได้ครับๆ!”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยจบก็เดินไปที่สวนทันที
เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องที่สวี่อี้บอก ตระกูลซือเป็นตระกูลใหญ่ หากไม่มีอุบาย หรือโหดเหี้ยมซักหน่อย จะกุมอำนาจอยู่ได้ยังไง
ถ้าเธอจะขอให้ซือเยี่ยหานเปลี่ยนตัวเองเป็นเทวดาที่มือไม่เปื้อนเลือด คงจะเป็นคำขอที่มากเกินไป…
ความจริงเธอรู้มาตลอด ซือเยี่ยหานแค่พยายามเก็บงำความโหดเหี้ยมเวลาอยู่ต่อหน้าเธอ แล้วก็คอยระมัดระวังไม่ให้เธอเห็นภาพนองเลือดเท่านั้น
เพียงแต่ไม่รู้ว่าคืนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่…
เยี่ยหวันหวั่นเดินเล่นในสวนขณะที่รอซือเยี่ยหาน เดินไปเดินมาก็เริ่มรู้สึกหิว จึงเด็ดผลไม้มากินสองสามลูก
ดูสิ ปลูกผักผลไม้ดีจะตาย เด็ดมากินตอนเดินเล่นได้ด้วย
เดินไปได้ไม่กี่ก้าว เยี่ยหวันหวั่นก็เห็นเล้าไก่ เธอจึงเปิดไฟฉายจากมือถือเพื่อส่องดู
ลูกไก่สีเหลืองในตอนนั้นกลายเป็นแม่ไก่พ่อไก่กันไปหมดแล้ว
ไก่พวกนั้นแต่ละตัวอ้วนท้วนสมบูรณ์ ขนงามแพรวพราว แสดงให้เห็นว่าถูกเลี้ยงมาอย่างดี
เยี่ยหวันหวั่นชะโงกหน้าเข้าไปดูอย่างดีใจ พลางเอื้อมมือเข้าไปควานหาในเล้าไก่ ไม่นานก็ได้ไข่ไก่สีขาวฟองใหญ่หนึ่งฟองติดมือออกมา…
ขณะที่เธอกำลังเดินชมสวนอย่างสนุกสนาน ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างหลัง
เยี่ยหวันหวั่นหันกลับไปมองตามสัญชาตญาณ เห็นซือเยี่ยหานกำลังสาวเท้าเข้ามา ในมือถือเสื้อคลุมสีดำตัวหนึ่งมาด้วย
เยี่ยหวันหวั่นรีบเดินไปหาเขา “คุณเสร็จธุระแล้วเหรอ?”
“อื้ม” ซือเยี่ยหานเอาเสื้อคลุมคลุมบนไหล่เธอ “เข้าไปข้างในกันเถอะ ข้างนอกหนาว”
เยี่ยหวันหวั่นพึมพำ “ทำไมกว่าจะเสร็จนานจังล่ะคะ คงไม่ได้แอบซุกผู้หญิงไว้ในบ้างจริงๆ หรอกใช่ไหม?”
ซือเยี่ยหานเหลือบมองเธอ “ถึงจะมีผู้หญิงที่สวยกว่าฉันก็ไม่แลหรอก อีกอย่าง ไม่มีใครสวยกว่าเธอแล้วด้วย”
เยี่ยหวันหวั่นสำลักน้ำลายตัวเอง “แค่กๆๆ…เมื่อกี้ คุณ…คุณได้ยินด้วยเหรอ?”
จริงๆ เลย ทำไมถึงได้หูดีขนาดนี้นะ…
“ก็ฉันพูดจริงนี่นา!” เยี่ยหวันหวั่นเม้มปาก
ภายใต้แสงจันทร์ สีหน้าของชายหนุ่มดูอ่อนโยนกว่าที่เคยเป็นมา นิ้วมือเรียวขาวลูบศีรษะหญิงสาวเบาๆ “อืม”
………………………………..
บทที่ 1102 ไม่เปลี่ยนใจแน่นอน
เยี่ยหวันหวั่นแหงนหน้าขึ้น ตั้งใจจะคุยกับซือเยี่ยหาน แต่จู่ๆ ก็รู้สึกผิดปกติขึ้นมา เธอจ้องหน้าซือเยี่ยหานเขม็ง จากนั้นชะโงกหน้าเข้าไปดมตัวเขา
ใต้แสงจันทร์ ชายหนุ่มสวยเสื้อเชิ้ตสีขาว ดวงหน้าเย็นชาสุขุมยังคงดูโดดเด่นเหนือคนอื่น เส้นผมดำขลับคล้ายยังเปียกอยู่เล็กน้อย…
ประเด็นคือ บนตัวเขาไม่มีกลิ่นคาวเลือดเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับมีกลิ่นหอมเหมือนคนเพิ่งอาบน้ำมา
“มีอะไร?” ซือเยี่ยหานสบเข้ากับสายตาเปล่งประกายของเธอ
“อืม คุณอาบน้ำแล้วเหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นถาม
ซือเยี่ยหานพยักหน้า “อืม”
กลัวว่าเธอจะตกใจกับกลิ่นเลือดงั้นเหรอ? ก่อนมาเจอเธอยังตั้งใจอาบน้ำมาก่อนด้วย…
พอคิดมาถึงตรงนี้ ไม่ได้มีเพียงร่างกายที่อยู่ภายใต้เสื้อคลุม แต่ยังมีหัวใจของเยี่ยหวันหวั่นที่อบอุ่นขึ้นด้วย
“หลายวันนี้คุณ…กำลังจัดการเรื่องของซือหมิงหลี่อยู่เหรอคะ?” เยี่ยหวันหวั่นถามอย่างกังวล
ไม่รู้ว่าเจอตัวคนที่อยู่เบื้องหลังซือหมิงหลี่หรือยัง ช่วงนี้เธอก็ลองให้เหล่าเจียงกับเจียวเจียวสืบข่าวจากถังหลงกับกองกำลังหลงอินด้วย แต่จนใจที่ทหารรับจ้างปากหนักมาก จึงไม่อาจหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังจากพวกเขาได้
สายตาของซือเยี่ยหานคมปลาบเล็กน้อย “ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องพวกนี้ ฉันจะจัดการเอง”
เอ่ยจบ สายตาที่ลึกล้ำเหมือนก้นบ่อลึกก็จดจ้องหญิงสาวตรงหน้า “หวันหวั่น รับปากฉันเรื่องหนึ่ง”
“อะไรคะ?” เยี่ยหวันหวั่นเงยหน้า
“เรื่องคราวที่แล้ว อย่าให้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองอีก หากเกิดอันตรายขึ้นเมื่อไหร่ ให้รีบไปจากตระกูลซือ หนีออกนอกประเทศไปซะ เข้าใจไหม?” ซือเยี่ยหานพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินอย่างนั้นก็ขมวดคิ้ว “ไม่มีครั้งที่สองอยู่แล้ว คุณหายดีแล้วไม่ใช่เหรอคะ? พักนี้ผลตรวจของหมอซุนก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย เขาบอกว่าคุณฟื้นตัวได้ดีมาก!”
ซือเยี่ยหานไม่ได้ค้าน “อืม”
“เพราะฉะนั้น ถึงคุณจะกำลังสะสางปัญหาอะไรก็ไม่ควรกระทบเวลานอนสิคะ! การอดนอนส่งผลเสียต่อสุขภาพมาก มันจะทำร้ายอวัยวะภายใน ความจำถดถอย แล้วยังทำให้ผมร่วงด้วย ที่สำคัญคือทำให้ขี้เหร่! ถ้าคุณขี้เหร่ ฉันจะเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่นแล้วนะคะ!” เยี่ยหวันหวั่นเตือนด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว
ซือเยี่ยหานเหลือบมองเธอเล็กน้อย “เธอว่าไงนะ?”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ฉันบอกว่าการนอนดึกไม่ดีต่อร่างกาย!”
ซือเยี่ยหานบอกว่า “ไม่ใช่ประโยคนั้น”
เยี่ยหวันหวั่นยังคงเอ่ย “นอนดึกทำให้ขี้เหร่!”
ซือเยี่ยหานเอ่ย “ประโยคถัดไป”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “เอ่อ…ถึงคุณจะขี้เหร่…ฉันก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่น! ไม่สิๆ! ถึงคนอื่นจะหล่อขนาดไหนฉันก็ไม่แล ถึงคุณจะขี้เหร่ลงคุณก็ยังดูดีที่สุดอยู่ดี!”
ซือเยี่ยหานเงียบ
……
ภายใต้การจับตาดูของเธอ สุดท้ายซือเยี่ยหานก็กลับมาเข้านอนตรงเวลาเหมือนเดิม การสอบของเธอก็จบลงด้วยดี พริบตาเดียวก็ถึงวันออดิชั่นแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นไปส่งเจียงเยียนหรานออดิชั่น
“ไม่ต้องตื่นเต้นนะ แค่แสดงความสามารถไปตามปกติก็พอ…” เยี่ยหวันหวั่นกำลังพูดกับเจียงเยียนหราน เสียงมือถือก็ดังขึ้น
เยี่ยหวันหวั่นเปลี่ยนเป็นเสียงผู้ชาย “ฮัลโหล?”
“พี่เยี่ย…” ปลายสายยังคงเป็นเสียงของกงซวี่เหมือนเช่นทุกครั้ง
“หยุดก่อน อีกเดี๋ยวนายค่อยโทรฯ มาใหม่แล้วกัน ตอนนี้ฉันมีธุระ” เยี่ยหวันหวั่นพูด
“มีธุระ? ทำไมมีธุระอีกแล้ว! ผมกับลั่วเฉินไม่อยู่ พี่จะมีธุระอะไรได้อีก? พี่แอบไปหาเด็กหน้าใหม่ลับหลังผมใช่ไหม!” กงซวี่ถามด้วยความเคลือบแคลงสุดขีด
เยี่ยหวันหวั่นปากกระตุก เจ้าบ้ากงซวี่นี่สัญชาตญาณแม่นจนน่ากลัวจริงๆ…
“พูดบ้าอะไรของนายน่ะ เด็กหน้าใหม่อะไรกัน ไม่มีหรอกน่า แค่นายคนเดียวฉันก็ยุ่งจะตายแล้ว ฉันยังไม่คิดจะรับใครเพิ่มหรอกนะ” เยี่ยหวันหวั่นพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ที่เธอพูดอย่างนี้ไม่ถือว่าโกหกซักหน่อย เจียงเยียนหรานไม่ใช่เด็กหน้าใหม่ที่ไหน เป็นศิลปินที่เธอเก็บไว้ตั้งนานแล้วต่างหาก…
……………………….