แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1183 พี่ชายภรรยา? / บทที่ 1184 ไม่ได้เปลี่ยนสมอง
บทที่ 1183 พี่ชายภรรยา?
ชั่วพริบตาที่หญิงสาวข้างกายเยี่ยมู่ฝานย่างเข้าสู่งานเลี้ยง ทั่วทั้งโถงใหญ่เงียบลงแทบจะทันที
เดิมทีคิดว่าราชินีจอเงินหน้าใหม่ของคืนนี้มีค่าความหน้าตาดีสูงมากแล้ว แต่เมื่อเทียบกับหญิงสาวตรงหน้า กลับดูจืดชืดไปทันตา
แม้จะเป็นหลินชิงหรานที่ได้ชื่อว่าคนสวยอันดับหนึ่งของวงการบันเทิง ก็ไม่อาจสู้หญิงสาวแปลกหน้าคนนี้ได้ ถ้าหลินชิงหรานคือแสงของหิ่งห้อย หญิงสาวคนนั้นก็เป็นเหมือนดวงอาทิตย์ร้อนแรง
ถึงแม้ทั้งตัวจะสวมชุดราตรีสั้นสีดำ ก็ไม่ได้ทำให้เธอหมองหม่นลงแม้แต่น้อย กลับสามารถสวมสีดำโทนเข้มขนาดนี้ได้เปล่งประกายสะดุดตา ถึงขั้นว่าสวยจนไม่อาจควบคุม
หลังผ่านไปหลายวินาที ในที่สุดงานเลี้ยงก็กลับมามีเสียงอีกครั้ง คนไม่น้อยเริ่มสอบถามวิพากษ์วิจารณ์
“ผู้หญิงข้างๆ เยี่ยมู่ฝานคือใคร คนในวงการเหรอ เหมือนไม่เคยเห็นมาก่อนนะ?”
“หรือว่าเป็นหน้าใหม่ของจูเสินสือไต้ ความหน้าตาดีนี่จะแหกกฎธรรมชาติแล้วมั้ง!”
“แค่กๆ ทำไมนักแสดงแต่ละคนของจูเสินสือไต้ถึงได้มีระดับความหน้าตาดีสูงขนาดนี้กันหมด? อย่าบอกนะว่าคุณสมบัติหลักในการเข้าจูเสินสือไต้คือต้องหน้าตาดีมาก?”
“อย่าเดามั่วเลย ดูจากท่าทางคร่ำเคร่งระมัดระวังของเยี่ยมู่ฝาน เหมือนไม่น่าจะเป็นนักแสดงทั่วๆ ไปของบริษัทมั้ง? เป็นคนรักหรือเปล่านะ”
“คนรัก? แต่ก็ไม่เหมือนคู่รักกันเท่าไร…”
…….
เวลานี้ กงซวี่จ้องหญิงสาวที่อยู่ด้านข้างเยี่ยมู่ฝาน ทั้งตัวราวกับรูปปั้นผุกร่อน ยืนอึ้งค้างอยู่ตรงนั้น
“ตายห่า! สาว…สาวสวยละ! น้อง…น้องสาวคนนี้สวยเกินไปแล้วมั้ง!” ถังซิงหั่วที่เมื่อครู่นี้ยังแขวะกงซวี่ว่าไม่มีการศึกษาพบเป็นครั้งแรกว่าภาษาของตัวเองก็ด้อยเช่นกัน นอกจากสวย เขาก็หาคำอื่นๆ มาบรรยายไม่ออกแล้ว
ถังซิงหั่วดวงตาวับวาว รีบซักถามลั่วเฉินกับกงซวี่ “เฮ้ๆๆ น้องสาวข้างๆ เฟลิกซ์คนนั้นคือใครเหรอ ทำไมไม่เคยเห็นมาก่อน ช่วยแนะนำแล้วก็ขอเบอร์โทรทีสิ!”
ถังซิงหั่วเพิ่งพูดจบ กงซวี่ที่ยืนตะลึงงันก็หันขวับมาถลึงตาใส่เขาอย่างดุร้ายทันที “ถังซิงหั่ว แกอยากตายเหรอ”
ถังซิงหั่วเจอท่าท่างประหนึ่งลูกหมาป่าหวงอาหารของกงซวี่ ก็พลันมีสีหน้าหมดคำพูด “จะเดือดขนาดนั้นทำไม ฉันไม่ได้แย่งเมียนายซะหน่อย!”
กงซวี่ถมึงมองอีกฝ่าย “เธอคือเสี่ยวมี่เจี้ยนของฉัน!”
ถังซิงหั่วตกใจทันที “ว่าไงนะ เธอ…เธอก็คือเสี่ยวมี่เจี้ยน? ”
เยี่ยมู่ฝานพาเยี่ยหวันหวั่นเดินมาทางกงซวี่อย่างไม่เต็มใจ
ทุกหนึ่งก้าวที่หญิงสาวเข้ามาใกล้ หัวใจของกงซวี่ก็เต้นเร็วขึ้นหนึ่งจังหวะ รอจนถึงตอนที่หญิงสาวกับเยี่ยมู่ฝานเดินมาถึงตรงหน้าเขาด้วยกันแล้ว เขารู้สึกว่าหัวใจตัวเองกำลังจะกระเด็นออกมาจากหน้าอก แล้วบินไปเธอโดยตรง…
ทั้งที่…ทั้งที่นึกว่าเฉยชากับเสี่ยวมี่เจี้ยนแล้วแท้ๆ …
แต่พอได้เจอหน้ากันอีกครั้ง กลับพบว่าความรู้สึกไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อย
เยี่ยมู่ฝานพาเยี่ยหวันหวั่นมาด้านหน้ากงซวี่ จากนั้นเอ่ยปากด้วยสีหน้ารำคาญ “นายได้เห็นตัวคนแล้ว จากนี้นายควรทำอะไรก็ควรทำซะ!”
กงซวี่กำลังเค้นสมองคิดอารัมภบท แต่ในพริบตาก็ถูกเยี่ยมู่ฝานตัดบท จึงพลันโกรธเคืองขึ้นมา “เยี่ยมู่ฝาน! พี่อยากหาเรื่องเหรอ”
เยี่ยมู่ฝานเหยียดยิ้ม บิดข้อมือเล็กน้อย “หึๆ ตอนแรกไม่สนใจ แต่ถ้านายต้องการ ฉันเอาด้วยก็ได้”
เยี่ยหวันหวั่นชำเลืองมองเยี่ยมู่ฝานหนึ่งที สีหน้าจนปัญญาเล็กน้อย “พี่!”
เยี่ยมู่ฝานที่ถูกน้องสาวตักเตือนเก็บอาการทันที “เจ้าเด็กนี่จะสู้กับฉันเองนะ…”
เมื่อกงซวี่ที่โวยวายจะต่อยตีกับเยี่ยมู่ฝานอยู่ด้านข้างได้ยินคำว่า ‘พี่’ ของหญิงสาว ก็ราวกับถูกฟ้าผ่าทันที เขาจ้องเธอตาค้าง “มะ…เมื่อกี้…คุณ…คุณเรียกเยี่ยมู่ฝานว่าอะไรนะ พี่งั้นเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก “อืม เขาเป็นพี่ชายฉันเอง”
———————————————————————————–
บทที่ 1184 ไม่ได้เปลี่ยนสมอง
เมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาว ทั้งตัวกงซวี่เหมือนถูกสายฟ้าฟาดใส่ สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
เจ้าคนน่ารังเกียจนี่ กลับเป็นพี่ชายของเสี่ยวมี่เจี้ยนเสียอย่างนั้น?
พี่ชายของเสี่ยวมี่เจี้ยนไม่ใช่เยี่ยไป๋เหรอ เกี่ยวอะไรกับเยี่ยมู่ฝานกัน?
กงซวี่จ้องเยี่ยมู่ฝานอย่างตะลึงงัน “พะ…พี่เป็นพี่ชายของเสี่ยวมี่เจี้ยน? เป็นไปได้ยังไง!”
“ขอโทษด้วยจริงๆ ฉันก็คือพี่ชายเธอ แถมยังเป็นพี่ชายแท้ๆ พ่อแม่เดียวกันด้วย!” เยี่ยมู่ฝานเน้นคำว่าพี่ชายแท้ๆ
พี่ชายแท้ๆ!?
กงซวี่พลันนึกขึ้นได้ว่า เยี่ยมู่ฝานเหมือนจะมีน้องสาวอยู่คนหนึ่งจริงๆ แต่เขานึกไม่ถึงสักนิดว่าเสี่ยวมี่เจี้ยนที่เขาตามหามาแสนนานกลับเป็นน้องสาวของเยี่ยมู่ฝานไปได้…
อีกทั้งถึงแม้เยี่ยไป๋เคยพูดว่าเสี่ยวมี่เจี้ยนเป็นน้องสาวเขา แต่ไม่เคยพูดว่าเป็นพี่ชายแท้ๆ พี่ชายที่เป็นญาติฝั่งแม่ หรือพี่ชายที่เป็นญาติฝั่งพ่อ…
เวร! ถ้าเยี่ยมู่ฝานต่างหากที่เป็นพี่ชายของภรรยาเขาตัวจริง อย่างนั้นเขาไม่ตายแน่แล้วเหรอ!
จะไม่เป็นวิทยาศาสตร์เกินไปแล้วละมั้ง! ทั้งที่เสี่ยวมี่เจี้ยนเหมือนเยี่ยไป๋กว่าแท้ๆ…
ฝ่ายเยี่ยมู่ฝานกำลังเตรียมเริ่มสงครามรอบที่สามร้อยกับกงซวี่ ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมา
เยี่ยมู่ฝานเดินไปด้านหน้าเยี่ยหวันหวั่นอย่างไม่วางใจ จ้องกงซวี่อย่างระแวงพลางเอ่ยย้ำ “ฉันไปรับโทรศัพท์ก่อน แกระวังเจ้าเด็กนี่หน่อย อย่าเชื่อคำที่มันพูดเด็ดขาด! เข้าใจไหม?”
เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองเยี่ยมู่ฝานอย่างเฉยชา “ฉันแค่เปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ได้เปลี่ยนสมอง”
เยี่ยมู่ฝานกะพริบตาปริบ เหมือนจะจริงแฮะ…
วินาทีที่เยี่ยหวันหวั่นพูดประโยคนี้ แววตาของกงซวี่สะดุดตามจิตใต้สำนึก
ทำไมพริบตาเมื่อกี้ รู้สึกว่าเสี่ยวมี่เจี้ยนเท่มาก…
เมื่อเยี่ยมู่ฝานเดินไป กงซวี่ไม่ทันคิดอะไรมาก อาศัยโอกาสนี้เข้าไปตรงหน้าหญิงสาวทันที
ในที่สุดคนที่ตามหามานานก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าแบบตัวเป็นๆ เขารู้สึกเหมือนตัวเองฝันไป
“สะ…สวัสดี…คุณยังจำผมได้ไหม วันนั้นที่หน้าร้านขนมหวาน คุณให้ผลไม้อบแห้งผมมาหนึ่งกล่อง”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “จำได้ แต่ว่าตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นดารา”
กงซวี่ได้ยินก็หน้าแดงเล็กน้อย “ดาราอะไรกัน…ก็แค่ทำเล่นๆ เท่านั้นเอง…”
เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะเบาๆ “ฉันดูพิธีมอบรางวัลจินหลานแล้ว คุณเป็นนักแสดงมืออาชีพและควรค่าแก่การนับถือมาก สมกับชื่อราชาจอเงิน”
กงซวี่ได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาพลันวาววับขึ้นมา ตื่นเต้นราวกับฉีดเลือดไก่ไปราวหนึ่งร้อยห้าสิบกิโล “งะ…งั้นเหรอ?”
วินาทีนี้ เขารู้สึกว่าความยากลำบากทั้งปวงที่ได้รับจากการถ่ายหนังเรื่องนั้นคุ้มค่าแล้ว และก็พลันเข้าใจความหมายของคำพูดในคราวนั้นของเยี่ยไป๋แล้ว
เขายินดีกับความพยายามที่ผ่านมาของตัวเองเสียเหลือเกิน ทำให้เขาไม่ดูจนตรอกมากนักในวันที่ได้อยู่ต่อหน้าคนที่ชอบอย่างแท้จริง
กงซวี่ส่ายหน้า “วันนั้นรีบเกินไปเลยไม่ทันได้ขอบคุณคุณ…ผม…หลังจากนั้นก็ตามหาคุณมาตลอด…”
ถังซิงหั่วที่อยู่ด้านข้างฟังกงซวี่สนทนากับหญิงสาวอย่างติดๆ ขัดๆ ก็หน่ายใจไปหมด “สวรรค์…ลั่วเฉิน นายหยิกฉันที ฉันตาฝาดแล้วเหรอ นี่แม่งยังเป็นกงซวี่อยู่ใช่ไหม? ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่จีบสาวขอเบอร์โทรมาในสามประโยค แต่อึกๆ อักๆ ใส่ซื่อยังกับลูกเจี๊ยบอย่างนี้…”
กงซวี่ถลึงตาใส่เพื่อนชั่วของตัวเองทันใด “หุบปาก แต่ไหนแต่ไรคุณชายอย่างฉันก็ใสซื่ออยู่แล้ว!”
ลั่วเฉินไม่สนใจปฏิกิริยาของกงซวี่แม้แต่น้อย แต่มองทางหญิงสาวอย่างค่อนข้างสนใจ
เขาคิดไปเองหรือเปล่า
ทำไม…รู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้ให้ความรู้สึกคุ้นเคยมากกับเขา…
เวลานี้เยี่ยมู่ฝานโทรศัพท์เสร็จแล้ว จึงรีบกลับมาอย่างรวดเร็ว
“ใครโทรมาเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นถามไปตามปาก
………………….