แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1241 แต่งงานใหม่ไปเลย / บทที่ 1242 ลืมเลือนตัวเอง
บทที่ 1241 แต่งงานใหม่ไปเลย
ได้ยินดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นรู้อะไรเป็นอะไร ซือเยี่ยหาน…ต้องอยู่ที่นั่นแน่…เขาไปรัฐอิสระแล้ว!
“พวกเราเป็นเพื่อนของเขาที่ประเทศจีน…” เนี่ยอู๋หมิงพลันขึ้นเสียง
“ว่าไงนะ…ประเทศจีน!?” เสียงหญิงสาวประหลาดใจ ไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นตอบสนอง ก็พลันวางสายไปแล้ว
“ประเทศจีนทำไม หมายความว่ายังไง” เนี่ยอู๋หมิงสีหน้างุนงง
อย่าว่าแต่เนี่ยอู๋หมิง เยี่ยหวันหวั่นก็แปลกใจไม่ต่างกัน ฝ่ายตรงข้ามเหมือนกีดกันประเทศจีนมาก…
…
เยี่ยหวันหวั่นไม่พูดอะไรมาก แต่กดโทรต่อ
‘ติ๊ด…ติ๊ด…ติ๊ด…’
ครั้งนี้มือถือกลับดังเสียงสัญญาณไม่ว่าง
หลังผ่านไปชั่วระยะ เยี่ยหวันหวั่นพยายามติดต่อต่อ โทรหมายเลขนี้ไม่หยุด
แต่สุดท้ายกลับจบลงโดยอีกฝ่ายเปลี่ยนโทรศัพท์เป็นเครื่องเปล่า
“พวกเขามีความแค้นลึกซึ้งอะไรกับประเทศจีน…” นักพรตใจบริสุทธิ์ประหลาดใจ
“ไม่ต้องโทรแล้ว ฝ่ายตรงข้ามไม่อยากรับสายจากประเทศจีนอย่างเห็นได้ชัด ต่อให้เธอเอาโทรศัพท์ฉันโทรจนแบตฯ หมด จนเครื่องพังก็คงโทรไม่ติดหรอก” เนี่ยอู๋หมิงมองเยี่ยหวันหวั่นแล้วเอ่ยปาก
เวลานี้สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นค่อนข้างจำใจ ก็เป็นอย่างที่เนี่ยอู๋หมิงว่า โทรศัพท์เป็นเครื่องเปล่าแล้ว โทรต่อไปก็เปล่าประโยชน์
สำคัญที่สุดคืออีกฝ่ายเหมือนไม่เต็มใจรับสายจากประเทศจีน ส่วนเหตุผลโดยละเอียดนั้น เยี่ยหวันหวั่นกลับก็ไม่แน่ใจ
“ขอบคุณ”
เยี่ยหวันหวั่นคืนโทรศัพท์มือถือให้เนี่ยอู๋หมิง
เยี่ยหวันหวั่นไม่เข้าใจแม้แต่น้อย นี่ตกลงแล้วเป็นเจตนาของซือเยี่ยหาน หรือว่าตอนนี้ซือเยี่ยหานไร้อิสระ ถูกบางอย่างคุกคามอยู่กันแน่
“ช่วยฉันเรื่องหนึ่งได้หรือเปล่า…” หลังผ่านไปสักระยะ เยี่ยหวันหวั่นก็เอ่ยกับเนี่ยอู๋หมิง
“เรื่องอะไร?” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยถาม
“ฉันอยากให้…หลังคุณกลับไป ช่วยฉันตรวจสอบข้อมูลของเพื่อนฉันหน่อย…ตอนนี้เขาอาจอยู่ที่รัฐอิสระ…” เยี่ยหวันหวั่นสูดหายใจลึก หลังเก็บกลั้นอารมณ์แล้ว ก็เล่าต้นสายปลายเหตุที่ซือเยี่ยหานหายตัวไปให้เนี่ยอู๋หมิงฟัง
หลังฟังจบ เนี่ยอู๋หมิงตกอยู่ในภวังค์ความคิด เอ่ยปากช้าๆ “คิดจะหาคนในรัฐอิสระ นี่ไม่ต่างจากงมเข็มในมหาสมุทร…แต่เธอวางใจได้ รอพวกฉันกลับไป จะค้นหาที่อยู่ของเบอร์ฯ นี้ดูก่อน ถ้าค้นหาเจอ ก็ไปถามให้ชัดเจนตรงๆ ถ้าไม่เจอ พวกฉันก็จะหาวิธีตรวจสอบข้อมูลเพื่อนของเธอ…ถ้ายังตรวจสอบไม่เจอ ฉันว่าเธอก็แต่งงานใหม่ไปเลย”
เดิมทีเยี่ยหวันหวั่นยังซาบซึ้งใจมาก แต่หลังได้ยินประโยคสุดท้ายก็ถลึงตาใส่เนี่ยอู๋หมิงทันที หมอนี่พูดภาษาคนเป็นไหม
…
หลังออกจากตลาดอาหาร เยี่ยหวันหวั่นมองเวลาผ่านมาพอสมควร จึงรีบไปสนามกีฬาที่ซือเยี่ยหารเปิดคอนเสิร์ตทันที
คอนเสิร์ตของซือเยี่ยหาน โปรโมตมาชั่วระยะแล้ว
ศิลปินจัดงานคอนเสิร์ตไม่นับว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร ยิ่งไปกว่านั้นหานเซี่ยนอวี่ยังเริ่มต้นจากการเป็นนักร้อง เป็นศิลปินสายความสามารถรอบด้านทั้งละครหนังร้องเพลง
แค่เวลาไม่กี่วัน ตั๋วของคอนเสิร์ตทั้งหมดก็ถูกแย่งชิงจนเกลี้ยง ด้วยเหตุนี้เอง ทางผู้จัดจึงโยกย้ายพนักงานรักษาความปลอดภัยหลายทีมมารักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของงานชั่วคราว
ระหว่างทางขับรถไปสนามกีฬา อารมณ์เยี่ยหวันหวั่นกลับไม่อาจสงบลง ในหัวมีแต่เรื่องการหายตัวไปของซือเยี่ยหานกับปริศนาชีวิตของตัวเอง
ข้อมูลที่ได้รับจากในแฟ้มเอกสารในห้องสมุดของซือเยี่ยหานนั้น เรื่องที่สามารถยืนยันได้คือ ซือเยี่ยหานไม่รู้จักเยี่ยหวันหวั่นตัวจริงแม้แต่น้อย เหตุผลที่สุดท้ายซือเยี่ยหานเลือกความทรงจำของเยี่ยหวันหวั่น กลับแค่เพราะค่อนข้างเหมาะสมกับตัวเธอ แค่เพียงเท่านั้น
————————————————————————————————-
บทที่ 1242 ลืมเลือนตัวเอง
ตอนนี้ที่เยี่ยหวันหวั่นยืนยันได้คือ ก่อนที่ตัวเองจะเกิดใหม่ก็ถูกสะกดจิตขั้นลึก กำจัดความทรงจำดั้งเดิมของตัวเอง และถูกความทรงจำของเยี่ยหวันหวั่นคลุมทับทั้งหมดแล้ว และเพราะแบบนี้ถึงแม้จะเกิดใหม่ เธอก็ยังคงเชื่อสนิทใจในตัวตนเยี่ยหวันหวั่นของตัวเอง และหลังเกิดใหม่ สุดท้ายเธอก็ค้นพบความจริงเพราะเหตุการณ์ไม่คาดคิดบางอย่าง…
นึกถึงตรงนี้ ดวงตาเยี่ยหวันหวั่นพลันผุดแววซับซ้อน
อา พูดแล้วก็น่าหัวเราะเยาะ เกิดใหม่อีกครั้ง แต่ท้ายที่สุดแล้วสองชาตินี้ ตัวเธอกลับใช้ชีวิตคนอื่น ลืมเลือนตัวเองไป
แต่สิ่งที่ทำให้เยี่ยหวันหวั่นไม่อาจเข้าใจคือ ในเมื่อซือเยี่ยหานไม่รู้จักเยี่ยหวันหวั่นตัวจริง แล้วทำไมซือเยี่ยหานต้องให้เธอใช้ชีวิตของเยี่ยหวันหวั่นด้วย หรือว่าซือเยี่ยหานมีความลับที่บอกยาก มีความลำบากใจที่ไม่มีทางเลือก?
ว่ากันตามหลัก ตัวเธอน่าจะรู้จักกับซือเยี่ยหานมานานแล้ว เธอในตอนนั้น เกี่ยวข้องอะไรกับซือเยี่ยหาน เป็นคนรัก? เพื่อน? ศัตรู?
แล้วพ่อแม่ของตัวเธอคือใคร…
มีพี่น้องหรือเปล่า…
ชั่วเวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นมีความรู้สึกมากมาย แต่ต้นตลอดจนจบกลับไม่มีเค้าโครงแม้แต่นิดเดียว อยากจะคลี่คลายปริศนาใหญ่เทียมฟ้านี้ ตอนนี้มีเพียงวิธีเดียว นั่นคือหาซือเยี่ยหานให้เจอ ให้เขาอธิบายต้นสายปลายเหตุทั้งหมดให้ชัดเจนแจ่มแจ้ง…
แต่ที่น่าขันคือ ช่วงเวลาสำคัญอย่างนี้เอง ซือเยี่ยหานกลับไร้ข่าวคราว แม้กระทั่งตระกูลซือก็หาร่องรอยเขาไม่เจอสักนิดเดียว
ในเมื่อไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจคิดเข้าใจได้ เยี่ยหวันหวั่นจึงไม่คิดมากอีกเสียเลย
ผ่านไปสักพัก เยี่ยหวันหวั่นก็มาถึงสนามกีฬา
เวลานี้สนามกีฬามีคนคับคั่ง ถูกแฟนคลับล้อมแน่นหนา
หลังเยี่ยหวันหวั่นจอดรถ เจ้าหน้าที่ฝั่งผู้จัดงานหลายคนก็เดินเข้ามา
“สวัสดีครับ…คุณคือ…คุณเยี่ยไป๋…เอ่อ…คุณหนูไหมครับ…” ชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้ามองเยี่ยหวันหวั่น กระอักกระอ่วนเล็กน้อย ถึงได้ยินมาแล้วว่าเยี่ยไป๋ที่เป็นคนดังแท้จริงแล้วเป็นหญิงแต่งชาย แต่หลังเห็นเยี่ยหวันหวั่นเป็นตัวเป็นตน ก็กลับยังตอบสนองไม่ถูกอยู่บ้าง
“ใช่ค่ะ” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มอย่างมีมารยาท
รอยยิ้มนี้กลับทำให้ชายวัยกลางคนละสายตาไม่ได้เล็กน้อย ใบหน้าของหญิงสาวโดดเด่นอย่างยิ่งยวด แต่ไม่เหมือนกับดาราสาวที่ถูกปั้นแต่งอย่างประณีตในวงการบันเทิงพวกนั้น ถึงแม้สวยงามแต่กลับเหมือนดอกไม้ปลอมไร้ชีวิตชีวา ความเหนือล้ำผู้คนที่หว่างคิ้วของหญิงสาวและแววอิสระเฉยเมยอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้นราวกับควันโดดเดี่ยวกลางทะเลทราย ราวกับภาพสะท้อนดวงอาทิตย์ตกบนผิวแม่น้ำ…
หลังตื่นตระหนกอยู่ชั่วครู่ ชายวัยกลางคนกระแอมไอหนึ่งที ผ่อนคลายความกระอักกระอ่วนของตัวเอง จากนั้นมองเยี่ยหวันหวั่นแล้วยิ้มเอ่ย “คุณหนูเยี่ยไป๋ เชิญตามผมมาครับ เซี่ยนอวี่กำลังแต่งหน้า มาต้อนรับคุณด้วยตัวเองไม่ได้”
“ได้” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าน้อยๆ แล้วตามเจ้าหนักที่ฝ่ายจัดงานเดินเข้าไปหลังงาน
สนามกีฬาโอฬาร มีเสียงกรีดร้องและเสียงร้องเรียกระเบิดเป็นพักๆ เยี่ยหวันหวั่นสามารถได้ยินแม้จะอยู่หลังเวที และนอกจากหานเซี่ยนอวี่ ยังมีชื่อของกงซวี่กับลั่วเฉิน
ที่ทำให้เยี่ยหวันหวั่นประหลาดใจอยู่บ้างคือ ในฝูงชนแฟนคลับที่เรียกชื่อ ‘เยี่ยไป๋’ ก็มีอยู่ไม่น้อย…
เพิ่งเข้ามาหลังเวที กงซวี่กับลั่วเฉินก็เดินเรียงหน้าหลังออกมาจากห้องแต่งหน้า
“พี่เยี่ย” ลั่วเฉินเห็นเยี่ยหวันหวั่นมาแล้วจึงเอ่ยทักทายทันที
กงซวี่มองไปยังเยี่ยหวันหวั่น กำลังจะโวยวายว่าเธอรับสายลั่วเฉินแต่กลับไม่รับสายเขา แต่พริบตาที่เห็นอีกฝ่ายก็พลันพูดไม่ออกแล้ว มิหนำซ้ำหูยิ่งแดงขึ้นเรื่อยๆ …
หลังใจลอยชั่วระยะ กงซวี่จึงได้สติกลับมา ในปากไม่รู้งึมงำอะไร
บ้าไปแล้ว…
ทั้งที่คนตรงหน้ายังเป็นคนคนนั้น…แต่ทำไมเขารู้สึกว่า…ความรู้สึกที่อีกฝ่ายให้มาเหมือนจะมีตรงไหนเปลี่ยนไป…