แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1269 อ่อนแอเกินไปแล้ว / บทที่ 1270 ผมพรสวรรค์โดดเด่น
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1269 อ่อนแอเกินไปแล้ว / บทที่ 1270 ผมพรสวรรค์โดดเด่น
บทที่ 1269 อ่อนแอเกินไปแล้ว
ส่วนที่ว่าทำไมเฟิงเสวียนอี้ถึงจู่ๆ หายติดอ่าง ภายใต้สถานการณ์ตรงหน้า เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้คิดมาก แค่แปลกใจ เฟิงเสวียนอี้เป็นหัวหน้าบอดี้การ์ดของตระกูลซือ ทำไมจึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้
“โอ้ ยังมีผู้ช่วยเหรอ” ผู้ชายที่แต่งตัวเป็นคนขับรถยิ้มน้อยๆ เดินมาถึงข้างหน้า “ผมแนะนำคุณว่าอย่าสอดมือเข้ามายุ่ง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ”
เฟิงเสวียนอวี้เหลือบมองคนขับรถ ไม่พูดอะไรมาก หยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวน ใช้ไฟแช็กจุดไฟ แล้วพ่นวงควันบางๆ ออกมาจากในปาก “จากนั้นล่ะ”
ได้ยินคำพูดของเฟินเสวียนอี้ คนขับรถไม่พูดมากอีก ย่ำก้าวเดียวมาถึงตัวเฟิงเสวียนอี้ ใช้ความเร็วสายฟ้าแลบ เหวี่ยงหมัดใส่ขมับของเฟิงเสวียนอี้
ไม่ต้องพูดถึงคนธรรมดา แม้แต่ตระกูลที่ฝึกฝนจนฝีมือไม่ธรรมดา ก็เกรงว่ายากจะหลบความเร็วของหมัดนี้พ้น หากโดนขมับอย่างจังก็แทบตายแน่อย่างไม่ต้องสงสัย
ฝีมือของคนขับรถรวดเร็วเกินไป เร็วจนเยี่ยหวันหวั่นไม่มีแม้แต่ช่องว่างให้ตอบสนอง ได้แต่มองเฟิงเสวียนอวี้อย่างร้อนใจ
‘ตูม!’
เกิดเสียงดังสนั่นเสมือนฟ้าผ่า สั่นสะเทือนจนคนปวดหู
ภายใต้สายตาไม่อยากเชื่อของเยี่ยหวันหวั่น เฟิงเสวียนอี้ยกแขนขวาน้อยๆ ไม่เห็นว่าเคลื่อนไหวอย่างไร แต่เวลานี้กลับกำหมัดที่คนขวับเหวี่ยงมาไว้ในฝ่ามือ
“แก…”
คนขับรถประเมินเฟิงเสวียนอี้อย่างตกตะลึง
คนขับรถกับชายอีกสองคน ต่างมาจากสหภาพทหารรับจ้าง ครั้งนี้มีคนจ่ายเงินก้อนโตให้พวกเขามาฆ่าผู้หญิงคนหนึ่งที่ประเทศจีน ซึ่งเป้าหมายก็คือเยี่ยหวันหวั่น นึกไม่ถึงว่าข้างกายผู้หญิงคนนี้ แท้จริงมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่…
ยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่าคุ้นๆ ตา เหมือนเคยเห็นคนคนนี้เมื่อไม่นานมานี้
ชายชุดดำอีกสองคนก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรได้ ต่างสบตากัน ในสายตาแต่ละคนผุดแววตกตะลึง
“หรือว่า หรือว่าแกคือ…เป็นไปไม่ได้!”
คนขับรถพลันหน้าเปลี่ยนสี ร้องเสียงหลง
เฟิงเสวียนอี้ คนในโลกในเรียกขานว่าคุกปีศาจ ตำนานเล่าว่าเป็นคนสนิทของหัวหน้าสุดยอดทีมทหารรับจ้างเนี่ยอู๋หมิง…
“ใครส่งแกมา เบื้องบนของตระกูลเนี่ยเหรอ หรือว่า…” เฟิงเสวียนอี้มองคนขับรถ เสียงเย็นชาถึงกระดูก…
ทว่าคนขับรถกับชายชุดดำสองคนกลับปิดปากเงียบ
“ไม่พูด งั้นก็ช่างมัน” เฟิงเสวียนอี้ยักไหล่ หันไปมองเยี่ยหวันหวั่นที่สีหน้างุนงง “คุณหนูไปไหนครับ”
“สนามบิน…” เยี่ยหวันหวั่นตอบโดยไม่รู้ตัว
“ไปสนามบินทำไม…ช่างเถอะ คุณหนูไปทำงานเถอะ” เฟิงเสวียนอี้สูบบุหรี่
“งั้น…นายล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วน้อยๆ
“คนพวกนี้ ซือหมิงหลี่เป็นคนส่งมา…ให้ผมจัดการ คุณหนูไม่ต้องสนใจ” เฟิงเสวียนอี้เอ่ย
“ซือหมิงหลี่?” เยี่ยหวันหวั่นชะงัก คนขับรถกับชายชุดดำ ซือหมิงหลี่ส่งมาจริงๆ?
แต่ในเมื่อเฟิงเสวียนอี้พูดแบบนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ย่อมไม่คัดค้านอะไร
ไม่รอเยี่ยหวันหวั่นเปิดปากพูดต่อ ในมือเฟิงเสวียนอี้มีกริชหนึ่งเล่มเพิ่มมาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
ประกายเย็นชาวาบผ่าน ลำคอของทั้งสามพลันถูกตัดขาดในพริบตา แน่นิ่งอยู่กับพื้นประหนึ่งโคลน ปลิดลมหายใจอย่างรวดเร็ว
“อ่อนแอขนาดนี้ ทำอะไรไม่ทำ ดันอยากเป็นนักฆ่า” เฟิงเสวียนอี้เอ่ยเสียงเรียบ
“อ่อน…” เยี่ยหวันหวั่นมุมปากกระตุกน้อยๆ สามคนนั้น…สำหรับตัวเธอแล้วแข็งแกร่งจนน่าโมโหแล้ว แต่พอถึงปากของเฟิงเสวียนอี้…
นี่ยังเป็นเจ้าติดอ่างที่ตอนอยู่บ้านตระกูลซือตามเธอแจให้เธอสอนกระบวนท่าอยู่ไหม!
จนถึงเวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นจึงได้สติกลับมา เฟิงเสวียนอี้…ติดอ่างอยู่ที่ไหนกัน!
————————————————————————————–
บทที่ 1270 ผมพรสวรรค์โดดเด่น
“นายไม่ได้ติดอ่างเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นจ้องเฟิงเสวียนอี้ ขมวดคิ้วเอ่ยปาก
ถ้าเฟิงเสวียนอี้ไม่ได้ติดอ่าง งั้นทำไมเขาต้องแสร้งติดอ่างตอนอยู่ตระกูลซือ ฝีมือน่ากลัวที่ทำคนตกตะลึงนี้อีกจะว่ายังไง
“ผมติดอ่าง” เฟิงเสวียนอี้จ้องเยี่ยหวันหวั่น “แค่รักษาหายแล้วเท่านั้น ผมเป็นหัวหน้าบอดี้การ์ดตระกูลซือ เงินเดือนเดือนละห้าหมื่น รักษาติดอ่างไม่ใช่ว่าง่ายมากเหรอ”
“งั้นฝีมือนายล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นถามอีก
“พรสวรรค์โดดเด่น ทั่วโลกหายาก บวกกับผมพยายามไม่ย่อท้อ สุดท้ายเลยกลายเป็นยอดฝีมือในเวลาสั้น…นี่ ก็น่าจะสมเหตุผลมากนะครับ” เฟิงเสวียนอี้คิดเล็กน้อยแล้วจึงพูดแบบนี้
ฟังคำอธิบายของเฟิงเสวียนอี้จบ เยี่ยหวันหวั่นมุมปากกระตุกน้อยๆ
ต่อให้แต่งเหตุผล ก็ช่วยแต่งดีๆ ได้หรือเปล่า จำเป็นต้องชุ่ยขนาดนี้ไหม…
“นายเห็นฉันโง่เหรอ” เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าหมดคำพูด
“เปล่าครับ ผมพูดความจริงๆ” เฟินเสวียนอี้สูบบุหรี่
มองสีหน้าและสายตาเปี่ยมความกังขาของเยี่ยหวันหวั่นนั้น ท่าทีของเฟิงเสวียนอี้ก็ไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย
ไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก เฟิงเสวียนอี้รีบเอ่ย “ผมเป็นหัวหน้าบอดี้การ์ดตระกูลซือ ไหนเลยจะมีเวลาคุยเรื่อยเปื่อยกับคุณหนูที่นี่…ผมยังมีภารกิจอยู่…ต้องกลับไปแล้ว…ช่วงนี้ข้างนอกวุ่นวายมาก ไม่มีธุระอย่าวิ่งมั่วเลยครับ”
พูดจบเฟิงเสวียนอี้ก็หายตัวไปราวกับสายควัน
หลังเฟิงเสวียนอี้จากป่าลึกไปก็ขยี้ดับบุหรี่ในมือ ประกายเย็นชาในตากะพริบน้อยๆ
สามคนเมื่อตะกี้หาใช่นักฆ่าที่ซือหมิงหลี่ส่งมาฆ่าเยี่ยหวันหวั่น ทั้งสามคนมาจากรัฐอิสระ ถ้าเขาคาดเดาไม่ผิด บางทีอาจเกี่ยวข้องกับคุณหนูรองที่สวมรอยคนนั้น…
แต่ที่ทำให้เฟิงเสวียนอี้ยังไม่เข้าใจคือ อีกฝ่ายรู้ตัวตนของเยี่ยหวันหวั่นได้อย่างไร
หรือพูดว่า มีคนแพร่งพรายข้อมูลออกไป ทำให้คนบางคนล่วงรู้ว่าเยี่ยหวันหวั่นก็คือคุณหนูรองตระกูลเนี่ย ดังนั้นจึงออกคำสั่งลอบฆ่า…
ตามการคาดเดาของเฟิงเสวียนอี้ อาจเป็นเบื้องบนของตระกูลเนี่ย จงใจให้คนสวมรอยเป็นคุณหนูรองเนี่ยอู๋โยว แทรกซึมเข้าไปในตระกูลเนี่ย คิดจะใช้คุณหนูรองที่สวมรอยมาแย่งชิงผลประโยชน์ที่ล่อใจถึงที่สุดบางอย่าง…
คุณหนูรองเนี่ยอู๋โยว จากตระกูลเนี่ยไปตั้งแต่เด็ก กลับบ้านน้อยครั้งมาก เวลาที่ได้เจอหน้าคุณนายเนี่ยและผู้นำตระกูลก็ไม่มาก อีกทั้งเนี่ยอู๋โยวหายร่องรอยไปหลายปี หญิงสาวเปลี่ยนไปมากจากเด็กสาว ลำพังอาศัยแค่หน้าตาก็ยากระบุตัวตน นี่จึงทำให้บางคนฉวยวิกฤตกวนน้ำจับปลา
หลังเฟิงเสวียนอี้เห็นนักฆ่าของรัฐอิสระ จากรัฐอิสระมาประเทศจีนเพื่อลอบฆ่าเยี่ยหวันหวั่นโดยเฉพาะ เฟิงเสวียนอี้ก็รู้ว่า เรื่องนี้…ร้ายแรงอย่างยิ่ง
เป็นใครกันแน่ ที่แพร่งพรายข้อมูลว่าเยี่ยหวันหวั่นคือเนี่ยอู๋โยวออกไป
แล้วแพร่งพรายไปให้ใคร…
แล้วใครกันอีกที่ไม่ลังเลให้นักฆ่าข้ามน้ำข้ามทะเลมาประเทศจีนเพื่อเอาชีวิตของเยี่ยหวันหวั่น…
“หรือว่าจะเป็น…”
ในหัวของเฟิงเสวียนอี้ผุดเงาร่างหนึ่งขึ้น สีหน้ามัวหมอง
ไม่รอให้เฟิงเสวียนอี้คิดมาก เขาพลันนึกได้ว่าเมื่อครู่นี้เยี่ยหวันหวั่นเหมือนจะพูดว่า…จะไปสนามบิน…
“เชี่ย…คุณหนูคงไม่ได้ไปรัฐอิสระหรอกนะ!” เฟิงเสวียนอี้หน้าเปลี่ยนสี
จุดประสงค์ที่เขาอยู่ประเทศจีนก็คือเพื่อปกป้องเยี่ยหวันหวั่น ที่รัฐอิสระเห็นชัดว่ามีคนอยากเอาชีวิตเยี่ยหวันหวั่น เวลานี้ถ้าเยี่ยหวันหวั่นมุ่งหน้าไปรัฐอิสระ…แล้วถูกมือดำหลังม่านค้นพบ นั่นเป็นภัยอันตรายรอบด้านร้ายแรง เกิดเรื่องอะไรขึ้น ใครก็ปกป้องเธอไว้ไม่ได้!
…
เดิมทีเยี่ยหวันหวั่นอยากไล่ตามเฟิงเสวียนอี้ไปถามให้แน่ชัด แต่จะทำยังไงกับความเร็วของเฟิงเสวียนอี้ที่เร็วเกินไปได้ พริบตาก็ไม่เหลือแต่เงาแล้ว ไล่ตามครึ่งวันก็ไล่ตามไม่ถึง
ภายใต้ความจนใจ เยี่ยหวันหวั่นได้แต่ต้องเปลี่ยนทิศทาง มุ่งหน้าไปสนามบิน เวลาเครื่องออกเหลือไม่มากแล้ว ส่วนเรื่องของเฟิงเสวียนอี้ มีแค่หลังตัวเองกลับจากรัฐอิสระมาประเทศจีนแล้วถามให้ละเอียดเท่านั้น
หลังมาถึงสนามบินก็ถึงเวลาพอดี เยี่ยหวันหวั่นขึ้นเครื่องอย่างราบรื่น