แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1407 ชักดาบดึงธนู / บทที่ 1408 การสบตาอันน่าตื่นตะลึง
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1407 ชักดาบดึงธนู / บทที่ 1408 การสบตาอันน่าตื่นตะลึง
บทที่ 1407 ชักดาบดึงธนู
“พี่เฟิ่ง เมื่อกี้เขาคุ้มกันพี่…ฝ่ามือเมื่อกี้ราคาห้าร้อย พี่จำไว้ด้วย อย่าลืมซะล่ะ…” ชายผมหยิกเดินมาหยุดข้างเยี่ยหวันหวั่น รัวนิ้วมือลงบนแป้นเครื่องคิดเลข แล้วยื่นให้เยี่ยหวันหวั่นดู
เยี่ยหวันหวั่นหันไปจ้องชายผมหยิก ขยับปากทำท่าจะพูดอะไร แต่สุดท้ายกลับพูดไม่ออกซักคำ พวกทีมทหารรับจ้างจูซิงไม่ได้…มาพาเธอซวยจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย?
ผู้ชายที่โดนชายใส่แว่นกรอบทองซัดปลิวเมื่อกี้เป็นคนของอาชูร่า…
ผู้มีอิทธิพลจากหลายกลุ่มอำนาจหันมามองเยี่ยหวันหวั่น ผู้หญิงคนนี้บ้าบิ่นถึงขีดสุดแล้วจริงๆ ไม่ใช่แค่ลงมือกับคนของตระกูลเยี่ยน ตอนนี้แม้แต่คนของนายแห่งอาชูร่าก็ยังกล้าเล่นงาน…
“ฮ่าๆ ดูเหมือนหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว เมื่อกี้ก็ทำร้ายคนของตระกูลเยี่ยน ตอนนี้กลับกล้าทำร้ายคนของนายแห่งอาชูร่า…”
“มีคนอยากตาย จะห้ามยังไงได้ล่ะ เราแค่ยืนดูเรื่องสนุกก็พอ”
“ฉันกลับอยากรู้ ถ้านายแห่งอาชูร่ามาถึงเมื่อไหร่ หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยจะตายน่าอนาถแค่ไหน”
ตอนนี้ ชายใส่ชุดจงซานจวงยกมือขยับแว่น หันไปมองเยี่ยหวันหวั่นแล้วกล่าวว่า “พี่เฟิ่ง คุณชายเยี่ยสั่งให้พวกเราคอยคุ้มกันพี่ไม่ให้ห่าง ใครก็ตามที่มีอันตรายหรือไม่ให้เกียรติพี่ พวกผมจะกำจัดให้หมด มีพวกผมอยู่ พี่เฟิ่งไม่จำเป็นต้องลงมือเอง แล้วพี่เฟิ่งก็ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรทั้งนั้น”
ได้ยินชายใส่แว่นพูดอย่างนั้น เยี่ยหวันหวั่นปากกระตุก ก็เพราะมีพวกนายอยู่ ฉันก็เลยยิ่งอันตรายไงเล่า…
ถึงตอนอยู่จีนทักษะการต่อสู้ของเยี่ยหวันหวั่นจะจัดว่าไม่เลว แต่เทียบกับนักสู้ในรัฐอิสระแล้ว เรียกได้ว่าเทียบไม่ติดเลยซักนิด ที่นี่มีผู้มีอิทธิพลอยู่เต็มไปหมด เยี่ยหวันหวั่นสู้พวกเขาไม่ได้ซักคน คนอื่นเขาใช้แค่นิ้วเดียวก็ฆ่าเธอได้แล้วเหอะ
ถ้าอยู่ในถิ่นของพันธมิตรอู๋เว่ยที่เธอมีอำนาจและกำลังคนมหาศาลก็คงไม่มีอะไรน่ากลัว แต่ที่นี่มันที่ไหน…ถิ่นของอาชูร่าเชียวนะ! ไม่ใช่ถิ่นของพันธมิตรอู๋เว่ย!
ถ้าเธอทำให้ฝูงชนโกรธแค้น อีกเดี๋ยวคงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตายได้ยังไง…
แผนเดิมของเยี่ยหวันหวั่นคือแค่มายั่วโมโหนายแห่งอาชูร่าเท่านั้น อย่างมากก็แค่เป็นการเสียมารยาท ก่อเรื่องวุ่นวาย ดังนั้นถ้าคิดจะหนีเอาตัวรอดก็คงไม่ใช่เรื่องยาก…
แต่ทีมทหารรับจ้างจูซิงนี่สิ ดันไปมีเรื่องกับทุกคนที่ขวางหน้า
“พี่เฟิ่ง กลุ่มอำนาจบางส่วนที่อยู่ที่นี่สู้พันธมิตรอู๋เว่ยไม่ได้ แต่หัวหน้าของพวกเขากลับดูถูกพี่เฟิ่งขนาดนี้ ถึงขนาดอยากให้พี่เฟิ่งตาย ผมว่า…พฤติกรรมอย่างนี้ของพวกเราถือเป็นการหยามเกียรติพี่เฟิ่ง
ดังนั้น ผมคิดว่าควรฆ่าพวกเขาซะ ทำให้พวกเขารู้ว่าเกียรติของหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยไม่อาจท้าทายส่งเดช!”
ชายผมหยิกหันไปพูดกับเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นพูดอะไร ชายผมหยิกก็เริ่มนับจำนวนคนอย่างเป็นจริงเป็นจัง…
ผู้มีอิทธิพลพวกนั้นที่โดนชายผมหยิกชี้นิ้วนับจำนวนต่างเดือดดาล ทำท่าเหมือนจะเอาเรื่องกับเยี่ยหวันหวั่นให้ถึงที่สุด
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันพูดอะไร ในตอนนั้นเอง มีกลุ่มชายชุดดำท่าทางขึงขังถืออาวุธครบมือเดินคุ้มกันคนผู้หนึ่งเดินมาทางพวกเขา
ชายที่เดินนำใบหน้าเย็นชา เส้นผมสีขาวเทา นัยน์ตาดำขลับลึกล้ำดุจบ่อน้ำแข็งที่มองไม่เห็นก้น มองไม่เห็นอารมณ์ความรู้สึกแม้แต่น้อย
เมื่อชายหนุ่มปรากฏตัว แม้แต่อุณหภูมิในคฤหาสน์ก็คล้ายจะลดลงถึงศูนย์องศาในพริบตา
“นะ…นั่น…นายแห่งอาชูร่าเหรอ…”
เมื่อเห็นชายหนุ่ม แววตาหวาดกลัวและกริ่งเกรงก็ปรากฏในดวงตาผู้มีอิทธิพลบางคน
————————————————————————————-
บทที่ 1408 การสบตาอันน่าตื่นตะลึง
นายแห่งอาชูร่าเป็นบุคคลลึกลับมาตลอด ในรัฐอิสระไม่มีใครรู้ชื่อเขา และมีไม่กี่คนที่เคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของนายแห่งอาชูร่า
ตอนนี้ ชายหนุ่มสวมสูทสีดำทั้งตัว เขากลมกลืนไปกับความมืดราวกับเป็นหนึ่งเดียวกัน
ตั้งแต่วินาทีที่ชายหนุ่มปรากฏตัว เหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดจากการก่อกวนของพันธมิตรอู๋เว่ยก็พลันสงบลง ไม่มีใครพูดอะไรอีก
ไม่นาน ท่ามกลางสายตาหวาดกลัวและเกรงขามของเหล่าผู้มีอิทธิพลจากกลุ่มอำนาจต่างๆ ชายหนุ่มเดินมาหยุดยืนกลางคฤหาสน์ แล้วกวาดสายตามองทุกคน
ตอนนี้ เยี่ยนอวิ๋นลูกสาวผู้เป็นเหมือนแก้วตาดวงใจของผู้นำตระกูลเยี่ยนจ้องชายหนุ่มเขม็ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ผู้ชายคนนี้คือนายแห่งอาชูร่า ผู้มีอำนาจสูงสุดในอาชูร่าไม่ผิดแน่ หลายปีก่อนเยี่ยนอวิ๋นเคยเจอนายแห่งอาชูร่า…หลายปีมานี้ นอกจากสีผมของเขาที่กลายเป็นสีเทาขาวแล้ว ก็เหมือนว่าเขาจะไม่ได้เปลี่ยนไปมาก
ไม่นาน ชายหนุ่มนั่งลงบนที่นั่งสูงสุด จากนั้นก็จ้องพิจารณาฝูงชนจากข้างบนนั้น
พอเห็นชายหนุ่มนั่งลง ทุกคนก็มั่นใจแล้วว่าคนคนนี้ก็คือนายแห่งอาชูร่าผู้มีอำนาจสูงสุดในอาชูร่า ไม่ผิดแน่นอน
“คารวะนายแห่งอาชูร่า!”
ผู้นำกลุ่มอำนาจหลายสิบคนพากันลุกขึ้น พวกเขาหันไปหาชายบนที่นั่งแล้วกุมมือแสดงความเคารพ
ซือเยี่ยหานใบหน้าไร้อารมณ์ เพียงพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการตอบรับเท่านั้น
“พี่เฟิ่งๆ…นายแห่งอาชูร่า! นายแห่งอาชูร่ามาแล้ว…” เป่ยโต่วหันไปมองเยี่ยหวันหวั่น แล้วกระซิบบอกเธอด้วยความตื่นเต้น
ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นกำลังยืนหลบอยู่ข้างหลังชายผมหยิกกับพวกเป่ยโต่ว เพราะกลัวว่านายแห่งอาชูร่าจะสังเกตเห็นเธอ
เยี่ยหวันหวั่นแอบกระซิบบอกชายผมหยิกว่า “เจวี้ยนเหมา รอสัญญาณจากฉันนะ เตรียมตัวเผ่นทุกเมื่อด้วย…”
“พี่เฟิ่ง วางใจได้ พวกผมเป็นมืออาชีพ” ชายผมหยิกพยักหน้ารัวๆ เพื่อให้เธอสบายใจ
เยี่ยหวันหวั่นไม่สนใจทีมมืออาชีพด้านพาคนซวยอย่างพวกเขาอีก เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แอบส่องนายแห่งอาชูร่าที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ราชาเงียบๆ
ก่อนจะหนี ยังไงก็ต้องได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนายแห่งอาชูร่าผู้โด่งดังซะก่อน…
ได้ยินมาว่านายแห่งอาชูร่าขี้เหร่มาก ไม่รู้ว่าจะขี้เหร่ขนาดไหน…
ตอนนี้ ซือเยี่ยหานเองก็กำลังหันไปมองคนจากพันธมิตรอู๋เว่ยเหมือนกัน
ด้วยเหตุนี้ วินาทีที่เยี่ยหวันหวั่นเงยหน้าแอบส่อง กลับสบตากับชายหนุ่มบนที่นั่งพอดี…
เสี้ยววินาทีนั้น สายตาของทั้งสองสานประสบ จากนั้นต่างฝ่ายต่างก็อึ้งงันไปทันที
นัยน์ตาของซือเยี่ยหานปรากฏแววตกตตะลึงและเหลือเชื่อ เยี่ยหวันหวั่นเองก็ช็อกไม่ต่างกัน วินาทีที่เห็นใบหน้าของซือเยี่ยหาน เธอราวกับโดนสายอัสนียบาตจากด่านเคราะห์สวรรค์ฟาดลงกลางกะโหลกยังไงยังงั้น
เทียบกับความตกใจจนวิญญาณแทบหลุดจากร่างของเยี่ยหวันหวั่น ฝั่งซือเยี่ยหานนั้น เพียงพริบตาเดียวเขาก็ละสายตากลับมาอย่างแนบเนียน เหมือนแค่มองผ่านเธอไปอย่างไม่ตั้งใจ
“พี่เฟิ่ง…เป็นอะไรไป…พี่โอเคใช่ไหม…พี่เฟิ่ง…” เป่ยโต่วเห็นสีหน้าเยี่ยหวันหวั่นแปลกไป ก็รีบถามด้วยความเป็นห่วงทันที
แต่เยี่ยหวันหวั่นกลับจ้องชายบนที่นั่งนิ่งๆ อย่างไร้การตอบสนอง ราวกับกลัวว่าถ้ากระพริบตาแล้วคนตรงหน้าจะหายตัวไป
“อะแฮ่ม…” เป่ยโต่วเห็นอย่างนั้นก็อดพึมพำเสียงเบาไม่ได้ “พี่เฟิ่ง…พี่เฟิ่งตั้งสติหน่อย…นี่พี่…คงไม่ได้หลงเสน่ห์นายแห่งอาชูร่าเข้าแล้วหรอกนะ…”
นึกไม่ถึงว่าหน้าตาของนายแห่งอาชูร่าจะเป็นภัยต่อชาติบ้านเมืองขนาดนี้…
เป่ยโต่วเรียกอยู่หลายครั้ง ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็ได้สติ สีหน้ายังเหมือนไม่อยากเชื่อ ถ้าเธอไม่ได้ตาบอด ผู้ชายที่นั่งบนบัลลังก์ราชา ผู้ที่ได้ฉายาว่านายแห่งอาชูร่า…ก็คือซือเยี่ยหานไม่ใช่เหรอ?!