แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1441 เถ้าแก่ได้โปรดให้ห้าดาวด้วย / บทที่ 1442 กินไปคนเดียวเถอะ!
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1441 เถ้าแก่ได้โปรดให้ห้าดาวด้วย / บทที่ 1442 กินไปคนเดียวเถอะ!
บทที่ 1441 เถ้าแก่ได้โปรดให้ห้าดาวด้วย
“น้องสาวโหย่วหมิง เรียกฉันออกมาด่วนขนาดนี้มีเรื่องอะไรกันแน่…อีกอย่าง เจวี้ยนเหมาบอกว่าเธอยังไม่ได้จ่ายค่าจ้างก็ชิ่งไปก่อนแล้ว…สมัยนี้หาเงินลำบากมากนะ…น้องสาวโหย่วหมิง เราจะเบี้ยวเงินกันไม่ได้นะ…”
เยี่ยหวันหวั่นอดกลอกตาขาวใส่เนี่ยอู๋หมิงไม่ได้ “ฉันดูเหมือนคนที่จะเบี้ยวเงินรึไง คราวก่อนมีเรื่องนิดหน่อย ก็เลยไม่ทันได้จ่ายเงิน”
“นั่นสิๆ ฉันเชื่อถือกำลังทรพย์ของเถ้าแก่โหย่วหมิงได้เสมอ” พูดจบ เนี่ยอู๋หมิงดื่มชาคำหนึ่ง แล้วขยับไปนั่งข้างเยี่ยหวันหวั่น “เถ้าแก่โหย่วหมิง สะดวกแบบไหนดี…รูดบัตรหรือจ่ายเงินสด? หรือจะออกเช็คก็ได้นะ…”
“จะรีบไปไหน ยังมีงานให้ทำอีกงาน จะเอารึเปล่า?” เยี่ยหวันหวั่นมองเนี่ยอู๋หมิงแล้วยิ้มเล็กน้อย
“งาน?” เนี่ยอู๋หมิงชะงักเล็กน้อย “งานอะไร?”
“แน่นอว่าต้องเป็นงานว่าจ้างอยู่แล้ว ไม่งั้นฉันจะเรียกคุณมาทำไม” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
เนี่ยอู๋หมิงกล่าว “ฉันนึกว่าเถ้าแก่โหย่วหมิงจะมาจ่ายเงิน…”
เยี่ยหวันหวั่นเอือมระอา คำก็เงินสองคำก็เงิน…
“ตอนนี้ฉันต้องการใช้คน ถ้าคุณรับงานนี้ จบงานฉันจะจ่ายให้คุณทีเดียว…ไม่ให้ขาดซักแดงเดียว ถ้าทำได้ดีก็อาจจะได้เงินเพิ่มด้วย เป็นไง สนใจไหม?” เยี่ยหวันหวั่นมองเนี่ยอู๋หมิงยิ้มๆ
“เถ้าแก่โหย่วหมิง…เธอจะจ้างคนไปทำอะไร?” เนี่ยอู๋หมิงถาม
“มีตระกูลหนึ่งมาหาเรื่องฉัน ฉันว่าจะสั่งสอนพวกเขาซักหน่อย…” เยี่ยหวันหวั่นบอก
“ได้เลย!” เนี่ยอู๋หมิงพยักหน้ารัวๆ มองเยี่ยหวันหวั่นแล้วบอกว่า “เถ้าแก่โหย่วหมิง เรื่องอย่างงี้เธอมาหาถูกคนแล้วล่ะ พวกเรานี่แหละมืออาชีพ ว่าแต่เถ้าแก่โหย่วหมิงตั้งใจจะจ้างใครล่ะ? ฉันมีทีมทหารรับจ้างเยอะเลย”
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันพูดอะไร เนี่ยอู๋หมิงก็หยิบปากกากับกระดาษแผ่นหนึ่งออกมายื่นให้เธอ แล้วบอกว่า “เถ้าแก่โหย่วหมิง เธอพอใจกับบริการของทีมทหารรับจ้างจูซิงไหม…ถ้าพอใจก็ให้สี่ดาว พอใจมากให้ห้าดาว ไม่พอใจให้หนึ่งดาว…พวกเราหันมาทำธุรกิจ ต้องใช้การประเมินผลการทำงานด้วยเหมือนกัน”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
นี่เธออยู่มานานจนได้เห็นทุกอย่างที่ไม่เคยเห็นแล้วสินะ ไม่นึกเลยว่าทหารรับจ้างที่ทำงานมือเปื้อนเลือดก็ยังต้องให้ลูกค้าให้ดาวด้วย…
ท่ามกลางความจนใจ เยี่ยหวันหวั่นจึงวาดดาวห้าดวงลงบนกระดาษ แล้วคืนกระดาษกับปากกาให้เนี่ยอู๋หมิง
“เข้าเรื่องได้รึยัง” เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ
“ได้สิๆ…” เนี่ยอู๋หมิงพยักหน้า “เถ้าแก่โหย่วหมิง คราวนี้อยากได้ทหารรับจ้างแบบไหน ระดับ T1 กับ T2 ไม่เลวเลยนะ ราคาของ T1 จะแพงหน่อย T2 ถูกกว่าหน่อย ราคาแตกต่างกันไปตามระดับความสามารถ ยังไงครั้งนี้ก็ใช้บริการทีมทหารรับจ้างจูซิงเป็นไง ไหนๆ ก็คุ้นเคยกันแล้ว”
แต่หลังจากฟังเนี่ยอู๋หมิงพูดร่ายยาวจบ เยี่ยหวันหวั่นกลับส่ายหน้า เธอมองหน้าเนี่ยอู๋หมิงแล้วยิ้มเล็กน้อย “ครั้งนี้ ฉันจะจ้างคุณ”
เนี่ยอู๋หมิงชะงักไปเล็กน้อย จ้างเขา?
หลังจากได้สติ เนี่ยอู๋หมิงกลับส่ายหน้ารัวๆ “เถ้าแก่โหย่วหมิง ดูเธอพูดเข้าสิ ยังไงฉันก็เป็นหัวหน้าคนนะ หัวหน้าที่ไหนรับงานว่าจ้างกัน!”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินอย่างนั้นถึงกับพูดไม่ออก ตอนนี้เขาไม่ใช่คนเดิมที่เคยอดอยากเหมือนตอนอยู่จีนแล้วสินะ? พอมาอยู่รัฐอิสระแล้วปีกกล้าขาแข็งแล้วสินะ ถึงขนาดไม่รับงานว่าจ้างแล้ว
“เอางี้ เธอจ้างอี้จือฮวา นักพรตใจบริสุทธิ์ เสี่ยวเถียนเถียนกับเจ้าคนตายก็ได้ ดีไหม? พวกเขาเป็นทหารรับจ้างที่สูงกว่าระดับ T1 ทั้งนั้น ถึงจะแพงหน่อย แต่เธอวางใจได้เลย ที่แพงเพราะมีเหตุผลแน่นอน เราจะใช้เงินทุกบาทของเธอบนคมมีดแน่นอน!” เนี่ยอู๋หมิงหโปรโมทกับเยี่ยหวันหวั่นอย่างจริงจัง
————————————————————————————-
บทที่ 1442 กินไปคนเดียวเถอะ!
เยี่ยหวันหวั่นยกมือลูบคาง ทำท่าครุ่นคิด
สุดท้ายเยี่ยหวันหวั่นก็กล่าวว่า “งั้น…ฉันจ้างอี้จือฮวา”
“อ้อ…เถ้าแก่โหย่วหมิง คือว่างี้ อี้จือฮวาออกไปรับภารกิจข้างนอก หลายวันนี้ไม่ว่าง” เนี่ยอู๋หมิงบอกอย่างตรงไปตรงมา
เยี่ยหวันหวั่นเงียบ
“งั้นฉันจ้างเจ้าคนตายแล้วกัน” เยี่ยหวันหวั่นบอก
“คนตายออกไปรับภารกิจกับอี้จือฮวา” เนี่ยอู๋หมิงยิ้มบอก
เยี่ยหวันหวั่นปากกระตุก ได้แต่มองใบหน้ากวนประสาทของเนี่ยอู๋หมิง ล้อเล่นรึไง?
เมื่อกี้โปรโมทซะดิบดี มาตอนนี้กลับบอกว่าออกไปรับภารกิจแล้ว?
“แต่เสี่ยวเถียนเถีบนกับนักพรตใจบริสุทธิ์ยังอยู่นะ เถ้าแก่โหย่วหมิง จะดูถูกสองคนนี้ไม่ได้นะ พวกเขาเป็นลูกน้องที่ฉันรักที่สุด ถ้าพวกเราไม่ได้สนิทกันมาก ฉันไม่แนะนำพวกเขาให้เธอแน่นอน” เนี่ยอู๋หมิงบอก
สองคนนี้ไม่เลวจริงๆ นั่นแหละ…
สุดท้ายเยี่ยหวันหวั่นก็ยอมตกลง เธอจ้างนักพรตใจบริสุทธิ์กับหนุ่มกรรมกรต่างชาติพร้อมกัน
ความสามารถของสองคนนี้เยี่ยหวันหวั่นย่อมเชื่อใจได้อยู่แล้ว แต่น่าเสียดายที่อี้จือฮวากับเจ้าคนตายออกไปรับภารกิจอื่นก่อนแล้ว ไม่งั้นเธอคงจ้างพร้อมกันทั้งสี่คน
“นักพรตใจบริสุทธิ์กับเสี่ยวเถียนเถียน ฉันเอาสองคนเลย” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“ฮิๆ เถ้าแก่โหย่วหมิง…ถ้าไง จ่ายมัดจำก่อนดีไหม…” เนี่ยอู๋หมิงมองเยี่ยหวันหวั่นแล้วบอก
แต่เยี่ยหวันหวั่นกลับตอบว่า “รอเสร็จภารกิจแล้วค่อยคิดเงินทีเดียว คุณกลัวฉันจะหนีไปไหนรึไง”
สุดท้ายเนี่ยอู๋หมิงก็ต้องยอม เยี่ยหวันหวั่นไม่ยอมจ่ายเงินตอนนี้ ยังไงเขาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
หลังคุยกับเนี่ยอู๋หมิงเสร็จ เยี่ยหวันหวั่นก็ออกจากร้านน้ำชา
……
ตอนนี้เป่ยโต่วกับชีซิงคัดเลือกยอดนักสู้และล่วงหน้าไปที่โซนทิศเหนือก่อนแล้ว
ในค่ำคืนจันทร์มืดลมแรงเหมาะแก่การฆ่าคน อาศัยตอนฟ้ามืดมุ่งหน้าไปที่โซนทิศเหนือ ถล่มกองกำลังใต้อำนาจอาชูร่าไม่ให้พวกเขาได้ทันตั้งตัว
ไม่นาน หนุ่มกรรมกรต่างชาติกับนักพรตใจบริสุทธิ์ก็มารวมตัวกับเยี่ยหวันหวั่นแถวๆ ร้านน้ำชา
“เถ้าแก่โหย่วหมิง กินขี้รึยัง?” หนุ่มกรรมกรต่างชาติเดินมาหยุดข้างเยี่ยหวันหวั่น แล้วฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันหลอ
เยี่ยหวันหวั่นปากกระตุก “ยัง…นายล่ะกินรึยัง…”
“ผมกินขี้แล้ว” หนุ่มกรรมกรต่างชาติพยักหน้า
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
บทสนทนาชวนอึดอัดใจอย่างงี้เธอไม่อยากสานต่อเลยจริงๆ อีกอย่าง เจ้าหมอนี่จนป่านนี้ก็ยังไม่รู้อีกเหรอว่ากินขี้หมายถึงอะไร? ไม่เข้าท่าเลย…
แต่พอคิดดูอีกที เยี่ยหวันหวั่นก็พอจะเข้าใจได้
ทหารรับจ้างระดับหนุ่มกรรมกรต่างชาติ ถึงจะทักทายคนอื่นว่ากินขี้รึยัง คนอื่นก็คงไม่กล้าต่อบทสนทนาประเภทนี้กับเขา ยิ่งไม่น่าจะกล้าบอกเขาว่าจริงๆ แล้วกินขี้หมายถึงอะไร…
“เถ้าแก่โหย่งหมิง ไม่คิดเลยว่าคุณก็มารัฐอิสระด้วย รอเสร็จภารกิจแล้วผมจะเลี้ยงขี้เถ้าแก่โหย่วหมิงซักมื้อ”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก นายกินไปคนเดียวเถอะ…
“ขอบใจนะ คุณก็เกรงใจเกินไป ไว้ฉันเลี้ยงคุณเองดีกว่า…” เยี่ยหวันหวั่นฝืนตอบออกไป
ขนาดเยี่ยหวันหวั่นเองก็ยังไม่กล้าบอกหนุ่มกรรมกรต่างชาติว่ากินขี้หมายถึงอะไร ถ้าหนุ่มกรรมกรต่างชาติรู้ว่าตัวเองโดนนักพรตใจบริสุทธิ์กับอี้จือฮวาต้มซะเปื่อยขนาดนี้ เขาอาจกลายร่างแล้วซ้อมพวกนั้นให้ตายทันทีเลยก็ได้ ไม่สิ ต้องเป็นอย่างงั้นแน่ๆ
“เถ้าแก่โหย่วหมิง หัวหน้าบอกว่าเป็นตระกูลหนึ่งที่อยู่ทางโซนเหนือ?” นักพรตใจบริสุทธิ์ถาม
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ทั้งสองคนฟัง
“เถ้าแก่โหย่วหมิง ไม่นึกเลยว่าคุณจะกล้าสวมรอยเป็นหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ย…” หนุ่มกรรมกรต่างชาติมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างประหลาดใจ