แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1555 ทนไว้! / บทที่ 1556 ชาตินี้ไม่เสียใจแล้ว
บทที่ 1555 ทนไว้!
“งั้นเหรอ ผู้นำไป๋ลองดูได้”
เมื่อเผชิญหน้ากับการท้าทายของชายหนุ่ม เยี่ยหวันหวั่นปลดปล่อยความโกรธออกไป
อุบายคนงามเป็นท่าไม้ตายในคืนนี้ของเธอ ทำไมสุดท้ายเขากลับเอาไปใช้ก่อนได้เนี่ย!
พัฒนาการของพล็อตเรื่องไม่สมเหตุสมผลสักนิด!
ไม่ได้ ทนไว้ๆๆ!
อำนาจการควบคุมของคืนนี้จะต้องอยู่ในมือเธอ ห้ามถูกผู้ชายคนนี้แย่งไป
เยี่ยหวันหวั่นสูดหายใจลึก ไม่มองแผ่นอกกึ่งเปลือยเปล่าของใครบางคน สะกดจิตตัวเองว่าสิ่งที่ลูบอยู่เป็นแค่ก้อนหินก้อนหนึ่ง ฝืนทนไว้พลางเอ่ยด้วยสีหน้าเหมือนพระเข้าฌาน “นายของอาชูร่า คุณหมายความว่ายังไง ช่วยสงวนตัวเองด้วย! ต่อให้คุณทำแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ฉันไป๋เฟิงถ้าชอบใครหัวใจจะมั่นคงกับเขา ในสายตาและหัวใจมีแค่เขาคนเดียว ความสวยงามอื่นในสายตาฉันเป็นแค่เมฆล่องลอย ฉันไม่ใช่คนประเภทที่หลงใหลเพราะสิ่งสวยงาม คนอื่นบอกว่าฉันปล่อยเนื้อปล่อยตัว แต่ความจริงฉันเป็นคนซื่อสัตย์…อุ๊บ…”
พูดยังไม่ทันจบ ริมฝีปากของเธอก็ถูกประทับจูบอย่างร้อนแรงอีกครั้ง…
‘ซื่อ! สัตย์! ปู่! แก! สิ!’
เยี่ยหวันหวั่นดีดตัวขึ้นมา ออกแรงโถมเข้าไปตรงๆ
วินาทีถัดมา เสียง ‘ตุบ’ ดังขึ้น ทั้งสองคนล้มลงบนโซฟาด้านหลัง
เยี่ยหวันหวั่นใช้แรงกดชายหนุ่มลงบนโซฟา สุดท้ายกระดุมหลายเม็ดก็ถูกเธอปลดออกจนหมด เธอส่งเสียงร้องแง่งๆ ก่อนจะกัดลงไปที่กระดูกไหปลาร้าของชายหนุ่ม ทิ้งรอยประทับเล็กๆ สีแดงเข้มไว้
ชายหนุ่มร้องในลำคอ ก้นบึ้งดวงตาที่เกือบจะโหดเหี้ยมกลับอ่อนโยนลงถึงขีดสุดและยอมตามใจ…
ชายหนุ่มใช้มือหนึ่งประคองเอวของหญิงสาว หลีกเลี่ยงไม่ให้เธอเผลอกลิ้งหล่นลงจากโซฟา “ผู้นำไป๋ดูปากจะไม่ตรงกับใจ”
เยี่ยหวันหวั่นไม่สนใจที่ตัวเองถูกตอกหน้าอยู่ทุกเวลา เธอหัวเราะหึๆ ก่อนเอ่ย “หึ หรือว่านายของอาชูร่าใกล้ตายแล้วไม่ร้อนใจเลยสักนิด? ที่แท้ก็มั่นใจในเสน่ห์ตัวเอง ไม่มีใครที่คุณจัดการไม่ได้สินะ คุณนึกว่าฉันเป็นคนอย่างที่คุณจินตนาการเหรอ ฉันจะบอกคุณให้! คุณพูดถูกแล้ว…”
เยี่ยหวันหวั่นพูดพลาดกัดลงไปที่ริมฝีปากของชายหนุ่ม
ภายใต้ร่างกายอ่อนนุ่มของหญิงสาวและอุณหภูมิที่อบอุ่นหอมกรุ่น แนวป้องกันทั้งหมดของเขาในคืนนี้พังทลายลงโดยสมบูรณ์…
วินาทีถัดมา ชายหนุ่มรวบเอวของหญิงสาว ออกแรงทีเดียว ตำแหน่งของคนทั้งสองก็สลับกันในพริบตา
อยู่ต่อหน้าริมฝีปากที่โน้มลงมาของชายหนุ่ม เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ได้ลืมธุระ เธอเบี่ยงตัวหลบน้อยๆ “ว่ากันว่านายของอาชูร่าจะเว้นระยะห่างจากผู้หญิง ฉันว่า นายของอาชูร่าก็ปากไม่ตรงกับใจนะ”
ชายหนุ่มเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ผู้นำไป๋ ฉันเป็นนายของอาชูร่า แต่ก็เป็นผู้ชายปกติ”
ได้ยินชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงสมเหตุสมผล เยี่ยหวันหวั่นพลันโมโห “งั้นหมายความว่า ความหมายของนายแห่งอาชูร่าคือ ตอนนี้ที่คุณทำกับฉันเป็นแค่ปฏิกิริยาทางร่างกายของผู้ชายปกติเท่านั้น งั้นเหรอ?”
สีหน้าของชายหนุ่มพลันชะงัก ไม่เอ่ยปากไปชั่วขณะหนึ่ง แต่ดูจากสีหน้ากลับยอมรับแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นแค่นหัวเราะ “นายของอาชูร่า ขออภัยที่ฉันเตือน วันไนต์สแตนด์ถอนพิษกู่ไม่ได้หรอก”
กู่พิศวาสเป็นราชาในบรรดากู่ ไม่ได้ถอนง่ายขนาดนั้น การถอนกู่จำเป็นต้องเติมเต็มเงื่อนไขที่ว่าต่างฝ่ายต่างรักกันจากใจจริง
อธิบายกลับกันก็คือ ถ้าสุดท้ายคลายกู่ได้ ก็แสดงว่าเขากำลังพูดโกหก!
ชายหนุ่มได้ยินคำพูดนี้ แววตาก็ขรึมลงเล็กน้อย อุณหภูมิในดวงตายิ่งเย็นลงทุกที “ก่อนที่ผู้นำไป๋จะเตือนฉัน ควรเตือนตัวเองหรือเปล่า ในเมื่อรักปักใจกับจี้หวงแล้ว คืนนี้ทำไมต้องทำเกินจำเป็นด้วย”
————————————————————————————
บทที่ 1556 ชาตินี้ไม่เสียใจแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นกัดฟัน เอ่ยปากอย่างยิ้มแย้ม “คุณพูดถูก ฉันยึดมั่นรักปักใจกับจี้หวง ต่อให้มีดงหนุ่มหล่อมากมายเข้ามา ตั้งแต่ต้นจนจบหัวใจฉันก็ไม่เปลี่ยนแปลง
แต่นี่จะทำเกินจำเป็นไปได้ยังไงล่ะ ยังไงคุณก็เป็นอาชูร่า ต่อให้ถอนพิษกู่ไม่ได้ ถ้าได้นอนด้วยสักครั้ง ชีวิตนี้ก็ไม่เสียใจแล้ว!”
พริบตาที่สิ้นเสียง ความเย็นชาในดวงตาของชายหนุ่มระเบิดออกแทบจะทันที แววตาที่จ้องมองหญิงสาวเหมือนอยากกลืนกินเธอลงไปทั้งเป็น
ในคำพูดของหญิงสาว เธอมองจี้ซิวหร่านเป็นคนที่ยากจะลืมเลือนในใจ มองจากไกลๆ ได้แต่เล่นด้วยไม่ได้ แต่กลับมองเขาเป็น ‘ดงหนุ่มหล่อ’ ไว้ล่าเล่นยามว่าง…
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำกับเขาก่อนหน้านี้ เป็นแค่อารมณ์ล่าผู้ชายเล่นเท่านั้น…
อย่างนั้นตอนนั้นล่ะ…
ปลอมตัวเป็นหัวหน้าเล็กๆ ของพันธมิตรอู๋เว่ย แทรกซึมเข้ามาในอาชูร่า แล้วเข้าหาเขาทุกวิถีทาง ทั้งหมดก็เป็นเพราะแบบนี้เหรอ?
ดังนั้นพอได้หลับนอนกันแล้วถึงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย…
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองถูกฉีกทึ้ง ทั้งร่างเหมือนลุกไหม้อยู่ในไฟโทสะ
เยี่ยหวันหวั่นจ้องแววตาที่น่ากลัวขึ้นทุกชั่วขณะและใบหน้าที่ซีดขาวของชายหนุ่ม รู้ว่าครั้งนี้ตัวเองคงทำเขาโกรธจัดแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อน ไหนเลยเธอจะกล้าพูดจารนหาที่ตายแบบนี้
แต่ว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาเร่งด่วน เธอใช้ทุกวิถีทางแล้วแต่ไม่ได้ผล จึงได้แต่ต้องใช้วิธีการที่เฉียบขาด
เสียงลมกลางคืนร้องหวีดหวิวอยู่นอกประตู
‘ก๊อกๆๆ…’
ในเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงลม
ดึกขนาดนี้แล้ว ใครมาเคาะประตู?
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ ชายหนุ่มตรงหน้าอาจกำลังจะเผยพิรุธแล้ว เยี่ยหวันหวั่นย่อมไม่อาจยอมแพ้กลางคันได้ จึงเมินเสียงเคาะประตูนั้นไปเลย
เสียงเคาะประตูดังต่ออย่างเป็นจังหวะมาก เยี่ยหวันหวั่นตั้งใจว่าจะไม่สนใจ กำลังจะเติมเชื้อไฟยั่วยุชายหนุ่มที่อยู่ใต้ร่าง แต่เวลานี้เอง ด้านนอกมีเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น
“เสี่ยวเฟิง อยู่ไหม?”
บ้าเอ๊ย!
จี้ซิวหร่าน!
พริบตาที่ได้ยินเสียงของจี้ซิวหร่าน เยี่ยหวันหวั่นผลุงตัวขึ้นเหมือนปลาคาร์ป ตอนที่ลุกขึ้นเผลอทำถ้วยชาตกลงจากโต๊ะชา เกิดเป็นเสียงหล่นแตกแสบหู
เวร!
จู่ๆ จี้ซิวหร่านมาทำไม แถมยังมาจังหวะพอดีอีกต่างหาก! จริงๆ เลย!
คงเพราะได้ยินเสียงถ้วยชาแตกในห้อง เสียงเคาะประตูของจี้ซิวหร่านจึงยิ่งเร่งร้อน “เสี่ยวเฟิง ไม่เป็นไรนะ?”
แผ่นหลังของเยี่ยหวันหวั่นพลันแข็งทื่อ ร้อนรนจนเดินวนไปมา “นายของอาชูร่า คุณรีบไปซ่อนเร็ว!”
จี้ซิวหร่านเหมือนนึกว่าเธอเป็นอะไร เตรียมกระแทกประตูแล้ว อีกฝ่ายจวนจะเข้ามาเต็มที เวลานี้ต่อให้หนีไปทางประตูหลังก็ไม่ทันแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นกวาดสายตามองโถงรับแขก เห็นตู้เก็บของขนาดใหญ่ตู้หนึ่งด้านข้าง จึงรีบหันมามองชายหนุ่มแล้วเอ่ยปาก
“เสี่ยวเฟิง!”
“อ๊ะ! ฉันไม่เป็นไรๆ! ทำไมคุณมาดึกขนาดนี้ล่ะ มีธุระอะไรเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นรีบตะโกนไปข้างนอก
ขณะเดียวกัน เธอก็รีบเร่งชายหนุ่มบนโซฟา “เร็วๆๆ!”
พอเห็นท่าทางร้อนเหมือนไฟลนของเยี่ยหวันหวั่น สีหน้าของชายหนุ่มเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง เขาลุกขึ้นอย่างไม่ช้าไม่เร็ว ติดกระดุมเสื้อทั้งบนและล่างอย่างไม่รีบร้อน แต่ติดแค่สองเม็ดก็ไม่ขยับอีก
แม่งเอ๊ย! กรรมตามสนองเร็วไปแล้วไหม!
เยี่ยหวันหวั่นอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตาโดยแท้ เธอคุกเข่าลงด้านหน้าโซฟา เกยหัวบนตักของชายหนุ่ม น้ำตาคลอเบ้า ไม่ต้องพูดเลยว่าน้ำเสียงอ่อนโยนแค่ไหน “นายของอาชูร่า ขอร้องล่ะ บุญคุณครั้งใหญ่ครั้งนี้ฉันจะไม่ลืมตลอดชีวิตเลย!”