แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1581 เรียกไม่ลง / บทที่ 1582 น่าขำให้ตาย
บทที่ 1581 เรียกไม่ลง
“ผู้นำ ถึงตอนนั้นพวกเราไม่เข้าโรงเรียนดีกว่าครับ ถ้าถูกคนจำได้จะแย่เอา เพื่อไม่ดึงดูดความสงสัยคนก็ให้เขาพาผู้นำเข้าโรงเรียนดีกว่าครับ”
“ได้” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก
“พะ…พบท่านผู้นำครับ!”
ชายชราวัยหกสิบเห็นเยี่ยหวันหวั่นก็มีสีหน้าเปี่ยมความตื่นเต้น
หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาแต่งหน้าน่าเกลียดนี้ก็คือบอสของพันธมิตรอู๋เว่ย แบดเจอรัฐอิสระ…
“ไม่ต้องมากพิธีการ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณครับผู้นำ!” ชายชราวัยหกสิบพยักหน้ารัว
ไม่นานกลุ่มสีคนก็ออกจากพันธมิตรอู๋เว่ย ขับรถมุ่งตรงไปยังทิศทางของโรงเรียนชื่อเยี่ยน
“ผู้นำ นักเรียนโรงเรียนชื่อเยี่ยนคนหนึ่งครั้งก่อนลอบสังหารเจ้าสวะหมา เห็นว่าก็ไม่มีข่าวคราวแล้วครับ” บนรถผู้อาวุโสใหญ่เอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น
“ลอบสังหารเจ้าสวะหมา? ” เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าประหลาดใจ นักเรียนคนไหนคิดไม่ตกรับภารกิจฆ่าตัวตายอย่างนี้ ไม่ทำก็ไม่ตายแท้ๆ …
ไม่มีข่าวคราวแล้วก็คงเพราะถูกอี้สุ่ยหานจัดการแล้วนั่นแหละ อี้สุ่ยหานคนนั้นไม่ได้จัดการง่ายสักนิด…
สามโรงเรียนใหญ่ล้วนเป็นโรงเรียนทหารรับจ้าง ไม่เพ่งเล็งใคร ตราบใดที่มีภารกิจที่เหมาะสมก็จะรับภารกิจไว้ นักเรียนรับผิดชอบทำภารกิจให้สำเร็จ ส่วนภารกิจที่ระดับความยากสูง โดยทั่วไปแล้วแทบจะไม่มีคนรับ
ตัวอย่างเช่นภารกิจเอาผมหนึ่งเส้นของผู้นำอาชูร่า ไม่ก็ภารกิจเอาแหวนวงหนึ่งของจักรพรรดิจี้
อยากเอาชีวิตของอี้สุ่ยห่านนอกจากน้ำจะเข้าสมองไม่ก็เบื่อชีวิตไม่อยากอยู่แล้ว ไม่งั้นก็ไม่มีทางมีทหารรับจ้างไปรับภารกิจอย่างนี้
ผ่านไปครึ่งวัน ผู้อาวุโสสามก็ขับรถมาถึงตีนภูเขาลูกหนึ่ง
โรงเรียนชื่อเยี่ยนหนึ่งในสามโรงเรียนใหญ่อยู่บนภูเขานี้เอง อีกทั้งยังห้ามขับรถผ่าน ใครมาเยือนก็ได้แต่ต้องอาศัยเดินเท้าเข้าโรงเรียน
ก็เหมือนกับที่ว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม หลายคนได้แต่ต้องเดินลงจากรถ
บนเส้นทางนี้ไม่ค่อยสงบอยู่หน่อยเหมือนที่จี้ซิวหร่านว่าจริงๆ นักเรียนที่มุ่งหน้ามาเข้าร่วมการสอบเข้าโรงเรียนมีล้นหลาม ระหว่างทางเยี่ยหวันหวั่นเห็นการต่อสู้ดุเดือดที่แค่พูดไม่ลงรอยกันหนึ่งประโยคก็ระเบิดการต่อสู้กันแล้วมากมาย
แต่พวกเธอยังนับว่าสงบมาก ราบรื่นไร้สิ่งกีดขวาง
“พวกนายกลับไปเถอะ” เยี่ยหวันหวั่นโบกมือให้ผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสสาม
“ผู้นำ พวกเราจะส่งผู้นำขึ้นภูเขา…” ผู้อาวุโสสามเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม
“ไม่ต้องแล้ว กลับไปเถอะ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก
ผู้อาวุโสสามพูดไม่ออก
พวกเขาแต่งหน้าซะแก่ขนาดนี้แถมยังตามผู้นำข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงที่นี่ก็เพื่อคุยเล่นเป็นเพื่อนผู้นำแก้เหงาเหรอ…
ผู้อาวุโสทั้งสองคนไหนเลยจะรู้ว่าผู้นำพาพวกเขามา ความจริงแค่เพราะกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางเลยให้พวกเขามาเป็นบอดี้การ์ดเท่านั้น ในเมื่อถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยแล้ว พวกเขาก็ย่อมควรกลับได้แล้ว
ผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสสามจำต้องจากไปก่อนภายใต้ความจนใจ
ส่วนสมาชิกหัวกะทิของพันธมิตรอู๋เว่ยก็ถูกทิ้งไว้ที่นี่
การสอบเข้าโรงเรียนชื่อเยี่ยน ในสถานการณ์ทั่วไปแล้วรุ่นเยาว์ของกองกำลังใหญ่จะต่างพาสมาชิกของตระกูลมาด้วย คนธรรมดาก็จะพาสมาชิกครอบครัวมา แค่เพื่อว่าโรงเรียนชื่อเยี่ยนจะได้รู้จักครอบครัวของผู้เข้าสอบ หลีกเลี่ยงการล้มเหลวภารกิจถูกฆ่าแล้วไม่มีคนในครอบครัวเก็บศพ…
“ผู้เฒ่า ควรเรียกคุณว่าอะไร” เยี่ยหวันหวั่นมองสมาชิกหัวกะทิพันธมิตรอู๋เว่ยที่ยืนครับผมลูกเดียวอยู่ข้างตัวเองพลางหัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ย
“ผู้นำ ให้เกียรติผมไปแล้ว ผู้นำเรียกผมว่าเสี่ยวหลิวก็ได้ครับ” ชายชราเอ่ยอย่างยำเกรง
เยี่ยหวันหวั่นนิ่งเงียบ มองชายชราอายุหกสิกว่าเรียกตัวเองว่าเสี่ยวหลิว…นี่มัน…เรียกไม่ลงจริงๆ!
———————————————————————————-
บทที่ 1582 น่าขำให้ตาย
“แบบนี้ นายปลอมตัวเป็นปู่ฉัน ฉันปลอมตัวเป็นหลานสาวนาย…เป็นไง” เยี่ยหวันหวั่นมองชายชราและยิ้มเอ่ย
“ผู้นำ นี่เหมือนจะไม่เหมาะสมนะครับ ผู้น้อยไม่กล้าเด็ดขาด” ชายชราส่ายหน้ารัว เรียกผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยว่าหลานสาว ล้อเล่นอยู่หรือ
“นายน่าจะรู้จักโรงเรียนชื่อเยี่ยนนะ ถ้านายไม่ปลอมตัวเป็นปู่ฉัน ฉันจะปิดบังตัวเข้าไปเป็นนักเรียนยังไง” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“เรื่องนี้…” ชายชราเหมือนดิ้นรนชั่วขณะแต่สุดท้ายก็พยักหน้า “งั้น…ก็ได้ครับ แต่ผู้นำต้องให้อภัยความเสียมารยาทของผมนะ”
“ให้อภัยๆ กลับไปจะตกรางวัลเพิ่มความดีความชอบให้ด้วย” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเอ่ย
“ตกลงครับ” ชายชราผงกหัว
ไม่นานเยี่ยหวันหวั่นกับชายชราก็ก้าวเดินขึ้นภูเขาไป
ระหว่างทาง หนุ่มสาวตระกูลน้อยใหญ่ของรัฐอิสระไม่น้อยหลั่งไหลขึ้นภูเขาราวกับสายน้ำ
“ผู้เฒ่าหลิว ใช่ผู้เฒ่าหลิวไหม”
ไม่นานเท่าไรก็มีเสียงหัวเราะหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง
ได้ยินดังนั้นชายชราหันไปมองด้านหลัง
“ผู้นำ นี่คือผู้อาวุโสของตระกูลหนึ่งที่อยู่ใกล้กับอาณาเขตพันธมิตรอู๋เว่ยครับ” ชายชรากระซิบเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น
จากนั้นผู้อาวุโสท่านนั้นก็พาหนึ่งชายหนึ่งหญิงเดินย่างเท้าเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ผู้เฒ่าหลิว ท่านนี้คือ” ชายชราหันมองเยี่ยหวันหวั่น
“หลานสาวฉัน” ผู้เฒ่าหลิวเอ่ยเสียงเรียบ
“โอ้ นึกไม่ถึงว่าคุณมีหลานสาวด้วย ลูกชายคุณตายไปหลายปีแล้วไม่ใช่เหรอ…ยังนึกว่าตระกูลผู้เฒ่าหลิวสิ้นรุ่นหลังแล้วเสียอีก…แต่ แค่หลานสาวละก็ ก็เท่ากับสิ้นรุ่นหลังอยู่ดี” ชายชราหัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ย
ได้ยินดังนั้นสีหน้าผู้เฒ่าหลิวพลันเปลี่ยนไป แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ไม่อยากหาปัญหาแทรกซ้อน
“ผู้เฒ่าหลิว ฉันดูหลานสาวคุณผอมแห้งอ่อนแออย่างนี้ ทำไมถึงให้เธอมาสมัครสอบโรงเรียนชื่อเยี่ยนเล่า วันข้างหน้าฉันว่าไม่ช้าเร็วก็คงตายระหว่างภารกิจ คุณพากลับไปดีกว่า” ชายชรายิ้มเอ่ยต่อ
“นั่นก็ไม่เกี่ยวกับคุณมั้ง” ผู้เฒ่าหลิวเอ่ยเสียงเย็น
“ฉันก็แค่หวังดี คุณไม่รับน้ำใจก็ช่างเถอะ คุณว่าคุณ วิทยายุทธธรรมดา วิทยายุทธหลานสาวคุณรับรองว่าก็ต้องธรรมดามากแน่ โรงเรียนชื่อเยี่ยนเป็นหนึ่งในสามโรงเรียนใหญ่ การสอบเข้มงวด ฉันว่าหลานสาวคุณแม้แต่การสอบรอบแรกก็ไม่ผ่านแล้ว อีกอย่างนะ ต่อให้ผ่านได้ อนาคตก็ไม่ได้สดใสอะไร ไม่สู้ให้เธอเข้าพันธมิตรอู๋เว่ยตามคุณ กลายเป็นคนของพันธมิตรอู๋เว่ยอยู่กินจนตายดีกว่า แบบนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว” ชายชราหัวเราะร่า
พูดจบชายหนุ่มหญิงสาวที่ด้านหลังชายชราก็เหลือบมองเยี่ยหวันหวั่นหนึ่งที สีหน้าเต็มไปด้วยความดูถูกและหัวเราะพลางส่ายหน้า
หญิงสาวคนนี้น่าเกลียดหาใดเปรียบ จะเอาอะไรไปเข้าชื่อเยี่ยน อาศัยหน้าตานี้ทำให้ผู้คุมสอบตกใจตายเหรอ
“ขอบคุณความห่วงใยคุณ” ผู้เฒ่าหลิวเอ่ยอย่างเรียบเฉย
“ฮ่าๆ ผู้เฒ่าหลิว อย่าทำตัวห่างเหินอย่างนั้นสิ คุณลองดูหลานสาวกับหลานชายฉัน” ชายชรายิ้มเอ่ย
“อืม ไม่เลว” ผู้เฒ่าหลิวมีสีหน้าไร้อารมณ์
“ยังไม่ทักทายคนอีก” ชายชราหันไปมองหนึ่งชายหนึ่งหญิงที่ด้านข้าง
“ผู้เฒ่าหลิวสวัสดีครับ/ค่ะ”
หนึ่งชายหนึ่งหญิงนี้เอ่ยปากยิ้มเอ่ยพร้อมกัน
ได้ยินดังนั้นผู้เฒ่าหลิวก็พยักหน้า
“เอาล่ะผู้เฒ่าหลิว ไม่คุยเล่นแล้ว” ชายชราพูดจบก็พาคู่ชายหญิงเดินขึ้นภูเขาไป
…
“น่าขำให้ตาย หน้าตาอย่างนี้ก็ยังหน้าด้านกล้าโชว์หน้าในที่สาธารณะ ขายหน้าซะไม่มี” ด้านหลังชายชรา หญิงสาวแค่นหัวเราะเยาะ
“สมเป็นโลกกว้างใหญ่ไม่ไร้สิ่งประหลาด มองโรงเรียนชื่อเยี่ยนเป็นสถานที่แบบไหน ไม่ว่าใครก็กล้ามาสมัครเหรอ แถมยังอยากเป็นนักเรียนของโรงเรียนชื่อเยี่ยนอีก…เพ้อฝันสิ้นดี” ชายหนุ่มก็หัวเราะเยาะด้วย