แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1705 ชื่นอกชื่นใจ / บทที่ 1706 นิ้วเดียวก็บี้ตาย
บทที่ 1705 ชื่นอกชื่นใจ
ภารกิจระดับ SSS: ฆ่าเจ้าสวะหมา แต้มคุณงามความดี 100,000,000
เยี่ยหวันหวั่นตาถลน นับหลายครั้งแล้วก็ดูไม่ผิดจริงๆ หนึ่งร้อยล้าน…
เวลานั้นเยี่ยหวันหวั่นกลืนน้ำลาย ภารกิจระดับ SSS ไม่เคยได้ยินได้ฟัง ได้พบได้เห็นมาก่อน นี่คงไม่ใช่ว่ารัฐอิสระตั้งระดับความยากภารกิจใหม่ให้เจ้าสวะหมาอี้สุ่ยหานโดยเฉพาะหรอกนะ…
แล้วก็อีกอย่าง แต้มคุณงามความดีนั่นมันบ้าอะไร นี่ก็โอเวอร์เกินไปแล้ว…
แต่ภารกิจทหารรับจ้างระดับ SSS อย่างนี้ เยี่ยหวันหวั่นดูแล้วแปดในสิบคือมุกขำขัน ในรัฐอิสระใครจะสามารถฆ่าเจ้าสวะหมาอี้สุ่ยหานได้?
ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้อย่างนี้ อย่าว่าแต่แต้มคุณงามความดีหนึ่งร้อยล้านแต้ม แม้จะให้พันล้าน หมื่นล้าน แสนล้านก็กลับไม่มีความหมาย
หลังเยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิดชั่วครู่ก็ก้าวเดินขึ้นหน้า ภายใต้สายตาของทุกคน เธอฉีกผนึกสามแผ่นลง
ภารกิจระดับ S: ได้รับเส้นผมของนายของอาชูร่า หลังทำภารกิจสำเร็จได้รับหนึ่งหมื่นแต้มคุณงามความดี
ภารกิจระดับ S: ได้รับแหวนหนึ่งวงของจี้ซิวหร่าน หลังทำภารกิจสำเร็จได้รับหนึ่งหมื่นแต้มคุณงามความดี
ภารกิจระดับ A: มุ่งหน้าไปประเทศจีน ทำลายกลุ่มทหารรับจ้างที่ทรยศหลบหนี ได้รับห้าพันแต้มคุณงามความดี
นายของอาชูร่ากับจี้ซิวหร่านภารกิจของสองคนนั้นยังคุ้มค่ามาก ถ้าทำสำเร็จหมดเธอก็จะได้สองหมื่นแต้มคุณงามความดีทันที เยี่ยหวันหวั่นคิดในใจ ชื่นอกชื่นใจอยู่บ้าง
รางวัลของภารกิจระดับ A ถึงแม้จะน้อยไปหน่อย แต่ไม่ว่ายังไง ต่อให้แมลงวันจะเล็กแค่ไหนก็ยังมีเนื้อ รับภารกิจที่เกี่ยวกับประเทศจีนมาทำก่อนค่อยว่ากัน
ช่วงเวลาครึ่งปีเหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว กำหนดการกลับประเทศจีนยิ่งเร็วยิ่งดี ไม่สามารถยืดต่อไปได้อีก
เวลาของคุณพ่อเยี่ยเส่าถิงแล้วก็เยี่ยมู่ฝานมีไม่มากแล้ว พวกเขายังรอเธออยู่
นอกจากเรื่องของคุณพ่อเยี่ยเส่าถิงกับเยี่ยมู่ฝานที่ต้องรีบคลี่คลาย ก็ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องให้เธอมุ่งหน้าไปจัดการ
นอกจากตระกูลเยี่ย ยังต้องไปดูว่าตระกูลซือตอนนี้มีสถานการณ์เป็นยังไงกันแน่
สิ่งที่ทำให้เยี่ยหวันหวั่นไม่อาจเข้าใจคือ ถ้านายของอาชูร่าคือซือเยี่ยหานจริงๆ ทั้งที่รู้สถานการณ์ของตระกูลซือ ด้วยความสามารถของนายของอาชูร่า ใช้นิ้วเดียวก็บดขยี้กบฏของตระกูลซือได้แล้ว แต่ทำไมกลับยังนิ่งเฉย
คนอื่นก็แล้วไป นายของอาชูร่าไม่ยอมจัดการ เยี่ยหวันหวั่นยังเข้าใจได้ แต่ว่าตอนเยี่ยหวันหวั่นอยู่ประเทศจีนได้ยินว่าสถานการณ์ของคุณย่าก็ไม่ดีมาก ถ้านายของอาชูร่าเป็นซือเยี่ยหานละก็ ทำไมแม้แต่คุณย่าเขาก็ไม่เหลียวแล…
ไม่ถามไถ่คุณย่าแม้แต่น้อย เยี่ยหวันหวั่นไม่เข้าใจจริงๆ
ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นกำลังครุ่นคิด ใกล้ๆ กันนั้นก็พลันมีเสียงวุ่นวายดังขึ้นมา
“เชี่ย…รุ่นพี่สื่อเสินกลับมาแล้ว!”
“แม่เจ้า กองทัพนี่…”
“คนคนนั้นก็คือรุ่นพี่สื่อเสินของโรงเรียนชื่อเยี่ยนเหรอ! ทั้งโรงเรียนชื่อเยี่ยนเกรงว่าชื่อเสียงของรุ่นพี่สื่อเสินจะดังที่สุดแล้วมั้ง…”
“ไม่แค่เป็นสื่อเสิน แต่เขายังเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่น หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของรัฐอิสระด้วย…”
หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของรัฐอิสระ ตระกูลเสิ่นเป็นตระกูลที่พิเศษที่สุด อาศัยความมั่งคั่งข่มขวัญคน สามารถเรียกลมเรียกฝนได้ในรัฐอิสระ
และสามโรงเรียนใหญ่ของรัฐอิสระ แทบจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลเสิ่น ไม่ว่าโรงเรียนชื่อเยี่ยนหรือโรงเรียนซิงหยาง ต่างก็ได้ตระกูลเสิ่นใช้กำลังทรัพย์ช่วยเหลือ
ผู้นำตระกูลเสิ่นมีลูกชายสองลูกสาวหนึ่งคน แยกกันเรียนในสามโรงเรียนทหารรับจ้างใหญ่ และคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นก็เรียนที่โรงเรียนชื่อเยี่ยน
ในสามโรงเรียนทหารรับจ้างใหญ่นี้ นอกจากสุดยอดทหารรับจ้างที่น่ากลัวที่สุดพวกนั้นแล้ว คนที่ห้ามแหย่ด้วยที่สุดก็เหลือแค่สามพี่ใหญ่ของตระกูลเสิ่นนี่เอง
——————————————————————————————————
บทที่ 1706 นิ้วเดียวก็บี้ตาย
เวลานี้ ทหารรับจ้างระดับ S หลายคนยืนอยู่ข้างตัวคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่น
เห็นแค่ว่าคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นมีสีหน้าเปี่ยมความทะนง ชูคอยืดอก ก้าวเดินอย่างผึ่งผายองอาจเดินมายังที่แห่งนี้
เยี่ยหวันหวั่นมองคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นด้วยสีหน้าว่างเปล่า มาดใหญ่ไม่น้อยจริงๆ…
“รุ่นพี่สื่อเสิน!”
หลังเห็นคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่น จางจั้วเหนียนก็พลันพุ่งออกมาแล้วตรงเข้าไปหาคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่น
แต่ยังไม่รอให้จางจั้วเหนียนถึงตัวคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่น ทหารรับจ้างระดับ S สูงสุดหนึ่งในนั้นก็กลับพลันคุ้มกันอยู่ข้างกายคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่น แววตาเย็นเยียบ จ้องจางจั้วเหนียนเหมือนมองจากที่สูงและเอ่ยเสียงเย็น “ไปให้พ้น”
พอได้ยินคำพูด จางจั้วเหนียนอึ้งงันเล็กน้อยก่อนจะรีบเอ่ยพูด “รุ่นพี่ท่านนี้ เข้าใจผิดแล้ว ผมกับรุ่นพี่สื่อเสินเป็นเพื่อนกัน”
สิ้นเสียงของจางจั้วเหนียน ทหารรับจ้างระดับ S สูงสุดก็มองคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นที่อยู่ด้านหลัง “เถ้าแก่…ไม่สิ รุ่นพี่สื่อเสินรู้จักนักเรียนทหารรับจ้างระดับ C คนนี้ไหมครับ”
ได้ยินดังนั้น คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นจ้องจางจั้วเหนียน หลังคิดชั่วครู่ก็เอ่ยปาก “นายชื่ออะไร”
“รุ่นพี่สื่อเสิน ผมไง ผมชื่อจางจั้วเหนียน…เมื่อก่อนรุ่นพี่ยังเคยชมผมเลยนะ…”
“เคยชมนาย” คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นเหลือบมองจางจั้วเหนียน “งั้นนายก็ต้องจำได้ว่า ฉันชมนายว่ายังไง”
“เอ่อ…รุ่นพี่สื่อเสิน ตอนนั้นรุ่นพี่พูดว่า ผมเป็นเจ้าเด็กหัวไวจริงๆ …” จางจั้วเหนียนคิดเล็กน้อยก่อนบอกตามตรง
“โอ้…ฉันนึกออกแล้ว” คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นพยักหน้า “ว่ามาสิ หาฉันมีเรื่องอะไร”
“รุ่นพี่สื่อเสิน เมื่อก่อนรุ่นพี่ไม่ใช่ให้ผมช่วยจับตาดูเมิ่งเทียนเหรอ…” จางจั้วเหนียนมีสีหน้าเปี่ยมรอยยิ้มประจบสอพลอ
เมื่อไม่กี่วันก่อน เมิ่งเทียนพูดจาหยาบคายจนล่วงเกินคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่น ดังนั้นคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นจึงให้ทหารรับจ้างระดับ C ช่วยตัวเองจับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของเมิ่งเทียน รอเขาทำภารกิจเสร็จจึงค่อยกลับมาจัดการอีกฝ่าย
“เจ้าเด็กหัวไว เจ้าลูกหมาเมิ่งเทียนอยู่ที่ไหนล่ะ วันนี้รุ่นพี่สื่อเสินนายจะฆ่าเจ้านั่น” คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นพูดจบก็กวาดตาผ่านทหารรับจ้างระดับ S สูงสุดหลายคนที่ด้านหน้า “พี่ชายทั้งหลายไม่มีปัญหานะ”
ได้ยินคำที่คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นพูด ทหารรับจ้างระดับ S สูงสุดหนึ่งในนั้นหัวเราะหยัน มีสีหน้าดูถูก “เถ้าแก่…ไม่…รุ่นพี่สื่อเสินวางใจได้เลย ทหารรับจ้างระดับ S ไม่ถึงขั้น ผมใช้นิ้วเดียวก็บี้เขาตายได้แล้ว”
“รุ่นพี่สื่อเสินอยากให้เมิ่งเทียนตายยังไง รุ่นพี่พูดมาได้เลย ขยะเหมือนเจ้าเมิ่งเทียนนั่น จะให้เถ้าแก่…ไม่สิ จะให้รุ่นพี่สื่อเสินลงมือด้วยตัวเองได้ยังไง นั่นจะไม่ทำมือรุ่นพี่แปดเปื้อนเหรอ” ทหารรับจ้างรุ่นพี่อีกคนหนึ่งคลี่ยิ้มพูด
เวลานั้นคุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นจ้องจางจั้วเหนียน “ว่ามา เจ้าเด็กหัวไว เมิ่งเทียนล่ะ พารุ่นพี่สื่อเสินนายไปหา”
“รุ่นพี่สื่อเสิน เมิ่งเทียนตายแล้วครับ” จางจั้วเหนียนเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นปริศนา
“ตายแล้ว?”
คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นกับทหารรับจ้างระดับ S สูงสุดหลายคนพากันชะงัก เจ้าเมิ่งเทียนนี่อยู่ดีๆ จะตายได้ยังไง…
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมตายแล้ว” คุณชายใหญ่ตระกูลเสิ่นถามอย่างสงสัย
“ก็ตอนงานแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ์ถูกคนฆ่าตายทั้งเป็นไปแล้วครับ…คนคนนั้นทั้งที่รู้ว่าเมิ่งเทียนเป็นเหยื่อที่รุ่นพี่หมายตา ก็ยังจะฆ่าเมิ่งเทียนตาย นี่มันไม่ไว้หน้ารุ่นพี่สื่อเสินชัดๆ เลย ฆ่าเมิ่งเทียนเป็นเรื่องเล็ก แต่ตบหน้ารุ่นพี่สื่อเสินเป็นเรื่องใหญ่นะครับ!” จางจั้วเหนียนรีบเอ่ยปาก