แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1755 โหมดตัวร้ายทำงาน / บทที่ 1756 คนชั่วคบหาคนชั่ว
บทที่ 1755 โหมดตัวร้ายทำงาน
แต่ชีซิงที่อยู่ด้านข้างกระซิบเอ่ยกับเป่ยโต่ว “ถ้าบันทึกคำพูดนี้แล้วพี่เฟิงใช้เป็นหลักฐานส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คนอื่นได้ยินบันทึกเสียงนี้จะคิดยังไง”
“ไม่รู้สิ” เป่ยโต่วส่ายหน้า
“บันทึกเสียงอย่างนี้มีแต่จะถูกทำเป็นหลักฐานจากการใช้กำลังบังคับสารภาพ แต่ถ้าหวงหมิงคุนกับเหลียงเหม่ยเซวียนพูดออกไปโดยใช้วิธีพูดคุยกันก็จะสมบูรณ์แบบ” ชีซิงอธิบาย
…
“ทำตามที่ฉันพูดจากนั้นพวกคุนก็จะได้หลับสบายแล้ว เข้าใจไหม” ผู้อาวุโสสามมองหวงหมิงคุนกับเหลียงเหม่ยเซวียน จากนั้นก็ให้คนปล่อยพวกเขาลง
หวงหมิงคุนกับเหลียงเหม่ยเซวียนเวลานี้ แนวป้องกันในใจพังทลายไปนานแล้ว
“หะ…หวงหมิงคุน คุณว่าเรื่องที่พวกเราให้คนไปฆ่าเยี่ยเส่าอันทิ้ง แล้วป้ายความผิดให้เยี่ยมู่ฝานกับเยี่ยเส่าถิงในตอนนั้น…คงจะไม่ถูกเปิดโปงหรอกใช่ไหม”
เหลียงเหม่ยเซวียนอดทนต่อความง่วงสุดกำลัง ขณะเอ่ยถามพ่อบ้านหวงที่อยู่ด้านข้าง
หวงหมิงคุนพูด “วางใจเถอะ…ไม่หรอก เรื่องนี้ไร้จุดอ่อน ไม่มีใครสังเกตหรอก เจ้าโง่เยี่ยมู่ฝานกับเยี่ยเส่าถิงสองคนนั่น พวกมันสมควรโดนแล้ว ครอบครัวพวกนั้นโง่กันทั้งบ้าน
ครอบครัวนี้คิดๆ แล้วก็น่าขำ ตอนนั้นเยี่ยเส่าอันติดเงินพนันมหาศาล เลยยักยอกเงินก้อนโตของบริษัทไป ทั้งยังปกปิดตาแก่เยี่ยหงเหวยนั่นแถมไปมาหาสู่กับคนของแก๊งมาเฟีย แล้วต่อมากลับใส่ร้ายเยี่ยเส่าถิง…
เยี่ยเส่าอันร่วมมือกับเยี่ยอีอีและกู้เย่วเจ๋อ ประสานจากทั้งในและนอกป้ายสีเยี่ยหวันหวั่น…แถมยังฉีดยาพิษใส่เยี่ยหวันหวั่นแล้วอัดวิดีโอ…ผลคือเยี่ยเส่าถิงเต็มใจถูกใส่ร้ายจริงๆ เพราะลูกสาวคนนั้น คุณว่าคนอย่างนี้โง่หรือเปล่า”
เมื่อสิ้นเสียงของหวงหมิงคุน ผู้อาวุโสสามก็หัวเราะน้อยๆ และปิดเครื่องบันทึกเสียง
“ได้แล้วใช่ไหม เร็ว…ให้ฉันนอนเร็ว!” เหลียงเหม่ยเซวียนกรีดร้อง
คงเพราะทรมานมากเกินไปจริงๆ การแสดงของสองคนนี้จึงไม่เลว ครั้งเดียวก็อัดผ่านแล้ว
“หึๆ ไม่เลว” ผู้อาวุโสสามกวาดตามองเหลียงเหม่ยเซวียนกับหวงหมิงคุน พยักหน้ายิ้มบอก “นี่ก็ถูกแล้ว พูดแบบนี้แต่แรกจะทรมานแบบนี้ไปทำไม”
“เชี่ย ผู้อาวุโสสาม โคตรเจ๋ง!”
เห็นประสบความสำเร็จอย่างสูง เป่ยโต่วเดินไปข้างผู้อาวุโสสามและชูนิ้วโป้งให้ผู้อาวุโสสามทันที “ผู้อาวุโสสามเจ๋งกว่าผู้อาวุโสใหญ่เยอะเลย!”
ผู้อาวุโสสามที่เดิมทีไม่คิดจะสนใจเป่ยโต่ว ได้ยินคำพูดนี้ก็มีชีวิตชีวาทันที “เหลวไหล ผู้อาวุโสใหญ่ตาแก่ไม่ยอมตายนั่นเทียบกับฉันได้เหรอ เขาเคยชนะฉันตอนไหนกัน”
“แล้ว…จะจัดการหวงหมิงคุนกับเหลียงเหม่ยเซวียนยังไง ให้พวกเขานอนหลับเหรอ” เป่ยโต่วเอ่ยปากถาม
“นอนหลับ? ”
ผู้อาวุโสสามเหล่มองเป่ยโต่ว “สมองแกขึ้นสนิมเหรอ กรอกยานอนหลับต่อ อีกสี่ชั่วโมงค่อยให้พวกเขาหลับ”
“ทำไมต้องรอสี่ชั่วโมงเหรอ” เป่ยโต่วงุนงงเล็กน้อย
ผู้อาวุโสสามหัวเราะเย็น “เพราะอีกสี่ชั่วโมงเป็นขีดจำกัดของมนุษย์ ถ้าไม่นอนอีกพวกเขาจะตาย ผู้นำย้ำว่าห้ามก่อเรื่องถึงชีวิต ฉันก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งของผู้นำอย่างเคร่งครัด”
เป่ยโต่วเดาะลิ้น “เคร่งครัดมากจริงด้วย!”
ไม่ขาดสักวินาที…
ผู้อาวุโสสามพูดจบก็หยิบบันทึกเสียงที่อัดเสร็จแล้วและหันตัวออกจากห้องไปโดยไม่แม้แต่เหลียวหลังกลับ
ผู้อาวุโสสามพาหลักฐานกลับไปก่อนด้วยกันกับเป่ยโต่วอย่างรวดเร็ว
ผู้อาวุโสสามเอ่ยยอมรับผิดด้วยสีหน้าจริงใจ “ผู้นำ เพราะผู้นำเรียกร้องว่าห้ามถึงชีวิต ผมเลยไม่ลงมือไม่ยั้งไม่ได้ ได้แต่ต้องทำถึงขั้นนี้”
ฟังบันทึกเสียงรวมไปถึงขั้นตอนที่เรื่องราวสำเร็จจากฝั่งผู้อาวุโสสาม อารมณ์เธอก็ยากจะบรรยาย ลูบคางพึมพำกับตัวเอง “วิธีแก้ปัญหานี่…ดูเป็นตัวร้ายไปหน่อยหรือเปล่า รู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นกองกำลังโจรชั่วชอบกลเลยแฮะ…”
เป่ยโต่วที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้ายากอธิบาย “พี่เฟิง…พวกเราก็เป็นกองกำลังโจรชั่วอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นฟังจบก็เหม่อก่อนจากนั้นก็ทนไม่ไหวหลุดหัวเราะออกมา
เอาเถอะ เมื่อกี้เธอใช้ความคิดของ ‘เยี่ยหวันหวั่น’ มาครุ่นคิดปัญหาซะแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นมองเป่ยโต่วและเท้าคางยิ้มหวานเอ่ย “หึๆ นายพูดถูก”
—————————————————————————-
บทที่ 1756 คนชั่วคบหาคนชั่ว
เยี่ยหวันหวั่นเปิดบันทึกเสียง ฟังบทสนทนาของหวงหมิงคุนกับเหลียงเหม่ยเซวียน
แค่บันทึกเสียงนี้ก็เพียงพอจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเยี่ยมู่ฝานกับเยี่ยเส่าถิงแล้ว ส่วนหวงหมิงคุนกับเหลียงเหม่ยเซวียนก็กำลังหลบหนีหายนะ
“ผู้อาวุโสสามทำให้พวกเขาเอ่ยปากยังไง”
เวลานี้เยี่ยหวันหวั่นจ้องผู้อาวุโสสามด้วยสีหน้าเปี่ยมความสงสัย
บันทึกเสียงนี้ เหลียงเหม่ยเซวียนกับหวงหมิงคุนไม่มีทางรู้ว่าหมายถึงอะไร ต่อให้มีคนใช้ดาบจ่อคอพวกเขา ทั้งสองคนก็ไม่น่าพูดออกมาถึงจะถูก
ถ้าเยี่ยหวันหวั่นเป็นหวงหมิงคุนหรือว่าเหลียงเหม่ยเซวียน เธอจะไม่มีทางพูดออกมาสักครึ่งคำ ยังไงเสียพูดก็ตาย ไม่พูดก็ตาย แล้วทำไมตัวเองต้องพูดด้วย
เมื่อได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น ยังไม่รอให้ผู้อาวุโสสามพูด เป่ยโต่วก็พุ่งเข้ามา มองเยี่ยหวันหวั่นและรีบเอ่ยปากอย่างรวดเร็ว “พี่เฟิง ผมจะบอกพี่ ผู้อาวุโสสามนี้หลังลักพาตัวเหลียงเหม่ยเซวียนกับหวงหมิงคุนก็ต้องรับขับสู้อย่างดี ไม่ตีแถมไม่ด่า ก็แค่ไม่ให้หวงหมิงคุนกับเหลียงเหม่ยเซวียนนอนหลับ ใช้ที่หนีบหนีบหนังตาของทั้งสองคนไว้ แล้วก็ยังวางยานอนหลับขนานเบาในอาหารกับน้ำของพวกเขา หวงหมิงคุนกับเหลียงเหม่ยเซวียนง่วงไม่ไหว เพื่อให้นอนหลับแป๊บเดียว อะไรก็ยอมสารภาพหมด ได้แต่ร่วมมือกับพวกเราพูดบทสนทนานี้ออกมา”
เยี่ยหวันหวั่นมีท่าทีครุ่นคิด มองผู้อาวุโสสามแวบหนึ่ง จำต้องบอกเลยว่าผู้อาวุโสสามถึงเวลาสำคัญก็พึ่งพาได้จริงๆ
ยากจะจินตนาการว่าเหลียงเหม่ยเซวียนกับหวงหมิงคุนสองคนนั้นประสบพบเจออะไรกันแน่
ไม่สามารถนอนหลับหลายวันหลายคืน คนธรรมดาไม่มีทางรับไหว กระทั่งว่าผู้อาวุโสถึงกับวางยาในอาหารของหวงหมิงคุนกับเหลียงเหม่ยเซวียน…
ถึงเป็นอย่างที่เป่ยโต่วพูดว่าต้อนรับหวงหมิงคุนกับเหลียงเหม่ยเซวียนอย่างดี แต่ไม่ให้หลับแถมยังเพิ่มยานอนหลับเข้าไป ก็แทบจะเป็นหนึ่งในการทรมานที่โหดเหี้ยมที่สุดในโลก ไม่ต้องพูดถึงคนธรรมดา ต่อให้เป็นคนที่ฝึกฝนจนเชี่ยวชาญก็เกรงว่าจะทนไม่ได้
นึกถึงตอนเยี่ยหวันหวั่นเพิ่งมาถึงพันธมิตรอู๋เว่ย ผู้อาวุโสสามพูดได้ว่าเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดของตัวเอง แต่เมื่อจากศัตรูกลายเป็นเป็นมิตร ก็พึ่งพาได้อย่างเห็นได้ชัด
“พี่เฟิง แข็งยิ่งแก่ยิ่งแรง ผู้อาวุโสสามโหดเหี้ยมอำมหิตจริงๆ โหดจนไร้ความเป็นมนุษย์ เหี้ยมจนไร้อารมณ์ หัวใจชั่วช้า ทะเยอทะยานโฉดชั่ว!” เป่ยโต่วชูนิ้วโป้งให้ผู้อาวุโสสาม
สิ้นเสียงของเป่ยโต่ว สีหน้าของผู้อาวุโสสามก็พลันเปลี่ยนสี จ้องมองเป่ยโต่ว “แกพล่ามเหลวไหลอะไร แกว่าใครทะเยอทะยานโฉดชั่ว”
เป่ยโต่วเอ่ย “คนชั่วคบหาคนชั่ว…”
เยี่ยหวันหวั่นหมดคำจะพูด
ใช้สำนวนไม่เป็นก็อย่าใช้มั่วสิ…
ยังไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปากพูดอะไร ผู้อาวุโสใหญ่ที่สวมเสื้อเชิ้ตสีแดงก็เดินเข้ามาในโถงใหญ่จากนอกห้องช้าๆ
“วุ่นวายขนาดนี้ วันนี้ไม่ต้องทำงานเหรอ”
ผู้อาวุโสใหญ่เห็นผู้อาวุโสสามอยู่ด้วย ก็อดยิ้มเอ่ยไม่ได้
“ผู้อาวุโสใหญ่ งานของพวกเราเสร็จแล้ว ผู้อาวุโสใหญ่ ลองฟังบันทึกเสียงที่ผู้อาวุโสสามได้มา” เป่ยโต่วเอ่ยปาก
“โอ้ มีเรื่องอย่างนี้ด้วย ผู้อาวุโสสามบันทึกเสียงของเหลียงเหม่ยเซวียนกับหวงหมิงคุนได้? ”
ผู้อาวุโสใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจ
“จริงๆ เลย ผู้อาวุโสสามลักพาตัวพวกเขา” เป่ยโต่วเล่าทุกขั้นตอนให้ผู้อาวุโสใหญ่ฟัง
ได้ยินดังนั้น ผู้อาวุโสใหญ่ก็ฟังบันทึกเสียงทั้งหมดอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง สีหน้าเขาเปลี่ยนไปน้อยๆ ผู้อาวุโสสามนี่ถึงกับนำหน้าเขาไปก้าวหนึ่ง ได้หลักฐานมาแล้วจริงๆ …
“หึๆ ก่อนหน้านี้ผมบอกแล้ว ผู้นำพาผมกลับมาประเทศจีนคนเดียวก็พอ พาผู้อาวุโสใหญ่มาด้วยสูญเปล่าจริงๆ ยังไม่สู้ให้ผู้อาวุโสใหญ่บัญชาการอยู่ที่พันธมิตรอู๋เว่ยดีกว่า” เวลานี้มุมปากผู้อาวุโสสามยกขึ้นสูงน้อยๆ พลางเผยสีหน้าทะนงตน
………………………………….