แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1785 แย่งคนของฉัน / บทที่ 1786 รับผมเถอะนะ
บทที่ 1785 แย่งคนของฉัน
ภายในงานเลี้ยงวันเกิดในค่ำคืนนี้ มีหลายคนไลฟ์สดเพื่อโอ้อวดผ่านโซเซียล
ดังนั้นภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเมื่อครู่จึงมีคนปล่อยลงโซเชียลเรียบร้อยแล้ว ฟู่หมิงซีเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านทางไลฟ์ จึงไม่อยู่ทะเลาะกับเป่ยโต่วอีกต่อไป และดิ่งตรงเข้ามาจัดการทันที
เมื่อเห็นเส้าเหิงที่จู่ๆ ก็ถูกก่นด่า ทุกคนต่างตะลึงและนิ่งงันอยู่กับที่
ผู้จัดการของฟู่หมิงซีเองก็ตกใจเช่นกัน
นี่มันเกิดอะไรขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร หมิงซี นิ่งไว้! ภาพลักษณ์ของนายกำลังจะพังพินาศแล้ว!
ด้วยคาแรคเตอร์แบบคุณชาย ทำให้ฟู่หมิงซีเป็นสุภาพบุรุษที่ดูสุภาพและสง่างามในมุมมองของคนภายนอกเสมอมา
ในฐานะผู้จัดการของฟู่หมิงซี เขารู้ดีว่าลึกๆ แล้วฟู่หมิงซีนั้นบางครั้งก็ค่อนข้าง…จะมีอีกมุมที่ต่างออกไป เพียงแต่ว่าเขารักษาภาพพจน์มาก ไม่เคยแสดงออกให้คนภายนอกเห็น
คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะออกอาการในวันนี้
“พี่ฟู่ เป็นอะไรไปครับ พี่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า” เส้าเหิงที่ดูตกใจเอ่ยถามออกมาโดยไม่รู้ตัว
ตอนนี้ฟู่หมิงซีสงบลงเล็กน้อย ใบหน้าที่เยือกเย็นผนวกกับท่าทางที่เย็นชาและโกรธเคือง “เข้าใจผิดเหรอ นายเพิ่งแย่งคนของฉันไปไม่ใช่เหรอไง”
“แย่งคนของพี่เหรอ มันเรื่องอะไรกันครับ” เส้าเหิงยิ่งงุนงงมากขึ้นไปอีก “มันต้องเป็นการเข้าใจผิดแน่ๆ ผมจะอธิบายให้พี่ฟังทีหลัง แต่ยังไงก็ต้องขอขอบคุณพี่ที่มาร่วมงานในวันนี้ครับ”
เห็นได้ชัดว่าเส้าเหิงไม่ต้องการมีเรื่องกับฟู่หมิงซี
และตอนนี้ฟู่หมิงซีก็ได้กลับมาสู่ภาพลักษณ์อันสูงส่งและสง่างามเต็มตัวแล้ว “ไม่จำเป็นหรอก ผมมาเป็นเพื่อนคนอื่น”
มาเป็นเพื่อนคนอื่นเหรอ
ฟู่หมิงซีไม่ได้มางานเลี้ยงวันเกิดของเส้าเหิง?
ใครกันที่มีอิทธิพลถึงขนาดให้ฟู่หมิงซีต้องมาออกงานเป็นเพื่อนได้
เมื่อได้ยินคำพูดของฟู่หมิงซี สีหน้าของเส้าเหิงก็มืดหม่นลงเล็กน้อย แต่ไม่นานก็เปลี่ยนกลับไปดังเดิมอย่างรวดเร็วพร้อมเอ่ยถามอย่างสุภาพว่า “ไม่ทราบว่าพี่ฟู่มาเป็นเพื่อนผู้ใหญ่ท่านไหนครับ”
ถึงขนาดทำให้ฟู่หมิงซียอมมาเป็นเพื่อนได้ จะต้องเป็นบุคคลสำคัญแน่ๆ
ฟู่หมิงซีไม่ได้สนใจเส้าเหิงสักนิด แต่กลับเดินผ่านเขาไปหาเยี่ยหวันหวั่นที่อยู่ข้างหลัง
ตอนแรกเยี่ยหวันหวั่นพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะทำตัวราวกับไม่ได้อยู่ที่นี่ แสร้งทำเป็นไม่รู้จัก แต่ฟู่หมิงซีก็ตาดี พุ่งตรงมายืนอยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว “พี่เยี่ย ทำไมพี่ไม่รอเข้ามาพร้อมกันกับผมล่ะครับ”
ฟู่หมิงซีมีสติดีมาก เปลี่ยนคำเรียกอย่างรวดเร็ว
เส้าเหิงที่อยู่ข้างหลังถึงกับตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “พี่ฟู่ พี่รู้จักกับเยี่ยไป๋เหรอ”
ผู้ช่วยสาวที่คอยติดตามอยู่ข้างๆ มีท่าทางประหลาดใจ “พี่ฟู่ พี่รู้จักคนแบบนี้ได้ยังไงคะ” เธอโพล่งออกมา
ฟู่หมิงซียิ้มเยาะพร้อมกวาดตาไปยังคนทั้งสอง “เฮ้อ พวกคุณเพิ่งแย่งผู้จัดการของผม ไม่ใช่แย่งกันจนสบายใจแล้วเหรอ ตอนนี้ยังมีหน้ามาถามผมว่าผมรู้จักเธอได้ยังไง”
เมื่อพูดจบ ผู้ช่วยสาวก็ตกตะลึง “อะ…อะไรนะ”
เมื่อกี้ฟู่หมิงซีพูดว่าอะไรนะ
เยี่ยไป๋…เป็นผู้จัดการของเขาเหรอ
ผู้จัดการของฟู่หมิงซีที่กำลังปลีกตัวออกมาจากฝูงชนถึงกับพูดไม่ออก
เยี่ยไป๋เป็นผู้จัดการของฟู่หมิงซี แล้วเขาเป็นใครกัน
สีหน้าของผู้จัดการที่ถูกทอดทิ้งอย่างไร้เหตุผลแลดูงุนงง
อีกด้านหนึ่ง ดวงตาของกงซวี่ก็เบิกโพลงขึ้นทันที
อะไรวะเนี่ย
เขาหูฝาดไปหรือเปล่า
พี่เยี่ยไปเป็นผู้จัดการของฟู่หมิงซีตั้งแต่เมื่อไร!
เยี่ยหวันหวั่นไม่พูดไม่จาทำเพียงหันไปมองหน้าฟู่หมิงซี “ฉันไปเป็นผู้จัดการของนายตั้งแต่เมื่อไร”
“พี่เยี่ย ผมรู้ว่าคุณสมบัติของผมมันแย่ แต่ว่าผมจะพยายาม พี่จะไม่พิจารณาผมสักนิดเหรอครับ” ฟู่หมิงซีเอ่ยถามอย่างถ่อมตน
พอฟู่หมิงซีพูดจบ แว่นตาของทุกคนในห้องจัดเลี้ยงก็แทบจะร่วงหล่นลงพื้น…
เมื่อครู่ตอนที่เส้าเหิงเพิ่งทำทานเสนอให้ตำแหน่งกับเยี่ยไป๋ ทุกคนยังคิดว่ามันคือความเมตตา และยังรู้สึกว่าน้ำเสียงของเยี่ยไป๋ฟังดูเย่อหยิ่งและไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี
คิดไม่ถึงเลยว่าพอหันกลับมาจะเห็นดาราดังอย่างฟู่หมิงซีมาอ้อนวอนขอให้เยี่ยไป๋มาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของตนไปเสียได้
———————————————————-
บทที่ 1786 รับผมเถอะนะ
ในตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นกำลังจ้องมองฟู่หมิงซี แต่กลับพูดอะไรไม่ออกเลยสักนิด ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้กำลังเล่นละคร หรืออยากให้ตัวเองไปเป็นผู้จัดการของเขาจริงๆ กันแน่…
“พี่เยี่ย ว่ายังไงครับ รับผมเถอะนะ” ฟู่หมิงซีจ้องมองเยี่ยหวันหวั่นพลางแย้มยิ้ม
เยี่ยหวันหวั่นยังคงพูดไม่ออก
ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเหลือบมองฟู่หมิงซี จากนั้นทุกสายตาก็จับจ้องไปยังเยี่ยหวันหวั่นด้วยท่าทางราวกับยากจะเชื่อ
ในวงการบันเทิง ฟู่หมิงซีอยู่ในอันดับต้นๆ และอยู่ในเส้นทางสายนานาชาติ เป็นศิลปินยอดนิยมของซิงเฉินเอ็นเตอร์เทนเมนต์
……
แต่ในตอนนี้ ฟู่หมิงซีกำลังยืนตื๊อขอให้เยี่ยหวันหวั่นให้มาเป็นผู้จัดการของตัวเองต่อหน้าทุกคน… มันจะเป็นไปได้ยังไง!?
ในตอนนี้ ทุกคนที่นี่ก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมฟู่หมิงซีถึงพูดว่าเส้าเหิงแย่งคนของเขา…
ในตอนนี้ เส้าเหิงจึงมองไปยังเยี่ยหวันหวั่นด้วยสายตาที่มืดหม่นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามต้องบอกว่ารูปร่างและหน้าตาของเยี่ยหวันหวั่นคนนี้ จัดว่าอยู่ในระดับที่ดูดีจริงๆ และแม้แต่ในวงการบันเทิงก็ยังหาได้ยาก จึงไม่น่าแปลกใจที่เธอจะดึงดูดความสนใจจากคนอย่างฟู่หมิงซีได้
“หึหึ พี่ฟู่ ดูพี่พูดเข้าสิ” ในขณะนี้ผู้ช่วยสาวของเส้าเหิงมองไปยังฟู่หมิงซี “พี่ฟู่ พี่เป็นถึงราชาจอเงินชื่อดังของซิงเฉินเอ็นเตอร์เทนเมนต์เชียวนะ เยี่ยหวันหวั่นคนนี้มีจุดด่างพร้อยมากมาย และก่อนหน้านี้เธอยังขโมยเงินของจูเสินสือไต้แล้วหนีไป คนแบบนี้ จะมาเป็นผู้จัดการให้พี่ได้ยังไงกันคะ”
พอผู้ช่วยของเส้าเหิงพูดจบ ฟู่หมิงซีก็เหลือบมองเธอเบาๆ “เธอเป็นอะไรมากมั้ย ฉันกำลังพูดอยู่กับพี่เยี่ย ได้ถามความเห็นเธอเหรอ”
หลังจากฟู่หมิงซีพูดจบ เขาก็เหลือบมองไปยังเส้าเหิงอีกครั้ง “เส้าเหิง ฉันผิดหวังในตัวนายมาก นี่มันงานอะไรเนี่ย นายไม่ล่ามสุนัขของนายไว้ให้ดี ปล่อยให้ออกมากัดคนไปทั่ว”
สิ้นคำของฟู่หมิงซี สีหน้าของเส้าเหิงก็ดำมืดหนักกว่าเก่า ผู้ช่วยสาวก็กัดฟันกรอด แต่เพราะว่าผู้ชายคนนี้คือฟู่หมิงซี เธอจึงไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไร
คนที่กล้าพูดแบบนี้กับเส้าเหิงต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ เกรงว่าจะมีแค่ฟู่หมิงซีคนเดียว
“เฮอะ” เส้าเหิงมองไปยังฟู่หมิงซีและหัวเราะออกมา “พี่ฟู่ ไม่จำเป็นต้องทำลายความสามัคคีของเราพี่น้องเพราะผู้หญิงคนเดียวก็ได้ จริงมั้ยครับ”
“จริงกับแม่นายสิ” ฟู่หมิงซีตอบ
ตอนนี้ใบหน้าของผู้จัดการของฟู่หมิงซีดเผือด จบเห่…จบเห่แล้ว ภาพลักษณ์ของฟู่หมิงซี มันพังพินาศหมดแล้ว!!
“ฟู่หมิงซี นายมันหน้าไม่อาย ฉันอุตส่าห์เคารพนายเรียกนายว่าพี่ฟู่ แต่ต่อไปนี้ฉันไม่สนแล้ว สำหรับฉันนายมันเทียบไม่ได้กับสุนัขสักตัว” เส้าเหิงจ้องฟู่หมิงซีด้วยแววตาเย็นเยือก
ทุกคนที่ได้ยินเส้าเหิงพูดต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ นี่เส้าเหิงพูดอะไรออกมา
ซิงเฉินเอ็นเตอร์เทนเมนต์มีทั้งหมดสามสาขาในประเทศจีน และปู่ของเส้าเหิงเป็นผู้อำนวยการหนึ่งในสามสาขาของซิงเฉินเอ็นเตอร์เทนเมนต์
แต่สำหรับฟู่หมิงซี ถึงแม้เขาจะเป็นศิลปินชื่อดังของซิงเฉินเอ็นเตอร์เทนเมนต์ แต่ในสายตาของคนอื่นๆ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีคนใหญ่คนโตคอยหนุนหลังเลยสักคน
ในเครือบริษัทซิงเฉินทั้งหมด มีเพียงผู้อำนวยการของซิงเฉินเอ็นเตอร์เทนเมนต์และผู้จัดการของฟู่หมิงซี ที่รู้ว่าฟู่หมิงซีเป็นหลานชายของบอสใหญ่แห่งบริษัทซิงเฉิน…
“นายมัน…”
เมื่อได้ยินเส้าเหิงพูดว่าตัวเองเทียบไม่ได้กับสุนัข ดวงตาของฟู่หมิงซีก็เบิกโพลงด้วยโทสะเดือดดาล ทำท่าจะก้าวไปข้างหน้าหมายจะชกหน้าเขา
เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้จัดการของฟู่หมิงซีก็ตกใจจนต้องรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดการกระทำฟู่หมิงซี “นิ่งไว้…อย่าหวั่นไหว… ภาพลักษณ์ของนาย นายเป็นสุภาพบุรุษในจิตใจของสาวๆ นับหมื่นนับพันเลยนะพี่ใหญ่ของผม!”
ถ้าฟู่หมิงซีอยากจะซัดเส้าเหิงจริงๆ ล่ะก็ นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว!