แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1801 ไม่เล่นด้วย / บทที่ 1802 ความจริงถูกเปิดเผย
บทที่ 1801 ไม่เล่นด้วย
“ประธานเยี่ย อย่างที่เราทราบกันดีว่าคุณเป็นคนตระกูลเยี่ย ตอนนี้พ่อกับพี่ชายของคุณกำลังถูกดำเนินคดีในข้อหาฆาตกรรมพ่อของเยี่ยอีอี มีพยานหลักฐานชัดเจน และตอนนี้คุณแทบจะใช้วิธีแก้แค้นอยู่ฝ่ายเดียว โดยยุติการลงทุนและความร่วมมือของซิงเฉินเอ็นเตอร์เทนเมนต์กับหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์…
แต่หวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์กลับเป็นเหมือนข้อพิสูจน์ถึงการทำงานหนักของตระกูลเยี่ย นอกจากนี้พ่อของคุณยังเป็นประธานของหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ในตอนนั้น แต่ต่อมาก็ถูกไล่ออกจากตระกูลเยี่ย เพราะยักยอกเงินของบริษัทไปใช้หนี้พนันและสิ่งของอบายมุข ประธานเยี่ย ดังนั้นสิ่งที่คุณทำทั้งหมดในตอนนี้ก็เพื่อแก้แค้นใช่หรือไม่…
แต่ถ้าคุณกำลังแก้แค้น ฉันก็ไม่คิดว่าตระกูลเยี่ยจะเป็นฝ่ายผิด คนผิดคือคุณและพ่อแม่ของคุณ รวมทั้งเยี่ยมู่ฝานพี่ชายของคุณต่างหาก”
หลังจบคำถามของนักข่าว สายตาของผู้ชมก็จับจ้องไปที่เยี่ยหวันหวั่นอีกครั้ง
รอยยิ้มเย็นชาปรากฏขึ้นในแววตาของเยี่ยอีอี และเธอก็ถอนหายใจออกมาทันที “น้องสาว ฉันรู้ว่าเธอเกลียดครอบครัวของเรา แต่ถ้าเธอใช้วิธีแบบนี้ ไม่ใช่แค่พวกเรา…แต่ตระกูลเยี่ยทั้งหมดจะเสื่อมเสียนะ…”
กู้เยว่เจ๋อมองไปที่เยี่ยหวันหวั่น พูดเสริมว่า “เยี่ยหวั่นหวัน ยังไงซะอีอีก็เป็นพี่ของเธอ เคยดูแลเธอมาตลอด เธอให้อภัยความผิดทั้งหมดที่เธอเคยทำ…แม้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นเจ้านายของซิงเฉิน แต่มาใช้วิธีที่ดูหมิ่นและไร้ยางอายเช่นนี้ได้ยังไง ตระกูลเยี่ยไม่ผิดอะไรเลย”
“นังเดรัจฉานนี่…” ตอนนี้ใบหน้าของเยี่ยหงเหวยแดงก่ำ ถือไม้เท้าอยู่ในมือข้างหนึ่งพลางจ้องไปที่เยี่ยหวันหวั่น “ฉันผิดหวังในตัวพ่อกับพี่ชายของแกมาก แต่ครั้งหนึ่งฉันเคยอยากให้โอกาสพวกแก พวกมันไม่มีความรู้ความสามารถ ยังไม่ต้องพูดถึงการทุจริตในบริษัทนะ นี่ยังกล้าแม้กระทั่งกล้าฆ่าคน! ส่วนแกก็ยังไม่ยอมกลับตัวกลับใจ ยังจะใช้วิธีนี้ทำร้ายตระกูลเยี่ย แทนที่จะไตร่ตรองและสำนึกผิด แกยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?”
“หึๆ ประธานเยี่ย คุณไม่คิดว่าวิธีนี้ไม่เหมาะสมจริงๆ เหรอ” นักข่าวที่ถามก่อนหน้านี้ยิงคำถามต่อ
และด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ เว็บบอร์ดที่ทำการถ่ายทอดสดในประเทศจีนช่องทางต่างๆ ก็เกิดกระแสให้เกรียนคีย์บอร์ดได้ทำงานอีกครั้ง
กรรมการผู้จัดการหลี่ที่อยู่บนเวทีจ้องไปที่นักข่าวคนนั้นอย่างโกรธเคือง “เธอเป็นนักข่าวจากสำนักไหน! รปภ.มาพาตัวออกไป!”
ไม่ต้องรอให้กรรมการผู้จัดการหลี่กระทำการใดๆ เยี่ยหวันหวั่นกลับโบกมือ มองตรงไปยังนักข่าวที่ถามคำถามคนนั้นพลางยิ้มตอบ “คำถามของคุณดีมาก ก่อนอื่นเลยนะ ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับตระกูลเยี่ย เรื่องที่พวกคุณคิดว่ามันควรจะเป็น เป็นเพียงการอ้างหลักศีลธรรมเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่เล่นด้วย”
เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองไปที่นักข่าว เยี่ยอีอี และเยี่ยหงเหวย แล้วพูดต่อ “ก่อนอื่น ฉันเป็นเจ้านายของซิงเฉิน ฉันต้องการรับผิดชอบบริษัทของฉัน ฉันคิดว่าหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนท์ไม่มีความสามารถและคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้รับการลงทุนและความร่วมมือจากซิงเฉิน
ในช่วงแรกพวกเราลงทุนกับศิลปินต่างชาติหลายคนในซิงเฉิน แต่หวงเทียนกลับไม่ได้เพิ่มความนิยมของศิลปินระดับโลกเหล่านี้ในประเทศจีน และซิงเฉินก็ไม่ได้รับรางวัลตามที่คาดหวังไว้ ในกรณีนี้ซิงเฉินจึงเลือกที่จะถอนหุ้นและยุติสัญญากลางคัน ใครมีปัญหาไหม”
เมื่อฟังจบ นักข่าวก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เยี่ยหวันหวั่นมองนักข่าวแล้วยกยิ้มเล็กน้อย “หรือคุณคิดว่าบริษัทระหว่างประเทศจะยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งขึ้น ด้วยความรู้สึกส่วนตัวเท่านั้น โดยไม่ต้องคำนึงถึงผลกำไรและขาดทุนเลยเหรอ
สิ่งที่ฉันพูดนั้นง่ายมาก คุณรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงได้พูดมันออกมาอย่างง่ายดาย?”
“ประธานเยี่ยอยากบอกอะไรคะ” นักข่าวถาม
“เพราะฉันกลัวว่าสิ่งที่ฉันพูดจะลึกซึ้งเกินไปสักหน่อย ดูทรงแล้ว คุณอาจจะไม่เข้าใจ” เยี่ยหวันหวั่นตอบ
—————————————————————————————
บทที่ 1802 ความจริงถูกเปิดเผย
เมื่อคำพูดของเยี่ยหวันหวั่นจบลง ก็เกิดเสียงหัวเราะดังขึ้นในหมู่ผู้ชม นี่มันราวกับโดนตบหน้ากลางสี่แยกจริงๆ
คำถามมากมายที่นักข่าวสำนักนี้ถามขึ้น ยังไม่สู้คำพูดไม่กี่คำของเยี่ยหวันหวั่นที่มีพลังและสั่นสะเทือนใจยิ่งกว่า… คำพูดของเยี่ยหวันหวั่นไม่กี่คำกลับบอกคนทุกคนให้รู้ว่านักข่าวคนนี้โง่เง่าแค่ไหน
“ยังไม่หมด” เยี่ยหวันหวั่นมองไปยังเยี่ยหงเหวยและเอ่ยว่า “สิ่งที่ผู้อาวุโสเยี่ยเพิ่งพูด คุณคิดว่าในปีนั้นเยี่ยเส่าถิงจะยักยอกเงินของบริษัท ทำให้บริษัทเสียหาย และต่อมาก็ถูกไล่ออกจากตระกูลเยี่ย
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ความคิดของผู้อาวุโสเยี่ยก็คือ คนที่ไร้ประโยชน์ก็ควรถูกทอดทิ้ง รวมไปถึงลูกชายของตัวเองด้วย…
วันนี้ฉันคิดว่าหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ของตระกูลเยี่ยไม่มีประโยชน์สำหรับบริษัทซิงเฉินของพวกเราเลย กระทั่งเรียกได้ว่าเป็นภาระด้วยซ้ำ ถ้างั้นฉันในฐานะเจ้านายของบริษัทซิงเฉิน ก็ควรที่จะละทิ้งหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์เช่นกัน
แต่ผู้อาวุโสเยี่ย ทำไมคุณถึงตอบโต้รุนแรงถึงขนาดโจมตีฉัน หรือว่าปีนั้นผู้อาวุโสเยี่ยก็ใช้การโจมตีชีวิตคนอื่นเพื่อทำให้หวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์แข็งแกร่งขึ้นใช่หรือเปล่าคะ”
“ดี พูดได้ดี!” กงซวี่ลุกขึ้นยืน ปรบมือเสียงดังให้เยี่ยหวันหวั่นในทันที
หลังจากเสียงปรบมือของกงซวี่ดังขึ้น ศิลปินอีกหลายคนในที่นั้นก็ร่วมปรบมือด้วยเสียงดังลั่น
“แก…แก…” เยี่ยหงเหวยจ้องไปที่เยี่ยหวันหวั่นอย่างอาฆาตแค้น ร่างกายสั่นเทาด้วยความโกรธ
“นอกจากนี้ เพื่อนนักข่าวคนนั้นที่เพิ่งบอกว่า พ่อและพี่ชายของฉันถูกสงสัยว่าเป็นคนฆาตกรรมเยี่ยเส่าอันแห่งตระกูลเยี่ย ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ถ้างั้นฉันจะถือโอกาสนี้แสดงอะไรบางอย่างให้ทุกคนได้ดู” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มตอบ
“ให้ดูอะไรบางอย่างเหรอ”
“ดูอะไรเนี่ย…”
ทุกคนมองไปที่เยี่ยหวันหวั่นด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“วันนี้เป็นวันที่พ่อกับพี่ชายของฉันต้องขึ้นศาล แต่บังเอิญว่าการพิจารณาคดีของศาลเป็นการถ่ายทอดสด ถ้างั้นพวกเรามารับชมพร้อมกันว่าผลจะเป็นอย่างไรดีไหมคะ”
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นพูดจบ เป่ยโต่วและชีซิงก็ก้าวไปข้างหน้าและให้ความร่วมมือกับพนักงานบางส่วนของซิงเฉิน เปิดจอขนาดใหญ่ขึ้นมา
บนหน้าจอปรากฏภาพของเยี่ยมู่ฝานและเยี่ยเส่าถิงทั้งสองคนพอดี
เยี่ยหวันหวั่นใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อว่าจ้างจางเฮ่อซึ่งเป็นทนายความที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศจีนมาทำคดีนี้เพื่อปกป้องเยี่ยมู่ฝานและเยี่ยเส่าถิงให้พ้นผิด
ตอนนี้การพิจารณคดีของศาลเปิดกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ คดีความระหว่างเยี่ยมู่ฝานกับเยี่ยเส่าถิงมีผลกระทบในวงกว้าง ศาลจึงเลือกที่จะถ่ายทอดสดระหว่างการพิจารณาคดี
ในการถ่ายทอดสดจะเห็นได้ว่าจางเฮ่อชายวัยกลางคนได้เดินไปข้างหน้า ส่งหลักฐานเป็นเทปบันทึกเสียงเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ต่อหน้าศาล
เมื่อเปิดเทป ก็มีเสียงของเหลียงเหม่ยเซวียนและหวงหมิงคุนดังออกมา
“หะ…หวงหมิงคุน คุณว่าเรื่องที่พวกเราให้คนไปฆ่าเยี่ยเส่าอันทิ้ง แล้วป้ายความผิดให้เยี่ยมู่ฝานกับเยี่ยเส่าถิงในตอนนั้น…คงจะไม่ถูกเปิดโปงหรอกใช่ไหม”
“วางใจเถอะ…ไม่หรอก เรื่องนี้ไร้จุดอ่อน ไม่มีใครสังเกตหรอก เจ้าโง่เยี่ยมู่ฝานกับเยี่ยเส่าถิงสองคนนั่น พวกมันสมควรโดนแล้ว ครอบครัวพวกนั้นโง่กันทั้งบ้าน…
ครอบครัวนี้คิดๆ แล้วก็น่าขำ ตอนนั้นเยี่ยเส่าอันติดเงินพนันมหาศาล เลยยักยอกเงินก้อนโตของบริษัทไป ทั้งยังปกปิดตาแก่เยี่ยหงเหวยนั่นแถมไปมาหาสู่กับคนของแก๊งมาเฟีย แล้วต่อมากลับใส่ร้ายเยี่ยเส่าถิง
……
เยี่ยเส่าอันร่วมมือกับเยี่ยอีอีและกู้เย่วเจ๋อ ประสานจากทั้งในและนอกป้ายสีเยี่ยหวันหวั่น…แถมยังฉีดยาพิษใส่เยี่ยหวันหวั่นแล้วอัดวิดีโอ…ผลคือเยี่ยเส่าถิงเต็มใจถูกใส่ร้ายจริงๆ เพราะลูกสาวคนนั้น คุณว่าคนอย่างนี้โง่หรือเปล่า”
ทุกคนในงานเลี้ยงต่างตกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้
โดยเฉพาะเยี่ยอีอีที่มีสีหน้าเปลี่ยนไปกะทันหัน ปรากฏเป็นสีหน้ายากที่จะเชื่อ
ในตอนนั้นหลังจากเหลียงเหม่ยเซวียนและหวงหมิงคุนกลับมาถึงบ้าน พวกเขาก็ถูกลักพาตัวไป และถูกบังคับให้บันทึกเสียงคำพูดเหล่านี้
ในวันเดียวกันนั้นเอง เยี่ยอีอีก็ไปพบกับคนของสมาคมหงซิ่งและใช้เงินจำนวนมากเพื่อให้สมาคมหงซิ่งช่วยจัดการเรื่องนี้…