แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1805 การแสดงที่ยอดเยี่ยม / บทที่ 1806 ประวัติศาสตร์ที่มืดมน
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1805 การแสดงที่ยอดเยี่ยม / บทที่ 1806 ประวัติศาสตร์ที่มืดมน
บทที่ 1805 การแสดงที่ยอดเยี่ยม
จางเฮ่อมองเยี่ยเส่าถิงและกล่าวว่า “เท่าที่ผมรู้ เยี่ยเส่าถิงรับผิดชอบการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านตระกูลเยี่ยทั้งหมด ทุกจุดที่มีกล้องวงจรปิด เยี่ยเส่าถิงต่างรู้ดีอย่างทะลุปรุโปร่ง
ถ้าเยี่ยเส่าถิงคิดจะฆ่าคนและวางแผนมานาน รวมทั้งลงมือพร้อมกับเยี่ยมู่ฝานลูกชายของตัวเอง แต่ทำไมถึงได้โง่เง่าขนาดให้ภาพของตัวเองไปอยู่ในกล้องวงจรปิดได้หลายครั้งกัน นี่มันไร้ตรรกะและไม่สมเหตุสมผลเลย”
ในตอนนี้เยี่ยมู่ฝานที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้โจทก์มองจางเฮ่ออย่างประหลาดใจ นี่มัน ไม่เสียแรงที่เยี่ยหวันหวั่นทุ่มเงินอันมหาศาลเพื่อว่าจ้างทนายความที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศจีนมา…คุ้มค่าแล้ว…
“ดังนั้นเมื่อรวมกับความสมบูรณ์ของลายนิ้วมือแล้ว…จึงเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการเตรียมการล่วงหน้า เป็นการวางแผนฆ่าและโยนความผิด ผมพูดจบแล้วครับ” จางเฮ่อเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
หวงหมิงคุนขมวดคิ้วแน่น จ้องเขม็งไปยังทนายความของตัวเองที่ยืนอึ้งอ้าปากค้างอยู่ พร้อมกับกระทืบเท้าอย่างร้อนรน พูดอะไรหน่อยสิวะ!
ฝั่งทนายของโจทก์รู้สึกสิ้นหวัง เขายังสามารถพูดอะไรได้อีก?
ลายนิ้วมือแช่อยู่ในน้ำนานถึงสิบชั่วโมง ไม่มีทางครบสมบูรณ์ได้แน่นอน แต่…รอยนิ้วมือบนอาวุธสังหารนั้นสมบูรณ์มาก ซึ่งเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าได้มาในภายหลัง แค่จุดนี้ก็เพียงพอแล้ว…
ยิ่งไปกว่านั้น คำอธิบายทั้งหมดของจางเฮ่อนั้นไร้ที่ติ และไม่มีประโยชน์ที่จะไปพูดหักล้างเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขายังมีวิดีโอและเทปบันทึกเสียงเป็นหลักฐานอีก…
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา เมื่อได้ยินเสียงประกาศว่าเยี่ยมู่ฝานและเยี่ยเส่าถิงพ้นผิด เยี่ยหวันหวั่นที่อยู่บนเวทีในงานเลี้ยงของซิงเฉินก็เผยรอยยิ้มออกมา
แม้ว่าการบันทึกเสียงจะไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ แต่กลับนำมาใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้ เนื่องจากเยี่ยมู่ฝานและเยี่ยเส่าถิงพ้นผิด คดีนี้จึงต้องถูกสืบค้นต่อไป และเห็นได้ชัดว่าหวงหมิงคุนและเหลียงเหม่ยเซวียนจะถูกสอบสวนอย่างหนัก ต้องดูว่าพวกเขาจะทนไปได้อีกนานแค่ไหน
หลังจากนั้นไม่นาน เยี่ยหวันหวั่นก็ปิดจอภาพลง การถ่ายทอดสดการพิจารณาคดีก็สิ้นสุดลงแล้ว
“ถ้างั้น…มีอะไรอยากจะพูดอีกไหม…อย่างเช่น ผู้อาวุโสเยี่ย เยี่ยอีอี ประธานเยี่ย?”
เยี่ยหวันหวั่นมองไปยังคนสองสามคนนั้น และเผยรอยยิ้มที่อธิบายไม่ได้ออกมาตรงมุมปาก
ในขณะนี้ ใบหน้าของเยี่ยหงเหวยเต็มไปด้วยความประหลาดใจ มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อย พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว ส่วนเยี่ยอีอีก็ยืนหักนิ้วตัวเองจนใบหน้าซีดเซียวไม่มีเลือดฝาดแล้ว
กู้เยว่เจ๋อขมวดคิ้วจนเป็นปม…เยี่ยอีอีเป็นลูกชู้จริงๆ เหรอ เป็นลูกสาวนอกสมรสของพ่อบ้านงั้นเหรอ?!
เมื่อคำพิพากษาสิ้นสุดลง ก็เกิดเสียงดังเซ็งแซ่ขึ้นในห้องจัดเลี้ยงของงานเลี้ยงครบรอบของซิงเฉิน
ใครก็คิดไม่ถึงว่าความจริงของเรื่องทั้งหมดจะเป็นแบบนี้!
ช่างเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมมาก!
คุณหนูใหญ่เยี่ยอีอีของหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ แท้จริงแล้วเป็นลูกชู้ นายหญิงของตระกูลเยี่ยและพ่อบ้านตระกูลเยี่ยลักลอบคบชู้กัน และรวมหัวกันลอบทำร้ายเจ้าของบ้านและนายน้อย กระทั่งมีความเป็นไปได้สูงมาก ที่ทั้งสองคนจะเป็นฆาตกรที่ทำร้ายเยี่ยเส่าอันเสียเอง!
นี่มันทำให้ผู้คนรู้สึกขนหัวลุกจริงๆ
ทันใดนั้น รอบๆ ตัวของเยี่ยอีอีก็ว่างเปล่า ทุกคนต่างถอยห่างออกจากเธอโดยไม่รู้ตัว
ดูจากการแสดงออกของเยี่ยอีอีก็รู้แล้ว ว่าเธอต้องรับรู้ถึงชาติกำเนิดของตัวเองอย่างแน่นอน ผู้หญิงคนนี้ต้องเลวทรามขนาดไหน ถึงได้ดำรงตำแหน่งคุณหนูคนโตของตระกูลเยี่ยได้นานขนาดนั้น?
แม่ลูกคู่นี้ใจดำอำมหิตอะไรถึงขนาดนั้น?
ในเวลาเดียวกัน ผู้คนต่างก็นึกไปถึงกู้เยว่เจ๋อที่ยกเลิกการหมั้นหมายกับเยี่ยหวันหวั่นในตอนนั้น ช่างเหมือนกับการทิ้งเยี่ยหวันหวั่นที่เป็นลูกแตงโม แต่กลับไปเลือกเอาขี้หมามาแทน!
กู้เยว่เจ๋อสังเกตได้ถึงสายตาจ้องมองแปลกๆ และเสียงกระซิบกระซาบรอบตัวเขา สีหน้าของเขาก็พลันมืดลงทันที
คู่หมั้นของเขากลายเป็นลูกชู้ของคนดูแลบ้าน!
เขาไม่เคยรู้สึกอับอายขายขี้หน้าขนาดนี้มาก่อนในชีวิต!
———————————————————————
บทที่ 1806 ประวัติศาสตร์ที่มืดมน
“เยว่เจ๋อ นาย…ฟังฉันอธิบายก่อน…”เยี่ยอีอีไม่มีเวลาสนใจสายตาของคนอื่น พยายามกอดแข้งกอดขาของกู้เยว่เจ๋อเอาไว้
กู้เยว่เจ๋อทำราวกับว่าเห็นอะไรที่น่าขยะแขยง เขารีบหลบหลีกมือของเยี่ยอีอีด้วยการแสดงออกถึงความผิดหวังเป็นอย่างมาก และพูดออกมาอย่างเย็นชา “อีอี ผมเคยคิดมาตลอดว่าคุณเป็นผู้หญิงที่ไร้เดียงสาและจิตใจดี สำหรับคุณแล้ว ผมไม่ลังเลเลยที่จะแบกรับความอับอายตอนที่ถอนหมั้นกับเยี่ยหวันหวั่น แต่คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะอำมหิตถึงขนาดนี้”
เยี่ยอีอีที่มองกู้เยว่เจ๋อที่หันหลังจากไปอย่างโกรธเคือง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ยืนนิ่งงันอยู่กับที่ และตกอยู่ในวงล้อมของนักข่าวทันที
นี่เป็นเรื่องตลกที่ใหญ่โตที่สุดในวงการบันเทิงปีนี้ และในที่สุดก็จบสิ้นลง
…………
เมื่องานเลี้ยงฉลองครบรอบของซิงเฉินจบลง เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่อยู่ต่อ แขกเหรื่อทุกคนต่างก็พากันทยอยกลับ
เยี่ยหวันหวั่นเดินถือโทรศัพท์ออกมาจากห้องน้ำ ทันทีที่เงยหน้าขึ้น ก็เห็นใครคน หนึ่งยืนอยู่ตรงทางเดินด้านนอก
กู้เยว่เจ๋อ…
เห็นได้ชัดว่ากำลังรอเธออยู่
เมื่อได้พบกับกู้เยว่เจ๋อที่ไม่ได้เจอกันมานาน เยี่ยหวันหวั่นก็เลิกคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่เธอเกลียดมากที่สุด ไม่ใช่แค่เลวเท่านั้น แต่เป็นเพราะในตอนที่เธอสูญเสียความทรงจำ
ผู้ชายคนนี้เรียกได้ว่าเป็น…ประวัติศาสตร์ที่มืดมนจริงๆ!
แค่นึกว่าเขาคนที่เป็นตัวการของความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็กัดฟันกรอดอย่างเหลืออด
“หวันหวั่น…” กู้เยว่เจ๋อมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาที่ดูราวกับได้ชีวิตใหม่ “ถึงจะไม่รู้ว่าเธอทำได้ยังไง แต่ฉันก็แปลกใจ ไม่คิดว่าเธอจะทำเพื่อฉันถึงขนาดนี้”
เยี่ยหวันหวั่นไม่มีทางหนี แม้แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะชมว่าสวย
ในอดีตแม้ว่ารูปลักษณ์ของเยี่ยหวันหวั่นจะสวยขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาก็ไม่เคยเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเอง
สำหรับคนอย่างพวกเขา มันง่ายมากหากต้องการผู้หญิงสวยๆ สักคน
แต่ตอนนี้ ในที่สุดเขาก็เห็นผู้หญิงคนนี้อยู่ในสายตาเป็นครั้งแรก
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นฟังจบ ก็เหลือบมองเขาด้วยท่าทางที่ตื่นตะลึงเล็กน้อย
ทำไมต้องทำเพื่อเขาถึงขนาดนี้งั้นเหรอ?
ไอ้โง่ที่สนใจแต่ตัวเองนี่มันกำลังพล่ามอะไรอยู่?
เธอฟังไม่เข้าใจแม้แต่คำเดียว…
จากนั้นกู้เยว่เจ๋อก็พูดต่อ “หวันหวั่น อันที่จริง ฉันยังจำทุกสิ่งที่เธอพูดตอนนั้นได้นะ”
“โอ้? ฉันลืมไปหมดแล้วล่ะ นายพูดเรื่องอะไรกัน?” เยี่ยหวันหวั่นถามอย่างใจเย็น
กู้เยว่เจ๋อยิ้มราวกับว่ามองเยี่ยหวันหวั่นได้อย่างทะลุปรุโปร่งว่าเธอแค่แกล้งทำเป็นเฉยชา จากนั้นก็พูดเหมือนกับตัวเองเป็นคนควบคุมทุกอย่าง “หวันหวั่น เธอบอกฉันในตอนนั้นว่าเธอพยายามจะเป็นคนที่คู่ควรกับฉัน ตอนนั้นฉันคิดว่าเธอแค่พูดเล่น แต่ไม่คิดเลยว่าเธอ…จะตั้งใจทำเพื่อฉันขนาดนี้”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
ช่วงเวลาหลังจากการถอนหมั้นกับเขานั้น เพียงพอที่จะทำให้เธอออกจากจักรวาลทางช้างเผือกไปแล้วโอเคไหม? เขายังอาศัยอยู่ในศตวรรษที่แล้วเหรอ?
เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกเหลือเชื่อจริงๆ ใครให้ความมั่นใจขนาดนี้กับเขากัน?
“เหอะ…คุณกู้ คุณนี่ช่างน่ารักจริงๆ”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยทิ้งไว้หนึ่งประโยค ด้วยขี้เกียจจะเสียเวลาอันมีค่าให้กับคนโง่
กู้เยว่เจ๋อมองเยว่หวันหวั่นที่เดินจากไป เขาไม่รู้สึกโกรธแม้แต่น้อย ที่จริงกลยุทธ์แกล้งปล่อยเพื่อจับก็นับว่าเป็นวิธีที่สนุกอยู่เหมือนกัน
ผู้หญิงคนหนึ่งไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากเงื้อมมือของเขาได้ ตราบใดที่เธอยังมีอารมณ์ผูกพันอยู่
……
ตอนแรกเยี่ยหวันหวั่นตามหาเซี่ยเจ๋อจือเพื่อจะถามข้อมูลเกี่ยวกับซือเยี่ยหาน แต่พอออกมา เซี่ยเจ๋อจือก็กลับไปแล้ว จึงทำได้เพียงเตรียมไปหาในเวลาอื่น
ดังนั้นเธอจึงบอกหานเซี่ยนอวี่และคนอื่นๆ ให้ตรงไปที่ศาลเพื่อไปรับเยี่ยมู่ฝานและเยี่ยเส่าถิงกลับบ้าน
ในที่สุดครอบครัวทั้งสี่คนก็กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง และได้สวมกอดกันอย่างแนบแน่นด้วยความดีใจเหลือคณา