แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1895 ตอนนี้แม้แต่แตะก็ไม่ให้แตะแล้ว? / บทที่ 1896 ถูกเงินอัดจนเจ็บนิดหน่อย
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1895 ตอนนี้แม้แต่แตะก็ไม่ให้แตะแล้ว? / บทที่ 1896 ถูกเงินอัดจนเจ็บนิดหน่อย
บทที่ 1895 ตอนนี้แม้แต่แตะก็ไม่ให้แตะแล้ว?
เยี่ยหวันหวั่นถูกรอยยิ้มบางๆ ของจี้ซิวหร่านทำให้ตาพร่าแล้ว เพียงแค่เห็นเจตนาในการกระทำของอีกฝ่าย ดีร้ายยังไงก็โล่งอก
ทว่า…
ทว่า ตอนที่เธอเพิ่งจะถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่ด้านข้างพลันมีเสียงเย็นชาเสียงหนึ่งดังขึ้นมา…
“สิบล้าน”
เชี่ย! นะ…นี่มันอะไรกัน
สิบล้าน?
“มะ…หมายเลขเก้านายแห่งอาชูร่าชูป้าย สิบล้าน” พิธีกรจ้องไปยังทิศทางที่ชูป้ายอย่างตกตะลึง ตอนนี้ภายในงานก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นอีกครั้ง
“เชี่ย! สร้อยข้อมือเน่าๆ นั่นอย่างมากราคาก็แค่หมื่นกว่าไหม จี้หวงเสนอราคาหนึ่งล้านก็ให้หน้าแล้วนะ นี่นายแห่งอาชูร่าทำอะไร สิบล้าน? ฉันหูฝาดไปหรือเปล่า”
“คงไม่ใช่ว่าความจริงสร้อยข้อมือนี่เป็นสมบัติอะไรหรอกนะ”
“เป็นไปได้ ไม่งั้นทำไมถึงทำให้นายแห่งอาชูร่ากับจี้หวงเจ้าพ่อสองคนแข่งกันได้ล่ะ!”
เสิ่นเทียนเฉินมองนายแห่งอาชูร่าแล้วก็มองจี้หวงด้วยสีหน้าว่างเปล่า นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย
เยี่ยหวันหวั่นตะลึงงันไปสามวินาที จากนั้นก็เบิกตาโพลงมองชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้างทันที
บ้าเอ๊ย! สิบล้าน! ผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้วเหรอ เงินหาง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ จะมาเสียหมดตัวอย่างนี้ได้ยังไง!
ถ้าบอกว่าคำพูดประหลาดเมื่อครู่ของจี้ซิวหร่านทำให้ผู้คนต่างเข้าใจผิด ครั้งนี้เยี่ยหวันหวั่นกลับปวดใจอย่างแท้จริงแล้ว!
“เชี่ยๆ!” เมื่อหลินเชวียที่อยู่ข้างหลังไม่ไกลเห็นดังนั้นก็กุมใบหน้าไร้คำพูด พี่ชายที่รัก พี่ทำแบบนี้หน้ากากจะหลุดแล้วนะพี่รู้ไหม!
เป็นอย่างที่คิด…ปะทะกับจี้ซิวหร่านเข้า…ก็เสียการควบคุมทุกนาทีสิน่า…
ในตอนที่เยี่ยหวันหวั่นกำลังจ้องนายแห่งอาชูร่าตาเขม็งนั้นเอง ทางด้านซ้ายก็พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาอีก
จี้ซิวหร่านเอ่ย “ยี่สิบล้าน”
เยี่ยหวันหวั่นตกใจค้างแล้ว เฮ้ๆ บ้าอะไรเนี่ย
“ไม่ใช่พูดแล้วเหรอไหนว่าไม่ประมูลแล้วไง!” เยี่ยหวันหวั่นรีบหันไปมองจี้ซิวหร่านและเอ่ยถาม
รอยยิ้มในดวงตาของจี้ซิวหร่านคล้ายจะเย็นชาลงหลายส่วน เขาเอ่ยตอบเสียงเรียบ “เสี่ยวเฟิง คุณไม่ต้องสนใจหรอก ตอนนี้เป็นเรื่องระหว่างผมกับนายแห่งอาชูร่า”
หา?
เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้างุนงง ทำไมกลายเป็นเรื่องของพวกเขาไปแล้วล่ะ พวกเขาสองคนจะมีเรื่องอะไรได้
ต่อจากนั้นทั้งสองก็แข่งสู้ราคากันตลอด ผู้คนโดยรอบมองจนตาพร่าเลือน
“หนึ่งร้อยล้าน!” เวลานี้เสียงที่ทำให้ตกตะลึงไปทั่วทั้งงานก็ดังขึ้นมา
ในที่สุดเสิ่นเทียนเฉินก็ได้สติขึ้นมา!
เยี่ยหวันหวั่นตกตะลึง
ร้อยล้าน?
หัวใจของเยี่ยหวันหวั่นใกล้จะเลือดออกแล้ว เงินนะ ทั้งหมดนั่นคือเงินนะ! พวกนายมีเงินมากนักก็เอามาให้ฉันโดยตรงเลยโอเคไหม ฉันยังเอาไปคะแนนเกียรติยศได้นะ!
สร้อยข้อมือเน่าๆ นี่ถูกมากจริงๆ นะเว้ย!
เมื่อเห็นว่านายแห่งอาชูร่าที่อยู่ด้านข้างกำลังจะชูป้าย เยี่ยหวันหวั่นก็แทบจะถลาเข้าไปกดมือของชายหนุ่มไว้ “หยุด—”
กลิ่นหอมหวนของหญิงสาวพลันโจมตีเข้ามา ที่ข้างกาย ชายหนุ่มจ้องมือเล็กๆ อันอุ่นร้อนของหญิงสาว ความมืดที่เหมือนกับเค้าพายุฝนบนใบหน้าก็ค่อยๆ ถดถอยไป ราวกับตื่นจากฝัน เหมือนเพิ่งจะได้สติว่าเมื่อครู่นี้ตัวเองทำอะไรลงไป
ที่ด้านหลัง หลินเชวียเป็นพยานที่เห็นทุกลำดับเหตุการณ์ที่พี่เก้าของตัวเองเสียการควบคุมโดยสมบูรณ์ สีหน้าของเขาอยู่ไม่สู้ตายแล้ว
ซือเยี่ยหานยกนิ้วขึ้นนวดหว่างคิ้วของตัวเอง ใบหน้ากลับคืนสู่ท่าทางเย็นชาห่างเหินตามสไตล์นายแห่งอาชูร่าทีละน้อย แล้วชักมือที่ถูกกดไว้ของตัวเองออกอย่างแข็งทื่ออยู่บ้าง
เยี่ยหวันหวั่นมุมปากกระตุก สีหน้าทะมึนลงแล้ว และพูดไม่ออกสักคำ
ตอนนี้แม้แต่แตะก็ไม่ให้แตะแล้วเหรอ?
แตะก็ไม่ให้แตะแล้วใช่ไหม!
ยังดีที่จี้หวงก็ไม่ได้เสนอราคาอีกเช่นกัน
สุดท้าย สร้อยข้อมือเน่าๆ ที่หลังจากต่อราคาแล้วก็ซื้อมาในราคาไม่ถึงแสนเส้นนี้ก็ถูกเศรษฐีเสิ่นประมูลไปด้วยราคาหนึ่งร้อยล้านเช่นนี้เอง
ทุกคนในที่นั้นเห็นของเน่าๆ ถูกประมูลไปด้วยราคาถึงหนึ่งร้อยล้าน เบ้าตาก็เกือบจะถลนออกมาแล้ว
————————————————————
บทที่ 1896 ถูกเงินอัดจนเจ็บนิดหน่อย
“ตระกูลเสิ่นช่างใจบุญจริงๆ! นับถือๆ!” ทุกคนทอดถอนใจอย่างสุดแสน ต่างพากันชื่นชม
เยี่ยหวันหวั่นงุนงง
ไม่ใช่ว่าคนโง่เสียเงินมากงั้นเหรอ
เสิ่นเทียนเฉินไม่ได้สังเกตคลื่นความมืดที่กระเพื่อมขึ้นลงเมื่อครู่นี้แม้แต่น้อย เขาหันมาพูดกับเยี่ยหวันหวั่นอย่างระริกระรี้ “เทพธิดา สร้อยเส้นนี้ผมต้องเก็บไว้อย่างดีชั่วชีวิตเลย!”
เยี่ยหวันหวั่นลูบๆ หน้าผาก เวลานี้เธอรู้สึกปวดหัวอยู่บ้าง ถูกเงินอัดจนเจ็บนิดหน่อย…
ถูกอัดขนาดนี้ยังไม่นอกใจใครบางคน นี่มันรักแท้ชัดๆ เลยใช่ไหมล่ะ!
……
หลังจากการประมูลครั้งนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ราวกับถูกสูบจนแห้ง ฝืนใช้แรงใจรอแหวนของจี้ซิวหร่าน
สุดท้ายก็มาถึงช่วงการประมูลสินค้าไคลแมกซ์ ความสนใจของทุกคนต่างจดจ่อไปที่เวทีการประมูลทีละน้อย
ชิ้นแรกคือแก้วเก้ามังกร เริ่มประมูลที่ราคาแปดสิบล้าน การประมูลนั้นร้อนแรงมาก สุดท้ายก็ถูกนักสะสมของโบราณประมูลได้ในราคาที่สูงถึงสองร้อยล้าน
ทุกคนอดที่จะทอดถอนใจไม่ได้ สมบัติระดับนี้เพิ่งจะแค่สองร้อยล้าน แต่สร้อยข้อมือเน่าๆ ของแบดเจอร์กลับเคาะได้ที่หนึ่งร้อยล้าน เป็นฉากพิสดารที่ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์การประมูลของแท้…
ต่อไปเป็นดาบในยุคสมัยถังที่ประธานสหพันธ์วิทยายุทธ์รุ่นก่อนเคยใช้
ตอนที่ม่านเปิดออก ดาบในยุคสมัยถังเล่มนั้นก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า หัวคิ้วของเยี่ยหวันหวั่นก็เลิกขึ้นอย่างน่าประหลาด
เพราะดาบเล่มนั้นไม่มีคนใช้มาเป็นเวลานานจึงดูเก่าแก่อยู่บ้าง ใบดาบก็ทู่แล้ว เวลานี้มันนอนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ แผ่ความรู้สึกโชกโชนอันเรียบง่ายออกมาอย่างเข้มข้นและกลิ่นโชกเลือดอันดุดัน
ดาบเล่มนี้…ดูคุ้นตามาก…
ตอนที่เยี่ยหวันหวั่นกำลังสงสัยในความรู้สึกประหลาดตอนที่เห็นดาบเล่มนี้ การประมูลก็เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือดเลือดพล่านแล้ว
สุดท้ายดาบเล่มนี้ก็ถูกจี้ซิวหร่านประมูลไปได้ บรรดาผู้คนรอบด้านต่างพากันแสดงความยินดีอย่างนอบน้อมเป็นมิตร “ยินดีด้วย!”
“ยินดีด้วยจี้หวง!”
จี้ซิวหร่านพยักหน้าขอบคุณ จากนั้นสายตาก็มองไปยังเยี่ยหวันหวั่น “เสี่ยวเฟิง คุณชอบดาบเล่มนั้นไหม”
ตอนที่อยู่ข้างนอก ต่อหน้าผู้คนจี้หวงจะเรียกเธอว่าผู้นำไป๋ แต่ไม่รู้ทำไมเวลานี้เปลี่ยนกลับไปเป็นเสี่ยวเฟิงอีกแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นได้สติกลับมา “โอ้ รู้สึกคุ้นเคยมากอย่างบอกไม่ถูกน่ะ…”
สายตาของจี้ซิวหร่านมองหญิงสาวด้วยสายตาลึกซึ้งเล็กน้อย “งั้นเหรอ”
“สินค้าประมูลชิ้นต่อไปคือ…แหวนที่คุณจี้ซิวหร่านบริจาคครับ!”
บนเวที เสียงของพิธีกรดังขึ้น
เยี่ยหวันหวั่นจึงยืดตัวตรงในทันใด แล้วรวบรวมสมาธิทั้งหมด!
แม้ว่าราคาแหวนของจี้ซิวหร่านวงนี้จะไม่สูงไปกว่าแก้วเก้ามังกรแน่นอน แต่เพราะเจ้าของของมัน สุดท้ายราคาประมูลก็เป็นไปได้ว่าอาจสูงกว่าแก้วเก้ามังกร…
เหล่าแขกในงานต่างก็ถกแขนเสื้อขึ้นเตรียมเปิดศึกการต่อสู้ของค่ำคืนนี้
ถึงแม้จะมีข่าวลือเผยออกมาแล้วว่าคุณหนูสามตระกูลเสิ่นจะร่วมประมูลของสินค้าชิ้นนี้ด้วย แต่คนที่อยากยื้อแย่งก็ยังมีอยู่มาก ยังไงคนที่นั่งอยู่ในที่นี้ก็มีกำลังทรัพย์ไม่น้อยเลย
ผู้ช่วยประจำตัวของคุณหนูสามตระกูลเสิ่นหัวเราะพลางเอ่ยอยู่ด้านข้าง “คุณหนูสามวางใจได้ค่ะ แหวนของจี้หวงจะต้องเป็นของคุณหนูแน่นอน!”
คุณหนูสามตระกูลเสิ่นเชิดคาง และเอ่ยด้วยสีหน้าแหงอยู่แล้ว “นี่ยังต้องพูดอีกเหรอ”
พูดจบ สายตาก็มองไปยังจี้ซิวหร่านอย่างร้อนแรง
“ตอนนี้ การประมูลเริ่มขึ้นแล้ว! แขกผู้มีเกียรติทุกท่านเชิญเริ่มเสนอราคาได้เลยครับ!” พิธีกรกล่าวอย่างกระตือรือร้น
“สิบล้าน!” เสียงของสุภาพสตรีคนหนึ่งดังขึ้นภายในงาน เพิ่มราคาหนึ่งเท่าตัวทันที
“สิบห้าล้าน!”
“ยี่สิบล้าน!”
เสียงประมูลในงานดังขึ้นต่อกันเป็นทอดๆ อีกทั้งยังเพิ่มราคาทีละห้าล้านโดยตรงอย่างรู้กัน เห็นได้ถึงความดุเดือดของการแข่งขันเพื่อแหวนวงนี้