แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1899 ใครกล้าแย่งฉัน / บทที่ 1900 สามีภรรยาทะเลาะกัน
บทที่ 1899 ใครกล้าแย่งฉัน
จี้ซิวหร่านมองมาทางนายแห่งอาชูร่าอย่างไร้สุ้มเสียง สถานการณ์ในตอนนี้เขาก็ไม่มีวิธีแก้ไข ตัวเองไม่สามารถประมูลของของตัวเองได้
พิธีกรประมูลเอ่ย “หนึ่งร้อยล้านครั้งที่หนึ่ง หนึ่งร้อยล้านครั้งที่สอง หนึ่งร้อยล้าน…ครั้งที่สาม…”
สุดท้ายแหวนติดตัวของจี้หวงวงนี้จึงถูกนายแห่งอาชูร่าประมูลไปอย่างที่ทำให้ทุกคนเหลือเชื่อด้วยประการฉะนี้
เป่ยโต่วแอบมองทั้งสองคน “ดูๆ! เห็นไหมๆ! ฉันก็ว่าแล้วว่านายแห่งอาชูร่ากับจี้หวงเป็นคู่รักกัน…”
ชีซิงเอ่ย “นายหุบปาก”
“พี่เฟิง พวกเราควรไปได้แล้ว” ชีซิงกดเสียงต่ำเอ่ยเตือน
เป้าหมายของเยี่ยหวันหวั่นคือแหวน ตอนนี้ไม่มีแหวนแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องอยู่รั้งรอต่อ
“ใครว่าฉันจะไปแล้ว ไม่ใช่ว่ายังไม่จบเหรอไง!” ความโกรธของเยี่ยหวันหวั่นสุมอกจนตาปิดไม่ลง จึงหย่อนก้นลงไปนั่งอีกครั้ง
บนเวทีพิธีกรประมูลประกาศดำเนินงานประมูลต่ออย่างตะกุกตะกัก เป่ยโต่วกับชีซิงกล่อมคนไม่สำเร็จ จนปัญญา ทำได้เพียงกลับไปรอที่ด้านหลังดังเดิม
หางตาของนายแห่งอาชูร่ามองแก้มที่โกรธจนแดงเรื่อของหญิงสาว ในแววตาราวกับมีไฟร้อนแรง สีหน้าเหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรได้ แววตาก็พลันมืดมนลง และแปรเปลี่ยนกลายเป็นความโหดเหี้ยมไร้สิ้นสุด…
“ผู้บริจาคของสินค้าประมูลชิ้นนี้คือ…อาชูร่าท่านนายแห่งอาชูร่า กระดุมติดข้อมือหินออบซิเดียน ทุกท่านเชิญประมูลครับ!” พิธีกรประมูลเช็ดเหงื่อ ทำไมเป็นบุคคลที่ยุ่งยากอีกแล้ว
หลังจากสิ้นเสียงของพิธีกร ทั่วทั้งงานก็พลันอื้ออึงไปด้วยเสียงอันตื่นเต้น โดยเฉพาะที่มาจากพวกผู้หญิง
“ว้ายๆๆ! นายแห่งอาชูร่าก็บริจาคของจริงๆ ด้วย! เป็นกระดุมข้อมือแน่ะ! ก็นับว่าเป็นของติดตัวนะ!”
“ถึงแม้นายแห่งอาชูร่าจะชั่วร้ายไปสักหน่อย…แต่นายแห่งอาชูร่าก็หล่อเกินไปแล้วกรี๊ดดด!”
“ถูกต้องๆ! ฉันจะประมูลกระดุมข้อมือนี้มาสะสม!”
“ฉันก็จะเอาๆ! ทุกคนแข่งกันอย่างยุติธรรม!”
“เอาละอย่าทะเลาะกัน เริ่มเลยๆ!”
บนเวที พิธีกรประมูลประกาศเริ่มการประมูลแล้ว
ทุกคนกลั้นหายใจ สะสมพลังเตรียมชูป้าย
แต่ในเวลานี้เอง ในกลุ่มคนพลันมีใครคนหนึ่งชูป้ายขึ้น ตามมาด้วยเสียงเกียจคร้านติดๆ กัน “ฉันเสนอราคา หนึ่งเหรียญ”
ในดวงตาของเยี่ยหวันหวั่นยังคงหลงเหลือเสี้ยวความโกรธ สายตาอันเย็นชาแฝงไปด้วยจิตสังหารพลางกวาดสายตามองเหล่ากุลสตรีที่เตรียมประมูลอย่างตื่นเต้น—กล้าแย่งกับฉัน ก็ลองดู!
ผู้หญิงทุกคนต่างตกใจกลัวจนตัวสั่นงันงกเหมือนลูกนกในทันที!
ทำไมเป็นเธออีกแล้วล่ะ!
“หนึ่งเหรียญ! ไป๋เฟิงนี่บ้าไปแล้วเหรอ!”
“นี่มันต่างอะไรกับปล้นกัน”
“นี่มันปล้นกันชัดๆ เลยนะ”
…
เยี่ยหวันหวั่นส่งเสียง ‘จิ๊’ หนึ่งครั้ง สีหน้าเต็มไปด้วยคำว่า ‘ฉันจะปล้นโต้งๆ แล้วทำไม กัดฉันสิ’
หลังจากเยี่ยหวันหวั่นตะโกนว่าหนึ่งเหรียญ ทั่วทั้งงานก็ไม่มีใครเสนอราคาอีก ถึงแม้ราคานี้จะเป็นราคาที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ หากหล่นลงบนพื้นขอทานอาจจะยังไม่เก็บด้วยซ้ำ ก็ยังคงไม่มีใครสักคนกล้าแข่งราคา
ตั้งแต่ทำอาชีพพิธีกรงานประมูลมายังไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้ รู้สึกว่าชีวิตอาชีพของตัวเองได้รับการท้าทายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“เฮ้ ถึงเวลาแล้ว ควรนับเวลาได้แล้วมั้ง” นิ้วของเยี่ยหวันหวั่นจิ้มลงบนที่พักแขนเก้าอี้เบาๆ และส่งเสียงเตือนอย่างแฝงการคุกคามเล็กน้อย
พิธีกรประมูลสั่นไปทั้งตัว รีบเอ่ยปาก “ครับ…ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยไป๋เฟิง…นะ…หนึ่งเหรียญครั้งที่หนึ่ง…หนึ่งเหรียญครั้งที่สอง…หนึ่งเหรียญ…คะ…ครั้งที่สาม…”
เมื่อพูดมาถึงท่อนหลัง พิธีกรประมูลก็เกือบจะไม่กล้าหันไปมองแววตาของนายแห่งอาชูร่าแล้ว “ครั้งที่สาม ตกลงซื้อขายครับ!”
ของบริจาคของตัวเองกลับถูกคนใช้เงินหนึ่งเหรียญประมูลมา นี่มันจงใจทำให้ขายหน้าและจงใจยั่วยุต่อหน้าทุกคนชัดๆ!
นายแห่งอาชูร่ากับพันธมิตรอู๋เว่ยเกรงว่าคงจะเปิดศึกกันแล้วละมั้ง!
ที่ด้านหลัง ใบหน้าของชีซิงไร้สีเลือดฝาดแล้ว!
เขาเตรียมการในกรณีที่แย่ที่สุดไว้แล้ว แต่กลับนึกไม่ถึงว่าความจริงจะโหดร้ายยิ่งกว่า…
———————————————————————-
บทที่ 1900 สามีภรรยาทะเลาะกัน
“นังจิ้งจอกนี่! รังแกคนเกินทนจริงๆ!” เจียงเหยียนโมโห ไม่รู้พูดบทพูดที่คล้ายกันนี้ครั้งที่เท่าไรแล้ว
“เฮ้ เสี่ยวเจียง นายใจเย็นหน่อย!” หลินเชวียตบไหล่ที่พองขนของเจียนเหยียน
คนเขาเป็นสามีภรรยากันทะเลาะกัน…ทำไมนายถึงชอบหลับหูหลับตายุ่งอยู่เรื่อย…
แต่…ครั้งนี้เกรงว่า…คงทะเลาะกันหนักไปหน่อยแล้วละ…
เขาไม่เคยเห็นพี่เก้าถูกทำให้โกรธจนเป็นอย่างนี้มาก่อน…
เยี่ยหวันหวั่นคนนี้ มีความสามารถสูงเกินไปแล้วจริงๆ
งานประมูลการกุศลในวันนี้หักมุมตลบแล้วตลบเล่า เกิดเรื่องคาดไม่ถึงต่างๆ นานา เรียกได้ว่าชวนให้ตะลึงถึงวิญญาณ
ตั้งแต่การมาถึงของผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยและนายแห่งอาชูร่า ถึงจี้หวงกับนายแห่งอาชูร่าจะแย่งประมูลสร้อยข้อมือของแบดเจอร์อย่างน่าประหลาด ต่อมาแบดเจอร์ก็โต้เถียงกับนายแห่งอาชูร่า แย่งแหวนของจี้หวงกัน หลังจากนั้นอีกแบดเจอร์ก็ใช้เงินหนึ่งเหรียญประมูลกระดุมข้อมือของนายแห่งอาชูร่า…
ทุกๆ เรื่องเพียงพอที่จะทำให้คนแตกตื่น พวกเขาเดี๋ยวคาดเดาอย่างหนึ่ง แต่วินาทีถัดมาก็ถูกการพลิกกลับอย่างประหลาดโค่นล้มแล้ว
ไป๋เฟิงใช้เงินหนึ่งเหรียญซื้อกระดุมข้อมือหินออบซิเดียนที่ราคาไม่ถูกนั้นของนายแห่งอาชูร่า…หลังจากปล้นมาแล้ว ทุกคนก็หันไปมองนายแห่งอาชูร่าโดยไม่รู้ตัว ก้นนั่งไม่ติดอยู่บ้าง แทบอยากจะหนีเอาตัวรอดเสียตรงนั้น
แต่นายแห่งอาชูร่ายังไงก็คือนายแห่งอาชูร่า ถึงกับถูกคนยั่วยุอย่างนี้ก็ยังข่มกลั้นความโกรธเอาไว้ได้ แต่ว่าสีหน้า…ก็ทำให้ผู้คนกลัวจนอยากร้องไห้จริงๆ …
“เชี่ย น่ากลัวเป็นบ้าเลย…คืนนี้กลิ่นดินปืนน่ากลัวเกินไปแล้ว…”
“งานเลี้ยงการกุศลดีๆ ถูกแบดเจอร์ทำป่นปี้หมดแล้ว! เธอมาเพื่อพังงานจริงๆ ด้วยสินะ”
“พันธมิตรอู๋เว่ยนี่ใจกล้าเกินไปแล้ว ก่อนหน้านี้ก็กดราคาแหวนของจี้หวง แย่งของกินจากปากของคุณหนูสามตระกูลเสิ่น แล้วก็ยังใช้ราคาอย่างนั้นแย่งกระดุมข้อมือของนายแห่งอาชูร่าไปอีก ล่วงเกินเจ้าพ่อในงานหนึ่งรอบ…โดยเฉพาะนายแห่งอาชูร่า…จิตสังหารทะลุฟ้าแล้ว…”
“ฉันคิดว่าครั้งนี้พันธมิตรอู๋เว่ยต้องสิ้นหวังแล้ว! ก็ไม่ดูบ้างว่ายั่วยุใครไป!”
…
บรรยากาศทั่วทั้งงานหนักอึ้ง ทุกคนเตรียมตัวหนีเอาชีวิตรอดอยู่ทุกเมื่อ ไม่กล้าหายใจเสียงดัง คนที่ผ่อนคลายคงมีแค่เยี่ยหวันหวั่นคนเดียวแล้ว หลังจากปล้นของเสร็จก็ยิ้มร่าพลางชำเลืองมองชายหนุ่มที่อยู่ด้านซ้าย
ถึงแม้ในใจเธอไม่อยากจะยอมรับ เหตุที่ปล้นกระดุมข้อมือนี้ ด้านหนึ่งก็เพื่อระบายความโกรธ และก็เพราะ…รำคาญสายตาที่อยากได้ของผู้หญิงพวกนั้น และยิ่งรับไม่ได้ที่กระดุมข้อมือนี้จะตกอยู่ในมือของผู้หญิงคนอื่น
หลังจากงานประมูลเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ก็เริ่มส่งมอบสินค้าที่ทุกคนประมูลได้ เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยกับเป่ยโต่วที่อยู่ด้านข้างภายใต้สายตาที่จับจ้องของทุกคน “มีเงินเหรียญติดตัวไหม”
เป่ยโต่วล้วงซ้ายล้วงขวา แล้วก็ล้วงเหรียญออกมาได้หนึ่งเหรียญจริงๆ
เยี่ยหวันหวั่นยึดมาและดีดเสียงดัง ‘ติ๊ง’ หนึ่งที จากนั้นก็โยนให้กับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็หยิบกระดุมข้อมือหินออบซิเดียนที่บรรจุอยู่ในกล่องกำมะหยี่สีดำขนาดเล็กมาให้
เป่ยโต่วพึมพำเบาๆ ข้างเยี่ยหวันหวั่น “พี่เฟิง ผมว่าพี่ไม่สู้เอากระดุมข้อมือนี้ให้จี้หวงไปซะดีกว่า…ช่วยจี้หวงกับนายแห่งอาชูร่าให้สมหวัง…”
เส้นเลือดที่หน้าผากของเยี่ยหวันหวั่นพลันเต้นตุบๆ และยกเท้าถีบเป่ยโต่วหนึ่งที
สมหวังกับปู่นายสิ!
“ไม่งั้นพี่จะเอากระดุมข้อมือนี่ไปทำอะไร ไม่สู้ให้คนที่เขารักกันเล่า…พี่ดู นายแห่งอาชูร่าจ้องกระดุมข้อมือในมือพี่จนใกล้จะโกรธตายแล้ว…” เป่ยโต่วเอ่ยอย่างอ่อนแรง
“ฉันจะเอาไปโยนเล่นไม่ได้เหรอไง” เยี่ยหวันหวั่นถลึงตาใส่เขา
ในชั่วพริบตาที่สิ้นเสียงของเยี่ยหวันหวั่น อุณหภูมิในงานเลี้ยงก็เหมือนจะต่ำลงหลายส่วน
เวลานี้ เจ้าหน้าที่อีกคนก็ยกแหวนที่นายแห่งอาชูร่าประมูลมาได้ในราคาหนึ่งร้อยล้านเดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง “ท่านนายแห่งอาชูร่า แหวนของท่านครับ”
เยี่ยหวันหวั่นตกตะลึง เชี่ย! ของฉัน! เป็นของฉันแท้ๆ นะเฮ้ย!