แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1921 เพิ่มธุรกิจใหม่เมื่อไร / บทที่ 1922 การค้นพบที่ไม่คาดฝัน
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1921 เพิ่มธุรกิจใหม่เมื่อไร / บทที่ 1922 การค้นพบที่ไม่คาดฝัน
บทที่ 1921 เพิ่มธุรกิจใหม่เมื่อไร
ท้องฟ้ามืดมิด ไร้แสงจันทร์สาดส่อง ทั่วทั้งบริเวณมืดสลัว
ทุกคนต่างนั่งรออยู่บนรถตู้ ด้านหน้าคือปากสะพาน
หากจะมุ่งหน้าไปเขตตะวันออก ปากสะพานนี้เป็นเส้นทางเดียว นอกเสียจากจะว่ายน้ำไป
“เชี่ย พี่เฟิง...รอตั้งนานแล้วไม่เห็นมีรถผ่านมาเลย ครั้งนี้กลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์คงไม่ได้เดินทางทางน้ำหรอกนะ ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ งั้นพวกเราก็ไม่เท่ากับเสียเวลาเปล่าเหรอ”
เป่ยโต่วมองเยี่ยหวันหวั่นขณะเอ่ยปาก
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเป่ยโต่ว สายตาของทุกคนก็พลันตกลงบนตัวเป่ยโต่วแทบจะเอ่ยขึ้นพร้อมกัน ”หุบปากเสียๆ ของนายซะ!”
เป่ยโต่วเงียบทันที
ผ่านไปอีกราวครึ่งชั่วโมง จู่ๆ รถตู้ก็พลันถูกชีซิงเดินเครื่อง
“พี่เฟิง มีการเคลื่อนไหวแล้ว” ชีซิงเอ่ย
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนรวมถึงเยี่ยหวันหวั่นก็พลันได้สติกลับมาและเดินลงจากรถตู้
เป็นอย่างที่คาดไว้ รถบรรทุกใหญ่สามคัน คันหนึ่งตามหลังคันหนึ่ง กำลังเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ดูแล้วตั้งใจจะข้ามสะพาน
“เชี่ย นั่นคือรถขนส่งของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์นี่!”
เป่ยโต่วหรี่ตามองไปข้างหน้า หลังจากเห็นตราสัญลักษณ์ชัดเจนก็เอ่ยอย่างตื่นเต้นในทันที
“ออกปฏิบัติการ”
เยี่ยหวันหวั่นมองรถขนส่งของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์แล้วจึงออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดในทันที
เวลานั้นชายชราในชุดเสื้อคลุมซอมซ่อก็เดินออกมา
“เชี่ย ไอ้หมอนี่เป็นใครวะ”
เมื่อเป่ยโต่วเห็นชายชราที่เหมือนกับขอทาน ก็ตกใจสะดุ้งโหยง
ผู้อาวุโสใหญ่ไม่ได้สนใจเป่ยโต่ว และเดินตรงขึ้นสะพานไป
ผ่านไปครู่หนึ่ง รถบรรทุกใหญ่สามคันก็มาถึงหัวสะพานอย่างช้าๆ หลังจากเห็นชายชราในชุดคลุมซอมซ่อ คนขับรถก็ขมวดคิ้วน้อยๆ ก่อนที่จะบีบแตรอย่างรวดเร็ว ทั้งยังเปิดไฟสูงและไฟต่ำ
แต่ผู้อาวุโสใหญ่เหมือนได้รับความตกใจก็ไม่ปาน ร่างกายพลันล้มลงนอนขวางกับพื้น
“เชี่ย…”
ไม่ไกลนัก เป่ยโต่วที่อยู่ในความมืดเผยสีหน้าที่เปี่ยมด้วยความตกใจ “แกล้งโดนรถชนเรียกเงิน…พันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเรา…เพิ่มธุรกิจใหม่มาตั้งแต่เมื่อไร”
“ผู้อาวุโสจิน ทำยังไงดีครับ”
คนขับที่อยู่บนรถบรรทุกใหญ่เอ่ยถามผู้อาวุโสจินที่อยู่ด้านหลัง
เวลานี้ผู้อาวุโสจินมีท่าทางครุ่นคิด
ในฐานะเบื้องบนของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ และเป็นถึงผู้อาวุโสได้ จะไม่ฉลาดได้ยังไง
“ทับผ่านไป”
ผู้อาวุโสจินเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ คนขับรถก็ตะลึงงัน “รับทราบครับ”
สิ้นเสียงของผู้อาวุโสจิน รถบรรทุกคันใหญ่ที่นำหน้าขึ้นสะพานอย่างช้าๆ ก็มองข้ามผู้อาวุโสใหญ่ที่แกล้งนอนสลบอยู่บนพื้น ราวกับเป็นอากาศธาตุโดยสิ้นเชิง
“เชี่ย พี่เฟิง ผมว่าพวกเรายกเลิกธุรกิจแกล้งโดนชนหลอกเงินดีกว่า อันตรายเกินไปแล้ว!”
เป่ยโต่วรีบเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น จากนั้นก็พุ่งขึ้นรถตู้ ไม่พูดพร่ำทำเพลง เหยียบคันเร่ง ใช้ความเร็วสูงสุดขับรถตู้ไปขวางด้านหน้าของรถบรรทุกใหญ่
ถ้าผู้อาวุโสใหญ่แกล้งโดนชนไม่สำเร็จแล้วยังถูกทับตาย งั้นจะน่าอยุติธรรมขนาดไหนนะ
เป่ยโต่วก็ไม่กล้าหยุดรถตู้ ขับรถพุ่งลงไปทันที เขาขวางรถบรรทุกใหญ่ ไฉนเลยจะกล้าหยุดรถ
“ลงมือ!”
เมื่อเห็นว่าแผนแรกล้มเหลว เยี่ยหวันหวั่นก็จำต้องใช้กำลังแล้ว
สิ้นเสียงของเยี่ยหวันหวั่น ผู้อาวุโสสามกับผู้อาวุโสห้าทั้งสองคนก็พลันพุ่งเข้าไปทันที
ผู้อาวุโสสี่กับผู้อาวุโสสองรวมถึงเหล่าหัวหน้าสาขาย่อยก็ไม่ยอมน้อยหน้า ต่างคนก็ต่างวิ่งเร็วกว่าอีกคน พุ่งไปที่รถบรรทุก
เวลานี้ รถบรรทุกที่นำหน้าถูกรถตู้ที่ขับเข้ามาอย่างกะทันหันขวางทางไว้ ความเร็วของรถบรรทุกคันใหญ่อีกสองคันที่ตามหลังมาก็ย่อมลดลงด้วย
เห็นแค่ว่า ผู้อาวุโสสามตัวคนเดียวมาถึงด้านที่นั่งคนขับรถของรถบรรทุกใหญ่คันที่สาม แล้วระเบิดหมัดออกไปทำลายกระจก หลังจากเปิดประตูรถได้แล้วก็ลากตัวคนขับรถลงมาอย่างรวดเร็ว
—————————————————————–
บทที่ 1922 การค้นพบที่ไม่คาดฝัน
ผู้อาวุโสหลายคนและหัวหน้าสาขาย่อยต่างก็พากันเลียนแบบ ใช้ความเร็วที่เร็วสูงสุดและเวลาที่สั้นที่สุด ทำลายกระจกของรถบรรทุกใหญ่สองคันตรงหน้า และโจมตีคนขับ
อีกฝ่ายขับรถบรรทุก ไม่ใช่รถเล่นๆ หากทำให้คนขับเรียกสติกลับมาได้ อยากขวางรถบรรทุกไว้ก็เกรงว่าจะไม่ง่ายดายนัก
“หึ ใจกล้านัก!”
เวลานั้น ผู้อาวุโสจินแค่นเสียงหึ แล้วพุ่งออกมาจากในรถบรรทุกใหญ่ที่นำหน้า
นอกจากผู้อาวุโสจินแล้วยังมีชายวัยกลางคนของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์อีกสองคน
“รถขนส่งของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ก็กล้าขวางเหรอ!”
ชายวัยกลางคนหนึ่งในนั้นพิจารณามองไปรอบด้านพลางตะคอกเสียงเย็น
“เป็นใคร บอกชื่อมา” ผู้อาวุโสจินมีสีหน้าเย็นชา
สิ้นเสียงของผู้อาวุโสจิน เยี่ยหวันหวั่นก็ก้าวช้าๆ ออกมาจากความมืด
หลังเห็นจากเยี่ยหวันหวั่น ผู้อาวุโสจินก็หรี่ตาลงน้อยๆ
“ผู้อาวุโสจิน ไม่เจอกันนาน” เยี่ยหวันหวั่นจ้องผู้อาวุโสจินพลางยกยิ้มเล็กน้อย
“โอ้…” ผู้อาวุโสจินมองเยี่ยหวันหวั่น “ฉันก็ว่าใคร ที่แท้ก็ผู้นำไป๋เฟิงแห่งพันธมิตรอู๋เว่ยนี่เอง งั้นก็ถูกแล้ว ในรัฐอิสระนี้ พันธมิตรอู๋เว่ยใช้การปล้นในการทำมาหากิน แต่แย่งของของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ เกรงว่าผู้นำไป๋จะไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์เท่าไรมั้ง”
“เหลวไหล!” เป่ยโต่วที่อยู่ด้านข้างชี้หน้าผู้อาวุโสจิน แล้วเอ่ยพลางหัวเราะหยัน “พวกเรานอกจากปล้นแล้ว ก็ยังขโมยของ แกล้งโดนชนเรียกเงิน มีธุรกิจมากมายเชียวละ แกก็รู้แค่หางอึ่ง”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
ไม่พูดจะตายไหมหา!
“เลิกพูดไร้สาระกับตาแก่นี่ เข้าไปด้วยกัน จับกุมให้เร็วที่สุด”
ผู้อาวุโสสามพลันเอ่ยขึ้น
ยิ่งยืดเยื้อยิ่งไม่เป็นประโยชน์กับพวกเขา ก่อนหน้านี้ผู้นำก็เคยพูดว่า ต้องจับผู้อาวุโสจินให้ได้ในพริบตา!
ยังไม่รอให้ผู้อาวุโสจินได้สติกลับคืนมา ผู้อาวุโสใหญ่ ผู้อาวุโสรอง ผู้อาวุโสสาม ผู้อาวุโสสี่ ผู้อาวุโสห้า รวมถึงหัวหน้าสาขาย่อยหลายคนก็พลันเข้าล้อมผู้อาวุโสจินและชายวัยกลางคนสองคนของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ไว้
พลังต่อสู้ของผู้อาวุโสจินคนนี้ถึงแม้จะแข็งแกร่งมาก แต่เวลานี้เผชิญหน้ากับคนสิบกว่าคน ไฉนเลยสามารถดูได้ อย่างมากก็ใช้เวลาสิบห้านาที ผู้อาวุโสจินรวมถึงชายวัยกลางคนสองคนนั้นต่างก็ถูกโจมตี หลังจากมัดคนแล้วก็ถูกโยนเข้าไปในรถตู้
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง เยี่ยหวันหวั่น ผู้อาวุโสใหญ่ ชีซิง และหัวหน้าสาขาย่อยสองคนก็จากไปก่อน คนอื่นๆ อยู่เก็บกวาดสถานที่ ห้ามหลงเหลือหลักฐานแม้แต่นิดเดียว
รอจนพวกเยี่ยหวันหวั่นกับชีซิงขับรถตู้ออกไปแล้ว ผู้อาวุโสสาม เป่ยโต่ว และผู้อาวุโสสี่กับผู้อาวุโสห้าที่เหลืออยู่ก็เก็บกวาดสถานที่อย่างรวดเร็ว
เป่ยโต่วขึ้นหน้า ปีนขึ้นรถบรรทุก มองเห็นทรัพยากรที่บรรทุกเต็มคันรถก็ตาลายในทันที “เชี่ย พวกนายรีบมาดูเร็ว!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้อาวุโสสามวิ่งเร็วที่สุด หลังจากที่ได้เห็นทรัพยากรเต็มรถคันนั้นก็อดทอดถอนใจไม่ได้
นอกจากทองก้อนใหญ่ก็ยังมียาล้ำค่ามากมาย ที่แม้จะมีเงินก็หาซื้อไม่ได้
“ผู้อาวุโสสาม ในรถยังมีคนด้วย!”
ทันใดนั้น หัวหน้าสาขาย่อยคนหนึ่งก็ตะโกนขึ้น
“โอ้?”
ผู้อาวุโสสามกับเป่ยโต่วได้สติในทันที
หลังจากเปิดรถบรรทุกคันที่สาม ผู้อาวุโสสามก็มีสีหน้าที่เปี่ยมด้วยความตกใจ มองไปยังหญิงสาวที่มีอายุราวๆ สี่สิบกว่าซึ่งถูกจับมัดไว้…
เวลานี้เป่ยโต่วมีสีหน้าตกตะลึง “แม่ ทำไมเป็นแม่!”
“ว่าไงนะ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเป่ยโต่ว ผู้อาวุโสสามก็ตกใจยิ่งขึ้นไปอีก “เป่ยโต่ว นั่นคือแม่แก?”
“แม่ฉันเอง!” เป่ยโต่วพยักหน้ารัว
“งั้นแกยังไม่รีบไปช่วยแม่แกแก้มัดอีก…” ผู้อาวุโสสองเอ่ย
…………………………………………….