แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1965 รอจี้ซิวหร่านมาตั้งหลายปี / บทที่ 1966 ไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปจริงๆ
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1965 รอจี้ซิวหร่านมาตั้งหลายปี / บทที่ 1966 ไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปจริงๆ
บทที่ 1965 รอจี้ซิวหร่านมาตั้งหลายปี
นิ้วมือของซือเยี่ยหานกำถ้วยน้ำชาไว้จนแน่น เผยให้เห็นเส้นเลือดที่ปูดขึ้นบนหลังมือ
เยี่ยหวันหวั่นกลืนน้ำลายดังเอื๊อก เห็นได้ชัดว่ารอยร้าวสองสามเส้นปรากฏขึ้นบนถ้วยชา เธอจะซี้แหงแก๋แล้วใช่ไหม?
“ชิวสุ่ย เธออย่าพูดมั่วๆ นะ!” เยี่ยหวันหวั่นขยิบตาให้ชิวสุ่ยไม่หยุด
เมื่อกี้ชิวสุยพูดว่าอะไรนะ เธอเคยจีบจี้ซิวหร่านด้วยงั้นเหรอ?
“ฉันเนี่ยนะพูดมั่ว? มีเรื่องอะไรของเธอที่ฉันไม่รู้บ้างฮะ! ตอนนั้นเธอชอบจี้ซิวหร่านเอามากๆ จนขาดเขาไม่ได้ จีบเขามาตั้งหลายปี แต่เพราะจี้ซิวหร่านปฏิเสธเธอ เธอก็เลยหมดสภาพไปพักหนึ่ง แล้วเธอยังทำเรื่องไร้สาระอีกตั้งมากมาย…” ชิวสุ่ยขายเรื่องราวของผู้นำตัวเองเสียจนหมดเปลือก
ข้อมูลเยอะเกินไป…เยี่ยหวันหวั่นมึนไปแล้ว…
ชิวสุ่ยมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าจริงจังพร้อมกล่าวว่า “แต่ว่าเสี่ยวเฟิง เธอคิดยังไงกันแน่ เธอรอจี้ซิวหร่านมาตั้งหลายปี ตอนนี้ไม่ง่ายเลยที่ฟ้าจะเปิดจนเห็นพระจันทร์ได้ชัดเจน เธอยังมานัดเจอใครข้างนอกอีก?”
ขณะที่ชิวสุ่ยกล่าว เธอก็เหลือบมองซือเยี่ยหานแวบหนึ่งด้วยความไม่พอใจ ราวกับมองชายหนุ่มเป็นคนป่า
เพล้ง
ทันทีที่ชิวสุ่ยพูดจบ เยี่ยหวันหวั่นก็เห็นถ้วยชาของใครบางคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม…แตกเป็นเสี่ยงๆ…
ในตอนนี้สมองของเยี่ยหวันหวั่นเหมือนหยุดสั่งการไปชั่วขณะ นั่งตาค้างอยู่ตรงนั้น
ทันทีที่ชิวสุ่ยมาถึง เธอก็พูดแว๊ดๆๆ ไม่หยุด จนเธอไม่มีโอกาสได้โต้แย้งแม้แต่น้อย
ปริมาณข้อมูลที่ได้รับเยอะเกินไปแล้วไหม?
ฉันไม่สนว่าเธอจะไปชอบใครอีก…
เธอรอจี้ซิวหร่านมาตั้งหลายปี…
แค่สองคำนี้ก็ทำให้เธอตายโดยไม่มีที่ให้ฝังศพแล้ว
“ฉัน…ฉันไม่ได้…ฉันไม่ได้ทำ…ที่รักฟังฉันอธิบายก่อนสิคะ…” ไม่คิดเลยว่าฟ้าจะถล่มแผ่นดินจะทลายแบบนี้ เยี่ยหวันหวั่นแทบจะกระอักเลือดออกมาจริงๆ
เพราะมีหน้ากากอนามัยบังอยู่เธอจึงมองไม่เห็นสีหน้าของชายหนุ่มที่อยู่อีกด้าน แต่ถึงมองไม่เห็นก็ทำให้เยี่ยหวันหวั่นหวาดกลัวจนอกสั่นขวัญแขวน
ชิวสุ่ยที่เห็นเยี่ยหวันหวั่นประหม่าถึงเพียงนี้ก็พูดไม่ออกเล็กน้อย “ดูอนาคตเธอสิ! คุ้มไหม?”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
คุ้มไหมเหรอ! คุ้มเกินไปแล้วโอเคไหม?
“จริงๆนะคะ…ที่รัก…นี่เป็นข่าวโคมลอยแน่ๆ…เป็นข่าวลือทั้งนั้น…ไม่มีเรื่องอะไรแบบนี้จริงๆนะ!” เยี่ยหวันหวั่นรีบอธิบายอย่างร้อนใจ
ชิวสุ่ยกรอกตามองเยี่ยหวันหวั่น “ข่าวลือเหรอ? ตอนฉันกลับมาก็ได้ข่าวว่าเธอไปประมูลแหวนของจี้หวง จนทะเลาะกับนายแห่งอาชูร่า เรื่องนี้ก็เป็นข่าวลือด้วยไหมล่ะ?
เธอก็เกินไปนะ กับอีแค่แหวนง่อยๆ วงหนึ่งเท่านั้นเธอยังพะเว้อพะวงถึงมันอยู่หลายปี ในปีนั้นไม่ใช่เธอเหรอไงที่ให้ฉันช่วยประกาศภารกิจตามหาแหวนวงนี้ในโรงเรียนทหารรับจ้างน่ะ?”
ชิวสุ่ยโพล่งข้อมูลใหม่ออกมาเรื่อยๆ ทำให้เยี่ยหวันหวั่นสับสนจนแทบคลั่งแล้ว เธอชี้ไปที่จมูกของตัวเองอย่างเลื่อนลอยแล้วถามชิวสุ่ยว่า “เอ่อคือ…ภารกิจอันนี้ฉันเป็นคนประกาศเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ?” ชิวสุ่ยกรอกตามองบนใส่เยี่ยหวันหวั่น
ใบหน้าของเยี่ยหวันซีดเผือดด้วยความหวาดกลัวขณะเหลือบมองใครบางคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม…
ขอถามหน่อยว่า เธอยังมีโอกาสรอดไหม?
หลังจากเสียงแตกร้าวที่ดังฟังชัด ในที่สุดถ้วยชาในมือของชายหนุ่มก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
น้ำชาสีเขียวอ่อนผสมกับเลือดที่ออกมาจากแผลของชายหนุ่มก็ไหลนองไปทั่วทั้งโต๊ะ
“คุณเก้า…” เยี่ยหวันหวั่นรีบลุกขึ้นยืนทันที
ซือเยี่ยหานเหยียดกายยืนขึ้นช้าๆ จากนั้นก็ยกมือขึ้นดึงหน้ากากบนใบหน้าออก ชายหนุ่มปัดมือเยี่ยหวันหวั่นที่ยื่นมาหาเขา จากนั้นก็ใช้หน้ากากเช็ดเลือดบนฝ่ามือและโยนทิ้งไปด้านข้าง…
“อ๋า” ชิวสุ่ยที่เมื่อครู่ที่ยังด่าเยี่ยหวันหวั่นว่าไม่มีอนาคต เมื่อเห็นว่าผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าเป็นใครก็ตกใจจนวิญญาณแทบหลุดจากร่าง
——————————————————————
บทที่ 1966 ไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปจริงๆ
ชิวสุ่ยหน้าซีดเผือด ราวกับเห็นอะไรที่น่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง “คุณ…คุณๆๆ…นายแห่งอาชูร่า…”
ทำไมเสี่ยวเฟิงถึงออกมากินข้าวกับนายแห่งอาชูร่า?
นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!
ซือเยี่ยหานทำเหมือนชิวสุ่ยไม่ได้อยู่ตรงนั้น เขาเพียงจ้องเยี่ยหวันหวั่นที่อยู่ตรงข้ามอย่างเงียบๆ
แววตาที่เขามองเยี่ยหวันหวั่นในตอนนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ ราวกับแช่อยู่ในสระน้ำเย็นยะเยือก
เธอไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปจริงๆ…
“เสี่ยวเฟิง! เธอทำอะไรของเธอ! ทำไมถึงอยู่กับ…” ชิวสุ่ยตกใจจนแทบฉี่ราดแล้ว “ทำไมเธอถึงอยู่กับนายแห่งอาชูร่า…อย่าบอกนะว่าเพราะเธอจะถอนพิษน่ะ?”
ชิวสุ่ยกล่าวเสียงเบา “เธอไม่ได้จะถอนพิษแล้ว เธอกำลังเล่นกับไฟ! เธอรนหาที่ตายหรือไงห๊ะ!”
“คุณเก้า ฟังฉันอธิบายก่อนสิคะ…” เยี่ยหวันหวั่นไม่มีเวลาสนใจชิวสุ่ยแล้ว ตอนนี้เธอกำลังปวดหัวจนแทบจะทนไม่ไหว
เอาละ ความจริงแล้วเธอก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน…
สิ่งที่ชิวสุ่ยพูด…เป็นไปได้มากว่าจะเป็นความจริง
หากมีเปลวไฟลุกโชนในดวงตาของซือเยี่ยหาน แต่ดวงตาที่ลึกล้ำในตอนนี้ดูคล้ายกับหุบเหวอันดำมืดมองไม่เห็นก้นบึ้ง ที่ค่อยๆ กลืนเปลวเพลิงให้มอดลงทีละน้อย
ในที่สุดซือเยี่ยหานก็ยอมเปิดปาก “ผู้นำไป๋”
เยี่ยหวันหวั่นหน้าซีดเผือด จบเห่แล้ว เขากลับมาเรียกเธอว่าผู้นำไป๋อีกแล้ว!
ใบหน้าของซือเยี่ยหานดูว่างเปล่า เขากล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ชวนให้คนหงุดหงิด “ผลของกู่พิศวาสซับซ้อน ไม่ควรทำเป็นเล่น ผู้นำไป๋ควรใช้ยาถอนพิษจะปลอดภัยกว่า”
เมื่อพูดจบ ซือเยี่ยหานก็ไม่ได้เอ่ยคำใดอีก เขาพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อกล่าวคำอำลาและหันหลังเดินจากไป
เยี่ยหวันหวั่นเอามือลูบหน้าอย่างหมดคำพูด
บรรลัยแล้ว…
ครั้งนี้เขาโกรธแล้วจริงๆ…
เยี่ยหวันหวั่นเอาหัวโขกโต๊ะแล้วตัดพ้อทันที “ชิวสุ่ย เธอทำร้ายฉันจนจะตายอยู่แล้ว เธอก็ช่างมาได้ตรงเวลาจริงๆ นะ…”
ชิวสุ่ยบ่นพึมพำ “เสี่ยวเฟิง ฉันยังไม่ได้ถามเธอเลยนะว่าเกิดอะไรขึ้น เธอยังมาโทษอะไรฉันอีก ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้วว่าอย่ายั่วโมโหนายแห่งอาชูร่าน่ะ? ผู้ชายคนนี้เธอไม่ควรไปยั่วโมโหด้วยเลย!”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
เธอไม่เพียงยั่วโมโห แต่ยังทำทุกอย่างพังพินาศหมดแล้ว โมโหจนแทบบ้าแล้วจริงๆ!
“เธอบอกฉันมาตรงๆ ดีกว่า ว่าใครบอกว่าฉันชอบจี้ซิวหร่าน?” เยี่ยหวั่นหวันสูดหายใจเข้าลึกๆ พลางเอ่ยถาม
“ก็ตอนแรกเธอชอบจี้ซิวหร่านนี่นา เรื่องเนี่ยอู๋โยวชอบจี้ซิวหร่าน คนทั้งรัฐอิสระก็รู้เรื่องนี้ไม่ใช่หรือไง?” ชิวสุ่ยตอบด้วยสีหน้าที่อธิบายไม่ถูก
เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกท้อแท้ เธอคิดไม่ถึงว่าชิวสุ่ยจะรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ มิน่าละเธอถึงรู้ว่าตัวเองกับจี้ซิวหร่านเคยหมั้นหมายกันมาก่อน
เวรกรรมจริงๆ อุตส่าห์ป้องกันอย่างดีทุกทาง แต่ลืมไปว่าชิวสุ่ยก็อยู่ที่นี่
“ต่อให้ฉันเคยชอบเขาจริงๆ แต่ถ้าจีบมาตั้งหลายปี ก็ยังถูกเขาปฏิเสธ ฉันจะยังคงดันทุรังจีบต่อไปอยู่อีกเหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นย้อนถามกลับ
เมื่อชิวสุ่ยได้ยินดังนั้น ก็มีสีหน้าลังเลเล็กน้อย “ก็…เธอเคยบอกฉันหลังจากที่ถูกปฏิเสธว่า เธอตัดใจได้แล้ว หลังจากนั้นเธอก็เมาหัวราน้ำทุกวัน หาเรื่องต่อยตีคนอื่นไปทั่ว…แต่…เห็นได้ชัดว่าเธอลืมเขาไม่ลงนี่นา…”
“งั้นฉันเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นไม่ได้หรือไง?” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“อย่ามาพูดเล่น เธอจะเปลี่ยนไปรักใครได้อีก? ช่วงนั้นฉันอยู่กับเธอตลอดเวลา ถึงเธอจะดูเหมือนหว่านเสน่ห์ใครไปวันๆ แต่ก็แค่พูดเล่นๆ เท่านั้น เธอไม่ได้จริงใจกับใครสักคน!” ชิวสุ่ยกล่าวอย่างดูถูก
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
ฉัน…ฉันเปลี่ยนไปรักนายแห่งอาชูร่าไม่ได้หรือไง?
ถึงแม้ว่าเธอจะจำเรื่องราวหลายอย่างไม่ค่อยได้แล้ว แต่เธอก็ยังเป็นเธอ เธอเข้าใจตัวเองดี หากในปีนั้นจี้ซิวหร่านปฏิเสธเธอแล้ว เธอจะไม่มีวันสานสัมพันธ์ต่ออย่างแน่นอน