แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2131 แถใส่ผมแบบขอไปทีใช่ไหม / บทที่ 2132 ฉากนี้คงจะงดงามเกินไปแล้ว
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2131 แถใส่ผมแบบขอไปทีใช่ไหม / บทที่ 2132 ฉากนี้คงจะงดงามเกินไปแล้ว
บทที่ 2131 แถใส่ผมแบบขอไปทีใช่ไหม
พอเห็นว่าแม่เป่ยโต่วคิดจะดำเนินหัวข้อสนทนานี้ต่อไป เยี่ยหวันหวั่นก็เบี่ยงประเด็นทันที “ใช่แล้วคุณน้า พ่อของเป่ยโต่วเขาทำอะไรเหรอคะ”
พอสิ้นเสียงของเยี่ยหวันหวั่น แม่เป่ยโต่วก็ผงะไปแวบหนึ่ง มุมปากปรากฏรอยยิ้มขมขื่นอย่างน่าประหลาด แล้วตอบว่า “พ่อเป่ยโต่วเป็นชาวรัฐอิสระ แต่ฉันไม่ใช่…ส่วนระบอบของรัฐอิสระ คุณก็น่าจะรู้ดี รัฐอิสระห้ามไม่ให้แต่งงานกับคนนอก และเป็นเพราะฉัน พ่อของเป่ยโต่วจึงถูกตระกูลของตัวเองลงโทษ แต่เพราะพ่อของเขาสุขภาพอ่อนแอมาตั้งแต่เล็ก ดังนั้นจึงทนรับบทลงโทษของตระกูลไม่ไหว…เป่ยโต่วก็ไม่ได้รับการยอมรับ ฉันเลี้ยงดูเป่ยโต่วมาด้วยตัวคนเดียว พอพูดขึ้นมาแล้ว ดิฉันก็ต้องขอบคุณคุณที่คอยช่วยดูแลเป่ยโต่วให้ฉันตลอดหลายปีมานี้”
“ตอนนั้นเป่ยโต่วตามพ่อของเขาไปที่บ้านด้วย มองเห็นพ่อของเขาถูกลงโทษ จนกระทั่งตายไปด้วยตาตัวเอง เฮ้อ เป็นฉันที่ผิดต่อเป่ยโต่ว” แม่ของเป่ยโต่วส่ายหน้า
เยี่ยหวันหวั่นตกตะลึง
เยี่ยหวันหวั่นจำได้ว่า เป่ยโต่วดึงดันอยู่เสมอว่าพ่อของตัวเองหนีไปกับเมียน้อยแล้ว
เป่ยโต่วก็คงรู้อยู่แก่ใจดี เขามองเห็นพ่อของตัวเองถูกลงโทษจนตายไปต่อหน้า เพียงแต่ลึกๆ ในใจของเขาไม่ยินดีจะยอมรับความจริง
ความจริงแล้ว ถึงจะบอกว่าเป่ยโต่วค่อนข้างโง่อยู่ตลอด แต่ในมุมมองของเยี่ยหวันหวั่น เป่ยโต่วไม่ได้โง่ เพราะประสบการณ์ในวัยเด็ก ทำให้เขาสร้างเกระป้องกันขึ้นอย่างสมบูรณ์ ปล่อยให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ในโลกของตัวเอง
เยี่ยหวันหวั่นรู้ว่าความตายของพ่อเป่ยโต่ว ส่งผลกระทบกับเขาอย่างมหาศาลจริงๆ ทำให้เขายินดีจะอยู่ในโลกของตัวเอง ไม่ออกมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงอีกต่อไป
“ใช่แล้ว ทำไมครั้งก่อนคนของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ถึงต้องการจับตัวน้าล่ะคะ”
เยี่ยหวันหวั่นมองแม่เป่ยโต่วพลางเอ่ยถาม
สำหรับเรื่องนี้ แม่เป่ยโต่วก็มีสีหน้าสงสัยอยู่บ้างเช่นกัน อย่าว่าแต่เยี่ยหวันหวั่นเลย แม้แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าทำไมคนของสหพันธ์วิทยายุทธ์ถึงต้องการจับตัวเธอ
“บางทีอาจจะค้นพบฐานะของฉันแล้วก็ได้ ถึงยังไงฉันก็เป็นคนของเดธโรส” แม่เป่ยโต่วอธิบาย
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า น่าจะเป็นแบบนี้ ถ้าไม่ค้นพบฐานะของแม่เป่ยโต่ว กลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์คงไม่มีทางจับตัวคนธรรมดาโดยไม่มีสาเหตุ
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามาสิ” เยี่ยหวันหวั่นพูด
พอเยี่ยหวันหวั่นพูดจบ ประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออก
“แม่ แม่ไม่เป็นไรใช่ไหม?!”
เป่ยโต่วพุ่งเข้ามาในห้อง มองสำรวจแม่ตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า
เยี่ยหวันหวั่นเห็นแล้วก็หมดคำพูด เธอไม่ใช่เสือสักหน่อย จับแม่เขากินไม่ได้หรอกนะ
“ไม่เป็นไร ฉันแค่คุยกับผู้นำของแก ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก” แม่เป่ยโต่วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“งั้นผมก็วางใจแล้ว ยังไงก็ตาม แม่ แม่บุกเข้ามาในบ้านพี่เฟิงกลางดึกแบบนี้ทำไม” เป่ยโต่วไม่เข้าใจอยู่บ้าง
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันนัดคุณน้ามาหาเอง แต่ฉันลืมไปเลย” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยยิ้มๆ
พอเป่ยโต่วได้ยินก็จ้องมองเยี่ยหวันหวั่น “พี่เฟิง ผมมีประโยคหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะพูดได้ไหม”
“ว่ามาสิ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“พี่เฟิง พี่…กำลังแถใส่ผมแบบขอไปทีใช่ไหม” เป่ยโต่วถาม
“ใช่แล้ว” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า ข้ออ้างแบบขอไปทีของเธอยังชัดไม่พอใช่ไหม เลยต้องมาเจาะจงถามอีกน่ะ
“โอ้ ไม่เป็นไร ผมก็ถามไปส่งๆ เหมือนกัน” เป่ยโต่วพยักหน้ารับ
“เป่ยโต่ว นายช่วยพาคุณน้ากลับไปส่งบ้านให้ฉันที”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยสั่ง
“ได้ งั้นผมไปส่งแม่กลับบ้านนะ ให้เหล่าชีเฝ้าไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวผมกลับมาอีกที”
เป่ยโต่วเหลือบมองชีซิงแวบหนึ่ง “เฝ้าให้ดีละ ถ้าเกิดเรื่องขึ้น จะถามเอากับนาย”
ไม่รอให้ชีซิงได้มีโอกาสพูด เป่ยโต่วก็พาแม่ตัวเองออกจากห้องนอนไปแล้ว
—————————————————————————————
บทที่ 2132 ฉากนี้คงจะงดงามเกินไปแล้ว
หลังจากเป่ยโต่วออกไปแล้ว พวกชีซิงก็ถอนกำลังออกจากห้อง
เยี่ยหวันหวั่นนอนอยู่บนเตียงเพียงลำพัง คืนนี้ช่างดูเหมือนกับความฝันฉากหนึ่ง
ตัวเองได้รู้ประวัติความเป็นมาของแหวนลึกลับแล้ว แถมยังจับผลัดจับผลูกลายเป็นเอริคด้วย อีกทั้งได้รู้เรื่องราวในอดีตบางส่วนของเดธโรสแล้ว
อารมณ์ของเยี่ยหวันหวั่นผสมปนเปกันไปชั่วขณะ ทำให้เธอไม่มีเวลาวิเคราะห์เลย
เส้นทางข้างหน้าจะดำเนินไปในทิศทางไหน
อันที่จริง เธอต้องการมีชีวิตที่ปกติ ได้อยู่กับคุณเก้าและถังถัง เรียบง่าย มั่นคงปลอดภัย ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า…
แบบนี้จะดีมาก
ยังไงก็ตาม อำนาจมันไม่อนุญาตน่ะสิ!
ถ้าตัวเองเป็นผู้นำของพันธมิตรอู๋เว่ยก็พอไหวหรอก ตอนนี้ดันกลายเป็นผู้นำสูงสุดของเดธโรสไปแล้ว แถมยังต้องแบกรับภารกิจและหน้าที่มากมายขนาดนั้นอีก เห็นเธอเป็นยอดมนุษย์เหรอไง
ยิ่งมีความสามารถสูงภาระหน้าที่ก็ยิ่งมาก สวรรค์เข้าใจความสามารถของเธอผิดไปตรงไหนหรือเปล่า?!
ตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นเห็นแหวนวงนี้เป็นเผือกร้อนลวกมือไปแล้วจริงๆ แต่ว่า ถึงจะลวกมือยังไง ก็ต้องกำไว้ในมือ จะทำหายไม่ได้
ก็ไม่ใช่ว่าเยี่ยหวันหวั่นปรารถนาในอำนาจสูงสุดของเดธโรสมากนักหรอก
แต่ถ้าตัวเองละทิ้งแหวนวงนี้ แล้วเกิดเอริครุ่นต่อไปต้องการทำภารกิจให้สำเร็จจะทำยังไงล่ะ กำลังหลักทั้งหมดของเดธโรสจะถูกเรียกระดมพล จากนั้นก็เข้าถล่มรัฐอิสระ…
ฉากนี้คงจะงดงามเกินไปแล้ว…
ดังนั้น ไม่ว่ายังไงก็ตาม แหวนวงนี้ต้องเป็นของเธอเท่านั้น
ขอแค่ตัวเองไม่ตอบรับ เดธโรสก็ไม่มีทางเข้ามาวุ่นวาย ถึงยังไง ตอนนี้ตัวเองก็เป็นผู้นำคนปัจจุบันของเดธโรสแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นลองไตร่ตรองดู ตัวเองจะสามารถยืมอำนาจของเดธโรสมาโจมตีสายหลักอะไรนั่นได้ไหมนะ…
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันได้คิดไปถึงไหน จู่ๆ หน้าจอมือถือก็สว่างวาบขึ้นมา
ก่อนหน้านี้ เยี่ยหวันหวั่นปิดเสียงกับระบบสั่นไว้ ดังนั้นจึงมีแค่แจ้งเตือนบนหน้าจอ
เยี่ยหวันหวั่นหยิบมือถือขึ้นมา เป็นสายเรียกเข้าจากเนี่ยอู๋หมิง
“ดึกดื่นขนาดนี้แล้ว จะดีที่สุดถ้าพี่ไม่ได้โทรหาฉันเพราะเรื่องธุรกิจ”
เยี่ยหวันหวั่นรับสาย แล้วชิงพูดออกไปก่อน
“เฮ้อ น้องสาวที่รัก ฉันไม่ได้จะมาทำธุรกิจกับแก แต่แม่งเอ้ย เนี่ยหลิงหลงกลับมาแล้ว แกรู้ไหม?!”
น้ำเสียงของเนี่ยอู๋หมิงมีความกระวนกระวายอยู่บ้าง แต่ก็ดูเหมือนจะโมโหด้วย
“เนี่ยหลิงหลงกลับมางั้นเหรอ…”
เยี่ยหวันหวั่นมุ่นหัวคิ้วนิดๆ ฐานะของเธอถูกเปิดเผยออกมาแล้วชัดๆ แต่ยังแจ้นกลับไปที่บ้านตระกูลเนี่ยได้แบบหน้าด้านๆ อีก…
ต้องพูดเลยว่า ตัวตนของเนี่ยหลิงหลงคนนี้ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ จะดูถูกไม่ได้เด็ดขาด
“ใจเย็นก่อน ค่อยๆ พูด” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“ยังจะให้ค่อยๆ พูดอีกเหรอ ค่อยๆ กับตูดน่ะสิ ครั้งก่อน ทหารรับจ้างในสังกัดฉันรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันหมดแล้ว นังชั้นต่ำคนนั้น ไม่ได้การแล้ว ฉันต้องไปตัดมือตัดเท้าเธอซะ!” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยด้วยความโมโห
“ไม่ได้” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยขัดขึ้นทันที
“ไม่ได้งั้นเหรอ ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ” เนี่ยอู๋หมิงตะลึงไปแวบหนึ่ง
“พี่จะใช้เหตุผลอะไรไปตัดมือตัดเท้าเธอ บอกว่าเธอเป็นไส้ศึกของสายหลักงั้นเหรอ พี่มีหลักฐานไหมล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นพูด
“ทำไมจะไม่มีหลักฐาน ลูกน้องฉันเห็นกับตา ผู้อาวุโสคนหนึ่งในพันธมิตรอู๋เว่ยของเธอก็เห็นเหมือนกันนี่” เนี่ยอู๋หมิงตอบ
“แบบนั้นแล้วยังไง” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเสียงเย็น “อย่าลืมนะ เนี่ยหลิงหลงเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงตำแหน่งเจ้าบ้านรุ่นต่อไปของตระกูลเนี่ย ฉันคือคู่แข่งในการชิงตำแหน่ง ส่วนพี่ก็เป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งที่โดนเนี่ยหลิงหลงเขี่ยทิ้งไปแล้ว พี่กับฉันเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน ผู้อาวุโสกับสมาชิกระดับสูงของตระกูลเนี่ยพวกนั้น จะเชื่อคำพูดของพวกเราฝ่ายเดียวเหรอไง ถ้าพี่ลงมือตอนนี้ สมาชิกระดับสูงพวกนั้น จะหาว่าพวกเราเล่นไม่ซื่อใส่ร้ายเนี่ยหลิงหลงเอานะ”
ตระกูลเนี่ย ไม่ใช่ตระกูลเนี่ยของใครคนใดคนหนึ่ง ก็เหมือนกับเรื่องการรับตำแหน่งหัวหน้าตระกูล ต่อให้เป็นหัวหน้าตระกูลเนี่ยและนายหญิง ก็ต้องหารือกับผู้อาวุโสและสมาชิกระดับสูงพวกนั้นก่อน และสุดท้ายค่อยลงคะแนนเสียงตัดสิน
……………………………………………