แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2163 เป็นเธอเหรอ / บทที่ 2164 นายขุดต่อไปเถอะ ไม่รบกวนแล้ว
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2163 เป็นเธอเหรอ / บทที่ 2164 นายขุดต่อไปเถอะ ไม่รบกวนแล้ว
บทที่ 2163 เป็นเธอเหรอ
เวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นเพ่งมองเงาร่างนั้นที่ดูคุ้นเคยอยู่บ้าง และอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วนิดๆ แผ่นหลังนั้นทำไมถึงรู้สึกว่าเหมือนซือเซี่ยกันนะ…
จะเป็นไปได้ยังไง ซือเซี่ยจะมาปรากฏตัวในสถานที่แบบนี้ได้ยังไง
จากนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็สาวเท้าก้าวไปด้านหน้าด้วยความสงสัย
เพียงแต่เมื่อเห็นใบหน้าเปื้อนฝุ่น และผมเผ้าที่รุงรังปรกหน้าของชายหนุ่ม เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่กล้าที่จะแน่ใจไปชั่วขณะ
“ซือเซี่ย...”
เยี่ยหวันหวั่นลองเรียกชายหนุ่มดู
พอเยี่ยหวันหวั่นเปล่งเสียงออกมา ชายหนุ่มที่ถือจอบขุดดินอยู่ก็มีปฏิกิริยาทันที หันไปมองเยี่ยหวันหวั่นตามสัญชาตญาณ
“ธะ ธะ เธอ…เป็นเธอเหรอ?!”
ซือเยี่ยจ้องมองเยี่ยหวันหวั่น ด้วยท่าทางที่ดูแปลกใจยิ่งกว่าเยี่ยหวันหวั่นเสียอีก
เยี่ยหวันหวั่นจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสีหน้างุนงง ซือเซี่ยตกอยู่ในสภาพนี้ได้ยังไง…ไม่สิ พูดให้ชัดคือ ซือเซี่ยมาโผล่ที่รัฐอิสระได้ยังไง แถมยังโดนจับมาไว้ในสถานที่ผีสางแบบนี้ด้วย
ถ้าวิเคราะห์กันตามหลักเหตุผลแล้ว เกาะแห่งนี้เทียบได้กับเรือนจำ ด้านในคุมขังคนมีหน้ามีตาในรัฐอิสระแทบทั้งหมดไว้ แต่ซือเซี่ย...ไม่ได้มีหน้ามีตาในรัฐอิสระ นี่ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเลย
สติของเยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันกลับมา ซือเซี่ยก็ถือจอบวิ่งเหยาะๆ เข้ามาหา แล้วพุ่งเข้าใส่เยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นแทบจะเคลื่อนไหวไปตามสัญชาตญาณ คว้าจอบของซือเซี่ยไว้ ส่งแรงไปที่ฝ่ามือ แล้วเหวี่ยงจอบพร้อมทั้งตัวซือเซี่ยออกไปทันที
“นายทำอะไรน่ะ”
เยี่ยหวันหวั่นจ้องซือเซี่ย คิ้วขมวดแน่น แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา เยี่ยหวันหวั่นก็พอจะเข้าใจแล้ว
ตอนอยู่ที่จีน ซืออู๋เทียนถูกเธอคุมตัวไปที่สถานีตำรวจ เกรงว่าซือเซี่ยคงอยากจะแก้แค้นให้พ่อตัวเอง
“เยี่ยหวันหวั่น เธอบ้าไปแล้วเหรอ เธอโจมตีฉันทำไม?!”
ผ่านไปสักพัก ซือเซี่ยถึงได้ค่อยๆ คลานลุกขึ้นมาจากพื้น
“ซือเซี่ย อันที่จริงแล้วเรื่องพ่อของนาย…”
เยี่ยหวันหวั่นจ้องซือเซี่ย แล้วบอกเล่าต้นสายปลายเหตุอออกมา
สำหรับเรื่องซืออู๋เทียน เยี่ยหวันหวั่นไม่มีทางเลือก ซืออู๋เทียนคิดจะฆ่าตัวเอง เธอไม่สามารถยอมถูกทำร้ายโดยไม่โต้กลับได้ ดังนั้น ทุกอย่างล้วนเป็นเพราะซืออู๋เทียนทำตัวเอง
ถึงจะเป็นแบบนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ได้ทุบตีซืออู๋เทียน และไม่ได้ด่าทอซืออู๋เทียน แค่แจ้งความจับเท่านั้น เรื่องนี้จะโทษใครได้
“ซือป๋ออี้…”
พอได้ฟังคำอธิบายจากเยี่ยหวันหวั่น ซือเซี่ยก็ยิ้มขื่นๆ พลางส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “นั่นเป็นเพราะเขาทำตัวเอง เขาทำผิดกฎหมายของจีน ถูกจับก็เป็นเรื่องปกติมาก พูดอะไรไม่ได้อยู่แล้ว”
ซือเซี่ยคิดได้แบบนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็เบาใจแล้ว
“แล้วเมื่อกี้นายฟาดจอบใส่ฉันทำไม” ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
“ใครจะฟาดจอบใส่เธอกัน จู่ๆ ฉันก็ได้เจอคนรู้จัก เลยตื่นเต้น ผีเท่านั้นที่รู้ว่าฉันถูกขังอยู่ในสถานที่หมาเมินนี่มานานแค่ไหนแล้ว…ฉันแค่ถือจอบจะวิ่งเข้าไปหาเธอ ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆ เธอจะเป็นบ้าอะไรขึ้นมา กลับมาโจมตีฉันซะได้”
เยี่ยหวันหวั่นเหวอไปแล้ว…
“ใช่แล้ว นายถูกจับมาอยู่ในสถานที่บ้าๆ นี่ได้ยังไง” เยี่ยหวันหวั่นจ้องซือเซี่ยด้วยความแปลกใจ
พอซือเซี่ยได้ยินจึงถอนหายใจแล้วตอบว่า “ฉันบังเอิญรู้เรื่องของรัฐอิสระเข้า รวมถึงฐานะของตระกูลซือ…พ่อฉันหายตัวไปแล้ว ทีแรกฉันคิดจะมาตามหาเขาที่รัฐอิสระ เพียงแต่…ระหว่างทางเห็นข่าวถึงได้รู้ว่า ที่แท้เขาก็ก่ออาชญากรรมที่จีนเลยถูกจับไปแล้ว…
จากนั้นฉันก็วางแผนจะไปเยี่ยมเยือนต้นตระกูลซือ แต่พวกเขาบอกว่าฉันเป็นลูกคนบาปอะไรประมาณนั้น…”
เยี่ยหวันหวั่นเงียบไปครู่หนึ่ง
“นายไม่สงสัยเหรอว่าทำไมฉันถึงมาโผล่ที่นี่” เยี่ยหวันหวั่นจ้องมองซือเซี่ยพลางเอ่ยถาม
————————————————
บทที่ 2164 นายขุดต่อไปเถอะ ไม่รบกวนแล้ว
“มีอะไรน่าสงสัยกัน หลังจากมาถึงรัฐอิสระแล้วก็ต้องได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของเธอแน่ ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยแห่งรัฐอิสระ ใครบ้างจะไม่รู้จัก…เธอปกปิดได้แนบเนียนนักนะ…มองไม่ออกเลย…” ซือเซี่ยมองค้อนเยี่ยหวันหวั่นแวบหนึ่ง
สำหรับเรื่องนี้ เยี่ยหวันหวั่นไม่พูดอะไรให้มากความอีก ชื่อเสียงของเธอ ไม่ใช่ชื่อเสียงในแง่ดีอะไรด้วย
“ใช่แล้ว นายถูกจับมาที่นี่นานแค่ไหนแล้วล่ะ”
เยี่ยหวันหวั่นมองซือเซี่ยพลางถามไปด้วย
“ประมาณสองเดือนกว่าแล้ว” ซือเซี่ยตอบ
“งั้น…นายน่าจะค่อนข้างคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมภายในแล้วสินะ” เยี่ยหวันหวั่นตาเป็นประกาย
“ก็พอตัว” ซือเซี่ยตอบไปตามความจริง
“งั้นดีเลย บอกฉันหน่อยสิ ที่นี่เป็นยังไงกันแน่ ขังคนไว้เท่าไร” เยี่ยหวันหวั่นนั่งลงข้างๆ ซือเซี่ยพลางถามออกมาเป็นชุด ตอนนี้เธอไม่รู้อะไรเลย จึงต้องการตรวจสอบสถานการณ์จากใครสักคน
“ที่นี่คือเรือนจำแดนสุดท้ายของคุกใต้ดินที่เป็นของกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์แห่งรัฐอิสระ แค่แดนสุดท้ายนี้ไม่ได้อยู่ใต้ดิน แต่กลับเป็นเกาะกลางทะเล” ซือเซี่ยอธิบาย
พอได้ฟังถ้อยคำจากซือเซี่ยแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็เริ่มใช้ความคิด ใครจะไปคาดคิดกันล่ะ เรือนจำแดนสุดท้ายของคุกใต้ดินไม่ได้อยู่ใต้ดิน แต่ดันเป็นเกาะกลางทะเล
ยังไงก็ตาม มองจากตอนนี้ ถือว่าตัวเองเดิมพันถูกแล้ว
หากว่าเกาะกลางทะเลที่ซือเยี่ยหานค้นพบ ไม่ใช่สถานที่ที่กลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ใช้คุมขังคน อาจจะเกิดจุดผิดพลาดขึ้นไม่น้อยเลย แต่ในตอนนี้ อาชูร่าและพันธมิตรอู๋เว่ย รวมถึงตระกูลเนี่ยต่างก็พุ่งเป้ามาที่เกาะแห่งนี้แล้ว ขอแค่ตัวเองร่วมมือกับเหล่าขาใหญ่ที่อยู่บนเกาะพวกนั้น นอกในทำงานประสานกัน ก็จะเอาชนะได้แบบสบายๆ แน่นอน
แน่นอนว่า ก่อนหน้านั้น เธอต้องตีสนิทกับขาใหญ่พวกนั้นสักหน่อย ไม่อย่างนั้นแล้ว เกรงว่าคนอื่นคงมองว่าเธอเป็นโรคประสาทเอา
“แล้วนายถือจอบด้ามนี้ไว้ทำไม”
ผ่านไปครู่หนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นก็จ้องมองจอบในมือของซือเซี่ยด้วยความประหลาดใจมาก
“ขุดอุโมงค์หลบหนี” ซือเซี่ยตอบมาแบบนี้
“ขุดอุโมงค์เหรอ…” เยี่ยหวันหวั่นมองซือเซี่ยด้วยสายตาที่ใช้มองคนโง่ “ถ้าฉันจำไม่ผิดล่ะก็…ที่นี่คือเกาะกลางทะเลใช่ไหม นายวางแผนที่จะขุดอุโมงค์ลึกลงไปใต้ทะเลเป็นหมื่นๆ เมตรรึไง”
ซือเซี่ยตอบซื่อๆ ว่า “ฉันรู้ว่าเป็นเกาะกลางทะเล แต่แล้วไงล่ะ ยังไงก็ต้องหาทางระบายความหงุดหงิดสักหน่อยไม่ใช่เหรอไง”
เยี่ยหวันหวั่นผงะไปเล็กน้อย “โอ้ งั้น…นายขุดต่อไปเถอะ ไม่รบกวนแล้ว”
….
ข่าวที่ว่าไป๋เฟิงผู้นำพันธมิตรของอู๋เว่ยถูกจับมาไว้บนเกาะกลางทะเล ใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็แพร่ไปทั่วแล้ว
อยู่ในเรือนจำบนเกาะแห่งนี้ได้ประมาณสองสามวันแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็มานะอุตสาหะ ตีซี้กับอดีตขาใหญ่แห่งรัฐอิสระพวกนั้นได้สำเร็จแล้ว
นับตั้งแต่ความทรงจำส่วนใหญ่กลับคืนมาแล้ว ใบหน้าค่าตาของคนจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นมาในสมองของเยี่ยหวันหวั่น และขาใหญ่เหล่านี้ที่ถูกจับมาไว้บนเกาะ ส่วนใหญ่ต่างก็เป็นคนที่เยี่ยหวันหวั่นเคยรู้จัก บ้างก็เคยทะเลาะต่อยตีกันมาก่อน ดังนั้นการที่จะหลอกล่อ…เอ่อไม่สิ การที่จะชักชวนมาเข้าร่วมแผนการจึงค่อนข้างราบรื่น
อยู่มาวันหนึ่ง
ภายในห้องขังที่เก่าแก่ทรุดโทรม เยี่ยหวันหวั่นกับคนอีกสามคนนั่งอยู่คนละด้าน มีสำรับไพ่ใหม่เอี่ยมวางอยู่บนโต๊ะ รอบข้างมีอดีตขาใหญ่ของรัฐอิสระที่เคยเรียกลมเรียกฝนได้มายืนมุงกันอยู่
ขาใหญ่ผู้ทรงอิทธิพลเหล่านั้น หากอยากพบหน้าสักครั้งนับว่าเป็นเรื่องยากเย็นยิ่งกว่าปีนขึ้นฟ้าเสียอีก แต่เวลานี้กลับมารวมตัวมุงดูเกมไพ่โต้วตี้จู่[1]กันอย่างมีรสมีชาติ แถมยังชี้ช่องแนะนำกันอยู่เป็นระยะๆ ด้วย ฉากนี้…เยี่ยหวันหวั่นมองแล้วรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกอยู่บ้าง
“ฮ่าๆ ไป๋เฟิงเอ๋ย ไม่ได้เจอกันหลายปี ฉันว่าเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ จำแทบไม่ได้”
ชายวัยกลางคนรายหนึ่ง โยนไพ่ออกมาหนึ่งใบ จากนั้นก็หัวเราะเบาๆ
———————————————
[1] ไพ่โต้วตี้จู่ เป็นเกมพนันยอดฮิตของจีน เป็นเกมที่ต้องใช้ทั้งทักษะคณิตศาสตร์และการวางกลยุทธ์อย่างรอบคอบ