แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2213 เขาประเคนตัวเข้าหาอ้อมแขนเธอรึไง / บทที่ 2214 ลูกชายผู้มีสองหน้า
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2213 เขาประเคนตัวเข้าหาอ้อมแขนเธอรึไง / บทที่ 2214 ลูกชายผู้มีสองหน้า
บทที่ 2213 เขาประเคนตัวเข้าหาอ้อมแขนเธอรึไง
เซี่ยเชียนชวนจ้องมองเด็กชายตัวน้อยคนนั้นที่รูปร่างหน้าตาคล้ายกับซือเยี่ยหานหลายส่วนด้วยความตกตะลึง ราวกับเป็นซือเยี่ยหานฉบับย่อส่วนก็ไม่ปาน “นี่…นี่ก็คือลูกชายนายงั้นเหรอ”
เจียงหลีเฮิ่นร้องลั่น “เป็นไปไม่ได้!”
เยี่ยหวันหวั่นกวาดสายตามองเจียงหลีเฮิ่นที่ทึ่มทื่ออยู่แวบหนึ่ง จากนั้นก็ยกแขนกอดอกอย่างอารมณ์ดี และเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบ “มา! มาเลยมา! คนแซ่เจียง คุณดูหน้าลูกรักของฉันซะ พูดอีกรอบสิว่าพ่อแท้ๆ ของลูกชายฉันเป็นใคร!”
เจียงหลีเฮิ่นมองเด็กน้อยในอ้อมแขนของซือเยี่ยหาน จากนั้นก็มองซือเยี่ยหานตัวใหญ่คนนี้ พูดไม่ออกเลยจริงๆ ว่าหนึ่งเล็กหนึ่งใหญ่คู่นี้ไม่ใช่พ่อลูกโดยสายเลือด ใบหน้าจึงเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “บัดซบ! เจ้าเก้า! เด็กนี่…เป็น…เป็นลูกชายของนายจริงๆ ด้วย!”
พวกเขาคิดมาตลอดว่าซือเยี่ยหานไม่ชอบใกล้ชิดผู้หญิงเป็นที่สุด จึงไม่คิดเลยว่า ลูกชายของเขาจะโตขนาดนี้แล้ว!
ไม่รู้ว่าเจียงหลีเฮิ่นคิดอะไรอยู่ พลันแสดงท่าทางว่าเข้าใจ “ฉันว่าแล้วว่าทำไมนายตัดสินใจจะอยู่ที่นี่ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมกลับไป! ที่แท้ก็เพื่อผู้หญิงคนนี้! แม้แต่ลูกก็มีแล้ว คงไม่ใช่ว่านายเตรียมจะแต่งกับผู้หญิงคนนี้ใช่ไหม”
คำพูดนี้ของเจียงหลีเฮิ่นทำให้ในใจของเยี่ยหวันหวั่นหงุดหงิดขึ้นมา “นั่นมันแน่อยู่แล้ว! พวกเราจะแต่งกันแน่นอน! คุณมีปัญหารึไง”
เมื่อได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น สายตาของซือเยี่ยหานส่องประกายนิดๆ อย่างไม่ทันสังเกต
เจียงหลีเฮิ่นได้ยินแล้วก็ตกตะลึงอยู่บ้าง จึงมองไปที่ซือเยี่ยหานแล้วพูดขึ้นมา “เจ้าเก้า นายเอาจริงไหม ถ้าเกิดถูกแม่นาย...”
ซือเยี่ยหานเรียกชื่อเขา “เจียงหลีเฮิ่น”
เพราะถูกซือเยี่ยหานขัด เจียงหลีเฮิ่นจึงได้แต่หุบปากลง ไม่พูดมากอีก
เซี่ยเชียนชวนกระแอมไอทีหนึ่งแล้วดึงตัวเจียงหลีเฮิ่นมา “นายนี่นะ พูดเรื่องที่ไม่ควรพูดซะได้”
“ฉันเคยบอกไปแล้ว ฉันกับไม่เธอไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน” สีหน้าของซือเยี่ยหานเยียบเย็นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เยี่ยหวันหวั่นอดไม่ได้ที่จะกุมมือที่เย็นเฉียบนิดๆ ของชายหนุ่มไว้
ถึงแม้ซือเยี่ยหานจะปกปิดเอาไว้อย่างมิดชิด เยี่ยหวันหวั่นก็ยังรู้สึกได้ว่าอารมณ์ของเขาผิดปกติไปเล็กน้อย
บนโลกใบนี้ เรื่องที่สามารถส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของซือเยี่ยหานได้มีน้อยมาก
ดูเหมือนว่าการเอ่ยถึงแม่ของเขาจะเป็นข้อห้ามร้ายแรงของซือเยี่ยหาน อันที่จริงถ้าอ้างอิงจากประสบการณ์ชีวิตของซือเยี่ยหานแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแม่เกรงว่าคงจะย่ำแย่มาก
เพราะห่วงเรื่องบาดแผลทางจิตใจของเขา ดังนั้นเธอจึงไม่เคยถามถึงเรื่องของแม่เขามากนัก รู้แค่ว่าซือเยี่ยหานตัดความสัมพันธ์กับผู้เป็นแม่แล้ว
ฟังจากน้ำเสียงของเจียงหลีเฮิ่น แม่ของซือเยี่ยหาน ดูเหมือนจะ…ไม่ค่อยพอใจที่ซือเยี่ยหานจับคู่กับเธอสินะ
เยี่ยหวันหวั่นลองคิดดูแล้ว ก่อนหน้านี้น่าจะไม่พอใจเพราะฐานะไม่เหมาะสมกัน แต่ตอนนี้เธอกลับสู่ฐานะคุณหนูรองตระกูลเนี่ยแล้ว ยังไงก็นับว่าเหมาะสมกับตระกูลเก่าแก่อย่างตระกูลซือแล้วไม่ใช่เหรอ
พอคิดมาถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็เก็บความคิดไร้สาระกลับมา
ถึงยังไงซือเยี่ยหานก็บอกว่าตัดความสัมพันธ์กับแม่ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ไม่เกี่ยวกับพวกเธอแล้ว
ถังถังซบอยู่ตรงบ่าของซือเยี่ยหาน กะพริบดวงตากลมโตอย่างมึนงง “แม่ของพ่อเหรอครับ”
เยี่ยหวันหวั่นลูบหัวเด็กน้อย แล้วเบี่ยงหัวข้อไปซะ “ไปเถอะจ๊ะ พ่อกับแม่จะพาลูกไปกินของอร่อยนะ!”
เจ้าหนูน้อยพยักหน้าด้วยดวงตาที่ส่องประกาย “อื้อ!”
เมื่อเห็นพวกเขาสามคนหนึ่งครอบครัว เปลี่ยนจากไม้กลายเป็นเรือไปแล้ว เจียงหลีเฮิ่นก็เอ่ยด้วยท่าทีชอกช้ำราวกับผักกาดขาวของตัวเองถูกหมูแทะ “ผู้หญิงอย่างเธอมีมารยาที่สุดยอดจริงๆ!”
เยี่ยหวันหวั่นแบสองมือออก “คุณชมเกินไปแล้วจริงๆ ถ้าเซาปิ่งหมั่นโถวลูกกวาดก็นับเป็นมารยาดีๆ งั้นก็เอาเถอะ ถือว่าฉันมีมารยาดีเยี่ยมจริงๆ แล้วกัน! เฒ่าจันทราเป็นพยานให้ได้ ฉันไม่ได้ใช้มารยาอะไรเลยจริงๆ”
เจียงหลีเฮิ่นยิ้มเยาะ “โกหก โกหกแล้ว! ถ้าเธอไม่ได้ใช้มารยา งั้นเป็นเจ้าเก้าที่ประเคนตัวเข้าหาอ้อมแขนเธอรึไง”
เยี่ยหวันหวั่นไม่ทันได้พูด เสียงทุ้มต่ำของซือเยี่ยหานก็ดังมากจากด้านข้างแล้ว “แล้วนายจะทำไม”
เจียงหลีเฮิ่นพูดไม่ออกเลย…
—————————————————————————————
บทที่ 2214 ลูกชายผู้มีสองหน้า
“คุณเก้า อยู่กินข้าวที่พันธมิตรอู๋เว่ยด้วยกันเถอะ”
เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองเจียงหลีเฮิ่นอย่างได้ใจแวบหนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มละไมพลางมองไปที่ซือเยี่ยหาน
พอได้ฟังคำพูดของเยี่ยหวันหวั่นแล้ว ซือเยี่ยหานก็เงียบไปครู่หนึ่ง “ย้ายออกไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นชะงักไป
จริงด้วย ตอนนี้พันธมิตรอู๋เว่ยขนของออกจนเกลี้ยงแล้ว ทุกอย่างถูกย้ายไปไว้ที่สำนักงานของเดธโรสแล้ว แม้แต่ปากกาลูกลื่นกับที่ใส่ปากกาในห้องทำงานก็ไม่เหลืออยู่เลย
“ไม่นะครับ หม้อชามในห้องครัวยังไม่ทันได้ขนไปนะ!”
จู่ๆ เป่ยโต่วที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยขึ้นมา “วันนี้ที่ผมมาก็เพื่อมาขนหม้อชามพวกนั้น”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออกแล้ว…
พันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเธอ กลายเป็นโรงทานแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แม้แต่หม้อชามก็ยังจะเอาไปด้วยเหรอ ซื้อใหม่อีกชุดไม่ได้เหรอไง จะเปลืองเงินสักแค่ไหนกันเชียว
“ก่อนหน้านี้พี่เฟิงให้ผมขนไป แต่ผมลืม พี่เฟิงพี่อย่าเอาเรื่องผมเลยนะ” เป่ยโต่วยิ้มแล้วพูดกับเยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นเก็บความคิดของตัวเองกลับมาทันที…
“ไม่ต้องแล้ว” ซือเยี่ยหานหันไปบอกเยี่ยหวันหวั่น “ตามฉันกลับไปที่อาชูร่า”
เดิมทีเยี่ยหวันหวั่นอยากจะตอบรับ แต่พอลองคิดดูอีกทีแล้ว กลับส่ายหน้า
ในตอนนี้ พันธมิตรอู๋เว่ยและเดธโรสยังถ่ายโอนไม่เสร็จสิ้นดี ผู้อาวุโสและสมาชิกระดับสูงของพันธมิตรอู๋เว่ยมีปากเสียงกับพวกระดับสูงของเดธโรสเพราะเรื่องจัดสรรแบ่งหน้าที่ ทางนั้นยังมีเรื่องราวอีกมากมายรอให้ตัวเองไปจัดการ ตอนนี้ยังไปอยู่ที่อาชูร่าไม่ได้แน่ๆ
“คุณเก้า ทางนั้นยังมีธุระอีกมากที่ฉันยังไม่ได้จัดการ ต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อน” เยี่ยหวันหวั่นคิดดูแล้วจึงเอ่ยออกมา
ซือเยี่ยหานฟังแล้วไม่ได้พูดอะไรมากอีก ปล่อยถังถังลงบนพื้นอย่างนุ่มนวล ลูบหัวของถังถังด้วยความอ่อนโยน “พ่อไปก่อนนะ ลูกอยู่เป็นเพื่อนแม่เถอะ”
“ครับพ่อ” ถังถังผงกหัว
“รอเดี๋ยว…”
เยี่ยหวันหวั่นดึงซือเยี่ยหานไว้ “คุณเก้า ทางฉันยุ่งมาก คุณพาถังถังไปก่อนเถอะ รอฉันจัดการเรื่องทางนี้เรียบร้อยแล้วจะตามไป”
“ได้” ซือเยี่ยหานตอบรับ
ถังถังนิ่งไปแล้ว
“แม่ครับ ผมช่วยงานได้นะ” ดวงตากลมโตวาววับของถังถังจับจ้องไปที่เยี่ยหวันหวั่น
“ขอโทษนะจ๊ะถังถัง ตามพ่อกลับไปก่อนนะ ให้พ่อทำของอร่อยๆ ให้ลูกกินไง” เยี่ยหวันหวั่นส่งยิ้มให้ถังถังแล้วพูดตะล่อม
ถังถังได้ยินแล้วก็เงียบไปครู่หนึ่ง สุดท้ายถึงได้ตอบตกลง
“หิวแล้วใช่ไหม” ซือเยี่ยหานย่อตัวลง อุ้มถังถังขึ้นมาอีกครั้ง
ถังถังไม่พูดไม่จา จากนั้นก็มองเยี่ยหวันหวั่นแวบหนึ่ง แล้วถึงได้พยักหน้าตอบไป “หิวแล้วครับ ผมอยากกินข้าวฝีมือพ่อ”
“เจ้าเก้า ลูกชายนายเป็นเด็กดีจริงๆ” เซี่ยเชียนชวนมองซือเยี่ยหานด้วยความอิจฉาแวบหนึ่ง
เจียงหลีเฮิ่นบ่นกระปอดประแปดอยู่ด้านข้าง ผู้หญิงคนนี้คลอดเด็กน้อยที่ว่านอนสอนง่ายออกมาได้ยังไงกัน ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย!
ไม่นาน ซือเยี่ยหานก็อุ้มถังถังไว้แล้วออกไปจากพันธมิตรอู๋เว่ยพร้อมพวกเจียงหลีเฮิ่น
เมื่อเห็นถังถังและซือเยี่ยหานเข้ากันได้ดี ในใจของเยี่ยหวันหวั่นก็เต็มไปด้วยความพอใจ และอดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มปานบุปผา
….
“ปล่อยผมลงเถอะ ผมเดินเองได้”
เพิ่งออกจากอาคารหลักของพันธมิตรอู๋เว่ย ถังถังที่ถูกซือเยี่ยหานอุ้มไว้ในอ้อมแขน ก็พลันเปลี่ยนสีหน้าทันที พูดจาเหมือนติดจะรังเกียจอยู่บ้าง
ซือเยี่ยหานทำตัวไม่ถูกแล้ว…
ตอนที่มีแม่อยู่ด้วยและตอนที่ไม่มีแม่อยู่ด้วย ลูกชายเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย
หลังจากปล่อยถังถังลงแล้ว ถังถังก็ชี้ไปทางร้านอาหารที่อยู่ด้านหน้า “พ่อครับ พวกเราไปกินข้าวที่นั่นกันเถอะ”
พอได้ยินคำพูดนี้ของถังถัง เจียงหลีเฮิ่นก็ผงะไปเล็กน้อย “หลานชาย ก่อนหน้านี้นายอยากให้พ่อของนายทำอาหารให้นายกินไม่ใช่เหรอ”
ถังถังปรายตามองเจียงหลีเฮิ่นแวบหนึ่ง “เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย ตัวขี้เหร่”
คนที่รังแกคุณแม่ ไม่ใช่คนดีทั้งนั้น!
พอถังถังพูดออกมา เจียงหลีเฮิ่นก็ทึ่มทื่อไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ไอ้เด็กแสบคนนี้เรียกเขาว่ายังไงนะ?!
ตัวขี้เหร่งั้นเหรอ
—————————————————————————————