แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2257 อ่อนโยนมากอยู่ดี! / บทที่ 2258 บรรยากาศกระอักกระอ่วนมาก
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2257 อ่อนโยนมากอยู่ดี! / บทที่ 2258 บรรยากาศกระอักกระอ่วนมาก
บทที่ 2257 อ่อนโยนมากอยู่ดี!
“ใช่แล้ว ก็คนนั้นไง…ตุลาการหญิงเพียงคนเดียวของสภาตุลาการคนนั้น ชื่ออะไรนะ ใช่แล้ว อินหรงหรง คุณรู้จักใช่ไหม!”
“อินเยวี่ยหรง” ซือเยี่ยหานแก้ให้
เยี่ยหวันหวั่นรีบพยักหน้า “อื้อๆ ใช่ เป็นอินเยวี่ยหรง! ชื่อเสียงเลื่องลือมานานแล้ว พี่สาวคนนี้เป็นคนดุร้าย!
ได้ยินว่าเธอรับหน้าที่ลงโทษโดยเฉพาะ ตั้งแต่เธอเข้ารับตำแหน่ง สภาตุลาการชุดนี้ได้กลายเป็นชุดที่เข้มงวดกวดขันที่สุด ทำให้ทั้งสิบสองเขตต้องหวาดผวา ทุกคนตื่นตระหนก กลัวว่าจะถูกสภาตุลาการเชิญไปดื่มน้ำชา!
จุ๊ๆๆ เป็นพี่สาวที่สวยขนาดนี้ แต่ทำไมถึงโหดร้ายแบบนี้!”
เยี่ยหวันหวั่นเรียกพี่สาวคำแล้วคำเล่า สีหน้าของซือเยี่ยหานก็แปลกพิกลอยู่บ้าง สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยแก้ให้เธอ
เยี่ยหวันหวั่นพูดต่อไปว่า “ได้ยินมาว่าเธอลงมือฆ่าสามีที่นอกใจด้วยมือตัวเอง สับสามีเป็นชิ้นๆ ดื่มเลือดกินเนื้อ ถึงขั้นที่แม้แต่ลูกชายแท้ๆ ก็ถูกฆ่าแล้วเอามาต้มกิน! แถมเธอยังเชี่ยวชาญการใช้พิษเป็นพิเศษ มีพิษอยู่ทั่วทั้งตัว ถ้ามีคนไปแตะเธอเข้าสักหน่อยจะต้องตายทั้งหมด ดังนั้น ถึงแม้หน้าตาจะสวยขนาดนี้ แต่กลับไม่มีใครกล้าแหยมกับเธอเลย!”
ก่อนหน้านี้เยี่ยหวันหวั่นสังเกตเห็นว่าคนอื่นๆ ต่างก็ไม่มีใครกล้ายืนใกล้อินเยวี่ยหรงจนเกินไป
เมื่อซือเยี่ยหานได้ฟังคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น สีหน้าก็ยากจะบรรยายได้อยู่บ้าง “เธอไปฟังข่าวมาจากไหน”
เยี่ยหวันหวั่นกะพริบตา “ก็แค่ข่าวซุบซิบนินทาน่ะ ดูเหมือนเป่ยโต่วจะไปเอามาจากไหนก็ไม่รู้”
ซือเยี่ยหานไม่พูดอะไรแล้ว…
เยี่ยหวันหวั่นมองอินเยวี่ยหรง มองแวบหนึ่ง แล้วก็มองอีกแวบหนึ่ง สมองพลันแล่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีตรงไหนที่ไม่ถูกต้องอยู่
น่าแปลก ผู้หญิงคนนี้…ทำไมยิ่งมองยิ่งคุ้นตาล่ะ
เยี่ยหวันหวั่นมองไปที่ซือเยี่ยหานตามสัญชาตญาณ ผลลัพธ์ก็คือค้นพบว่า ผู้หญิงคนนี้มีหน้าตาค่อนข้างคล้ายคลึงกับซือเยี่ยหาน!
นี่มันอะไรกันเนี่ย
เยี่ยหวันหวั่นกุมใบหน้าของซือเยี่ยหานไว้ทันที “ที่รัก คุณอย่าอ่อนโยนแบบนี้สิ คุณจริงจังหน่อย มองฉันให้ดุดันกว่านี้หน่อย!”
ซือเยี่ยหานก็ไม่เข้าใจว่าเยี่ยหวันหวั่นคิดจะทำอะไรอีก แต่ยังคงทำตามอยู่ดี แสดงท่าทางเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย
เยี่ยหวันหวั่นส่ายหน้า “ไม่ได้ๆ ดุกว่านี้อีก!”
ซือเยี่ยหานจนปัญญา เม้มริมฝีปากแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ “ดุกว่านี้ไม่ได้แล้วเหรอ” ยังอ่อนโยนมากอยู่ดี!
ซือเยี่ยหานตอบสั้นๆ “นี่สุดขีดแล้ว”
เยี่ยหวันหวั่นถอดใจแล้ว “ช่างเถอะๆ…”
ซือเยี่ยหานหลุดยิ้ม พลางมองหญิงสาว “เป็นอะไร”
เยี่ยหวันหวั่นส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ทำไมฉันรู้สึกว่าอินเยวี่ยหรงคนนั้นหน้าตาเหมือนคุณอยู่บ้างกันนะ น่าจะหลอนไปเองแล้ว!”
สีหน้าของซือเยี่ยหานตะลึงไปเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยว่า “น่าจะไม่ได้หลอนหรอก”
เยี่ยหวันหวั่นมึนงง “หา?”
ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นคุยกับซือเยี่ยหานอยู่ สายตาที่เมื่อครู่นี้ทำให้เยี่ยหวันหวั่นอึดอัดมากก็พุ่งมาทางเธอ มองสำรวจเธอตามอำเภอใจอย่างไม่หลบเลี่ยงเลยสักนิด
จากนั้น ก็มองเห็นว่าอินเยวี่ยหรงเปิดปากเอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “คุณหนูเนี่ยใช่ไหม ถ้าฉันจำไม่ผิด ชื่อเธอยังอยู่ในลำดับแรกของใบสั่งเอาชีวิตเป็นการลับของสภาตุลาการนะ ถึงแม้จะมีเจ้าเก้าปกป้องเธอ แต่เธออย่าเหลิงดีใจเกินไปจะดีที่สุด การปกป้องจากเขาเป็นเพียงเรื่องชั่วคราว ชื่อเธอยังไม่ถูกลบไปจากทำเนียบสั่งฆ่าของสภาตุลาการอย่างถาวรหรอกนะ”
เยี่ยหวันหวั่นถูกสายตาที่ราวกับใบมีดของผู้หญิงคนนั้นทำให้อึดอัดไปทั้งตัว ที่แท้เธอไม่ได้หลอนไปเอง เธอถูกเพ่งเล็งจริงๆ
ปฏิกิริยาต่อมาของเยี่ยหวันหวั่นคือคำที่ผู้หญิงคนนี้เรียกซือเยี่ยหาน “เจ้าเก้าเหรอ”
คำเรียกขานแบบนี้ออกจะสนิทสนมเกินไปไหม
ซือเยี่ยหานที่อยู่ด้านข้างมองหญิงสาวอย่างเยียบเย็น สายตาไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิด “ตุลาการอิน การปกป้องของผมไม่ใช่เรื่องชั่วคราว ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำพูดของคุณ คุณล้ำเส้นแล้ว”
—————————————————————————————
บทที่ 2258 บรรยากาศกระอักกระอ่วนมาก
พอพูดจบ ผู้หญิงคนนั้นทำราวกับได้ยินถ้อยคำอะไรที่ทำให้เธอยากจะทนรับได้ จึงโมโหขึ้นมาทันที แม้แต่ใบหน้าก็บิดเบี้ยวแล้ว “เนรคุณ! แกกล้าพูดแบบนี้กับฉันเหรอ!”
เวลานี้ ตุลาการร่างท้วมที่อยู่ด้านข้างออกมาไกล่เกลี่ยแล้ว “แค่ก เฮ้อ เอาละๆ พวกเธอสองแม่ลูกมีอะไรทำไมไม่คุยกันดีๆ ล่ะ”
เวลานี้เอง ลูกตาของเยี่ยหวันหวั่นแทบจะถลนออกมาแล้ว
มะ…แม่ลูก…
อินเยวี่ยหรงเป็นแม่ซือเยี่ยหานเหรอ
“แค่กๆๆๆ…” เยี่ยหวันหวั่นสำลักแล้ว “อินเยวี่ยหรงเป็นแม่คุณเหรอ”
ซือเยี่ยหานเงียบไป ผ่านไปครู่หนึ่งถึงตอบว่า “ฉันกับเธอไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว”
เยี่ยหวันหวั่นน้ำตานองหน้าแล้ว หมายความว่าเป็นแม่ของเขาจริงๆ สินะ
ซวยแล้ว!
เมื่อกี้เธอยังพูดนินทาแม่ของซือเยี่ยหานให้เขาฟังอยู่นานขนาดนั้น…
บรรยากาศในตอนนี้กระอักกระอวนมาก
อินเยวี่ยหรงคล้ายจะไม่อยากเสียท่าทางต่อหน้าคนนอก จึงฝืนข่มความโกรธไว้ “ไป!”
หันหลังก้าวออกไปได้ครึ่งทาง จู่ๆ หญิงสาวก็หันกลับมา ความเข้มงวดบนสีหน้าเลือนหายไปหมดแล้ว จากนั้นก็มองซือเยี่ยหานอย่างอ่อนโยน “ลูกเก้า ลูกชายคนดีของแม่ แม่เคยให้โอกาสลูกไปแล้ว อย่าบังคับแม่ ตกลงไหม”
เวลานี้ สีหน้าของผู้หญิงคนนั้นเรียกได้ว่าอ่อนหวานจนถึงขีดสุด แต่ว่า เมื่อปรากฏอยู่บนใบหน้างดงามที่ไร้ซึ่งร่องรอยแห่งกาลเวลาดวงนั้นแล้ว กลับทำให้คนขนลุกขึ้นมา
เมื่อซือเยี่ยหานได้ยินคำพูดของผู้หญิงคนนั้น ลมหายใจของซือเยี่ยหานก็นิ่งลงแทบจะในทันที เยี่ยหวันหวั่นสัมผัสได้ว่าฝ่ามือใหญ่ที่อยู่ในมือพลันกระชับแน่นขึ้นมา บีบจนเธอเจ็บกระดูกไปหมดแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นหลุบตาลง บีบกระชับฝ่ามือใหญ่ของชายหนุ่มตอบโต้ไป ร่างกายของซือเยี่ยหานถึงได้ค่อยๆ ผ่อนคลายลง
วิกฤตการณ์ที่แทบจะถล่มรัฐอิสระได้ในที่สุดก็ได้รับการแก้ไขแล้ว
สายหลักคล้ายกลัวว่าจะถูกอี้สุ่ยหานเล่นงาน พอเห็นสภาตุลาการพาคนจากไปแล้ว ก็อพยพออกจากสนามรบแทบจะเป็นกลุ่มแรกๆ ตามด้วยสายรองที่พากันแยกย้ายจากไปอย่างเงียบเชียบ สุดท้ายกลุ่มอำนาจต่างๆ และสี่ตระกูลใหญ่ก็ทยอยกันจากไป…
ในสนามรบอันกว้างใหญ่ อี้สุ่ยหานยืนอยู่ตรงใจกลางเพียงลำพัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความว่างเปล่าและสับสน
คนใกล้ชิดที่สุดกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจ ไม่มีเรื่องไหนน่าตลกมากไปกว่านี้แล้ว
ทางด้านเยี่ยหวันหวั่นก็ว้าวุ่นอยู่กับตัวเอง ไม่รู้ว่าควรจะพูดปลอบใจยังไงดี ได้แต่คิดว่าพอกลับไปจะให้ถังถังไปปลอบใจเขาแล้วกัน
หัวหน้าตระกูลและนายหญิงตระกูลเนี่ยคล้ายจะนึกห่วงหาลูกชาย นายหญิงเนี่ยจับมือเนี่ยอู๋หมิงไว้ “ลูกจ๋า พวกเรากลับบ้านกันเถอะ กลับบ้านกันนะ ดีไหม”
เนี่ยอู๋หมิงมองพ่อแม่ น้องสาว และคุณตาที่อยู่รอบตัว เมื่อเห็นในครอบครัว หมอกครึ้มในดวงตาก็พลันสลายไปทีละนิดๆ
ซือเยี่ยหานมองอวี๋เซ่ารองผู้นำสหพันธ์ที่อยู่ด้านหลังแวบหนึ่ง จากนั้นอวี๋เซ่าก็พยักหน้าอย่างรู้กัน แล้วเดินไปหยุดตรงหน้าเนี่ยอู๋หมิง “คุณชายเนี่ยครับ ผมจะพาคุณไปพบคุณหนูหลิงเหมี่ยว”
ดวงตาของเนี่ยอู๋หมิงส่องประกายขึ้นมาทันที รีบเอ่ยขึ้นว่า “เธอเป็นยังไงบ้าง รีบพาฉันไปหาเธอ!”
ซือเยี่ยหานที่อยู่ด้านข้างพูดออกมา “วางใจเถอะ ตอนแรกซือเซี่ยอยากจะใช้เธอข่มขู่ จึงไม่ได้ทำร้ายเธอ”
พอพูดจบก็เอ่ยต่อไปว่า “สำหรับกฎของสภาตุลาการ อันที่จริงมีคนไม่น้อยเลยที่ไม่พอใจ ฉันจะคิดหาวิธี เพียงแต่การยื่นคำร้องปรับแก้กฎระเบียบอาจจะผ่านหรือไม่ผ่านก็ได้ ฉันยังต้องไปหาใครบางคนก่อน ยังให้คำตอบที่ชัดเจนกับนายไม่ได้ในตอนนี้”
เนี่ยอู๋หมิงมองซือเยี่ยหานด้วยสายตาที่ซับซ้อนแวบหนึ่ง และสุดท้ายก็ถอนหายใจออกมา ตบบ่าซือเยี่ยหาน พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เป็นครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น ฉันก็จะไม่พูดขอบคุณนายหรอกนะ”
ซือเยี่ยหานหลุดยิ้ม ประโยคนี้ก็คือคำขอบคุณที่ดีที่สุดแล้ว
หัวหน้าตระกูลและนายหญิงตระกูลเนี่ยที่ได้ยินประโยคนี้ ท่าทางเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกมา
—————————————————————————————