แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2269 คู่หมั้นของผมอยู่ที่นั่น / บทที่ 2270 สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดแน่วแน่มาก
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2269 คู่หมั้นของผมอยู่ที่นั่น / บทที่ 2270 สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดแน่วแน่มาก
บทที่ 2269 คู่หมั้นของผมอยู่ที่นั่น
ระหว่างที่กินเลี้ยง ฉินจงกับซือเยี่ยหานคุยเรื่องงานที่ไม่สลักสำคัญบางส่วน เมื่อเห็นว่าบรรยากาศได้ที่แล้ว ก็ตั้งใจชักนำหัวข้อสนทนาไปหาฉินซีย่วน
“ก่อนหน้านี้ย่วนย่วนของฉันเคยเดินทางไปตามที่ต่างๆ อยู่ตลอด” ฉินจงเอ่ยขึ้น
เวลานี้ ฉินซีย่วนก็แสร้งเอ่ยถามเหมือนไม่ได้ตั้งใจว่า “ใช่แล้ว คุณชายซือ ในเมื่อคุณเป็นคนเมืองเทียนสุ่ย ทำไมถึงไปอยู่ที่เมืองอวิ๋นตลอดเลยล่ะคะ”
ซือเยี่ยหานวางนิ้วลงบนแก้วเหล้าพอร์ซเลนเบาๆ แล้วเอ่ยอย่างไม่เร็วไม่ช้า “ตัวผมอยู่ที่ไหนก็ไม่สำคัญหรอก แต่ว่าคู่หมั้นของผมอยู่ที่เมืองอวิ๋น”
เวลานี้หลินเชวียเกาะขอบประตูด้วยความอยากรู้อยากเห็นสุดๆ แล้ว พอได้ยินประโยคนี้ ในใจก็อดไม่ได้ที่เกิดความนับถือขึ้นมา พี่เก้าสุดยอดเลย
รอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้าของฉินซีย่วนแข็งทื่อไปหลายส่วนจริงๆ แต่ก็กลับมาเป็นธรรมชาติอย่างรวดเร็ว หันเหหัวข้อสนทนาแล้วพูดคุยต่อไป “งั้นเหรอคะ ฉันเพิ่งกลับมาที่เมืองเทียนสุ่ย มีเพื่อนที่คุ้นเคยอยู่ไม่มาก ปกติแล้วงานอดิเรกที่ทำบ่อยที่สุดก็คือฝึกฝนวรยุทธ์ ยิงธนู แล้วก็ศึกษาวิชาแพทย์บ้างนิดหน่อย
ไม่ทราบว่าคุณชายซือมีงานอดิเรกอะไรบ้างคะ วิชาแพทย์ของคุณน้าอินร้ายกาจขนาดนี้ เดาว่าคุณชายซือก็ย่อมเป็นสีน้ำเงินที่เกิดจากต้นครามแต่เข้มกว่าครามแน่นอน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีเวลาว่างมาเรียนรู้ด้วยกันนะคะ”
หลินเชวียที่กำลังแอบฟังอยู่ตรงมุมร้องจุ๊ๆ เริ่มลงมือจากงานอดิเรกอีกครั้ง!
สีหน้าของซือเยี่ยหานไม่เปลี่ยนแปลงเลย “ไม่มีอะไรเป็นพิเศษครับ แค่ฝึกวรยุทธ์ ยิงธนู อ่านหนังสือเป็นเพื่อนลูกชาย”
ฉินซีย่วนเหวอไปแล้ว…
ฉินจงก็ชะงักไป…
น็อคเอ้าท์…
แค่สองประโยคสั้นๆ ซือเยี่ยหานก็ตัดวงจรสนทนาได้แล้ว
สุดท้าย มื้ออาหารก็สิ้นสุดลงด้วยบรรยากาศที่แปลกประหลาด
ฉินจงเอ่ยด้วยสีหน้าหงุดหงิด “ไอ้หนุ่มนี่ ไม่คิดเลยว่าจะไม่ดีรู้ชั่วแบบนี้!”
เขาไม่เชื่อหรอกว่าซือเยี่ยหานไม่รู้ว่าวันนี้ที่เชิญมาเป็นแขกมีความหมายว่ายังไง
แต่ฉินซีย่วนกลับไม่มีท่าทีโกรธเคืองเลย ทำเพียงเอ่ยยิ้มๆ ว่า “หนูกลับชอบยิ่งกว่าเดิมอีก! พวกชอบเกาะติดแบบนั้นหนูเคยเจอมาเยอะ เห็นจนอยากอาเจียนแล้ว! แต่คนนี้กลับไม่เหมือนใคร!”
“แต่ไอ้หนุ่มคนนี้ แม้แต่ครอบครัวก็มีแล้ว พูดจาเฉยเมย มองจากนิสัยคงไม่มีทางเอาใจใครแน่นอน ลูกแน่ใจเหรอว่าถูกใจไอ้หนุ่มคนนี้”
ฉินซีย่วนพยักหน้า “แต่ ได้ยินว่าคู่หมั้นคนนั้นของเขาจัดการไม่ง่ายเลยนะคะ…”
ฉินจงเผยท่าทีดูแคลน “ขอแค่ลูกสาวสุดที่รักของพ่อชอบ ต่อให้ดาวบนฟ้าพ่อก็เด็ดลงมาให้ลูกได้ นับประสาอะไรกับตระกูลจากเขตชายขอบเล็กๆ ในสิบสองเขตรัฐอิสระนี้ ไม่ว่าลูกจะชอบผู้ชายแบบไหน พ่อก็สามารถทำให้เขาว่านอนสอนง่ายได้!”
ถึงยังไงก็มีใครหน้าไหนกล้าแย่งลูกเขยของรองประธานสภาตุลาการอย่างเขาอยู่แล้ว
“ขอบคุณค่ะพ่อ รู้อยู่แล้วว่าพ่อดีที่สุดเลย! อย่าลืมช่วยสร้างโอกาสให้หนูด้วยนะคะ!”
“ลูกนี่นะ ถ้ามีแฟนอย่าลืมพ่อคนนี้แล้วกัน!”
“ไม่มีทางอยู่แล้วค่ะ!”
….
หลังออกจากภัตตาคาร ซือเยี่ยหานเพิ่งขึ้นรถ ยังไม่ทันนั่งให้ดี จู่ๆ ริงโทนมือถือก็ดังขึ้นแล้ว เป็นสายจากเยี่ยหวันหวั่น
สีหน้าของซือเยี่ยหานวูบไหวนิดๆ ชะงักไปเล็กน้อยก่อน ผ่านไปสองสามวินาที ถึงได้กดรับสาย ทักทายด้วยน้ำเสียงปกติ “ฮัลโหล หวันหวั่น!”
“ที่รัก ทางคุณราบรื่นดีไหม” น้ำเสียงมีชีวิตชีวาของเยี่ยหวันหวั่นแว่วดังมาจากปลายสาย
ซือเยี่ยหานตอบพลางพยักหน้าไปด้วย “ทุกอย่างราบรื่นดี ไม่ต้องห่วง”
นอกหน้าต่างรถคือคลื่นการจราจร มีเสียงแตรรถหลายคันแว่วมาในเวลานี้
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยความฉงน “เอ๊ะ ดึกขนาดนี้แล้ว คุณยังอยู่ข้างนอกเหรอ”
ซือเยี่ยหานตอบสั้นๆ “มีนัดมื้อค่ำน่ะ”
“นัดกินข้าวเหรอ กับใครล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ลากสูงแล้ว
ซือเยี่ยหานตอบไปตามตรง “คนของสภาตุลาการ”
เยี่ยหวันหวั่นถามต่อไป “ผู้ชายหรือผู้หญิง”
—————————————————————————————
บทที่ 2270 สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดแน่วแน่มาก
เมื่อหลินเชวียที่อยู่ด้านข้างได้ยินคำถามนี้ หัวใจก็พลันเต้นผิดจังหวะ ใจเต้นแรงขึ้นมาทันที
อย่าปล่อยให้ท่านบรรพบุรุษน้อยคนนี้รู้อะไรเข้าเลย…
ซือเยี่ยหานตอบง่ายๆ “ทั้งหญิงทั้งชาย”
เยี่ยหวันหวั่นถามต่ออีก “ไอ้หยา มีผู้หญิงด้วยเหรอ เป็นใครกัน”
ซือเยี่ยหานตอบอย่างคลุมเครือ “ครอบครัวของรองประธานสภาตุลาการ”
เยี่ยหวันหวั่นยังคงซักไซ้ไม่เลิก “โอ้ อายุเท่าไร หน้าตาดีรึเปล่า”
ซือเยี่ยหานโกหกหน้าตาย “ใกล้สี่สิบแล้ว ไม่ได้ใส่ใจหน้าตาเลย”
ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็คล้ายจะสบายใจแล้ว “โอเค ช่วยไม่ได้นี่นา คุณอยู่เมืองเทียนสุ่ยคนเดียวอันตรายเกินไปแล้วจริงๆ ถ้าถูกหมายตาขึ้นมาจะทำยังไง!”
ซือเยี่ยหานเงียบไป…
หลินเชวียนึกในใจ ถูกหมายปองไปแล้วนั่นแหละ!
เยี่ยหวันหวั่นพูดต่อไปว่า “คุณเก้า ฉันจะบอกคุณนะ เมื่อวานเจ้าหนุ่มกงซวี่คนนั้นส่งข้อความมาหาฉัน ให้ฉันช่วยเลือกบทให้เขา หลังจากฉันพลิกดูแล้วเจอบทละครที่น้ำเน่าเป็นพิเศษเรื่องหนึ่ง
แม่พระเอกไม่ชอบนางเอก ไม่อยากให้พระเอกอยู่กับนางเอก เพื่อจะรั้งพระเอกไว้ เลยจัดหาผู้หญิงที่สวยกว่าคนหนึ่งมายั่วยวนพระเอก ผลเป็นไงน่ะเหรอ พระเอกอดทนต่อบททดสอบไม่ได้น่ะสิ จากนั้นฉันนึกถึงพวกเราสองคน สถานการณ์เหมือนกันเป๊ะเลย…”
หลินเชวียที่กางหูฟังมาถึงตรงนี้ หัวใจแทบจะกระเด้งมาถึงคอหอยแล้ว มองซือเยี่ยหานด้วยความกระวนกระวาย
น้ำเสียงของซือเยี่ยหานยังคงสงบมั่นคง “นั่นเป็นแค่บทละคร ชีวิตจริงไม่มีเรื่องแบบนี้หรอก”
เยี่ยหวันหวั่นเถียงทันที “จะไม่มีได้ยังไง! ถึงแม้นี่จะเป็นบทละคร เนื้อหาก็น้ำเน่ามาก แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดขึ้นไม่รู้รึไง”
ซือเยี่ยหานตอบเรียบๆ “ไม่มีผู้หญิงที่ดูดีไปกว่าเธอแล้ว”
เยี่ยหวันหวั่นเงียบไปแล้ว…
หลินเชวียก็นิ่งไปเช่นกัน
เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะขึ้นมา “ฮี่ๆ ที่รัก ฉันชอบความพูดตรงๆ ของคุณชะมัด!”
หลังจากซือเยี่ยหานพูดจบ เยี่ยหวันหวั่นที่อยู่ปลายสายก็ถูกโอ๋จนอารมณ์ดีแล้ว เธอจึงจุ๊บมือถือทีหนึ่งด้วยความดีใจ จากนั้นก็วางสายไป
หลินเชวียฟังบทสนทนาของคนทั้งสอง แล้วทอดถอนใจด้วยความทึ่ง สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดของพี่เก้า แน่วแน่มาก…
ทุกคำตอบนั้นไม่มีปัญหา แต่ทุกคำตอบต่างก็ผ่อนหนักเป็นเบา
ที่เด็ดที่สุดคือการบอกว่าฉินซีย่วนอายุเกือบสี่สิบแล้ว
แต่ซือเยี่ยหานก็บอกว่าไม่ได้สนใจชาวบ้านเท่าไร ดังนั้นถ้าอายุไม่ชัดเจนคุณก็โทษเขาไม่ได้…
คำหวานประโยคสุดท้ายยิ่งปิดท้ายได้อย่างงดงาม…
หลินเชวียอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ นับตั้งแต่มีความรักในบางด้านพี่เก้าก็พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดเลยจริงๆ
รอจนวางสายแล้ว ซือเยี่ยหานก็นวดหว่างคิ้ว ดูโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ง่ายเลยกว่าทางเขาจะเกลี้ยกล่อมเยี่ยหวันหวั่น ให้เธอเป็นเด็กดีรอฟังข่าวจากเขาอยู่ทางนั้น จึงไม่อาจบอกเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้กับเธอได้…
มรสุมเล็กๆ นี้จบลงอย่างรวดเร็ว เชื่อว่าหลังจากที่เขาแสดงท่าทีออกไปฉินจงน่าจะล้มเลิกความคิดแล้ว
เขาแน่ใจว่าการตัดสินใจนี้ของตัวเองจะทำให้เรื่องราวหลังจากนี้ของเขาทวีความยากขึ้นไปอีก แต่เขาก็ไม่คิดจะก้าวเดินไปตามทางเดินของฉินจงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
แต่ว่า…
ครั้งนี้ ซือเยี่ยหานคิดไม่ถึงเลยว่าจะปรากฏสถานการณ์ที่ทำให้เขาตึงมือขึ้นในภายหลัง
รุ่งเช้าวันต่อมา
ณ ตึกสำนักงานใหญ่ของสภาตุลาการ ฉินจงพาฉินซีย่วนมาศึกษาดูงาน
ฉินซีย่วนไม่เพียงแต่ศึกษากฎหมายของสิบสองเขตรัฐอิสระอย่าทะลุปรุโปร่ง แต่ยังแตกฉานในกฎหมายของทั่วโลกด้วย ดังนั้นจึงมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาอาวุโสของสภาตุลาการ
เห็นได้ชัดว่าฉินจงก็ต้องการผลักดันให้เธอได้ขึ้นเป็นตุลาการด้วย
บนทางเดิน ฉินซีย่วนถูกบรรดาพนักงานกลุ่มหนึ่งห้อมล้อมไว้ตรงกลางเหมือนดาวล้อมเดือน
เพียงแต่ เวลานี้ซือเยี่ยหานกำลังอยู่ที่คลังเอกสารชั้นบนสุด แม้ว่าฉินซีย่วนจะเดินจนทั่วก็ไม่ได้เจอเขา
จนถึงตอนเย็น ฉินซีย่วนเลยใช้แผนเฝ้าโพรงดักกระต่าย ในที่สุดก็รออยู่ที่ประตูจนได้พบเขา
—————————————————————————————