แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2273 ท่าทางสุขุมของผู้เป็นหลวง / บทที่ 2274 กินยาผิดรึเปล่า
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2273 ท่าทางสุขุมของผู้เป็นหลวง / บทที่ 2274 กินยาผิดรึเปล่า
บทที่ 2273 ท่าทางสุขุมของผู้เป็นหลวง
พอเห็นว่าพวกเขาไม่พูด เยี่ยหวันหวั่นเลยทำได้แค่ขานชื่อแล้ว “เป่ยโต่ว นายว่ามา”
พอเป่ยโต่วถูกขานชื่อ ก็ได้แต่ลุกขึ้นมาน้ำตานองหน้า เกาหัวเหาหูอยู่นานสองนาน สุดท้ายก็ชี้ไปที่สนามหญ้าสีเขียวใต้เท้าเยี่ยหวันหวั่น “นั่นน่ะ…พี่เฟิง พี่ดูสิ ที่พี่เหยียบอยู่เรียกว่าอะไร”
เยี่ยหวันหวั่นสีหน้ามึนงง “ที่ฉันเหยียบอยู่…หญ้าเหรอ”
เป่ยโต่วชี้ไปทางใบไม้ด้านข้าง “พี่เฟิง พี่ดูสีของต้นไม้ต้นนี้สิ พิเศษใช่ไหมล่ะ…โดดเด่น…เป็นพิเศษ…”
เยี่ยหวันหวั่นไม่เข้าใจเท่าไร “เขียวชอุ่ม…เหรอ”
เป่ยโต่วพยักหน้ารัวๆ “ใช่ๆๆ! นี่ต้นหญ้า นี่ใบไม้! เขียวชอุ่ม! เขียวขจีเลย!”
เส้นเลือดบนหน้าผากของเยี่ยหวันหวั่นเต้นตุบๆ แล้ว จึงส่งลูกเตะไปทีหนึ่ง “บอกฉันมา!”
เป่ยโต่วตะโกนขึ้นมาทันที “พี่เฟิง! พี่ได้เขียวแล้ว…”
เยี่ยหวันหวั่นชะงักไป
ผ่านไปราวสามวินาที เยี่ยหวันหวั่นก็มองเป่ยโต่วด้วยสีหน้างุนงง คล้ายจะไม่เข้าใจความหมายของเขาไปชั่วขณะ “นายว่าอะไรนะ”
เวลานี้ ฟู่หมิงซีก้าวออกมาอย่างระมัดระวัง แล้วยื่นมือถือส่งให้ “ผู้นำ คุณดูเอาเองเถอะครับ!”
เยี่ยหวันหวั่นกดเปิดอย่างรวดเร็ว กวาดสายตามองแวบหนึ่ง จากนั้นก็มองเห็นพาดหัวข่าวที่ใหญ่มหึมานั้น รวมถึงภาพประกอบข่าว
พวกเป่ยโต่วและฟู่หมิงซีที่อยู่ด้านข้างกลั้นหายใจเฝ้ามองปฏิกิริยาของเยี่ยหวันหวั่น พลางค่อยๆ ถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว
หลังจากเยี่ยหวันหวั่นอ่านเนื้อหาของข่าวนั้นต่อ ก็นึกขึ้นได้ทันทีว่า ช่วงเวลาในข่าวนี้ เยี่ยหวันหวั่นโทรไปหาซือเยี่ยหาน…
ตอนนั้นซือเยี่ยหานบอกว่าผู้หญิงที่อยู่ในงานเลี้ยงอาหารค่ำอายุเกือบสี่สิบแล้วชัดๆ…
แต่ตอนนี้มีรูปมีข้อมูลจริง ก็แปลว่า ซือเยี่ยหานตั้งใจปิดบังเธอ…
‘ฟึ่บ’ เยี่ยหวันหวั่นยกมือขึ้นมา…
“อ๋า! พี่เฟิงพี่ใจเย็นก่อน!” เป่ยโต่วกระโดดด้วยความตกใจ
เยี่ยหวั่นหวั่นปรายตามองเขาแวบหนึ่ง จากนั้นก็ยกมือโยนมือถือเครื่องนี้ใส่มือเขา “พล่ามอะไรอยู่ ก็แค่ข่าวซุบซิบนินทาไม่ใช่เหรอ”
“เอ่อ…พี่เฟิง...พี่ไม่โกรธเหรอ…” เป่ยโต่วถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ
ฟู่หมิงซีก็ถามด้วย “ผู้นำ คงไม่ใช่ว่าผู้นำโมโหจนเลอะเลือนไปแล้วใช่ไหมครับ”
เยี่ยหวันหวั่นเอนตัวพิงต้นไม้ใหญ่ด้านหลัง พลางยื่นมือไปลูบคลำจับลำต้นด้วยท่าทางนิ่งเฉย เอ่ยตอบว่า “มีอะไรน่าโกรธกัน ข่าวนี่มองแวบเดียวก็รู้เป็นการสร้างข่าว เป็นข่าวลวงที่จงใจเอามาดึงดูดความสนใจของผู้คน!”
ผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสใหญ่สบตากันแวบหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงเช่นกันว่าผู้นำของตัวเองจะสุขุมขนาดนี้
“ผู้นำปราดเปรื่อง! พูดถูกที่สุดแล้วครับ!” ผู้อาวุโสสามเอ่ยประจบ
ใบหน้าของผู้อาวุโสใหญ่ก็เต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม แล้วเอ่ยอย่างตื้นตันมากว่า “ท่านผู้นำมีสง่าราศีสมกับผู้นำขึ้นเรื่อยๆ แล้ว!”
ฟู่หมิงซีเห็นสถานการณ์แล้วแทบจะไม่อยากจะเชื่อเลยจึงเอ่ยขึ้นว่า “แต่ว่า ผู้นำครับ รูปนี้ถูกตีพิมพ์ออกมาแล้ว! ถ้าเป็นแค่งานเลี้ยงอาหารค่ำธรรมดาๆ รองฉินจะพาลูกสาวของเขามาทำไมล่ะครับ แถมยังมีแค่พวกเขาสามคนด้วย! นี่เป็นการพาไปพบปะครอบครัวตามธรรมเนียมชัดๆ! ผู้นำครับ คุณไม่ใส่ใจสักนิดเลยจริงๆ เหรอครับ”
เยี่ยหวันหวั่นแค่นเสียงเบาๆ ตอบด้วยท่าทางสุขุมของผู้เป็นหลวง “ผู้ชายออกไปสังสรรค์ข้างนอกจะพบเจอเรื่องแบบนี้บ้างก็เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว มีอะไรให้ใส่ใจกัน ในสายตาของพวกนาย ฉันที่เป็นผู้นำของพวกนายเป็นคนที่ชอบทำให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่โวยวายอาละวาดแบบนั้นงั้นเหรอ”
ฟู่หมิงซี เป่ยโต่ว ผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสรองเงียบไป..
แล้วไม่ใช่รึไง
เยี่ยหวันหวั่นโบกมือ “เอาละๆ แยกย้ายกันไปได้แล้ว ก็แค่ข่าวกอสซิปเท่านั้น ฉันไม่ใช่คนขี้หึงแบบนั้นหรอกนะ!”
พวกเป่ยโต่วได้รับคำยืนยันอยู่หลายครั้ง พบว่าเยี่ยหวันหวั่นไม่มีความคิดจะอาละวาดจริงๆ ถึงได้โล่งใจในที่สุด
มีแค่ชีซิงที่ขยับย้ายตำแหน่งเล็กน้อย มองต้นไม้ที่ผู้นำของตัวเองใช้มือลูบเมื่อครู่นี้แวบหนึ่ง
มองเห็นเพียงว่าด้านข้างของลำต้น ปรากฏโพรงที่เกิดจากนิ้วมือทั้งห้าจิกเข้าไป…
ชีซิงได้แต่ปิดปากเงียบ…
—————————————————————————————
บทที่ 2274 กินยาผิดรึเปล่า
“ผู้นำครับ ผู้นำไม่โกรธจริงๆ เหรอ” ฟู่หมิงซีถามอย่างไม่ยินยอมอยู่บ้าง
เยี่ยหวันหวั่นโบกมือไล่ด้วยความหงุดหงิด “เลิกโวยวายได้แล้ว ไปเล่นทางนู้นไป ผู้นำอย่างฉันเป็นผู้หญิงที่ร้องไห้โวยวายจุกจิกไร้เหตุผลแบบนั้นรึไง พวกนายเข้าใจอะไรฉันผิดไปรึเปล่า!”
“แค่ก ผู้นำพูดถูกแล้วครับ…”
….
ณ เมืองเทียนสุ่ย
ทางซือเยี่ยหานเห็นข่าวก็เตรียมโทรหาเยี่ยหวันหวั่น
แต่ผลคือทางนี้เพิ่งหยิบมือถือขึ้นมา เสียงมือถือก็ดังขึ้นแล้ว เยี่ยหวันหวั่นเป็นฝ่ายโทรมาก่อน
หลินเชวียขนหัวลุกทันที “จบเห่แล้วๆ…”
ซือเยี่ยหานสงบสติเล็กน้อย จากนั้นจึงกดรับสาย “หวันหวั่น…”
ผลคือไม่รอให้ทางซือเยี่ยหานได้พูด ก็ได้ยินเสียงเยี่ยหวันหวั่นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานแล้ว “ที่รัก คุณไม่ต้องห่วงนะ ไม่ต้องอธิบายอะไรกับฉันด้วย ฉันไม่มีทางหึงหวงเข้าใจผิดไปเรื่อยแน่นอน คุณทำใจให้สบายแล้วจัดการเรื่องของคุณไปเถอะ ไม่ต้องห่วงฉันหรอก!”
ซือเยี่ยหานนิ่งงัน…
ด้วยเหตุนี้ คำพูดทั้งหมดของซือเยี่ยหานจึงถูกกลืนกลับลงไป
“เธอไม่โกรธเหรอ คืนนั้นฉัน…”
“ไม่โกรธหรอก ต้องเป็นพวกเขาที่หลอกลวงคุณแน่ เป้าหมายคืออยากจะสร้างความร้าวฉานให้พวกเรา เพื่อไม่ให้คนอื่นได้สมปรารถนา ฉันไม่มีทางติดกับแน่! เอาละ ไม่คุยกับคุณแล้ว ฉันจะไปตกปลากับคุณตาแล้ว!” เยี่ยหวันหวั่นที่อยู่ปลายสายใช้เท้าขยี้หินก้อนหนึ่งจนแหลก จากนั้นก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม
เธอไม่โกรธ ไม่โกรธเลยสักนิด!
ซือเยี่ยหานได้แต่เงียบ…
….
หลังจากวางสายแล้ว หลินเชวียที่อยู่ด้านข้างได้ยินบทสนทนาทั้งหมดผ่านทางมือถือก็พลันมีสีหน้ามึนงง “พี่เก้า! ซ้อเก้าเธอไม่หึงหวงเลยเหรอ ทำไมจู่ๆ ถึงรู้ความมีเหตุผลแบบนี้ล่ะ”
ซือเยี่ยหานไม่ได้ตอบ เห็นได้ชัดว่าคาดไม่ถึงเหมือนกันว่าเยี่ยหวันหวั่นจะสงบขนาดนี้ ถึงขั้นที่ไปตกปลากับคุณตาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วย
เวลานี้ อวี๋เซ่าก็ก้าวเข้ามา “ผมบอกแล้วว่าคุณหนูเนี่ยไม่ใช่คนไร้เหตุผลแบบนั้น”
หลินเชวียพึมพำเหมือนน้ำซึมเข้าสมอง “หรือว่าจะเปลี่ยนนิสัยแล้วจริงๆ”
เยี่ยหวันหวั่นไม่มีความโกรธเคืองเลย ซือเยี่ยหานหลุบตาลง แต่กลับรู้สึกว่าในใจวูบโหวงอยู่บ้างอย่างน่าประหลาด จากนั้นก็ดึงสติกลับมา มองไปที่อวี๋เซ่า “มีอะไร”
อวี๋เซ่ารีบรายงาน “ได้ข่าวมาเมื่อครู่ครับ ประธานอี้กลับมาแล้ว”
ซือเยี่ยหานเอ่ยสั้นๆ “เตรียมรถ”
อวี๋เซ่ารับคำทันที “ครับ!”
….
ในขณะเดียวกัน
เยี่ยหวันหวั่นกลับไปที่วิลล่า มอบหมายเรื่องในพันธมิตรให้กับพวกชีซิง เก็บข้าวของเล็กๆ น้อยๆ จากนั้นก็ลงไปชั้นล่างชี้แจงกับคนสองสามคนว่า “ฉันจะไปเมืองเทียนสุ่ยสักรอบ มีเรื่องอะไรก็โทรมาแล้วกัน”
พอเยี่ยหวันหวั่นพูดจบ สีหน้าของทุกคนก็ตึงเครียดขึ้นมาแทบจะในทันที
เป่ยโต่วเอ่ยอย่างกล้าๆ กลัวๆ ว่า “พี่เฟิง พี่จะไปเทียนสุ่ยเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นเลิกคิ้ว “ใช่สิ ทำไม ฉันไปไม่ได้รึไง”
ผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสสามที่อยู่ด้านข้างสบตากัน จากนั้นก็กลืนน้ำลาย “ผู้นำครับ ผู้นำจะไปเมืองเทียนสุ่ยทำไมครับ ไป…ไปหานายแห่งอาชูร่าใช่ไหมครับ”
แต่สิ่งที่ผู้อาวุโสใหญ่ไม่กล้าพูดคือ จะไปอาละวาดจริงๆ ใช่ไหม
เยี่ยหวันหวั่นตอบอย่างเฉยเมย “ใครบอกว่าไปเมืองเทียนสุ่ยแล้วต้องไปหาเขาอย่างเดียว ฉันจะไปเที่ยว!”
ผู้อาวุโสสามสั่นสะท้านเมื่อมองเห็นดาบเล่มนั้นที่เยี่ยหวันหวั่นพกติดตัวไป “เอ่อ…ผู้นำจะไปเที่ยวแล้วพกไร้สำเนียงไปด้วยเหรอครับ”
ไร้สำเนียงเป็นชื่อของดาบเล่มนี้ ดาบเล่มนี้เป็นอาวุธที่คุณตาของเยี่ยหวันหวั่นเคยใช้ ตอนนั้นถูกนำออกมาประมูลในงานเลี้ยงการกุศล และถูกจี้ซิวหร่านประมูลมา
ต่อมาจี้ซิวหร่านให้ชิวสุ่ยเอาดาบเล่มนี้มาให้เยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นลูบตัวดาบพลางตอบว่า “ไว้ป้องกันตัวเท่านั้น!”
เวลานี้ ฟู่หมิงซีตาไวมองเห็นขวดเหล้าในเป้สะพายหลังของเยี่ยหวันหวั่นแล้ว “ผู้นำ งั้นเหล้านี่ล่ะครับ”
เยี่ยหวันหวั่นตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน “ฉันไม่ได้จะดื่มเอง ฉันจะใช้เป็นของฝาก ไม่ได้รึไง”
ฟู่หมิงซีไม่กล้าพูดอะไรต่อแล้ว…
—————————————————————————————