แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2291 ซือเยี่ยหานจะสูญเสียความโปรดปรานแล้ว / บทที่ 2292 น่าจะอยากลักพาตัวไปค้ามนุษย์
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2291 ซือเยี่ยหานจะสูญเสียความโปรดปรานแล้ว / บทที่ 2292 น่าจะอยากลักพาตัวไปค้ามนุษย์
บทที่ 2291 ซือเยี่ยหานจะสูญเสียความโปรดปรานแล้ว
ณ ร้านอาหารฝรั่งเศสแห่งหนึ่งในเมืองเทียนสุ่ย
อินเหิงมาก่อนเวลานัดห้านาที ไม่เร็วไม่ช้าจนเกินไป
เวลานี้ เขาสวมชุดงามสง่านั่งอยู่ในตำแหน่งริมหน้าต่าง มีมาดของคุณชายผู้สูงศักดิ์
ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดฉินซีย่วนก็มาถึงโดยที่เลทไปมาก
เพียงแต่อินเหิงกลับไม่มีท่าทางหงุดหงิดเลยสักนิด เมื่อเห็นฉินซีย่วนมาถึง ดวงตาก็พลันส่องประกายขึ้นมา รีบลุกขึ้นแล้วเลื่อนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามให้เธอ จากนั้นก็ยื่นดอกกุหลาบสดใหม่ช่อหนึ่งให้เธอ
ฉินซีย่วนรับดอกไม้ จากนั้นก็มองแวบหนึ่งแล้ววางไว้ด้านข้าง “ขอบคุณค่ะ”
อินเหิงลองถามหยั่งเชิงดู “ทำไมคุณหนูฉินถึงดูเหมือนอารมณ์ไม่ค่อยดีเลยล่ะครับ”
ฉินซีย่วนยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะหยัน “ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่บังเอิญเจอหมาที่ไม่เชื่อฟังตัวหนึ่งน่ะค่ะ”
ดวงตาของอินเหิงกลอกกลิ้งนิดๆ ประกายความยินดีวาบผ่านนัยน์ตา ดูเหมือนว่าซือเยี่ยหานจะสูญเสียความโปรดปรานแล้วสินะ
ตอนแรกเขาใช้ทุกวิถีทางแล้ว ฉินซีย่วนก็ไม่สนใจเลย กลับเอาแต่ไล่ตามก้นของซือเยี่ยหานอยู่แบบนั้น
เพียงแต่อีกฝ่ายเป็นถึงฉินซีย่วน ลูกสาวรองประธานสภา เขาไม่กล้าใช้กลวิธีพิเศษ ไม่อย่างนั้นหากล่วงเกินตระกูลฉินเข้า เขาคงถึงจุดจบแน่
ในขณะที่ไม่อาจทำอะไรได้ นึกไม่ถึงเลยว่าฉินซีย่วนจะเป็นฝ่ายส่งคนมาติดต่อเขา
อินเหิงยิ้มน้อยๆ แวบหนึ่ง “หมาตัวนั้นไม่ใช่แค่ไม่เชื่อฟังนะครับ ดูเหมือนจะเป็นหมาที่ตาบอดด้วย มาทำให้โฉมงามอย่างคุณหนูฉินโกรธเอาซะได้”
ฉินซีย่วนเงยหน้ามองเขาแวบหนึ่ง เพราะคำหวานของอีกฝ่ายทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย
ชัดเจนมาก ท่าทางประจบเอาใจของอินเหิงเพียงพอที่จะเติมเต็มจิตใจอันฟุ้งเฟ้อของเธอที่ถูกทำร้ายมาจากซือเยี่ยหานได้
นี่สิถึงจะเป็นท่าทางที่ผู้ชายสมควรปฏิบัติต่อเธอ…
“ได้ยินว่าคุณน้าอินมีความคิดจะยกตระกูลอินให้คุณงั้นเหรอคะ” ฉินซีย่วนถามอย่างไม่ยี่หระ
อินเหิงยิ้มเขินแล้วเอ่ยตอบว่า “คุณแม่วางแผนไว้แบบนี้จริงๆ ครับ แต่ว่า…”
ฉินซีย่วนอยากรู้ “แต่ว่าอะไรคะ”
อินเหิงเอ่ยด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างหม่นหมอง “แต่ว่าตอนนี้ซือเยี่ยหานกลับมาจากเมืองอวิ๋นแล้ว ถึงยังไงเขาก็เป็นลูกชายแท้ๆ ของคุณแม่ ไม่ว่าผมจะทำดีสักแค่ไหน คนที่คุณแม่พอใจที่สุดก็ยังคงเป็นเขาเสมอ…”
ฉินซีย่วนแค่นเสียงเบาๆ “แบบนั้นแล้วยังไงคะ จะเป็นลูกแท้ๆ ไหม ไม่ได้สำคัญขนาดนั้นหรอก!”
ดวงตาของอินเหิงส่องประกายนิดๆ “ความหมายของคุณหนูฉินคือ…”
ฉินซีย่วนเอ่ยอย่างไม่อนาทรร้อนใจ “งานเลี้ยงในวันมะรืนนี้ คุณไปร่วมงานกับฉันแล้วกัน”
อินเหิงฟังแล้วตะลึงไปแวบหนึ่ง “คุณหนูฉินพูดถึง…งานเลี้ยงเปิดการประชุมสมัชชา…”
ทุกปีก่อนที่จะเปิดการประชุมสมัชชาและหลังจากจบการประชุมสมัชชาแล้ว จะมีการจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำ ผู้ที่เข้าร่วมคือตุลาการและสมาชิกระดับสูงทั้งหมดของสภาตุลาการทั้งหมด
ไม่น่าเชื่อเลยว่าฉินซีย่วนจะต้องการให้เขาเป็นคู่ควงในงานเลี้ยงครั้งนี้ เป็นการให้เกียรติและให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
ฉินซีย่วนเลิกคิ้ว “ทำไมเหรอคะ ไม่ยินดีงั้นเหรอ”
อินเหิงสะกดกลั้นความยินดีอย่างบ้าคลั่งในหัวใจ เอ่ยด้วยสีหน้าสุภาพและอ่อนโยน “จะเป็นไปได้ยังไงครับ ได้รับคำเชิญจากคุณหนูฉิน เป็นวาสนาของผมแล้ว”
ฉินซีย่วนจึงรู้สึกพอใจ ชูแก้วขึ้นแล้วเอ่ยว่า “ฮ่า คุณชายอินเป็นคนฉลาดจริงๆ หมดแก้ว!”
อินเหิงตอบรับด้วยความยินดี “เชียร์ส!”
….
หลังจบมื้อค่ำ อินเหิงก็ขับรถไปส่งฉินซีย่วนที่ตระกูลฉินด้วยตัวเอง จากนั้นถึงได้ขับกลับไปที่บ้านตระกูลอิน
หลังจากถึงบ้านแล้ว อินเหิงก็ไปหาอินเยวี่ยหรงทันที
“คุณแม่ครับ!”
อินเยวี่ยหรงเงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ดึกขนาดนี้แล้ว มีเรื่องอะไร”
อินเหิงเปิดปากพูด “คืนนี้…คุณหนูฉินนัดเจอผมครับ”
สีหน้าของอินเยวี่ยหรงยังคงไม่มีความเปลี่ยนแปลง “งั้นเหรอ”
อินเหิงจึงเอ่ยต่อไปว่า “คุณหนูฉินชวนผมไปร่วมงานเลี้ยงในวันมะรืนกับเธอด้วยครับ”
—————————————————————————————
บทที่ 2292 น่าจะอยากลักพาตัวไปค้ามนุษย์
อินเยวี่ยหรงเงยหน้ามองอินเหิงแวบหนึ่ง ท่าทางดูไม่แปลกใจเลย “งั้นเหรอ ช่วงเวลานั้นสมาชิกระดับสูงทั้งหมดในสภาตุลาการจะเข้าร่วมงานเลี้ยง ถือเป็นโอกาสที่ดี เธอต้องแสดงออกให้ดีๆ ละ เดี๋ยวฉันจะให้คนช่วยเตรียมเสื้อผ้าที่เข้ากับเธอเอาไว้ชุดหนึ่งแล้วกัน”
ใบหน้าของอินเหิงเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณมากครับคุณแม่”
อินเยวี่ยหรงพยักหน้าด้วยความพอใจ “ไปเถอะ ใช้เวลากับคุณหนูฉินให้ดีๆ ละ”
อินเหิงเผยสีหน้าเขินอาย แล้วเอ่ยอย่างถ่อมตัว “ผมกับคุณหนูฉินเรายังไปไม่ถึงขั้นนั้นจริงๆ ครับ…”
อินเยวี่ยหรงกล่าวว่า “มาชวนเธอไปร่วมงานเลี้ยงเปิดพิธีได้ ก็หมายความว่ามีความรู้สึกที่ดีต่อเธอมากแล้ว”
อินเหิงทราบถึงจุดนี้ดี แค่จงใจที่จะเก็บงำบางอย่างไว้ จากนั้นสอบถามถึงข้อควรระวังในงานเลี้ยงกับอินเยวี่ยหรงเล็กน้อย แล้วค่อยจากไป
หลังจากอินเหิงไปแล้ว แม่บ้านก็เดินออกมาจากด้านหลัง
“นี่…ไม่กี่วันก่อนคุณหนูฉินยังไปมาหาสู่กับคุณชายอยู่เลย แล้วทำไมจู่ๆ ไปอยู่กับอินเหิงแทนล่ะคะ ถึงขั้นที่ชวนไปร่วมงานเลี้ยงสำคัญแบบนี้ด้วย!” แม่บ้านมีสีหน้าไม่เข้าใจ
อินเยวี่ยหรงร้องเฮอะทีหนึ่ง “เพราะอะไรน่ะเหรอ นอกจากจะเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นแล้ว ยังจะมีสาเหตุอะไรได้อีก! ดับเส้นทางอนาคตตัวเองชัดๆ โง่ที่สุด!”
แม่บ้านถอนหายใจ “คุณชายเป็นผู้ลุ่มหลงในความรักเช่นกัน…”
อินเยวี่ยหรงยิ้มเย็น “ลุ่มหลงในรักงั้นเหรอ สักวันเขาจะต้องนึกเสียใจ!”
ไม่รู้ว่าแม่บ้านอยากจะถามอะไร จึงเอ่ยถามอย่างลังเลว่า “ใช่แล้ว ที่นายหญิงให้ดิฉันจัดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้พร้อมแล้วนะคะ เด็กสาวสามคน ดิฉันเฟ้นหามาจากทั่วทั้งสิบสองเขตรัฐอิสระ ทุกคนต่างก็เป็นโฉมงามอันดับหนึ่ง แล้วยังจะส่งไปให้ทางคุณชายอยู่ไหมคะ”
อินเยวี่ยหรงเอ่ยตอบ “ส่ง แน่นอนว่าต้องส่ง! ถ้าไม่ชอบ ก็ไปหามาอีก ส่งไปให้อีก! เจ้าเก้าเด็กคนนั้นน่ะ ก็แค่ใสซื่อในเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เกินไป ได้เจอผู้หญิงน้อยเกินไป เพราะงั้นถึงได้ถูกผู้หญิงคนนั้นหลอกเอา!”
พออินเยวี่ยหรงพูดจบ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “ปีนั้นไม่ใช่ว่าซือไหวจางก็บอกว่ารักใคร่ปักใจในตัวผู้หญิงคนนั้นหรอกเหรอ แต่สุดท้ายแล้วเป็นยังไงล่ะ ไม่ใช่ว่าสำมะเลเทเมา เห็นคนไหนก็รักคนนั้นหรอกเหรอ!”
ตอนแรกแม่บ้านยังอยากพูดอะไรต่อ แต่พอได้ยินประโยคนี้ จึงไม่กล้าพูดมากแล้ว ได้แต่ตอบรับว่า “ค่ะ ดิฉันจะส่งไปเดี๋ยวนี้!”
….
เวลานี้ ณ คฤหาสน์แห่งหนึ่งในเมืองเทียนสุ่ย
เฮ่อเหลียนเจวี๋ยกำลังร้องไห้โวยวายอยู่
“เฮ้อ เสียใจ เสียใจจัง ต่อให้เป็นประธานสภาลูกสาวก็ยังไม่อยากเจอหน้าฉัน แล้วตำแหน่งประธานสภาของฉันจะมีความหมายอะไรล่ะ ไม่สู้ลาออกแล้วกลับบ้านนอกดีกว่า!”
“ฮือๆๆๆ เสี่ยวอู๋โยว ฉันจะบอกเธอไว้นะ อินเยวี่ยหรงผู้หญิงคนนั้นน่ะโรคจิต หล่อนไม่มีทางปล่อยให้สาวน้อยอย่างเธอไปทำลายผลงานที่สุดแสนจะสมบูรณ์แบบของหล่อนหรอก ถ้าเธอไม่มาเป็นลูกสาวฉัน จะต้องเสียใจทีหลังแน่นอน!”
“เสี่ยวอู๋โยว...”
เพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกเฮ่อเหลียนเจวี๋ยพร่ำเพ้อจนตาย เยี่ยหวันหวั่นจึงรีบเผ่นออกจากคฤหาสน์ไป
พอเป่ยโต่วเห็นเยี่ยหวันหวั่นก็ปรี่เข้าไปหาทันที “พี่เฟิง คนของสภาตุลาการนั่นพาพี่ไปเพราะอะไรกันแน่”
เยี่ยหวันหวั่นตอบไปเรื่อย “น่าจะอยากลักพาตัวไปค้ามนุษย์..”
ตัวเองไม่มีลูกสาวเลยจะลักพาตัวเธอไปเป็นลูกสาว…
เป่ยโต่ว “หา”
ฟู่หมิงซี “อะไรนะ”
เยี่ยหวันหวั่นกระแอมไอเบาๆ “ล้อเล่นน่ะ ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ตามตัวฉันไปอธิบายเรื่องปรับแก้ร่างกฎหมายน่ะ”
ขณะที่คุยกันอยู่ ผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสสามก็กลับมาจากการไปสืบข่าวแล้ว
“ผู้นำ! ผู้นำครับ! พวกเรากลับมาแล้ว”
“สืบข่าวมาเป็นยังไงบ้าง” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถามทันที
————————————————————————————-