แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2301 แย่งความโดดเด่น / บทที่ 2302 ตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2301 แย่งความโดดเด่น / บทที่ 2302 ตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ
บทที่ 2301 แย่งความโดดเด่น
ความเย็นชาสูงศักดิ์อย่างหนึ่งแผ่ออกมาจากเนื้อในของหญิงสาว ราวกับทุกสรรพสิ่งถูกขวางกั้นอยู่นอกประตู ไม่มีสิ่งใดอยู่ในสายตาเลย
ความเยือกเย็นประเภทนี้ ความเย็นชานี้ไม่คล้ายว่าจะเป็นลักษณะนิสัย แต่ราวกับไม่มีคนไหนหรือสิ่งใดคู่ควรให้เธอชายตามอง…
แน่นอนว่ารัศมีแบบนี้ ชวนให้คนอึดอัดมากจริงๆ
แต่เนี่ยอู๋โยวจากเมืองอวิ๋นคนนั้น เธอเคยเจอมาก่อนแล้ว ไม่มีทางมีราศีแบบนี้ได้เลย…
….
“ซวยแล้ว! พี่เก้า! พี่รีบมองไปที่ประตูสิ นั่นไม่ใช่ซ้อเก้าหรอกเหรอ!” ในมุมหนึ่ง หลินเชวียมือไม้สั่น ไวน์แดงกระฉอกออกไปกว่าครึ่ง
จนถึงตอนนี้ ในที่สุดคืนนี้ซือเยี่ยหานก็มีท่าทางเหมือนมนุษย์บ้างแล้ว มองไปทางประตูทันที
อวี๋เซ่าอดีตรองผู้นำกลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ที่อยู่ด้านข้างพอได้ยินก็หันไปมองทางประตูเช่นกัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “เอ่อ…นั่น…นั่นคุณหนูเนี่ยเหรอ หลินเชวีย นายแน่ใจนะ”
ในความทรงจำ ไม่ว่าจะแบดเจอร์หรือว่าเนี่ยอู๋โยวต่างก็มีภาพลักษณ์เป็นนางมารร้าย จะสง่างามสูงส่งแบบนี้ได้ยังไง งดงามจนทำให้ผู้คนลุ่มหลงเคลือบเคลิ้ม ฉินซีย่วนสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองเทียนสุ่ยพออยู่ต่อหน้าหญิงสาวคนนี้แล้ว กลับถูกกลบมิดจนไร้ตัวตนไปทันที
อีกอย่าง หน้าตาและการแต่งตัวนี้เป็นเรื่องรอง ที่สำคัญคือรัศมีความห่างเหินแยกตัวแบบนั้น แค่ยืนอยู่ที่เดิม ไม่มีแสดงสีหน้าหรือภาษากายใดๆ ก็มีความดูแคลนต่อทุกสรรพสิ่งอันเข้มข้นแผ่ซ่านออกมาจากในกระดูกแล้ว
ถ้าประธานสภาตุลาการแห่งสิบสองเขตของรัฐอิสระมีออร่าแบบนี้ เขาก็พอจะเข้าใจได้ แต่ว่า…เนี่ยอู๋โยวน่ะเหรอ
“เหลวไหล! ฉันมั่นใจ…เอ่อ…น่าจะใช่นะ” หลินเชวียมองหน้าตาอันเฉิดฉายเลิศล้ำและบุคลิกเยือกเย็นของหญิงสาว จู่ๆก็ค่อนข้างไม่แน่ใจขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
ในเวลานี้ สายตาของหญิงสาวกวาดมองมาทางพวกเขา สายตาของหลินเชวียบังเอิญสบเข้ากับหญิงสาวพอดี
แต่ในแววตาของหญิงสาวไม่มีเขาอยู่เลย ราวกับหลินเชวียเป็นแค่คนแปลกหน้าคนหนึ่ง ไม่สิ ถึงขั้นที่ไม่นับเป็นคนด้วยซ้ำ เสมือนเป็นอากาศธาตุ
หลินเชวียมึนงงอยู่บ้าง เธอไม่รู้จักตัวเองงั้นเหรอ
“บัดซบ! หมายความว่ายัง เธอเป็นใครกัน มองเมินฉันแบบนี้เลยเหรอ” หลินเชวียเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน โมโหคนเหลือเกิน!
ซือเยี่ยหานที่อยู่ข้างๆ มุ่นคิ้วนิดๆ เพราะเมื่อครู่สายตาของหญิงสาวคนนี้ก็สบเข้ากับเขาแวบหนึ่งเช่นกัน แต่นั่นเป็นแววตาของคนแปลกหน้าอย่างสมบูรณ์
หวันหวั่นเหรอ
เมื่อคืนเขาเพิ่งโทรคุยกับหวันหวั่น เธอยังอยู่ที่เมืองอวิ๋น เป็นไปไม่ได้ที่จะมาปรากฏตัวที่นี่ในช่วงเวลาสั้นๆ
ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอก็รับปากกับตัวเองแล้ว ว่าจะไม่มาที่เมืองเทียนสุ่ยแน่นอน
และเขาไม่เคยเห็นหวันหวั่นมีบุคลิกและท่าทางแปลกหน้าแบบนี้เลย…เหมือนจะเป็นคนละคน
อินเยวี่ยหรงไม่ได้แสดงท่าทางฉุนเฉียวออกมา แต่กลับเป็นฉินซีย่วนที่เกลียดชังเยี่ยหวันหวั่นเข้ากระดูกอยู่ก่อนแล้ว และวันนี้เธอยังมาแย่งความโดดเด่นจากตัวเองไปอีก เธอจะทนอยู่ได้ยังไง
สาวใช้รีบเอ่ยปลอบ “คุณหนูใหญ่คะ คุณหนูอย่าโกรธไปเลยนะคะ ก็แค่นังจิ้งจอกจอมยั่วตัวหนึ่ง จะมาเทียบกับคุณหนูได้ยังไง ดิฉันจะส่งคนไปไล่เดี๋ยวนี้เลยค่ะ! ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะกล้ามางานเลี้ยงแบบนี้ในวันนี้ หาเรื่องขายขี้หน้าใส่ตัว!”
พอฉินซีย่วนได้ฟังก็ยกมุมปากขึ้นนิดๆ ก่อตัวเป็นรอยยิ้มประหลาด “หรือว่าหมาจรแมวป่าสักตัว ก็มีดีพอมาทำให้ฉันใส่ใจได้รึไง”
“คุณหนูใหญ่พูดถูกแล้วค่ะ กับอีแค่หมาแมวแบบนี้ ทำให้ระดับของงานนี้ตกต่ำลงไปหน่อย”
จากนั้น สาวใช้ก็เดินวางมาดไปทางเยี่ยหวันหวั่น
“เธอ” สาวใช้ขวางอยู่ด้านข้างของหญิงสาว พลางเหลือบมองหญิงสาวอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง “คุณหนูรองตระกูลเนี่ยแห่งเมืองอวิ๋นสินะ”
หญิงสาวไม่เปล่งเสียง ทำราวกับมองไม่เห็นสาวใช้ที่อยู่ข้างๆ เลย
—————————————————————————————
บทที่ 2302 ตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ
“คุณหนูเนี่ย ขออภัยด้วย ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่คนฐานะอย่างเธอจะเข้ามาตามอำเภอใจได้ ฉันคิดว่าเธอน่าจะรู้ดีนะว่าคนฐานะแบบไหนถึงจะสามารถเข้ามาร่วมงานเลี้ยงนี้ได้”
หญิงสาวยืนอยู่ที่เดิม ทำเหมือนสาวใช้เป็นอากาศธาตุอย่างสมบูรณ์ ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเลย
สาวใช้เอ่ยด้วยใบหน้าเคร่งตึง “คุณหนูเนี่ย ฉันรู้ว่าเธอคือคุณหนูรองของตระกูลเนี่ยแห่งเมืองอวิ๋น แต่ว่า ที่นี่ของพวกเราไม่ใช่งานเลี้ยงธรรมดา แต่เป็นงานเลี้ยงระดับสูงเป็นการภายในของสภาตุลาการ ห้ามคนทั่วไปเข้ามาเด็ดขาด!
ถ้าเธออยากมาตามหาคน ก็ช่วยรออยู่ด้านนอกให้จบงานเลี้ยงก่อนเถอะ! ถ้ารบกวนคนใหญ่คนโตทุกท่านเข้า เกรงว่าตระกูลเนี่ยของเธอทั้งตระกูลคงจะรับผิดชอบไม่ไหวนะ!”
สาวใช้กล่าวพลางโบกมือเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านข้างเข้ามา “ขอเชิญคุณหนูเนี่ยออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันคงทำได้แค่ให้คนเชิญตัวเธอออกไป”
แต่อย่างไรก็ตาม ฉากที่ทำให้ทุกคนยากจะจินตนาการได้ยังไม่ทันเกิดขึ้น มองเห็นเพียงว่าหญิงสาวพลันขมวดคิ้วนิดๆ ยกมือขวาขึ้นมา กว่าสาวใช้คนนั้นจะรู้ตัว ฝ่ามือของหญิงสาวก็ฟาดลงบนใบหน้าของสาวใช้อย่างรุนแรงแล้ว
‘เพียะ!’
เสียงดังกังวาน ทำให้ทุกคนในงานต้องหลบตาไป
มองเห็นสีหน้าของฉินซีย่วนแปรเปลี่ยนไปทันที หมาแมวบ้านป่าตัวนี้ เธอกล้าตบหน้าสาวใช้ของตัวเองเชียวเหรอ
ต่อมารอยยิ้มบนใบหน้าของฉินซีย่วนก็กดลึกลงยิ่งกว่าเดิม สมกับที่เป็นสาวบ้านป่าไม่เคยพบเห็นโลกจริงๆ ไม่รู้จึงไม่เกรงกลัว ตบฉาดนี้ของเธอ น่ากลัวว่าตระกูลเนี่ยทั้งตระกูลคงต้องรับผิดชอบแทนเธอแล้ว!
พวกหลินเชวียที่อยู่ไม่ไกลก็สะดุ้งโหยงเช่นกัน ผู้หญิงคนนั้นบ้าไปแล้วรึไง?!
ตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของเลยนะ!
ตบสาวใช้คนนี้ฉาดเดียวน่ะไม่เป็นอะไรหรอก แต่สาวใช้คนนี้เป็นถึงสาวใช้ของลูกสาวรองประธานสภาตุลาการเชียวนะ!
มาทำแบบนี้ ก่อเรื่องแบบนี้ขึ้นในงานเลี้ยงประเภทนี้ มันไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคลแล้ว นี่เทียบเท่ากับเยี่ยหวันหวั่นตัวแทนของทั้งตระกูลเนี่ย ตบหน้ารองประธานสภาตุลาการเข้าเต็มแรง!
ผลลัพธ์นี้…เธอไม่เคยคิดบ้างเลยรึไง!
“เธอ เธอมันคนชั้นต่ำ เธอกล้าตบฉัน!” สาวใช้กุมแก้ม มองหญิงสาวด้วยความโกรธ
“โทษที เธอไสหัวไปหน่อยสิ”
หญิงสาวเหลือบมองสาวใช้แวบหนึ่ง แล้วเอ่ยด้วยท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย
“ยาม!!”
สาวใช้ตะโกนรียก
วินาทีต่อมา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ฝีมือไม่ธรรมดาสิบกว่าคนก็ได้ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับเข้าล้อมหญิงสาวไว้
อย่างไรก็ตาม เด็กสาวไม่มีสีหน้าหวาดหวั่นเลยสักนิด ดูสงบนิ่งเฉยเมยมากๆ ราวกับมองเรื่องน่าตลกอยู่
“ถอยไป…”
จากนั้นก็ตามมาด้วยน้ำเสียงกร้าวแข็ง เมดูซ่าเดินสาวเท้าก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว “พวกเธอทำอะไรกัน”
เมดูซ่ามาจากตระกูลใหญ่ในเมืองเทียนสุ่ย อีกทั้งยังเป็นลูกศิษย์ของอี้หลิงจวิน ต่อให้เป็นสมาชิกระดับสูงของสภาตุลาการก็ต้องไว้หน้าเธอเช่นกัน
เมื่อสาวใช้เห็นเธอ จึงรีบเข้าไปอธิบาย “คุณหนูซ่าซ่า ผู้หญิงคนนี้บุกเข้ามาในงานเลี้ยง แถมเธอยังตบดิฉันด้วยค่ะ ฉันจะให้พาตัวออกไปเดี๋ยวนี้ค่ะ!”
เมดูซ่าเอ่ยด้วยสีหน้าเยียบเย็น “พาตัวออกไปงั้นเหรอ เธอเป็นเพื่อนของฉัน!”
“เพื่อนของคุณ…”
สาวใช้มองไปที่ฉินซีย่วนทันที หลังจากได้รับการอนุญาตจากฉินซีย่วนแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าจึงสลายไป “คุณหนูซ่าซ่า คุณน่าจะทราบว่าที่นี่เป็นงานเลี้ยงแบบไหนนะคะ เธอตบหน้าดิฉัน ก็เท่ากับตบหน้าคุณหนูใหญ่ฉินของพวกเรา และเท่ากับตบหน้าท่านรองประธานสภาด้วยค่ะ
ดิฉันคิดว่า คุณหนูซ่าซ่า ไม่ควรจะเข้ามายุ่งในเรื่องนี้นะคะ อีกอย่าง ดิฉันคิดว่า คุณหนูซ่าซ่าน่าจะรับตัดขาดความเป็นเพื่อนกับคนประเภทนี้โดยเร็วนะคะ ไม่อย่างนั้น การยั่วยุท่านรองประธานเป็นเรื่องเล็ก แต่การทำให้ท่านรองประธานเสียหน้าเป็นเรื่องใหญ่นะคะ!”
ขณะที่คุยกันอยู่ จู่ๆ ซ่าซ่าก็ยกยิ้มแล้ว ขณะที่คิดจะเปิดปากพูดบางอย่าง จู่ๆ ก็มีเสียงอุทานแว่วมาจากฝูงชน
“ประธานอี้มาแล้ว!”
“สวัสดีครับท่านประธาน!”
….
ในเวลานี้ อี้หลิงจวินในชุดสีขาวค่อยๆ ก้าวลงมาจากชั้นบน เพียงแต่ถ้าสังเกตให้ดี จะพบว่าฝีเท้าของเขาเร่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ
“ท่านประธาน!”
เมื่อเห็นอี้หลิงจวิน ทุกคนต่างก็แสดงท่าทีเคารพนบน้อบขึ้นมา พากันมองไปที่เขาราวกับมองเทพยดา
—————————————————————————————