แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2307 เตรียมจะจับคู่ให้เธอจริงๆ ใช่ไหม / บทที่ 2308 รีบแนะนำให้พวกเรารู้จักกัน
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2307 เตรียมจะจับคู่ให้เธอจริงๆ ใช่ไหม / บทที่ 2308 รีบแนะนำให้พวกเรารู้จักกัน
บทที่ 2307 เตรียมจะจับคู่ให้เธอจริงๆ ใช่ไหม
อี้หลิงจวินพาเยี่ยหวันหวั่นลงจากเวที เดินเข้าหากลุ่มคน
ดวงตาทอประกายแวบหนึ่ง จากนั้นก็แสดงท่าทางเป็นพ่อผู้ใจดี กล่าวอย่างจริงจังว่า “บอกกันตามตรง ตอนนี้เรื่องที่ฉันห่วงที่สุดคือเรื่องการแต่งงานของอวิ๋นโม่ เพียงแต่สายตาของเด็กคนนี้จุกจิกพิถีพิถันเกินไป ทำให้คนเป็นพ่ออย่างฉันปวดหัวมากจริงๆ!”
คำพูดนี้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
พอได้ยินอี้หลิงจวินพูดแบบนี้ คนฉลาดคนไหนบ้างล่ะจะไม่เข้าใจความหมาย
ประธานสภารีบตามตัวอวิ๋นโม่กลับมา เกรงว่าจุดประสงค์หลักคงไม่พ้นหาเขยให้ลูกสาวใช่ไหม
“ประธานสภาครับ ดูคุณพูดเข้าสิ คุณหนูทั้งสวยทั้งมีความสามารถขนาดนี้”
“ใช่แล้ว ยิ่งไปกว่าเมืองเทียนสุ่ยของพวกเรามีคนหนุ่มมากความสามารถอยู่มากมายขนาดนี้ และวันนี้ก็มากันไม่น้อยเลย คุณหนูอี้ทำความรู้จักให้มากหน่อยสิครับ!”
….
เวลานี้ บรรดาชายหนุ่มที่ก่อนหน้านี้ห้อมล้อมทักทายอยู่รอบกายของฉินซีย่วนต่างก็พากันกรูมาทางด้านนี้แล้ว
ชายหนุ่มในชุดสูทสีเทา ดูสุภาพสง่างามคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพอ่อนโยน “คุณหนูอี้ครับ ขออนุญาตแนะนำตัวเล็กน้อยนะครับ ผมคือหนึ่งในตุลาการของสภาตุลาการ เป็นชาวเมืองเทียนสุ่ยโดยกำเนิด คุ้นเคยกับเมืองเทียนสุ่ยเป็นอย่างดี คุณหนูอี้เพิ่งกลับมา ถ้าต้องการคนนำทาง พร้อมให้บริการคุณตลอดเวลานะครับ”
เมื่อเห็นว่ามีคนเปิดทางเสนอตัวให้ถึงที่แล้ว คนที่เหลือเลยนั่งไม่ติดขึ้นมาทันที พากันเข้ามาทักทาย
“คุณหนูอี้หุ่นดีจริงๆ สวมชุดนี้แล้วดูดีเหลือเกินครับ!”
ทางฝั่งอี้หลิงจวินก็มีสมาชิกระดับสูงมากมายเข้ามาพูดคุยด้วย “ประธานสภาครับ ไอ้ลูกตัวดีก็ไปอยู่ต่างประเทศมาหลายปีเหมือนกัน บางทีอาจจะมีเรื่องที่สนใจเหมือนกันกับคุณหนูก็ได้นะครับ!”
“โอ้ งั้นเหรอ” อี้หลิงจวินไม่ได้ปฏิเสธคนที่เข้าหา และพูดคุยด้วยอย่างมีมารยาทไปทีละคนๆ ท่าทางดูจริงจังกับการคัดเลือกลูกเขยอย่างยิ่ง
เยี่ยหวันหวั่นมองแล้วหมดคำพูดไปชั่วขณะ เขาคงไม่ได้เตรียมจะจับคู่ให้เธอจริงๆ ใช่ไหม
จะซักถามจริงจังขนาดนี้ไปทำไม!
อี้หลิงจวินทำแบบนี้กลัวว่าเรื่องมันจะวุ่นวายไม่พอรึไง
ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นยังคงเย่อหยิ่งเยือกเย็นอยู่ แล้วมุ่นคิ้วนิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “พ่อคะ หนูจะไปทางนั้นนะคะ”
คนสวยต่อให้ขมวดคิ้วก็สวยสุดขีดอยู่ดี ดวงตาที่ฉายหงุดหงิดช่วงนั้น ดูราวกับกิ่งหนามบนต้นกุหลาบที่เคลือบด้วยหยาดน้ำค้าง ทำให้เหล่าสุภาพบุรุษพวกนั้นสติหลุดลอยไปอย่างไม่อาจควบคุมได้
อี้หลิงจวินรีบซักถามด้วยความเป็นห่วง “อวิ๋นโม่ เป็นอะไร ไม่สบายรึเปล่า”
“ที่นี่อากาศไม่ถ่ายเทเลยค่ะ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยประโยคเดียว แล้วย่ำเท้าจากไปอย่างรวดเร็ว
ความหมายที่แฝงอยู่คือ ที่นี่เสียงดังเกินไป
อี้หลิงจวินเอ่ยอย่างจนปัญญา “เด็กคนนี้ ชอบปลีกตัวเกินไปแล้ว!”
สุ้มเสียงและวิธีการพูดของหญิงสาว ถึงแม้จะทำให้คนอึดอัด แต่กลับไม่มีใครกล้าพูดมาก
ถึงยังไงอี้อวิ๋นโม่คนนี้ก็ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่พุ่งเป้าไปที่ทุกคนในงาน
ใครบ้างจะไม่อยากเสนอตัวออกไป พูดคุยกับเธอสักสองสามประโยค
ด้วยนิสัยของเธอ ร้อนแรงเหมือนไฟ เยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง กลับยิ่งปลุกเร้าความอยากปราบพยศของเหล่าชายหนุ่มมากมายขึ้นมา
ฉินซีย่วนสวยน่ะสวย แต่ไม่มีเอกลักษณ์เท่าไร เหมือนดอกไม้ที่เติบโตขึ้นในเรือนกระจก
ยิ่งไปกว่านั้นคือ ไม่ว่าจะเป็นรูปโฉม หรือว่าชาติตระกูล ฉินซีย่วนก็ห่างชั้นไปจากอี้อวิ๋นโม่ทั้งนั้น ไม่อาจเทียบกันได้เลย
เห็นทีว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉายาสุภาพสตรีอันดับหนึ่งแห่งเทียนสุ่ย สาวสวยอันดับหนึ่งแห่งเทียนสุ่ย คงต้องเปลี่ยนทั้งหมดแล้ว!
ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือจงใจ
เยี่ยหวันหวั่นบังเอิญเดินไปทางอินเหิงและฉินซีย่วนพอดี
—————————————————————————————
บทที่ 2308 รีบแนะนำให้พวกเรารู้จักกัน
เมื่อหญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ ความงดงามและรัศมีนั้นยิ่งทำให้คนใจสั่นไหว
อินเหิงก็เป็นเช่นเดียวกับผู้ชายทุกคนในงานเลี้ยงนี้ เผลอบีบแก้วไวน์แน่นโดยไม่รู้ตัว
เมื่อเห็นหญิงสาวเดินมาถึงตรงหน้า ท่ามกลางฝูงชน อินเหิงก็หยิบไวน์แก้วหนึ่งมา ก้าวออกไป ยื่นแก้วให้หญิงสาวอย่างเป็นสุภาพบุรุษมาก “คุณหนูอี้ ผมชื่ออินเหิง เป็นลูกชายของตุลาการอินครับ…”
ทว่า หญิงสาวกลับทำราวกับอินเหิงเป็นอากาศธาตุ เหมือนมองไม่เห็นเขา และไม่ได้ยินเสียงเขาเลย
แน่นอนว่าฉากที่อินเหิงถูกเมินอยู่ในสายตาของทุกคน ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ
“เฮ้อ ถูกเมินไปตรงๆ เลย!”
“นั่นเป็นผู้ชายที่คุณหนูฉินถูกใจมาก แต่อี้อวิ๋นโม่กลับไม่แลเลยสักแวบเดียว!”
“ขอร้องเถอะ สายตาของคุณหนูอี้ต้องสูงกว่าคุณหนูฉินแน่อยู่แล้วสิ มีอะไรน่าแปลกใจกัน”
อินเหิงเก้อกระดากเล็กน้อย ได้แต่ยิ้มน้อยๆ แวบหนึ่ง แล้วแสร้งชักแก้วไวน์กลับมาอย่างไม่ใส่ใจ
ฉินซีย่วนได้ยินเสียงวิจารณ์จากรอบข้าง สีหน้าก็ไม่น่ามองอย่างยิ่ง มองอินเหิงด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง
“อะไรกัน เปลี่ยนใจแล้วเหรอ” ฉินซีย่วนมองอินเหิงแวบหนึ่ง
อินเหิงผงะไปแวบหนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้า เอ่ยอย่างสุขุม “คุณหนูฉิน ถึงยังไงนี่ก็เป็นลูกสาวของประธานอี้ ผมขอชนแก้ว เป็นสิ่งที่ผมควรกระทำ ส่วนเธอจะตอบกลับมาแบบไหน นั่นไม่เกี่ยวกับผมแล้ว”
ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง แน่นอนว่าเขาถูกหญิงสาวแบบอี้อวิ๋นโม่ดึงดูด แต่สำหรับเขาแล้ว อี้อวิ๋นโม่อยู่สูงเกินเอื้อม ได้แต่หวังไม่มีทางเป็นไปได้
แต่ฉินซีย่วนเป็นของที่ตกมาถึงมือเขาแล้ว ในสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่อาจละเลยฉินซีย่วนเพื่ออี้อวิ๋นโม่ได้
“นายช่างพูดนักนะ” ฉินซีย่วนร้องเฮอะ
แต่เธอจะไม่รู้ว่าอินเหิงคิดอะไรได้ยังไง!
เดิมทีเธอสมควรจะเป็นตัวละครเอกที่ได้รับความสนใจที่สุดในวันนี้ เพลิดเพลินไปกับสายตาที่ไล่ตามของพวกผู้ชาย
แต่ไม่คิดเลยว่า จู่ๆ พออี้อวิ๋นโม่จะโผล่มา ผู้ชายที่ก่อนหน้านี้เคยห้อมล้อมอยู่รอบตัวเธอกลับเปลี่ยนไปห้อมล้อมอี้อวิ๋นโม่กันหมด
แม้แต่อินเหิงเองก็ไม่เว้น…
ทางด้านเยี่ยหวันหวั่น มีสมาชิกระดับสูงไม่น้อยที่คึกคักอยากลองดู แต่กลับไม่มีใครกล้าเข้าไปชวนลูกสาวสุดที่รักของประธานอี้คนนี้คุยเลย
คนประเภทนี้ เยือกเย็นเหมือนน้ำแข็งก้อนหนึ่ง ไม่เห็นสิ่งใดมีตัวตนเลย การเข้าไปคุยกับเธอ แน่นอนว่าเป็นการหาเรื่องใส่ตัว
“พี่เก้า…เธอน่าจะใช่ซ้อเก้าใช่ไหม…บนโลกใบนี้ นอกจากฝาแฝดแล้ว เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะมีคนหน้าตาเหมือนกันเป๊ะน่ะ” ไม่ไกลนัก หลินเชวียจ้องมองซือเยี่ยหาน พลางเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความงุนงง
สายตาของซือเยี่ยหานมองไปที่ร่างของหญิงสาว และเงียบงันไร้วาจา
ซือเยี่ยหานเคารพเลื่อมใสประธานสภาอี้หลิงจวินอย่างยิ่ง แต่ไม่คิดว่าอี้หลิงจวินจะโกหกหลอกลวงทุกคนได้ เพียงแต่ ด้วยสัญชาตญาณของเขา หญิงสาวคนนั้น ไม่มีทางใช่อี้อวิ๋นโม่อะไรนั่น…
ตอนนี้ มีคำอธิบายแค่สองอย่างเท่านั้น
ก่อนหน้านี้อี้หลิงจวินบอกว่า ขาดการติดต่อกับลูกสาวอย่างอี้อวิ๋นโม่ไปนาน เป็นไปได้ที่เยี่ยหวันหวั่นจะใช้วิธีการบางอย่าง หลอกลวงอี้หลิงจวิน ถึงได้กลายเป็นอี้อวิ๋นโม่
นอกจากนี้แล้ว ยังมีความเป็นไปได้อีกข้อหนึ่งคือ ประธานสภาอี้หลิงจวินคนนั้น หลอกลวงทุกคนในงานจริงๆ
แต่ว่า เพื่ออะไรล่ะ
หลังจากอี้หลิงจวินพูดคุยกับทุกคนแล้ว จึงรีบไปหาลูกสาวสุดที่รักทันที
“ทำไมคุยนานขนาดนี้!” เยี่ยหวันหวั่นบ่นอุบอิบอย่างเคืองๆ
“ก็มาแล้วไม่ใช่เหรอ ลูกสาวคนดี ว่าไง ในที่สุดก็มีเรื่องอยากให้พ่อช่วยแล้วใช่ไหม” อี้หลิงจวินเอ่ยถามอย่างคาดหวังอยู่บ้าง
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “มี รีบพาฉันไปแนะนำให้ซือเยี่ยหานรู้จักได้แล้ว!”
อี้หลิงจวินจึงเอ่ยไปว่า “พ่อว่าหนูเป็นโรคหลายบุคลิกแล้วละลูกสาวคนดี…”
เยี่ยหวันหวั่นไม่สะทกสะท้าน “ชมเกินไปแล้ว ฉันก็แค่สีน้ำเงินที่เกิดจากต้นครามแต่เข้มกว่าต้นครามเท่านั้น ”
อี้หลิงจวินพูดไม่ออกแล้ว…
—————————————————————————————