แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2311 ประธานจอมเผด็จการตัวจริง หวันหวั่นออนไลน์แล้ว / บทที่ 2312 ไม่ใช่นางฟ้าหรอกเหรอ
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2311 ประธานจอมเผด็จการตัวจริง หวันหวั่นออนไลน์แล้ว / บทที่ 2312 ไม่ใช่นางฟ้าหรอกเหรอ
บทที่ 2311 ประธานจอมเผด็จการตัวจริง หวันหวั่นออนไลน์แล้ว
ไม่ไกลออกไป ใบหน้าของอี้หลิงจวินมืดดำเหมือนก้นหม้อแล้ว “ทนไว้อีกสักหน่อยไม่ได้เลยรึไง”
ในสมองของเมดูซ่าปรากฏฉากวันนั้นที่เยี่ยหวันหวั่นพังโต๊ะขึ้นมา จากนั้นก็กระแอมไอเบาๆ แล้วเอ่ยว่า “จะยังไงก็ทนไว้ได้ตั้งหลายนาทีนะคะ ควบคุมการแสดงออกได้อยู่หมัด ยากมากเลยนะ…”
อี้หลิงจวินนึกในใจ นั่นไม่ง่ายเลยจริงๆ นั่นแหละ!
ท่ามกลางผู้คนที่อยู่ในงาน คนที่ตื่นตูมที่สุดหนีไม่พ้นอินเหิง ดังนั้นเขาจึงเต้นผิดอยู่หลายครั้ง เผลอเหยียบเท้าฉินซีย่วนเข้า
ฉินซีย่วนข่มกลั้นความเจ็บเอาไว้แล้วถลึงตาใส่อินเหิง อินเหิงถึงได้สติกลับมาจากอาการสติหลุด เพียงแต่เห็นได้ชัดว่าสติไม่อยู่กับการเต้นรำตั้งนานแล้ว
จะยังไงเขาก็คิดไม่ถึงว่าอี้อวิ๋นโม่จะไปชวนซือเยี่ยหานคุย…
ถึงขั้นที่…เป็นฝ่ายชวนซือเยี่ยหานเต้นรำก่อน!
สำหรับคำเชิญจากหญิงสาว ซือเยี่ยหานคล้ายจะตะลึงอยู่บ้าง เงียบไปชั่วขณะ แต่ก็ไม่ได้ตอบกลับ
เยี่ยหวันหวั่นเองก็ไม่รีบร้อน รอคอยอยู่แบบนั้นด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น
บนใบหน้าของคนทั้งสองต่างก็มองไม่เห็นอารมณ์หรือจุดบกพร่องใดๆ เลย ผู้คนรอบข้างที่เดิมทีคึกคักจอแจพลันตกอยู่ในความเงียบงันอย่างน่าประหลาด
ผ่านไปสักพัก ในที่สุดซือเยี่ยหานก็เปิดปากพูด “ขอโทษด้วยครับ คุณหนูอี้ วันนี้สุขภาพไม่อำนวย”
ทุกคนตกตะลึง!
ปะ…ปฏิเสธงั้นเหรอ
เขาบ้าไปแล้วใช่ไหม
“ตุลาการซือเขาเอาจริงใช่ไหม ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะปฏิเสธอี้อวิ๋นโม่!”
“ถ้าแม้แต่ลูกสาวประธานสภาก็ยังไม่แลอีก งั้นสายตาของเขาสูงขนาดไหนกันแน่”
“น่ากลัวว่าคนที่จะทำให้เขาต้องตาได้คงเป็นเทพธิดาแล้ว!”
หลังจากเห็นลูกชายปฏิเสธอี้อวิ๋นโม่ อินเยวี่ยหรงก็โกรธจนแทบกระอักเลือดแล้ว
ก่อนหน้านี้ตอนที่ลูกชายบอกตัวเองว่าไม่แยแสฉินซีย่วน เธอยังไม่คิดอะไรนัก รู้สึกว่าเขายังอายุน้อยไม่รู้ความ แต่กลับไม่คิดเลยว่า แม้แต่อี้อวิ๋นโม่ก็ยังไม่เข้าตา
ฝูงชนที่อยู่ด้านข้างพากันทอดถอนใจ
“อี้อวิ๋นโม่นิสัยแบบนี้ มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าหาเรื่องไม่ได้ ฉันว่าอีกเดี๋ยวน่ากลัวว่าซือเยี่ยหานคงมีเรื่องแล้ว!”
“รอดูเรื่องสนุกกันเถอะ!”
อย่าว่าแต่พวกเขาเลย ตอนนี้แม้แต่หลินเชวียและอวี๋เซ่าก็เหงื่อท่วมหัวแล้ว
ถึงแม้จะนึกสงสัยในตัวตนของผู้หญิงคนนี้อยู่บ้าง แต่ไม่ว่ายังไงตอนนี้ฐานะของเธอก็คือลูกสาวของอี้หลิงจวิน ไม่ใช่คนที่รับมือได้ง่ายๆ
อวี๋เซ่าไม่กล้ามองต่อไปแล้ว หลินเชวียก็ทุบอกกระทืบเท้าแล้ว “พี่เก้าเขา…ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะปฏิเสธต่อหน้าผู้คนแบบนี้ เขาฝืนไว้หน้าสักหน่อยไม่ได้รึไง ถึงยังไงซ้อเก้าก็ไม่เห็น ไม่รับรู้สักหน่อย!”
ขณะที่ทุกคนกำลังรอให้อี้อวิ๋นโม่แผลงฤทธิ์ออกมา สร้างความลำบากให้ซือเยี่ยหานอยู่นั้น อี้อวิ๋นโม่กลับคล้ายว่าจะไม่มีความโกรธเคืองต่อคำปฏิเสธของซือเยี่ยหานเลย แค่พยักหน้าสื่อว่าเข้าใจแล้ว จากนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า “ไม่ถือใช่ไหมถ้าฉันจะนั่งตรงนี้”
ซือเยี่ยหานตอบ “แน่นอน”
ต่อมาเยี่ยหวันหวั่นก็ยกมือขึ้น บริกรที่อยู่ด้านข้างรีบวิ่งเหยาะๆ เข้ามา และสอบถามอย่างระมัดระวัง “คุณหนูอี้ คุณหนูมีอะไรจะสั่งการเหรอครับ”
จบสิ้นแล้ว คุณหนูอี้จะแผลงฤทธิ์แล้ว!
เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองไวน์แดงที่อยู่ตรงหน้าซือเยี่ยหาน “เอาไวน์แก้วนี้ของตุลาการซือไปซะ”
บริกรมีสีหน้าไม่เข้าใจ “เอ่อ ความหมายของคุณหนูอี้คือ…”
เอาแก้วไวน์แดงของซือเยี่ยหานไป หมายความว่ายังไง
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเผด็จการไม่รับฟังคำปฏิเสธ “เปลี่ยนเป็นน้ำแกงโสมบำรุงประสาท”
บริกรนิ่งไปแวบหนึ่ง…
ขณะที่บริกรมีสีหน้าตะลึงงัน เยี่ยหวันหวั่นก็มุ่นคิ้วนิดๆ แล้วเอ่ยเสริมอีกประโยค “แอร์เย็นเกินไปแล้ว ตุลาการซือไม่ค่อยสบาย ไปหยิบผ้าคลุมมาด้วย”
บริกรทึ่มทื่อไปแล้ว…
ซือเยี่ยหานนิ่งเงียบ…
ทุกคนที่อยู่ในงานต่างก็ไม่เข้าใจ…
คำสั่งการเป็นชุดๆ ด้วยท่าทางเหมือนประธานจอมเผด็จการของเยี่ยหวันหวั่น ทำให้ทุกคนตกตะลึงตาค้างได้สำเร็จ
—————————————————————————————
บทที่ 2312 ไม่ใช่นางฟ้าหรอกเหรอ
เท้าของฉินซีย่วนถูกอินเหิงเหยียบจนในที่สุดก็เต้นต่อไปไม่ได้แล้ว จึงถลึงตาใส่อินเหิงอย่างดุดันแวบหนึ่ง
อินเหิงในตอนนี้ถึงขั้นที่ไม่มีแก่ใจไปปลอบโยนง้องอนฉินซีย่วนแล้ว จ้องมองไปทางสองคนนั้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ภายใต้แชนเดอร์เลียร์คริสตัล ดวงตาของหญิงสาวราวกับแสงสว่างท่ามกลางราตรี สีหน้าที่สงบเยือกเย็นอยู่ตลอดของซือเยี่ยหานดูจะขับเน้นเสริมส่งกันกับเธอ
คนสองคนที่เยือกเย็นเหมือนกัน พออยู่ด้วยกันแล้วจะมองยังไงก็ดูกระอักกระอวนชัดๆ แต่กลับทำให้คนรู้สึกว่าเข้ากันดีมากอย่างน่าประหลาด
อี้อวิ๋นโม่คนนี้ คิดอะไรอยู่กันแน่
ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าเธอหมางเมินดูแคลนซือเยี่ยหานรึไง
แต่ทำไมจู่ๆ ท่าทีที่มีต่อเขาถึงเปลี่ยนไปมากเลยล่ะ
แน่นอนว่า ตอนนี้อารมณ์ของฉินซีย่วนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไร ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งพูดไปว่า ซือเยี่ยหานเป็นฝ่ายตามจีบเธอ แต่เธอเองที่ไม่สนใจชาวบ้านเขา
แต่ตอนนี้กลับดีนัก ไม่น่าเชื่อเลยว่าแม้แต่ลูกสาวประธานสภาซือเยี่ยหานก็ยังปฏิเสธได้
แล้วใครเขาจะเชื่อคำพูดของเธออีกล่ะ
เป็นอย่างที่ฉินซีย่วนคาดการณ์ไว้ ตอนนี้มีคนได้สติกลับมาแล้ว
“อันที่จริงก่อนหน้านี้ก็ลือกันว่าฉินซีย่วนเป็นฝ่ายตามจีบซือเยี่ยหาน แต่ถูกซือเยี่ยหานปฏิเสธ ตอนแรกฉันยังไม่เชื่อ รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้ฉันกลับเชื่อขึ้นมาบ้างแล้ว!”
“ถึงยังไงเขาก็ปฏิเสธได้แม้แต่อี้อวิ๋นโม่…ฉันว่า หรือว่าตุลาการซือจะไม่ได้ชอบผู้หญิง”
“ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ ฉันได้ยินว่าเขามีคู่หมั้นแล้ว เป็นคุณหนูรองของตระกูลเนี่ยแห่งเมืองอวิ๋น!”
พอได้ยินแบบนี้ คนที่อยู่ด้านข้างก็พลันเกิดความเลื่อมใสขึ้นมาแล้ว “คุณหนูรองคนนั้นจะไม่ใช่นางฟ้าหรอกเหรอ?!”
….
บริกรตื่นตะลึงอยู่นานกว่าจะได้สติกลับคืนมา จากนั้นจะกล้าโอ้เอ้ได้ยังไง รีบเก็บสายตากลับแล้วไปเตรียมน้ำแกงโสมกับผ้าคลุมมา
ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นเตรียมจะพูดอะไรต่อ เวลานี้เอง อี้หลิงจวินได้เดินเข้ามาด้วยท่าทางของบิดาผู้อารี จากนั้นก็กดลงบนไหล่ของเยี่ยหวันหวั่นเบาๆ “อวิ๋นโม่ มานี่สิ พ่อมีเพื่อนจะแนะนำให้ลูกรู้จัก!”
อี้หลิงจวินคิดในใจ สาวน้อย! ถ้าเธอไม่เก็บอาการอีกจะหลุดจากบทจริงๆ แล้วนะ!
เยี่ยหวันหวั่นร้อง ‘ชิ’ อยู่ในใจด้วยความไม่พอใจ เพียงแต่จะดีร้ายยังไงก็รู้ว่าควรพอแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นจึงมองไปที่ซือเยี่ยหาน แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าไร้คลื่นอารมณ์ “ตุลาการซือ ขอตัวก่อน”
พอพูดจบก็ตามอี้หลิงจวินไป
เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งไปได้ไม่นาน หลินเชวียกับอวี๋เซ่าก็วิ่งเข้ามาทันที
หลินเชวียเอ่ยด้วยสีหน้าตื่นตะลึง “เวรเอ้ย! ทำฉันตกใจแทบตายแล้ว! พี่เก้า นี่มันเกิดอะไรกันขึ้น”
วิธีการนี้ของอี้อวิ๋นโม่ ทำให้คนหวาดผวายิ่งกว่าเธออาละวาดออกมาตรงๆ ซะอีก
อวี๋เซ่าลองถามหยั่งเชิง “หรือแค่นึกสนใจขึ้นมาเท่านั้น”
หลินเชวียมองอวี๋เซ่าเหมือนเห็นคนโง่แวบหนึ่ง “ถ้าเป็นคนอื่น หรือเป็นทุกคนที่อยู่ในงาน ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น แต่นี่คืออี้อวิ๋นโม่ นายเห็นท่าทางไม่เห็นใครอยู่ในสายตาของเธอไหม แม้แต่พูดก็ยังขี้เกียจจะพูดกับคนอื่นเลย จะอยู่ว่างไม่มีอะไรทำจนมาสนใจคนคนหนึ่งได้ยังไง”
อวี๋เซ่าจ้องเขา “งั้นนายคิดว่ายังไงล่ะ”
หลินเชวียเงียบแล้ว ไม่…ไม่กล้าพูดหรอก…
หลินเชวียได้แต่มองไปที่ซือเยี่ยหาน “พี่เก้า พี่พูดอะไรบ้างสิ!”
ซือเยี่ยหานปรายตามองหลินเชวียแวบหนึ่ง “พูดอะไร อี้อวิ๋นโม่ถูกใจฉันงั้นเหรอ”
หลินเชวียอึกอักอยู่บ้าง “นี่…นี่เป็นพี่พูดเองนะ…ฉันไม่ได้พูด…”
ใบหน้านี้ของพี่มันน่าดึงดูดจริงๆ จะโทษว่าเขาคิดเหลวไหลไม่ได้นะ…
หลินเชวียกลืนน้ำลาย “พี่เก้า ฉันสับสันไปหมดแล้ว ผู้หญิงคนนี้เกี่ยวข้องกับซ้อเก้ายังไงกันแน่ ไม่งั้นพี่ลองโทรไปถามซ้อเก้าดูตอนนี้เลยดีไหม”
ซือเยี่ยหานเหลือบมองหลินเชวียแวบหนึ่ง “ถ้าหวันหวั่นตั้งใจปิดบังฉัน ต้องเตรียมการไว้ก่อนแล้วแน่นอน ต่อให้โทรไปก็ถามไม่ได้ความจริงหรอก”
—————————————————————————————