แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2313 ดึงดูดสาวๆ มาอีกแล้ว / บทที่ 2314 แล้วถ้าฉันมีความคิดแบบนั้นล่ะ
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2313 ดึงดูดสาวๆ มาอีกแล้ว / บทที่ 2314 แล้วถ้าฉันมีความคิดแบบนั้นล่ะ
บทที่ 2313 ดึงดูดสาวๆ มาอีกแล้ว
ซือเยี่ยหานนิ่งไปแวบหนึ่ง เอ่ยต่อว่า “ถ้าอี้อวิ๋นโม่ไม่ใช่หวันหวั่น แบบนั้นสายนี้ของฉัน…”
พอหลินเชวียได้ยินแบบนี้ เหงื่อพลันท่วมหัว “ถ้าว่าไม่ใช่ นั่นจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น! ซ้อเก้าจะรู้ว่าพี่ดึงดูดสาวๆ มาอีกแล้ว! พอถึงเวลาต้องตายแน่! พี่เก้า ยังคงเป็นพี่ที่ความคิดลึกล้ำมองการณ์ไกล! ร้ายกาจเหลือเกิน!”
อวี๋เซ่าที่อยู่ด้านข้างได้ฟังมาถึงตรงนี้ก็พยักหน้ารัวๆ เช่นกัน
“แต่ว่า ท่านครับ ตอนนี้จะเอายังไงดี” อวี๋เซ่าถามอย่างระมัดระวัง
“ตุลาการซือ…” เวลานี้เอง เสียงฝีเท้าของบริกรก็แว่วดังเข้าหู
การบริการของบริกรนั้นว่องไวมาก นำน้ำแกงโสมและผ้าคลุมมาส่งให้อย่างรวดเร็ว
“ตุลาการซือครับ ขออภัยด้วยจริงๆ ในงานเลี้ยงครั้งนี้ไม่ได้เตรียมน้ำแกงโสมไว้ แกงโสมถ้วยนี้พวกเราส่งคนไปซื้อมาจากภัตตาคารที่ดีที่สุดในเมืองเทียนสุ่ยครับ!” ท่าทางที่บริกรมีต่อซือเยี่ยหานเปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์ พูดจานอบน้อมใส่ใจอย่างยิ่ง
ซือเยี่ยหานพยักหน้ารับ และบอกให้บริกรไปได้แล้ว
หลังจากบริการไปแล้ว ซือเยี่ยหานยกฝาถ้วยน้ำแกงโสมขึ้น มองอวี๋เซ่าแวบหนึ่ง “รอดูกันต่อไป”
ถ้าอยากรู้ว่าเธอเป็นใคร ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธี…
….
อีกด้านหนึ่ง อี้หลิงจวินลากเยี่ยหวันหวั่นกลับมาได้ในที่สุด เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ และป้องกันไม่ให้เธอแฉตัวเองต่อไป จึงลากเธอเข้าไปในกลุ่มระดับสูงที่อยู่รอบๆ
ท่าทางก่อนหน้านี้ของอี้อวิ๋นโม่ถึงแม้จะทำให้คนประหลาดใจมาก แต่ก็ทำให้คนไม่น้อยมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
ที่แท้ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครเข้าตาอี้อวิ๋นโม่เลย
งั้นก็หมายความว่าพวกเขาก็ยังพอมีโอกาสอยู่เหมือนกัน
ประกอบกับอี้หลิงจวินกำลังเป็นฝ่ายชักจูง สร้างโอกาส คนมากมายจึงเริ่มเข้ามาใกล้อีกครั้ง
ตุลาการคนหนึ่งลองเข้ามาเชื้อเชิญดู “คุณหนูอี้ ดูเหมือนคุณจะชอบเต้นรำนะครับ ผมพอจะมีเกียรติได้เชิญคุณไปเต้นรำด้วยกันสักเพลงไหมครับ”
เยี่ยหวันหวั่นตอบอย่างเฉยเมย “ไม่สนใจ”
สีหน้าของตุลาการคนนั้นก็ผงะไป ค่อนข้างอับอายขึ้นมาในทันใด
แต่ก่อนหน้านี้เธอเป็นฝ่ายชวนคนอื่นเต้นรำอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ไม่สนใจแล้วล่ะ
เขานึกว่าอย่างน้อยๆ อี้อวิ๋นโม่น่าจะชอบเต้นรำ ใครจะคิดว่าคนอื่นเขาจะตอบว่าไม่สนใจ กลับมามีท่าทางไม่เห็นใครอยู่ในสายอีกครั้ง…
ความแตกต่างในการปฏิบัติจะชัดเกินไปหน่อยรึเปล่า
ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นคิดอยู่ในใจ ชอบกับตูดน่ะสิ เธอชอบที่ได้เต้นรำกับคนนั้นของเธอต่างหาก
เวลานี้ สมาชิกอาวุโสคนหนึ่งพาหนุ่มน้อยหน้าขาวผ่องคนหนึ่งเดินเข้ามา พร้อมกับเอ่ยด้วยใบหน้าเปี่ยมรอยยิ้ม “ประธานสภาครับ นี่คือลูกชายผม เป็นแฟนคลับตัวยงของประธานสภาเลยนะครับ ไปฟังปาฐกถาของประธานสภาทุกครั้งเลยครับ
คุณหนูอี้เพิ่งกลับมาถึงเมืองเทียนสุ่ย อาจจะยังไม่รู้จักใคร ถ้าเกิดเบื่อๆ ขึ้นมาสามารถเรียกเขาไปหาได้ตลอดเวลาเลยนะครับ ถึงแม้หน้าตาของลูกชายผมจะไม่เท่าไร แต่นิสัยละเอียดลออรอบคอบ…”
เยี่ยหวันหวั่นฟังแล้วมองไปที่หนุ่มน้อยคนนั้นตามสัญชาตญาณแวบหนึ่ง เป็นเด็กหนุ่มท่าทางสะอาดสะอ้านคนหนึ่ง อายุไม่มาก ดูเหมือนจะผ่านโลกมาไม่มาก แววตาใสกระจ่าง ท่าทางดูสบายๆ เป็นกันเอง
เพียงแต่ เวลานี้พอได้ยินคำพูดของผู้เป็นพ่อ แววตาของหนุ่มน้อยก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวังและอดสู เห็นได้ชัดว่าถูกบังคับ ไม่เต็มใจจะทำเรื่องแบบนี้
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นเห็นแววตาของหนุ่มน้อย ก็รู้สึกว่ามีตรงไหนที่ผิดเพี้ยนไปอย่างน่าประหลาด…
ทำไมพล็อตเรื่องแบบนี้มันคุ้นๆ กันนะ
ในงานเลี้ยง เพื่อเอาใจท่านประธานจอมเผด็จการ พ่อสารเลวจึงพยายามส่งลูกสาวขึ้นเตียงประธานจอมเผด็จการ…
เธอหยิบบทมาผิดรึเปล่าเนี่ย
เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกจิตตก จึงรีบหยุดความคิดที่น่าตื่นตะลึงพวกนี้ลง
และในเวลานี้เอง ไม่ไกลออกไป ฉากที่ชายหนุ่มมากหน้าหลายตาห้อมล้อมอยู่รอบกายเยี่ยหวันหวั่นอย่างกระตือรือร้น แน่นอนว่าเข้าสู่สายตาของซือเยี่ยหานแล้ว…
—————————————————————————————
บทที่ 2314 แล้วถ้าฉันมีความคิดแบบนั้นล่ะ
สมาชิกระดับสูงคนนั้นเห็นสายตาเยี่ยหวันหวั่นมองไปที่ลูกชายตัวเอง อีกทั้งท่าทางก็ดูไม่ได้หงุดหงิดอย่างหาได้ยากด้วย ในใจก็เกิดความหวังขึ้นมาทันที ยิ่งพยายามผลักดันลูกชายของตัวเอง
“อาหยาง ยังไม่รีบแนะนำตัวกับคุณหนูอี้อีก!” สมาชิกระดับสูงผลักลูกชายทีหนึ่ง
เด็กหนุ่มที่ถูกเรียกว่าอาหยางเม้มริมฝีปากบางๆ แน่น ใบหน้าซีดขาว ทำเพียงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
สมาชิกระดับสูงร้อนใจแล้ว “มัวยืนโง่อยู่ทำไม!”
เด็กหนุ่มผลักผู้เป็นพ่อออก “ขอโทษครับผมมีธุระด่วน ขอตัวก่อน!”
“แก…” สมาชิกระดับสูงเห็นเด็กหนุ่มหนีไปแล้ว ก็โมโหจนกระทือเท้าเร่าๆ
รีบเอ่ยขอโทษเยี่ยหวันหวั่นทันที “คุณหนูอี้ ขอโทษจริงๆ ครับ เด็กคนนี้นิสัยเก็บตัว กลัวคนแปลกหน้าอยู่บ้าง”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยส่งๆ ประโคหนึ่งว่า “มีเอกลักษณ์มาก”
ในรัฐอิสระโดยเฉพาะในแวดวงสภาตุลาการนี้ ยังซื่อตรงขนาดนี้อยู่ พบเจอได้น้อยมากจริงๆ
สมาชิกระดับสูงก็ไม่ทราบเช่นกันว่าคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่นเป็นคำชมหรือเสียดสี จึงหัวเราะแหะๆ แล้วพูดแก้ตัวอยู่ตลอด
เพียงแต่ ดูแล้วคุณหนูอี้ไม่มีท่าทางว่าจะโกรธ แถมยังบอกว่ามีเอกลักษณ์มาก น่าจะพอใจอยู่บ้างใช่ไหม
ไอ้เด็กตัวเหม็นคนนี้ ไม่รู้ดีรู้ชั่วเกินไปแล้ว ยังไงก็ตาม เขามีวิธีให้เขายอมสยบ
กลับไปแล้วจับมัดเอามาส่งให้คุณหนูอี้ซะก็พอ!
เขาดำรงตำแหน่งใกล้ครบวาระแล้ว เป็นไปได้สูงที่จะถูกปลดออก ประธานอี้นั้นเอาใจยากมาก แต่ถ้าได้รับความพอใจจากอี้อวิ๋นโม่ แบบนั้นก็เป็นการนอนหมอนสูงไร้กังวลแล้ว
ตลอดทั้งคืน เพื่อไม่ให้เยี่ยหวันหวั่นมีเวลาได้ไปหาซือเยี่ยหาน อี้หลิงจวินจึงทำตัวเป็นดอกไม้ล่อผีเสื้อ บังคับลากตัวเธอร่อนไปทั่ว
และสุดท้ายก็ไม่ง่ายเลยกว่าจึงช่วงสิ้นสุดงานเลี้ยง
หน้าห้องจัดเลี้ยงเต็มไปด้วยรถหรู บรรดาสมาชิกระดับสูงต่างทยอยกันออกจากงานเลี้ยงไปเรื่อยๆ
เยี่ยหวันหวั่นมองดูฝูงชน จนปัญญาที่มีคนมากมายเกินไป เลยมองไม่เห็นเงาของซือเยี่ยหานแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นถลึงตาใส่อี้หลิงจวินแวบหนึ่งด้วยความฉุนเฉียว
อี้หลิงจวินเลิกคิ้ว “ถลึงตาใส่ฉันทำไม! ดูที่เธอทำเข้าเถอะ เมื่อกี้ชาวบ้านเขาปฏิเสธเธอต่อหน้าผู้คนเลยนะ!”
เยี่ยหวันหวั่นไม่โกรธ แต่กลับภาคภูมิใจมาก “ปฏิเสธฉันแล้วไงล่ะ ท่าทางตอนที่รักของฉันปฏิเสธฉันน่ะหล่อเกินไปแล้ว!”
อี้หลิงจวินพูดไม่ออกแล้ว…
ถึงแม้จะทนมองท่าทางหลงใหลคลั่งไคล้ผู้ชายของลูกศิษย์ตัวน้อยไม่ได้ แต่ครั้งนี้ท่าทีของซือเยี่ยหานกลับไม่เลวเลย
ไม่น่าเชื่อว่าจะปฏิเสธความเย้ายวนมากขนาดนี้ได้ ทำให้เขาต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่บ้างแล้ว
ละครจัดฉากไว้ครบครัน อี้หลิงจวินช่วยเตรียมที่พักเอาไว้ให้เยี่ยหวันหวั่นเรียบร้อยแล้ว เยี่ยหวันหวั่นสอดส่ายสายตามองหาซือเยี่ยหาน พลางรอรถมารับไปด้วย
ตอนกลางคืน หญิงสาวแค่ยืนอยู่กับที่อย่างสบายๆ แต่กลับเปล่งประกายสะดุดตาเหมือนดวงตะวันจันทรา ทำให้ผู้คนละสายตาไปไม่ได้
“คุณหนูอี้…”
เสียงของผู้ชายแว่วมาจากด้านหลัง เยี่ยหวันหวั่นก็หันไปมองตามสัญชาตญาณ จากนั้นจึงมองเห็นอินเหิงยืนอยู่ตรงนั้น
สำหรับคนที่ไม่สนใจแล้ว หญิงสาวดูคล้ายจะไม่มีความต้องการจะเปิดปากพูดแม้แต่คำเดียว
อินเหิงที่ถูกเมินฟื้นสีหน้ากลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วเอ่ยขึ้นว่า “สวัสดีครับคุณหนูอี้ ก่อนหน้านี้ผมยังไม่มีโอกาสแนะนำตัวเลย ผมชื่ออินเหิง เป็นน้องชายบุญธรรมของตุลาการซือครับ”
พอได้ยินคำว่า ‘น้องชายบุญธรรมของตุลาการซือ’ ในที่สุดหญิงสาวก็ชายตามองเขาแวบหนึ่งแล้ว
อินเหิงเอ่ยแก้ตัวแทน “คุณหนูอี้ พี่ใหญ่ของผมคนนี้นิสัยประหลาด อัธยาศัยไม่ค่อยดี ถ้าก่อนหน้านี้ล่วงเกินอะไรตรงไหนไป คุณหนูอี้โปรดอย่าถือสาเลยนะครับ!”
พออินเหิงเอ่ยมาถึงตรงนี้ ก็หักเหหัวข้อสนทนาไปทันที เอ่ยชี้แจงว่า “พี่ใหญ่ของผมมีคู่หมั้นแล้ว ได้ยินว่าอีกฝ่ายเคร่งครัดมาก และเป็นคนที่รับมือได้ยากมากด้วย คงเป็นเพราะสาเหตุนี้ พี่ชายบุญธรรมของผมถึงได้ปฏิเสธคำชวนของคุณหนู”
อินเหิงยกยิ้มแวบหนึ่ง “อ่อ แน่นอนว่าพี่ใหญ่ของผมก็คงคิดมากไปจริงๆ คุณหนูอี้จะมีความคิดแบบนั้นกับพี่ใหญ่ของผมได้ยังไง…”
อินเหิงยังพูดไม่จบ หญิงสาวก็มองเขาด้วยสายตาไม่ร้อนใจพลางกล่าวขึ้นมา “แล้วถ้าฉันมีล่ะ”
อินเหิงผงะไป…
—————————————————————————————