แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2329 รสชาติอาหารหมาที่คุ้นเคยแบบนี้ / บทที่ 2330 อาศัยบารมีพ่อ ใครบ้างทำไม่เป็น
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2329 รสชาติอาหารหมาที่คุ้นเคยแบบนี้ / บทที่ 2330 อาศัยบารมีพ่อ ใครบ้างทำไม่เป็น
บทที่ 2329 รสชาติอาหารหมาที่คุ้นเคยแบบนี้
ณ ทางเข้า
ถึงแม้เมดูซ่าจะเตรียมใจไว้ก่อนแล้ว ก็ยังมีสีหน้าหมดคำพูดอยู่ดี เผยไต๋ออกมาแบบนี้แล้ว ทำได้แค่กลับไปก่อนเท่านั้น
ส่วนหลินเชวียและอวี๋เซ่า…
ลมราตรีพัดโชย มองเห็นอี้อวิ๋นโม่และซือเยี่ยหานเดินเข้าไปในวิลล่าด้วยกัน ทั้งสองยืนทึ่มอยู่ตรงนั้น ราวกับรูปปั้นสองชิ้น
อวี๋เซ่าพูดจาตะกุกตะกัก “ทะ…ทำยังไงดี...”
หลินเชวียจนปัญญาแล้ว “ไม่ใช่ว่านายอยากให้พี่เก้าใช้แผนชายงามมาตลอดหรอกเหรอ แบบนี้ยังไม่สมใจนายอีกรึไง!”
อวี๋เซ่าเอ่ยแก้ตัว “แต่ฉันไม่เคยบอกให้ท่านตุลาการไป…นอน…นอน…”
หลินเชวียทนฟังต่อไม่ไหว ช่วยพูดจบประโยคให้ “นอนด้วย!”
อวี๋เซ่าไล่ตามไปด้วยความกระวนกระวาย “…ไม่ได้ ต้องขวางท่านตุลาการไว้!”
หลินเชวียรีบคว้าตัวเขาไว้ “กลับมา! ทำไมนายถึงได้ซื่อบื้อขนาดนี้! นายยังมองไม่ออกรึไง”
อวี๋เซ่างุนงง “มองอะไรออกล่ะ”
หลินเชวียบ่นอุบ “อี้อวิ๋นโม่คนนั้น ก็คือเนี่ยอู๋โยว!”
อวี๋เซ่าตกตะลึง “นายว่ายังไงนะ นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง”
หลินเชวียตบบ่าอวี๋เซ่า แล้วเอ่ยด้วยสุ้มเสียงที่มั่นใจ “ฉันก็รู้สึกเหมือนกันว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เชื่อฉันเถอะ รสชาติอาหารหมาที่คุ้นเคยแบบนี้ ต่อให้ฉันหลับตาอยู่ก็ไม่มีทางจำผิด!”
อวี๋เซ่าเงียบไปแล้ว
….
ในห้องนอน
เยี่ยหวันหวั่นนั่งฟึดฟัดอยู่บนเตียง
ซือเยี่ยหานปลดกระดุมเสื้อ พลางโน้มตัวลงไปลูบหัวหญิงสาว “รอฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
ไวน์แดงเต็มแก้วที่เยี่ยหวันหวั่นสาดออกไปก่อนหน้านี้ ไม่ได้เปื้อนแค่เสื้อนอก แต่เสื้อเชิ้ตด้านในก็เปื้อนไม่น้อยเลย
ซือเยี่ยหานเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างไม่รีบไม่ร้อน ผ่อนคลายสบายใจ
แต่กลับช้าเกินไป
เยี่ยหวันหวั่นนั่งอยู่ตรงนั้น เห็นได้ชัดว่าไม่มีความอดทนแล้ว
ซือเยี่ยหานสังเกตเห็นท่าทางเล็กๆ น้อยๆ ของหญิงสาวได้ จึงจดกระดุมไว้เพียงครึ่งเดียวก็ไม่ทำต่อแล้ว ทำเพียงเดินตรงเข้าไปหาหญิงสาวเลย “ยังโกรธอยู่เหรอ”
พอเห็นว่าในที่สุดซือเยี่ยหานก็ไม่วุ่นวายกับเสื้อผ้าชุดนั้นต่อแล้ว สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นถึงได้ดีขึ้นมาเล็กน้อย จึงพลันออกแรง ทับคนไว้บนเตียงซะเลย “คุณมองฉันออกตั้งแต่เมื่อไหร่”
ซือเยี่ยหานตอบสั้นๆ “เมื่อกี้”
เยี่ยหวันหวั่นหรี่สองตาลง เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อ “จริงเหรอ”
ซือเยี่ยหานได้แต่เปลี่ยนคำพูดไป “ตอนที่เธอชวนฉันไปเต้นรำ”
เยี่ยหวันหวั่นหงุดหงิดแล้ว “พูดความจริงมา!”
ซือเยี่ยหานยกมุมปากขึ้นนิดๆ “ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเธอ”
เยี่ยหวันหวั่นตะลึงงัน
แบบนี้ไม่สมเหตุสมผลเลย! มองเธอออกง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ
“ถ้างั้นทำไมคุณเอาแต่ปฏิเสธฉันอยู่ตลอด” เยี่ยหวันหวั่นถลึงตาใส่เขา
ซือเยี่ยหานตอบไปตามตรง “ฉันแค่ให้ความร่วมมือกับเธอ”
เยี่ยหวันหวั่นนิ่งไปอีกครั้ง เถียงไม่ได้เลย
ตอนแรกเธอคิดว่าตัวเองเป็นราชา ผลลัพธ์คือเธอเป็นราชาจริงๆ แต่ซือเยี่ยหานเขาเป็นเทพเจ้า เขาเป็น GM!
ซือเยี่ยหานใช้มือข้างหนึ่งโอบเอวของหญิงสาวไว้ แล้วเอ่ยเรียบๆ “เธอไม่ต้องกลับไปที่โรงแรมเหรอ”
พอพูดถึงโรงแรมก็นึกถึงหนุ่มที่เปลือยอยู่บนเตียงขึ้นมา…
ความโกรธของเยี่ยหวันหวั่นอ่อนลงทันที “ฉันจะกลับไปที่โรงแรมทำไม แน่นอนว่าไม่กลับไปอยู่แล้ว! เรื่องคืนนี้ฉันไม่รู้ด้วยจริงๆ นะ ตุลาการสวี่คนนั้นไม่รู้ว่าทำไมถึงส่งเขาเข้ามาให้! ฉันก็เป็นเหยื่อเหมือนกันนะ! อีกอย่างทางฉันน่ะยังไงก็มีแค่คนเดียว แต่ทางคุณน่ะมีสาวสวยส่งมาให้ทุกคืนเลยนี่!”
ซือเยี่ยหานตอบไปตามตรง “เรื่องของแม่ฉันฉันควรจะขอโทษเธอด้วย แค่ห่วงว่าเธอจะโกรธ เพราะงั้นฉันถึงไม่อยากให้เธอมาที่เมืองเทียนสุ่ย มาย่ำน้ำครำแอ่งนี้”
พอได้ฟังคำพูดของซือเยี่ยหาน เธอยังจะโกรธได้ซะที่ไหน รู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที
เยี่ยหวันหวั่นจึงเอ่ยไปว่า “งั้นก็เสมอกันเถอะ คุณก็ห้ามโกรธแล้วเหมือนกัน!”
ซือเยี่ยหานตอบสั้นๆ “ฉันจะพยายาม”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออกเลย
ไม่ใช่ว่าต่อให้โกรธแค่ไหนก็ต้องบอกว่าไม่โกรธหรอกเหรอ จะซื่อตรงขนาดนี้ทำไม
ช่างเถอะ โรงงานน้ำส้มของคุณใหญ่โตมาก แล้วแต่คุณเถอะ
—————————————————————————————
บทที่ 2330 อาศัยบารมีพ่อ ใครบ้างทำไม่เป็น
เยี่ยหวันหวั่นเห็นว่าคุยกันมาจนถึงตอนนี้แล้วซือเยี่ยหานก็ไม่เอ่ยถามเรื่องอี้อวิ๋นโม่กับตัวเองเลย จึงทนไม่ไหวเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเอง “คุณไม่ถามฉันหน่อยเหรอว่าเรื่องอี้อวิ๋นโม่เป็นยังไงกันแน่”
ซือเยี่ยหานโอบหญิงสาวไว้ในอ้อมแขน “ถ้าเธออยากพูด เดี๋ยวก็เล่าให้ฉันฟังเองนั่นแหละ”
“อื้อ อันที่จริงนี่เกี่ยวพันถึงความลับของอี้หลิงจวิน พูดกับคนนอกไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคิดว่าต้องเกิดมรสุมใหญ่แน่!” เยี่ยหวันหวั่นกล่าว จากนั้นก็เฉไฉไป “แต่คุณไม่ใช่คนนอก บอกคุณไปก็ไม่เป็นไรหรอก”
เมื่อซือเยี่ยหานได้ฟังแล้วแววตาก็พลันอ่อนลง
เยี่ยหวันหวั่นเล่าออกมา “เรื่องนั้นน่ะ อันที่จริงอี้หลิงจวินยังมีอีกหนึ่งตัวตนที่ให้คนรู้ไม่ได้ และอีกหนึ่งตัวตนนั้น บังเอิญเป็นคนที่ฉันรู้จักพอดี!”
ซือเยี่ยหานเอ่ยทวน “อีกหนึ่งตัวตนงั้นเหรอ”
อีกหนึ่งตัวตนของอี้หลิงจวิน แถมยังเป็นคนที่เยี่ยหวันหวั่นรู้จัก ซือเยี่ยหานนึกไม่ออกไปชั่วขณะจริงๆ
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าแล้วเล่าต่อไปว่า “ถ้าบอกไปคุณต้องไม่อยากเชื่อแน่ๆ อีกหนึ่งตัวตนของอี้หลิงจวินก็คือ…เฮ่อเหลียนเจวี๋ย...”
ใบหน้าของซือเยี่ยหานฉายแววประหลาดใจ คำตอบนี้อยู่เหนือความคาดหมายจริงๆ “เฮ่อเหลียนเจวี๋ย อาจารย์ของเธอใช่ไหม”
เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ “ใช่แล้ว ก็คือเขา ตอนที่เขาเรียกฉันไปพบ ฉันก็ตกใจเหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าเฒ่าประหลาดเฮ่อเหลียนเจวี๋ยจะมีฐานะแบบนี้ด้วย! ตัวตนหนึ่งเป็นปรมาจารย์วิธียุทธ์ผู้สูงส่งมีคุณธรรม อีกหนึ่งตัวตนเป็นเฒ่าประหลาดที่คนอยากอัดให้น่วม คนสองคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนคนเดียวกัน!”
พอได้ยินเยี่ยหวันหวั่นเล่าแบบนี้ ซือเยี่ยหานถึงได้เข้าใจต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวแล้ว “มิน่าล่ะ”
เยี่ยหวันหวั่นอธิบายต่อว่า “ส่วนที่ว่าทำไมฉันถึงกลายเป็นลูกสาวเขา ทั้งหมดเป็นเพราะนิสัยแย่ๆ ของตาเฒ่าคนนั้น ตัวเองไม่มีลูกสาว เลยคิดจะชุบมือเปิบลักพาตัวมาสักคน แน่นอนว่าฉันไม่มีทางตอบรับคำขอเหลวไหลแบบนี้! แต่วันนั้นฉันกลับเห็น…”
พอฟังมาถึงตรงนี้ ซือเยี่ยหานก็คล้ายจะเข้าใจอะไรแล้ว “วันนั้นตอนที่ฉันไปเยี่ยมประธานอี้ เธอก็อยู่ใช่ไหม”
แววตาของเยี่ยหวันหวั่นหม่นหมองลง “ใช่แล้ว แถมยังเห็นฉินซีย่วนยื้อยุดคุณไว้ด้วย! ฉันจะไปทนไหวได้ยังไง เพราะงั้นเลยตอบตกลงไปด้วยความโมโห! อาศัยบารมีพ่อ ใครบ้างจะทำไม่เป็น!”
ซือเยี่ยหานเอ่ยขึ้นมาลอยๆ “โต๊ะในห้องรับแขกของประธานอี้…”
เยี่ยหวันหวั่นตอบทันที “ฉันพังเอง!”
ซือเยี่ยหานเอ่ยขึ้นมาอีก “รอยแตกบนพื้น…”
เยี่ยหวันหวั่นไม่ปฏิเสธ “ฉันฟันเอง!”
ซือเยี่ยหานเงียบไปแล้ว
ดังนั้นในโทรศัพท์วันนั้น ที่เธอพูดมากมายขนาดนั้น บอกให้เขาวางใจ บอกว่าตัวเองไม่มีทางวู่วามเข้าใจผิดไปแน่นอน ไม่เป็นความจริงเลยสักคำเดียว…
เขาน่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วสิน่า
ขณะที่ทั้งสองคุยกันอยู่ มือถือของเยี่ยหวันหวั่นก็ดังขึ้น เป็นสายเรียกเข้าจากอี้หลิงจวิน
เยี่ยหวันหวั่นรับสายอย่างไม่มีทางเลือก เพิ่งกดรับสายก็ได้ยินเสียงบ่นที่แตกตื่นของอี้หลิงจวินดังมาจากปลายสาย “ด้วยความเป็นมืออาชีพ ไม่มีทางโป๊ะแตกแน่สินะ!”
เยี่ยหวันหวั่นจิ้มร่างของซือเยี่ยหานด้วยความหงุดหงิด แต่ถูกซือเยี่ยหานจับมือน้อยที่วุ่นวายเอาไว้ถึงได้ยอมสงบลง แล้วถอนหายใจเฮือกหนึ่ง เอ่ยกับอี้หลิงจวินที่อยู่ในสาย “โป๊ะเป๊อะอะไรล่ะ…พออยู่ต่อหน้าที่รักของฉันก็ไม่มีประโยชน์ตั้งแต่แรกแล้ว…”
อี้หลิงจวินอึ้งไปแล้ว
ซือเยี่ยหานอยู่เงียบๆ
เยี่ยหวันหวั่นพูดต่อไปว่า “โป๊ะแตกแล้วก็ดี ฉันจะได้ไม่ต้องเหนื่อยตามจีบอีก เอาละ ไม่คุยกับคุณแล้ว หนูวางแล้วนะพ่อ หนูจะนอนแล้ว ฝันดีค่ะ บ๊ายบาย!”
อี้หลิงจวินร้องค้าน “เดี๋ยวๆๆๆ! เธอจะไปนอนที่ไหนกัน ฮัลโหล! ฮัลโหล”
ตู๊ดๆๆ…จากนั้นก็มีเสียงสัญญาณดังขึ้น เยี่ยหวันหวั่นกดตัดสายอย่างเด็ดเดี่ยว
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยทวง “พูดแล้วนะว่าคืนนี้จะนอนกับฉันน่ะ ห้ามเปลี่ยนใจทีหลังละ!”
ซือเยี่ยหานตอบสั้นๆ “เธอมาได้ทุกเวลาเลย”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอย่างได้ใจ “ก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้ว!”
————————————-